อันนี้..อาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับกระทู้เลยสักนิด....

พอดีเห็นแล้วติดใจ...

จึงเอามาให้พิจารณา...กันเล่น ๆ
..............................................................
....การไหวของจิตเมื่อถูกกระทบแล้ว จึงเป็นของจริงที่ทุกคนจะต้องยอมรับ เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า " ธรรมของตถาคตจะจริงหรือไม่จริง ต้องถูกกระทบก่อน " ทรงตรัสไว้อีกตอนหนึ่ง มีความว่า "จงอย่าสนใจเรื่องแผ่นดินไหว เพราะเป็นธรรมภายนอกป้องกันและแก้ไขอะไรไม่ได้ พวกเธอจงสนใจแต่เรื่องแผ่นดินไหวภายใน คือ อารมณ์จิตของเธอเอง เมื่อถูกกระทบด้วยอายตนะสัมผัสทั้งปวง...ธรรมของตถาคตจะจริงต่อเมื่อถูกกระทบก่อนเท่านั้น" ดังนั้นจงดูแต่จิตตน กายตนเอง เป็นหลักในการปฏิบัติ
..............................................................

คุณกะลาครับ พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า อย่าสนใจแผ่นดินไหวเพราะเป็นธรรมภายนอก
ถามครับ คุณเอาธรรมนี้มาด่าจขกทหรือครับ ผมเห็นด้วยครับ จขกทนี่ไม่ไหวครับ
ดื้อด้านไม่ยอมฟังคำสั่งสอนของพระพุทธองค์บ้างเลย

ที่ให้พิจารณา ผมพิจารณาแล้วว่า คุณกะลาเป็นพวก"ซาดิส"
ชอบให้คนด่าคนว่า บ้างครั้งอาการกำเหริบ ถึงขั้นด่าตัวเองเลยเชียว

ผิด...มักมาก่อนถูก...

การป้องกันน้ำท่วมใหญ่ซ้ำ มีทั้ง มาตรการระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว

มาตรการระยะยาว เช่น ฟลัดเวย์ ไม่ว่าจะเป็น คลองที่มีถนนสองฝั่ง(วงแวนรอบที่2 และ รอบที่3)จากบางปะอินผ่านทุ่งรังสิต ไปยังหนองเสือ คลองด่าน ลงทะเลที่สมุทรปราการ... หรือ อุโมงค์ที่เสนอโดยวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ....ซึ่งอย่างเร็ว กว่าจะเสร็จ ก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า2ปี (ตอนนั้น โลกอาจจะเข้าสู่โหมดแล้งติดต่อแล้ว ก็ได้)

มาตรการระยะสั้น ที่มีการกล่าวถึงในขณะนี้(และ น่าเป็นห่วง) คือ การทำเขื่อน/คันกั้นน้ำ/แนวกั้นน้ำ รอบนิคมอุตสาหกรรม ทั้ง7แห่งที่จมน้ำ.

เฉพาะ เพียงนิคมโรจนะแห่งเดียว ข่าวว่า สร้างสูง6เมตรและยาวถึง67กม. !
คือ เฉลี่ยด้านล่ะไม่ต่ำกว่า10กม.

ปัญหาในเรื่องนี้ มี

1.แม้นจะกันน้ำท่วมโรงงานได้ แต่เวลาหน้าน้ำหลาก ถ้าน้ำท่วมสูงโรงงานก็จะมีปัญหาในด้านการผลิตและการขนส่งอยู่ดี

2.ประชาชนที่อยู่เหนือแนวคันกั้นน้ำ จะต้องพบกับ ภาวะน้ำท่วมสูงมาก เพราะมีคันกั้นน้ำปิดทางน้ำด้านล่าง.
ซึ่ง ณ เวลานี้ ยังไม่เห็นมีการทำประชาพิจารณ์ หรือ ประชุมร่วมใดๆ ระหว่าง รัฐบาล โรงงาน ประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบในด้านนี้ เลย.
อย่างน้อยสุด ต้องแจ้งให้ชาวบ้านเข้าใจ เห็นด้วย และ มีมาตรการที่ชัดเจนจะช่วยเหลือเขาหากเขาต้องพบน้ำท่วมสูง.
ถ้า หน้าน้ำหลากมาจริงๆ และ ชาวบ้านไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้น อาจจะเกิดเหตุการณ์ประชาชนที่เจอน้ำท่วมสูงขึ้น บุกพังเขื่อนนี้.เหมือนกับที่บุกพังบิ๊กแบ๊ก....

กยน.-กยอ. เร่งป้องน้ำท่วมซ้ำ..ยุติข่าวปล่อย โกร่ง-นักธุรกิจเชื่อเศรษกิจปีมะโรงโตได้ 4-5%


เก่าไปใหม่มา”

ปี 2554 กำลังจะผ่านไป และปี 2555 กำลังจะมาถึง ซึ่งก็เป็นไปตามวิถีแห่งธรรมชาติ ที่ไม่มีอะไรจะก้าวข้ามหรือหลีกเลี่ยงพ้น

เฉกเช่นเดียวกับกระแสเกมการเมือง ที่บนสนามของการต่อสู้และแย่งชิงผลประโยชน์ทางการเมือง ย่อมต้องหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น และหากจะให้ยิ่งดีแน่นอนว่าพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และขั้วการเมืองตรงกันข้ามกับพรรคเพื่อไทย ก็ย่อมหวังว่าปีหน้าฟ้าใหม่ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะอยู่ไม่ได้ เหมือนคำทำนายตามใจขั้วอำนาจบางขั้วของหมอดูกำมะลอบางคน

ฯลฯ

http://www.bangkok-today.com/node/11596

นิคมอุตสาหกรรม: น้ำลด, ปัญหาเพิ่งเริ่ม

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (สุทธิชัย หยุ่น/กาแฟดำ)

http://bit.ly/sRaQdQ



และ

ธรรมะ กับ การเมืองเลือกข้าง

ข่าวจากเครือเนชั่น ผู้สื่อข่าวสำนักนี้เว้นเรื่องการเมือง พอฟังได้

รัฐบาลนี้กำลังฟื้นชีพ 30 บาทรักษาทุกโรคขึ้นมาอีก เจ็บป่วยผ่าตัดราคาเป็นหมื่นเป็นแสนมีเงิน 30 บาทเดินเข้า รพ.ได้ หลังจากรัฐบาลออกข่าวได้ชั่วข้ามคืนแพทย์บางคนค้านหัวชนฝา


เท 2 พันล้านกองทุนสุขภาพตำบล
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี มีนโยบายเดินหน้าและพัฒนาคุณภาพบริการโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 11 ให้ประชาชนไทยพึงพอใจสูงที่สุด โดยนโยบายสำคัญในปี 2555 นี้ จะเร่งรัดการสร้างสุขภาพประชาชนให้แข็งแรง ลดปัญหาการเจ็บป่วยและการเสียชีวิต และผลกระทบที่เกิดจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่คนไทยป่วยกันมากในปัจจุบัน ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง หากเจ็บป่วยแล้วต้องได้รับบริการอย่างดีมีคุณภาพ โดยผู้ป่วยเรื้อรังจะได้รับการดูแลใกล้บ้านขึ้น กรณีหากเจ็บป่วยร้ายแรงก็จะได้รับการดูแล และไม่ต้องล้มละลายจากค่ารักษาพยาบาล

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ทิศทางการดำเนินงานให้บรรลุนโยบาย กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกันผลักดันนโยบาย โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศเป็นผู้บริหารจัดการหลักในการสร้างเสริมสุขภาพประชาชนภายในจังหวัด และได้จัดสรรงบประมาณจากโครงการ 30 บาท ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท ตั้งเป็นกองทุนสุขภาพตำบล ซึ่งจะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง อบต.และเทศบาล จัดสรรงบประมาณร้อยละ 20-50 สมทบกองทุนนี้ด้วย เพื่อเป็นแนวร่วมและเป็นกองทุนใช้แก้ไขปัญหาสุขภาพประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ โดยให้ รพ.สต. อสม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน เป็นผู้ดำเนินการจัดกิจกรรม ทั้งเรื่องการป้องกันโรค เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วย เช่น อาหารรสมัน หวานจัด การออกกำลังกาย บริการตรวจคัดกรองค้นหากลุ่มเสี่ยงเกิดโรคฟรี ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งกองทุนไปแล้ว 7,425 ตำบล ครอบคลุมร้อยละ 96 ของ อบต. และเทศบาลทั่วประเทศ ในปี 2555 นี้ จะให้ครบ 100 เปอร์เซ็น

อย่าทำเป็นเรื่องการเมืองเลยครับ....ไม่สนุก

มาว่าด้วยเรื่องคำทำนาย...แม้จะบ้า ๆ บอ ๆ...ก็ยังหรรษากว่าเยอะ

ภิกษุรูปที่เป็นต้นเหตุนี้นามว่า
พระกัมมัฏฐาน (ปลอม) ปวตฺตโน
สำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอด หมู่ที่ ๙
ตำบลทุ่งระยะ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร

(ขออภัยเรื่องที่เกิดขึ้น จะเดินทางไปมอบตัว)

อาตมภาพจะติดต่อขอรับโทษจำคุก ณ สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๓.๐๐ น. โดยไม่ต้องตั้งทนาย ขึ้นศาล ยื่นอุทรณ์ ให้สัมภาษณ์และตอบคำถามใด ๆ ทั้งสิ้น "กล้าทำ กล้ารับ"

จึงแจ้งมาเพื่อทราบ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการพิจารณาจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักทุกท่าน และขอขมาต่อคุณพระศรีรัตนตรัย คณะสงฆ์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ พระเถรานุเถระ เพื่อนสหธรรมิกทุกท่าน ตลอดจนพ่อแม่พี่น้องชาวไทยทุกคนในผลกระทบอันเกิดจากการกระทำของอาตมภาพ มา ณ โอกาสนี้ด้วย

ขอเจริญพร
กัมมัฏฐาน ปวตฺตโน
( พระกัมมัฎฐาน ปวตฺตโน)

จาก


http://www.prachatalk.com/board/%E0%B8% ... 2%E0%B8%99

พระรูปนี้ ก่อนบวชเคยเป็นนักศึกษาแพทย์ และไปช่วย พญ.พรทิพย์ที่ภูเก็ต ช่วงที่เกิดสึนามิ ปี 2547

ในที่สุดตัดสินใจบวชและศึกษากรรมฐาน ในระหว่างเจริญกรรมฐานนั้นได้เห็นนิมิตในทางร้ายของโลก

ปี 2555 มีคำทำนายว่าโลกจะแตก ข่าวสดล่าสุดจากสมาคมดาราศาสตร์