วันเวลาปัจจุบัน 29 เม.ย. 2024, 08:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2011, 05:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


การโคลนนิ่ง (cloning) คือ การคัดลอก (copy) พันธุ์หรือการสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่

โดยไม่ได้อาศัยการปฎิสนธิของเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมีย แต่ใช้เซลล์ร่างกายใน

การสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนของเดิมทุกประการ

อย่างการทำโคลนนิ่งในสัตว์ เช่น ในโค ก็เอาเซลล์ของตัวผู้ที่แข็งแรง และดูดไข่

จากรังไข่ของเพศเมียและก็นำเซลล์ที่ได้มาฉีดให้ใกล้กับไข่ และก็เลี้ยงด้วยสารเคมี

จนมีการแบ่งตัว นำไข่ไปเลี้ยงในสารเคมีสำหรับเพราะตัวอ่อนในหลอดแก้ว ซึ่งเซลล์ก็

มีการแบ่งตัวเกิดขึ้นของเซลล์ หลังเลี้ยงเซลล์ตัวอ่อนได้ 7 วันก็นำไปปลูกถ่าย ฝากไว้

ในมดลูกของโคตัวเมียเพื่อให้เจริญเติบโตต่อไปนั่นเองครับ นี่คือการทำโคลนนิ่ง ที่

อธิบายมาเพื่อจะได้ทราบว่า ปฏิสนธิตอนไหน อย่างไรครับ

พระพุทธองค์ทรงแสดงว่าสัตว์โลกทั้งหมดเมื่อเกิดย่อมกำเนิดด้วย 4 ประเภท คือ

1.เกิดในครรภ์

2.เกิดในไข่

3.เกิดในเหงื่อไคลหรือเกิดในสิ่งสกปรก

4.เกิดโดยโตเป็นตัวทันทีฉับพลัน(โอปปาติกะ)
สำหรับการโคลนนิ่งจะเห็นได้ครับว่ามีการเลี้ยงเซลล์ตัวอ่อนในสารเคมี ซึ่งเซลล์เริ่ม

แบ่งตัวเกิดขึ้นก็อยู่ในสารเคมีที่เลี้ยงไว้ ดังนั้นการเกิดขึ้นของสัตว์ ที่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น

ก็อาจเริ่มจากการเกิดขึ้นของเซลล์ที่เริ่มแบ่งตัว จากการฉีดเซลล์เนื้อเยื่อที่เลี้ยงไว้เข้า

ไปที่ไข่ จนมีการแบ่งตัวในสารเคมี จึงเป็นสัตว์ที่ไม่ได้กำเนิดในครรภ์ ตามที่ผู้ถามว่า

ไม่ใช่เป็นธรรมชาติ แต่เป็นการเกิดในเหงื่อไคลได้ครับ เพราะเกิดในน้ำยาที่เป็นสาร

เคมีที่เลี้ยงไว้ครับ ดังนั้นขณะที่เซลล์เริ่มแบ่งตัวในน้ำยาที่เลี้ยงไว้เมื่อมีการฉีดเซลล์

เนื้อเยื่อเข้าไปในไข่ ก็เป็นช่วงเวลาที่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น เป็นการบังเกิดขึ้นของสัตว์

แล้วในขณะนั้นครับ

ที่สำคัญ ไม่มีวิญญาณที่ล่องลอยแล้วก็มาเข้าไปในครรภ์ในไข่ เพื่อมาเกิดเป็นสัตว์นะ

ครับ อันนี้ต้องเข้าใจใหม่ ในความเป็นจริง วิญญาณคือ จิต ซึ่งขณะที่จุติจิต(ตาย)ดับไป

เคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้ ปฏิสนธิจิตเกิดต่อเป็นอีกบุคคลทันที ไม่มีการเดินทาง

ไม่มีการเคลื่อนที่ ไม่มีวิญญาณล่องลอยเข้าไปในครรภ์ ในน้ำยา สารเคมี แต่เป็นเพียง

จิตที่เกิดขึ้นและดับไป ปฏิสนธิจิตเกิดต่อเกิดเป็นสัตว์ที่เป็นโคลนนิ่งได้นั่นเองครับ

ดังนั้นเมื่อเป็นนามธรรมทีเป็นจิต จึงไม่มีการเดินทาง ไม่มีรูปร่างทีเป็นวิญญาณล่อง

ลอยมาปฏิสนธิเกิดครับ

ดังนั้นสัตว์ที่เกิดโดยการโคลนนิ่งตามที่ชาวโลกสมมติกันก็เกิด (ปฏิสนธิจิต)ตั้งแต่

การแบ่งเซลล์ที่เลี้ยงไว้ในน้ำยา สารเคมีแล้ว อันเป็นการเกิดจากเหงื่อไคลในกำเนิด

1 ใน 4 ประการก็ได้ครับ ดังนั้นการกำเนิดตามธรรมชาติที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ จึงไม่

ใช่การเกิดในครรภ์เท่านั้น มี 4 ประการตามที่กล่าวมาข้างต้นครับ
สิ่งที่มีชีวิตทั้งหมด ย่อมเกิดจากกรรม ธรรมเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย

ถ้ากล่าวถึง การเกิดของสัตวโลกแล้ว ย่อมหมายถึง การเกิดขึ้นของนามธรรม และ

รูปธรรม เช่น การเกิดเป็นมนุษย์ในภพนี้ชาตินี้ เป็นผลของกรรม จิตขณะแรกในภพนี้

ชาตินี้ คือ ปฏิสนธิจิต เมื่อปฏิสนธิจิต เกิดย่อมมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยทุกครั้ง และ ใน

ขณะนั้น ก็มีรูปเกิดพร้อมแล้วในขณะนั้น เพียง ๓ กลุ่ม เท่านั้น คือ กลุ่มของหทยวัตถุ

กลุ่มของกายปสาทะ และ กลุ่มของภาวรูป ปฏิสนธิจิตและเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย

เป็นนามธรรมธรรม ส่วนรูป ๓ กลุ่มนั้นเป็นรูปธรรม ทั้งหมดนี้มาจากไหน เกิดขึ้นได้

อย่างไร ถ้าไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ กรรม เป็น

ปัจจัย แสดงให้เห็นว่าไม่มีใครทำให้ใครเกิดได้ และจะเห็นได้ว่า ตราบใดก็ตามที่ยัง

ไม่ได้บรรลุธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ ตายแล้ว ต้องเกิดอย่างแน่นอน เมื่อสิ้นสุด

จากความเป็นบุคคลนี้ในชาตินี้ คือ จุติจิตเกิดขึ้นแล้วดับไป ปฏิสนธิจิตย่อมเกิดสืบต่อ

โดยไม่มีจิตอื่นเกิดคั่นเลย นี้ความความเป็นจริงของสภาพธรรม ที่ใครก็ไม่สามารถ

เปลี่ยนแปลงได้เลย
ทุกคนเกิดมาส่วนหนึ่งก็มาจากกรรมเก่าในอดีต และอีกส่วนหนึ่งก็รับผลของกรรม กรรม

ก็จำแนกให้แตกต่างกัน ทั้งหน้าตา รูปร่าง นิสัย ฐานะ ผิวพรรณ คนในโลกนี้มีเป็นล้าน

แสนล้านคน ก็ยังมีหน้าตาไม่เหมือนกัน แม้แต่คู่แฝดก็ยังมีส่วนละเอียดที่แตกต่าง

ทานบารมี คือ เจตนาสละวัตถุ ด้วยการบริจาคที่เห็นโทษของกิเลส คือ ความตระหนี่

และ ให้เพื่อปรารภถึงการดับกิเลส คือ พระนิพพาน จึงจะเป็นทานบารมี

เหตุใกล้ให้เกิดทานบารมี ในจริยาปิฎก แสดงไว้ว่า มีวัตถุอันควรแก่การบริจาค

คือ มีวัตถุที่พิจารณาด้วยปัญญา ว่าจะต้องสละเพื่อขัดเกลากิเลส เช่น ความตระหนี่ เป็นต้น




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับน้องคนหนึ่งและเพื่อนๆของน้องที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ให้ยานพาหนะเป็นทาน ให้ที่อยู่อาศัยเป็นทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของมารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด และตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 121 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร