ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ตัดสินใจผิดคิดจนตัวตาย
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=39193
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  แมวโคราช [ 09 ส.ค. 2011, 14:47 ]
หัวข้อกระทู้:  ตัดสินใจผิดคิดจนตัวตาย

Kiss ตัดสินใจผิดคิดจนเกือบตาย ทำอย่างไรจะหายคิดมาก ที่ผ่านมาตัดสินใจผิดมาหลายเรื่องแล้วรู้สึกท้อแท้กับตัวเองที่ทำไมเกิดมาโง่ เซ่อ งี่เง้า ใครมีวิธีบอกด้วยจ้า Kiss

เจ้าของ:  eragon_joe [ 09 ส.ค. 2011, 14:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดสินใจผิดคิดจนตัวตาย

แหม๋ว... :b20:

เจ้าของ:  eragon_joe [ 09 ส.ค. 2011, 14:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดสินใจผิดคิดจนตัวตาย

เมื่อวานเย็น เห็นแมวโคราชหนึ่งตัว อิอิ
แอบเข้ามากินข้าวที่บ้าน :b16: :b16:


แหม๋ว แหม๋ว

:b20: :b20:

เจ้าของ:  Rosarin [ 09 ส.ค. 2011, 15:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดสินใจผิดคิดจนตัวตาย

rolleyes
:b1:
...ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเราคิด เราพูด เราทำในชีวิตประจำวันเป็นสภาพธรรม...
...สิ่งใดที่ทำผิดไปแล้ว กลับไปแก้ไขไม่ได้เพราะให้ผลสำเร็จเป็นกรรมไปแล้ว...
...ความเป็นอนัตตาของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่ากับเราหรือใครๆก็ตามเปลี่ยนไม่ได้เลย...
...ขึ้นอยู่กับเราต้องแก้เหตุให้ดี ผลจึงจะออกมาดี ผิดแล้วให้เริ่มคิดใหม่ พูดใหม่ ทำใหม่...
...คิดผิดไปแล้วไปคิดสิ่งที่ผิดนั้นซ้ำๆ มันทำให้จิตขุ่นมัวเป็นอกุศลกรรมแต่เป็นกรรมใหม่แล้วนะ...
...เพราะเวลาที่เดินหน้าไปเรื่อยๆนั่นแหละคือสภาพธรรมอันเก่าดับหมดไม่เหลือแต่เรายังเอามายำต่อ...
...ก็เป็นคิดผิด พูดผิด ทำผิดไปเรื่อยๆ ทางที่ดีปล่อยวางอันเก่าที่คิดเสีย แล้วมีสติคิดอันใหม่ที่ดีๆไงคะ...

:b4: :b4:
:b12:

เจ้าของ:  เจโตวิมุติ [ 09 ส.ค. 2011, 22:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดสินใจผิดคิดจนตัวตาย

:b42: คนในโลกนี้ ในสังคมนี้ หรือสังคมไหน จะแบ่งได้ เป็น 4 กลุ่ม
กลุ่มแรก คืกลุ่มที่ ไม่คิดชั่ว ไม่ทำชั่ว ทั้งปวง ได้อย่างถาวร คนเหล่านี้เป็นอริยบุคคล
กลุ่มที่สอง คือบางครั้ง ยังคิดร้าย คิดชั่วบ้าง แต่ยับยังใจไว้ได้ ไม่ทำชั่วแล้ว คนเหล่านี้ คือ คนดีศรีสังคม
กลุ่มที่สามคือยังคิดชั่ว และทำชั่ว บ้าง มากน้อย ต่างกัน แต่ในใจรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ดี และยังรู้สึกละอายใจ คนเหล่านี้ แหละเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม คนพวกนี้ฝึกหัดและขัดเกลาได้ เพื่อให้กลายเป็นคนกลุ่มที2หรือแม้แต่กลุ่มที่1
กลุ่มสุดท้าย คือทำชั่ว แล้วไม่รู้ตัวว่าทำชั่ว ยังยินดี พอใจกับความชั่วนั้นอีก กลุ่มนี้คือบัวเหล่าที่4โดยแท้ ขัดเกลาลำบาก เช่นโกงเขามาได้ ก็ยินดีพอใจในทรัพย์ ที่ได้มา ภูมิใจในสติปัญญา(กลโกง)ของตนที่คิดว่าฉลาดกว่าคนอื่น
......ที่บอกว่าเราผิดพลาดบ่อย นั้นถ้าเป็นความผิดพลาดทั่วไป ไม่มีเจตนาทำชั่ว(ด้วยอกุศลจิต) ก็ไม่น่าตกใจ มันก็ต้องฝึก ก็ต้องเริ่มต้นด้วยสตินั่นแหละ ทางโลกเขาบอกว่าให้เพิ่มความระมัดระวัง
แต่ทางธรรมก็คือฝึกสติตรงๆเลย แต่ถ้าเรื่องที่ผิดพลาดนั้น มันผิดด้านศีล ธรรมเข้ามาด้วย มันก็ต้องขัดเกลาด้วยธรรมมะ ทั้งปริยัติและปฏิบัติตามสมควรนั่นแหละ.....เจโตวิมุติ/

เจ้าของ:  eragon_joe [ 10 ส.ค. 2011, 12:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดสินใจผิดคิดจนตัวตาย

แมวโคราช เขียน:
Kiss ตัดสินใจผิดคิดจนเกือบตาย ทำอย่างไรจะหายคิดมาก ที่ผ่านมาตัดสินใจผิดมาหลายเรื่องแล้วรู้สึกท้อแท้กับตัวเองที่ทำไมเกิดมาโง่ เซ่อ งี่เง้า ใครมีวิธีบอกด้วยจ้า Kiss


ความคิด ความรู้สึก ปรากฎเมื่อไรก็

โมคคัลลานสูตร
[๕๘] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ป่าเภสกลา มิคทายวัน
ใกล้สุงสุมารคีรนคร แคว้นภัคคะ ก็สมัยนั้นแล ท่านมหาโมคคัลลานะนั่งโงก-
*ง่วงอยู่ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม แคว้นมคธ

.....
.....
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ท่านพระมหาโมคคัลลานะทูลถาม
พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ โดยย่อ ด้วยข้อปฏิบัติเพียงไรหนอ
ภิกษุจึงเป็นผู้หลุดพ้นแล้วเพราะสิ้นตัณหา มีความสำเร็จล่วงส่วน มีธรรมเป็นแดน
เกษมจากโยคะล่วงส่วน เป็นพรหมจารีล่วงส่วน มีที่สุดล่วงส่วน ประเสริฐกว่า
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ

พ. ดูกรโมคคัลลานะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ได้สดับว่า ธรรมทั้งปวงไม่
ควรถือมั่น ครั้นได้สดับดังนั้นแล้ว เธอย่อมรู้ชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันยิ่ง
ครั้นรู้ชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันยิ่งแล้ว ย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวง ครั้นกำหนด
รู้ธรรมทั้งปวงแล้ว ได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่สุข
มิใช่ทุกข์ก็ดี ย่อมพิจารณาเห็น ความไม่เที่ยงในเวทนาเหล่านั้น พิจารณาเห็น
ความคลายกำหนัด พิจารณาเห็นความดับ พิจารณาเห็นความสละคืน เมื่อเธอ
พิจารณาเห็นอย่างนั้นๆ อยู่ ย่อมไม่ยึดมั่นอะไรๆ ในโลก เมื่อไม่ยึดมั่น ย่อม
ไม่สะดุ้ง เมื่อไม่สะดุ้ง ย่อมปรินิพพานเฉพาะตัวทีเดียว ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว
พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้
มิได้มี ดูกรโมคคัลลานะ โดยย่อด้วยข้อปฏิบัติเพียงเท่านี้แล ภิกษุจึงเป็นผู้
หลุดพ้นแล้วเพราะสิ้นตัณหา มีความสำเร็จล่วงส่วน เป็นผู้เกษมจากโยคะล่วงส่วน
เป็นพรหมจารีล่วงส่วน มีที่สุดล่วงส่วน ประเสริฐกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ


จบสูตรที่ ๘

ปฏิบัติตามพระสูตรนี้นะ :b12:

เจ้าของ:  student [ 10 ส.ค. 2011, 14:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดสินใจผิดคิดจนตัวตาย

มโนวิญญาณแม้เกิดขึ้นขณะที่ทุกข์ใจหรือสุขใจย่อมเพลิดเพลินสลัดออกยาก สติที่สมบูรณ์อยู่ที่อายตนะตลอดเวลาจะทำให้ไม่หลงไปกับมโนวิญญาณ

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 11 ส.ค. 2011, 20:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดสินใจผิดคิดจนตัวตาย

แมวโคราช เขียน:
Kiss ตัดสินใจผิดคิดจนเกือบตาย ทำอย่างไรจะหายคิดมาก ที่ผ่านมาตัดสินใจผิดมาหลายเรื่องแล้วรู้สึกท้อแท้กับตัวเองที่ทำไมเกิดมาโง่ เซ่อ งี่เง้า ใครมีวิธีบอกด้วยจ้า Kiss


อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่กลับมาอีก
ทุกคนเคยทำผิดพลาดทั้งนั้นครับ การปราศจากความเมตตากรุณาต่อตนเอง ทำร้ายตนเองให้ได้รับความเจ็บปวด ก็เป็นความผิดพลาดเช่นกัน พระพุทธเจ้าทรงเป็นหมอที่ดีที่สุด มีโอสถคือธรรมที่ดีที่สุด ขอเพียงท่านน้อมนำธรรมนั้นมารักษาตนเอง โรคคือสิ่งทิ่มแทงจิตใจก็จะบรรเทาเบาบางลง พระพุทธเจ้าสอนให้ละอกุศล ทำกุศล และทำใจให้ผ่องใส การตัดสินใจผิดก็เพราะความเห็นผิด ถ้าอยากตัดสินใจถูกก็ต้องก็ต้องทำความให้ให้ถูก ทำความเห็นให้ตรง การเข้าไปหาพระผู้มีพระภาคเจ้า และฟังธรรมจากท่านถือเป็นจุดเริ่มต้องของการทำความเห็นให้ถูก เกิดมาเป็นมนุษย์ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่หาได้ยากเมื่อมีโอกาสได้ฟังพระธรรมแล้วก็นับเป็นความโชคดี

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 11 ส.ค. 2011, 20:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดสินใจผิดคิดจนตัวตาย

อ้างคำพูด:
พ. ดูกรโมคคัลลานะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ได้สดับว่า ธรรมทั้งปวงไม่
ควรถือมั่น ครั้นได้สดับดังนั้นแล้ว เธอย่อมรู้ชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันยิ่ง
ครั้นรู้ชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันยิ่งแล้ว ย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวง ครั้นกำหนด
รู้ธรรมทั้งปวงแล้ว ได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่สุข
มิใช่ทุกข์ก็ดี ย่อมพิจารณาเห็น ความไม่เที่ยงในเวทนาเหล่านั้น พิจารณาเห็น
ความคลายกำหนัด พิจารณาเห็นความดับ พิจารณาเห็นความสละคืน เมื่อเธอ
พิจารณาเห็นอย่างนั้นๆ อยู่ ย่อมไม่ยึดมั่นอะไรๆ ในโลก เมื่อไม่ยึดมั่น ย่อม
ไม่สะดุ้ง เมื่อไม่สะดุ้ง ย่อมปรินิพพานเฉพาะตัวทีเดียว ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว
พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้
มิได้มี ดูกรโมคคัลลานะ โดยย่อด้วยข้อปฏิบัติเพียงเท่านี้แล ภิกษุจึงเป็นผู้
หลุดพ้นแล้วเพราะสิ้นตัณหา มีความสำเร็จล่วงส่วน เป็นผู้เกษมจากโยคะล่วงส่วน
เป็นพรหมจารีล่วงส่วน มีที่สุดล่วงส่วน ประเสริฐกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ


สาธุ สาธุ สาธุ
:b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/