ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=39851 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | กริษแก้ว [ 13 ต.ค. 2011, 14:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
ในสมัยปัจจุบันนี้ พระโสดาบันจะไกลเกิน ที่เราจะหวังไหม ครับ ![]() |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 13 ต.ค. 2011, 16:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
กริษแก้ว เขียน: ในสมัยปัจจุบันนี้ พระโสดาบันจะไกลเกิน ที่เราจะหวังไหม ครับ ![]() สวัสดีครับ คุณกริษแก้ว ไกลเกินเอื้อมอย่างไร ก็ไม่อาจตอบได้ จึงได้แต่ให้ท่าน พิจารณาจากพุทธพจน์กันล่ะครับ แล้ว พิจารณาโดยเหตุโดยผลเพื่อให้เกิดปัญญา ดังพุทธพจน์บทนี้ครับ สัปปัญญวรรคที่ ๖ สคาถกสูตร ผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการเป็นพระโสดาบัน [๑๖๒๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการย่อมเป็นพระ โสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า ธรรม ๔ ประการเป็น ไฉน? อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า ... ใน พระธรรม ... ในพระสงฆ์ ... ประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว ... ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้แล เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า [๑๖๒๒] ผู้ใดมีศรัทธาตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว ในพระตถาคต มีศีลอันงาม ที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว สรรเสริญแล้ว มีความเลื่อมใสในพระสงฆ์ และมีความเห็นตรง บัณฑิตเรียกผู้นั้นว่า เป็นคนไม่ขัดสน ชีวิตของเขาไม่เปล่าประโยชน์ เพราะฉะนั้น บุคคลผู้มีปัญญา เมื่อระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า พึงประกอบตามซึ่งศรัทธา ศีล ความเลื่อมใส และความเห็นธรรม ดังนี้. http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=19&A=9666&Z=9681 |
เจ้าของ: | tonnk [ 13 ต.ค. 2011, 16:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
ธรรมนั้นไม่จำกัดกาล สมัยไหนก็หวังได้ถ้าเดินทางถูก หวังอรหันต์ก็ได้ขึ้นอยู่กับเจตนาเท่านั้น บวกกับการศึกษาที่ถูกต้องตามลำดับ 1 2 3 4 มีพื้นฐานที่มั่นคง บางคนก็ไม่ได้อยากเป็นอรหันต์ ก็ล้วนอยู่ที่เจตนาเสียเป็นส่วนใหญ่ ที่เหลือก็เป็นเหตุและปัจจัยที่เราประกอบขึ้น เพื่อเสริมกับเจตนา อารมณ์ของพระโสดา ก็มีเขียนอยู่ในพระสูตรข้างต้น ถ้าอยากลิ้มรสก็ลองปฏิบัติตามดู ไม่ต้องสอบถามผู้อื่น ดูกำลังใจตนเองก็สามารถรู้ได้ |
เจ้าของ: | ใจระลึกพระคุณ [ 13 ต.ค. 2011, 17:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
ธรรมสวัสดีค่ะ ท่านผู้เจริญในธรรม หลักสำคัญอีกข้อหนึ่งก็มีนะคะ การสะสมมาแต่อดีตชาติค่ะ ทุกท่านที่ได้เข้ามาศึกษาพระธรรม ล้วนแล้วแต่มีการสะสมมาทัังนั้น มากน้อยแตกต่างกันไปค่ะ ถ้าไม่มีการสะสมเกี่ยวกับพระธรรมมาเสียเมื่ออดีตชาติ เขาก็จะไม่มีโอกาสได้ฟังธรรมค่ะ บางท่านกลับว่าเราบ้าอีกต่างหาก อนุโมทนาค่ะ |
เจ้าของ: | นายฏีกาน้อย [ 13 ต.ค. 2011, 20:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
อนุโมทนากับทุกๆ ความเห็นด้วยนะครับ ^^ อนุโมทนาคุณโยมเช่นนั้นด้วยครับกับสคาถกสูตร พุทธพจน์ อะไรที่เราไม่รู้ไม่เข้าใจนั่นแหละ แม้อยู่ใกล้ก็กลายเป็นอยู่ไกล สำหรับเราครับ ใกล้ศีลธรรมไว้ ศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ไกลก็จะใกล้เข้ามา หากไม่มี การให้ทานรักษาศีล ไม่มีความเคารพเลื่อมใสในพระรัตนตรัย อะไรที่อยู่ใกล้ๆ ก็จะค่อยๆ ไกลออกไปครับ ขอเจริญพร |
เจ้าของ: | ขณะจิต [ 13 ต.ค. 2011, 22:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
กริษแก้ว เขียน: ในสมัยปัจจุบันนี้ พระโสดาบันจะไกลเกิน ที่เราจะหวังไหม ครับ ![]() ไม่ไกลเกินหวังหรอกครับ พระธรรมเป็น อกาลิโล ปฏิบัติและให้ผลได้ไม่จำกัดกาล ที่ควรทำต่อไปก็คือ จะปฏิบัติอย่างไร (ซึ่งผู้ทรงภูมิธรรมหลายท่านในบอร์ดนี้คงมีเมตตาที่จะแนะนำหนทาง) และเริ่มลงมือปฏิบัติจริงจังตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ท่านต้องได้ประสบมรรค ผล ตามกำลังสติปัญญาและความเพียรแน่นอน ![]() |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 14 ต.ค. 2011, 15:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
กริษแก้ว เขียน: ในสมัยปัจจุบันนี้ พระโสดาบันจะไกลเกิน ที่เราจะหวังไหม ครับ ![]() จะว่าไกลก็ไกล จะว่าใกล้ก็ใกล้ ขึ้นอยู่วาสนาบารมีและแนวทางในการปฏิบัติ ที่บำเพ็ญมาในอดีตชาติ ซึ่งแนวทางหรือปฏิปทานี้ ท่านแบ่งเป็น ๑. ปฎิบัตยาก - รู้ช้า ๒. ปฏิบัติยาก - รู้เร็ว ๓. ปฏิบัติง่าย - รู้ช้า ๔. ปฏิบัติง่าย - รู้เร็ว หรือ .. ท่านว่าผู้ที่ปฏิบัติใน สติปัฏฐานสี่ ไม่เกิน ๗ ปี ได้บรรลุธรรมเป็นพระอริยะ แน่นอน ถ้าเจ้าของกระทู้ เป็นประเภท ปฏิบัติง่ายและรู้เร็ว หรือมุ่งปฏิบัติใน สติปัฏฐานสี่ อย่างสม่ำเสมอ ๗ ปี นี่ไม่นานนะ พระอริยะ ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม .. ไอ้กระผม ..ประเภทข้อ ๑ ยกกำลังสอง..คงอีกหลายอสงขัยกัปป์..แหง๋มๆ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กริษแก้ว [ 14 ต.ค. 2011, 21:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
![]() |
เจ้าของ: | เก็บเกี่ยว [ 15 ต.ค. 2011, 21:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
วิริยะ เขียน: กริษแก้ว เขียน: ในสมัยปัจจุบันนี้ พระโสดาบันจะไกลเกิน ที่เราจะหวังไหม ครับ ![]() จะว่าไกลก็ไกล จะว่าใกล้ก็ใกล้ ขึ้นอยู่วาสนาบารมีและแนวทางในการปฏิบัติ ที่บำเพ็ญมาในอดีตชาติ ซึ่งแนวทางหรือปฏิปทานี้ ท่านแบ่งเป็น ๑. ปฎิบัตยาก - รู้ช้า ๒. ปฏิบัติยาก - รู้เร็ว ๓. ปฏิบัติง่าย - รู้ช้า ๔. ปฏิบัติง่าย - รู้เร็ว หรือ .. ท่านว่าผู้ที่ปฏิบัติใน สติปัฏฐานสี่ ไม่เกิน ๗ ปี ได้บรรลุธรรมเป็นพระอริยะ แน่นอน ถ้าเจ้าของกระทู้ เป็นประเภท ปฏิบัติง่ายและรู้เร็ว หรือมุ่งปฏิบัติใน สติปัฏฐานสี่ อย่างสม่ำเสมอ ๗ ปี นี่ไม่นานนะ พระอริยะ ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม .. ไอ้กระผม ..ประเภทข้อ ๑ ยกกำลังสอง..คงอีกหลายอสงขัยกัปป์..แหง๋มๆ ![]() ![]() ไม่คิดจะรีบกับเขาเลยนะท่าน ![]() |
เจ้าของ: | ปล่อยรู้ [ 15 ต.ค. 2011, 22:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
ผมมีความเชื่อว่า ตราบใดศรัทธาในการที่จะแสวงหาความหลุดพ้นไปจากกองทุกข์ทั้งหลายยังไม่เหือดแห้งหายไป และเมื่อใดความรู้เห็นว่าอะไรคือทุกข์ อะไรคือเหตุให้เกิดทุกข์ เป็นสิ่งที่เริ่มจะเข้าใจขึ้นมาได้บ้าง ตราบนั้น การเข้าสู่กระแสแห่งอริยบุคคล ก็ไม่ใช้สิ่งที่อยู่ไกลแต่ประการใด... ชีวิตประกอบอยู่ด้วยขันธ์ทั้ง๕ ขันธ์ทั้ง๕ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ความทกุข์เกิดจากความเข้าใจว่าขันธ์ทั้ง๕คือตัวเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ความเข้าใจว่าร่างกายและจิตเป็นตัวเรา เป็นตัวเป็นตน ทั้งเข้าใจว่าภายหลังจากร่างกายนี้ดับสลายหายไปแล้ว จิตที่เป็นอัตตาตัวตนก็จะไปปรากฏยังที่อื่นๆอีก หรือทั้งเข้าใจว่าหลังจากร่างกายนี้ดับสลายหายไปแล้ว จิตที่เป็นอัตตาตัวตนจะไม่ไปปรากฏยังที่อื่นๆอีก หรือทั้งเข้าใจว่าหลังจากร่างกายนี้ดับสลายหายไปแล้ว จิตที่เป็นอัตตาตัวตนไปปรากฏยังที่อื่นๆอีกก็มี ไม่ไปปรากฏยังที่อื่นๆอีกก็มี ความเข้าใจทั้งหลายที่ว่านี้ ก็เป็นเพียงสักแค่ว่าความรู้สึก เป็นเพียงความเห็นความเข้าใจอย่างหนึ่งเช่นนั้นเอง เมื่อเริ่มดำเนินเข้าสู่เส้นทางอริยมรรคได้แล้ว จับเส้นทางอริยมรรคที่ถูกต้องได้แล้ว ความเข้าใจ ความเห็นว่า จิตหรือวิญญาณนี้เป็นอัตตาตัวตน จะไม่ปรากฏเกิดขึ้นอีกต่อไป ความทุกข์วิตกกังวลในเรื่องของจิตวิญญาณหลังความตายจะไม่มีอีกต่อไป ความทกุข์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าในปัจจุบันนี้เท่านั้น คือความสำคัญที่จะต้องดับให้ได้ ข้ามผ่านไปให้ได้ ร่างกายและจิตใจทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ คือขันธ์ทั้ง๕ ไม่ส่วนอื่นใดที่นอกเหนือไปจากขันธ์ทั้ง๕ ความรู้สึกว่าเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา เป็นเพียงสักแต่ว่าความรู้สึก เกิดขึ้น มีขึ้นได้ เพราะอาศัยเหตุและปัจจัยในการเกิดขึ้นมีขึ้น ความรู้สึกว่าเป็นเรา ว่าเป็นตัวตนของของเรา มีการเกิดดับอยู่ตลอดเวลา การศึกษาเรียนรู้พุทธศาสนาจะทำให้มองเห็นความเกิดดับของความรู้สึกที่ว่านี้ได้ เมื่อใดที่เห็นความจริงแท้ของความรู้สึกว่าเป็นเราเป็นตัวตนของเรา ได้แล้ว ความทุกข์อันมีสาเหตุมาจากความรู้สึกที่ว่านี้ ก็จะเริ่มเบาบางลง เจือจางลง ความกำหนัดยินดีหวงแหนในร่างกายและจิตนี้ ก็จะค่อยๆคลายลงไป ความไม่พอใจในร่างกายและจิตอื่นๆ ก็จะเริ่มไม่ปรากฏให้เห็นได้โดยง่าย... |
เจ้าของ: | กริษแก้ว [ 15 ต.ค. 2011, 23:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
ปล่อยรู้ เขียน: ผมมีความเชื่อว่า ตราบใดศรัทธาในการที่จะแสวงหาความหลุดพ้นไปจากกองทุกข์ทั้งหลายยังไม่เหือดแห้งหายไป และเมื่อใดความรู้เห็นว่าอะไรคือทุกข์ อะไรคือเหตุให้เกิด เป็นสิ่งที่เริ่มจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง ตราบนั้น การเข้าสู่กระแสแห่งอริยบุคคล ก็ไม่ใช้สิ่งที่อยู่ไกลแต่ประการใด... ชีวิตประกอบอยู่ด้วยขันธ์ทั้ง๕ ขันธ์ทั้ง๕ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ความทกุข์เกิดจากความเข้าใจว่าขันธ์ทั้ง๕คือตัวเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา ความเข้าใจว่าร่างกายและจิตเป็นตัวเรา เป็นตัวเป็นตน ทั้งเข้าใจว่าภายหลังจากร่างกายนี้ดับสลายหายไปแล้ว ก็จะหรือจิตที่เป็นอัตตาตัวตนไปปรากฏยังที่อื่นๆอีก หรือทั้งเข้าใจว่าหลังจากร่างกายนี้ดับสลายหายไปแล้ว จิตที่เป็นอัตตาตัวตนจะไม่ไปปรากฏยังที่อื่นๆอีก หรือทั้งเข้าใจว่าหลังจากร่างกายนี้ดับสลายหายไปแล้ว จิตที่เป็นอัตตาตัวตนไปปรากฏยังที่อื่นๆอีกก็มี ไม่ไปปรากฏยังที่อื่นๆอีกก็มี ความเข้าใจทั้งหลายที่ว่านี้ ก็เป็นเพียงสักแค่ว่าความรู้สึก เป็นเพียงความเห็นความเข้าใจอย่างหนึ่งเช่นนั้นเอง เมื่อเริ่มดำเนินเข้าสู่เส้นทางอริยมรรคได้แล้ว จับเส้นทางอริยมรรคที่ถูกต้องได้แล้ว ความเข้าใจ ความเห็นว่า จิตหรือวิญญาณนี้เป็นอัตตาตัวตน จะไม่ปรากฏเกิดขึ้นอีกต่อไป ความทุกข์วิตกกังวลในเรื่องของจิตวิญญาณหลังความตายจะไม่มีอีกต่อไป ความทกุข์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าในปัจจุบันนี้เท่านั้น คือความสำคัญที่จะต้องดับให้ได้ ข้ามผ่านไปให้ได้ ร่างกายและจิตใจทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ คือขันธ์ทั้ง๕ ไม่ส่วนอื่นใดที่นอกเหนือไปจากขันธ์ทั้ง๕ ความรู้สึกว่าเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา เป็นเพียงสักแต่ว่าความรู้สึก เกิดขึ้น มีขึ้นได้ เพราะอาศัยเหตุและปัจจัยในการเกิดขึ้นมีขึ้น ความรู้สึกว่าเป็นเรา ว่าเป็นตัวตนของของเรา มีการเกิดดับอยู่ตลอดเวลา การศึกษาเรียนรู้พุทธศาสนาจะทำให้มองเห็นความเกิดดับของความรู้สึกที่ว่านี้ได้ เมื่อใดที่เห็นความจริงแท้ของความรู้สึกว่าเป็นเราเป็นตัวตนของเรา ได้แล้ว ความทุกข์อันมีสาเหตุมาจากความรู้สึกที่ว่านี้ ก็จะเริ่มเบาบางลง เจือจางลง ความกำหนัดยินดีหวงแหนในร่างกายและจิตนี้ ก็จะค่อยๆคลายลงไป ความไม่พอใจในร่างกายและจิตอื่นๆ ก็จะเริ่มไม่ปรากฏให้เห็นได้โดยง่าย... ที่เป็นสีแดง นี้เป็นจากความเข้าใจของท่านเอง หรือ จากตำราครับ |
เจ้าของ: | ปล่อยรู้ [ 15 ต.ค. 2011, 23:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
อ้างคำพูด: เมื่อใดที่เห็นความจริงแท้ของความรู้สึกว่าเป็นเราเป็นตัวตนของเรา ได้แล้ว ความทุกข์อันมีสาเหตุมาจากความรู้สึกที่ว่านี้ ก็จะเริ่มเบาบางลง เจือจางลง ความกำหนัดยินดีหวงแหนในร่างกายและจิตนี้ ก็จะค่อยๆคลายลงไป ความไม่พอใจในร่างกายและจิตอื่นๆ ก็จะเริ่มไม่ปรากฏให้เห็นได้โดยง่าย...ที่เป็นสีแดง นี้เป็นจาก ความเข้าใจของท่านเอง หรือ จากตำราครับ เป็นเพียงประสพการณ์ความเห็น ที่เกิดจากการเฝ้าดูธรรมชาติที่เรียกว่า"จิต" ครับ เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี เพราะสิ่งนี้ ดับสิ่งนี้จึงดับ ผู้ศึกษาและปฏิบัติจะรู้เห็นได้ด้วยตนเอง ครับ เมื่อเห็นว่าจิตหรือวิญญาณนี้มิใช่อัตตาตัวตนได้อย่างไม่มีอะไรสงสัยอีกต่อไป ตำราหรือคำพูดใดๆ ก็ย่อมไม่มีเหตุผลพอที่จะทำให้เกิดความสะดุ้งหวั่นไหวใดๆได้อีกต่อไป ครับ... |
เจ้าของ: | kindai [ 16 ต.ค. 2011, 00:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
อ้างคำพูด: เป็นเพียงประสพการณ์ความเห็น ที่เกิดจากการเฝ้าดูธรรมชาติที่เรียกว่า"จิต" ครับ เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี เพราะสิ่งนี้ ดับสิ่งนี้จึงดับ ผู้ศึกษาและปฏิบัติจะรู้เห็นได้ด้วยตนเอง ครับ เมื่อเห็นว่าจิตหรือวิญญาณนี้มิใช่อัตตาตัวตนได้อย่างไม่มีอะไรสงสัยอีกต่อไป ตำราหรือคำพูดใดๆ ก็ย่อมไม่มีเหตุผลพอที่จะทำให้เกิดความสะดุ้งหวั่นไหวใดๆได้อีกต่อไป ครับ... อนุโมทนาครับ |
เจ้าของ: | กริษแก้ว [ 16 ต.ค. 2011, 00:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
ปล่อยรู้....น่าจะจริงนะ คำนี้ มีแต่เบา ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 16 ต.ค. 2011, 00:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระโสดาบันไกลเกินเอื้อมหรือไม่? |
กริษแก้ว เขียน: ในสมัยปัจจุบันนี้ พระโสดาบันจะไกลเกิน ที่เราจะหวังไหม ครับ ![]() ใกล้...มาก |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |