คำถามที่ ๑. ทำอย่างไรจิตจึงจะหลุดพ้น ได้นิพพาน บรรลุอรหันต์
คำถามตรงตัวอยู่แล้วครับ นิมนตร์พระคุณเจ้าผู้เจริญในธรรม รบกวนไขข้อข้องใจให้ด้วยครับ สาธุ

คำถามที่ ๒. ร่างกายไม่ใช่ที่อยู่ของเรา เป็นที่อยู่ของจิต แต่ถ้าดูให้ดีจิตไม่ใช่ที่อยู่ของเรา แล้วอะไรจะต่อไปครับ
สมมติ ถ้าถอดตัวเราออกจากกาย แล้วมาถอดตัวเราออกจากจิต แล้วเราจะถอดอะไรต่อไปครับ ....
สาธุขอพระคุณเจ้าผู้เจริญในธรรมช่วยตอบด้วยนะครับ

คำถามที่ ๓.หลับตานั่งสมาธินานๆ พอจิตสงบซักระยะหนึ่ง จะมีดวงอาทิตย์กลมๆๆวิ่งไปวิ่งมาอยู่ บางครั้งไปทาง

ตาซ้าย บางครั้งไปทางตาขวานี่เรียกว่า อาการอย่างไรครับ

คำถามที่ ๔. เจ้าชายนินทรา กับ อสัญญสัตวะพรหมแตกต่างกันหรือไม่ครับ และจิตตานุปัสสนาสติปัฎฐานแตก

ต่างกับอสัญญสัตวะพรหมหรือไม่ สับสนกับภาวะที่จิตดับ

คำถามที่ ๕. ช่วยอธิบายหลักปฏิจจสมุปบาท ให้ฟังหน่อยได้มั้ยครับ ขอแบบภาษาปัจจุบัน อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ

เช่น สังขาร นี่คือ ร่างกาย วิญาณนี่คือ ผี แล้วตัณหา คืออะไร.. นามรูป นี่หมายถึงตัวเราหรือเปล่าครับ แล้วสฬายต

นะ คืออะไร ผัสสะคืออะไร ขอแบบอธิบายง่ายๆ ภาษาปัจจุบันหน่อยนะครับ ฟังภาษาโบราณไม่ค่อยจะเข้าใจ

เวทนา นี่คือ ความรู้สึกว่าเป็นนั่นเป็นนี่หรือเปล่าครับ

คำถามที่ ๖. คำว่า ตัณหา กิเลส อุปาทาน อวิชา เหมือนกันหรือเปล่าครับ กิเลสแปลว่า โลภ โกรธ หลง หรือเปล่าครับ

แล้วตัณหากับกิเลสแตกต่างกันอย่างไรครับ แล้วอวิชชา อุปาทาน คำเดียวกันหรือเปล่าครับ

คำถามที่ ๗. เจตสิก แตกต่างกับจิตอย่างไร ขอแบบอธิบายง่ายๆ ภาษาปัจจุบันหน่อยนะครับ ฟังภาษาพระไม่ค่อย

จะเข้าใจเท่าไร คำว่า จิตนี่หมายถึงจิตใจหรือเปล่าครับ หรือ จิตตัวอื่นๆ และคำว่า ขันธ์ 5 คืออะไรครับ อย่างคำว่า

สังขารแปลว่าร่างกายหรือเปล่าครับ ส่วนคำว่า วิญญาณที่แปลว่าผีหรือเปล่าครับ แล้วคำว่า รูป หมายถึงรูปลักษณะ

หรือรูประบายสี หรือ รูปจินตนาการครับ

คำถามที่ ๘. พระโสดาบัน พระสกิทาคามิ พระอนาคามิ พระอรหันต์ แตกต่างกันอย่างไรคับ และเป็นบุคคลที่ได้

ญาณชนิดไหนกันบ้าง ทำไมจึงมีหลายระดับ

คำถามที่ ๙. คำว่าพระธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ คืออะไรครับ หมายถึง มีพระธรรม ๘๔,๐๐๐ ข้อ หรือ มี

พระธรรม ๘๔,๐๐๐ ตัวอักษรครับ สาธุ

คำถามที่ ๑๐. อยากทราบว่า สังฆาฎิกับเครื่องอัฐบริขาร คืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไรครับ มีภาพประกอบให้ดูมั้ย

ครับ อยากทราบว่าพระใช้ผ้ากี่ผืนครับ ตอนแรกนึกว่าพระภิกษุสงฆ์ใช้ผ้าผืนเดียวครับสาธุ หากมีภาพประกอบแต่

ละชิ้นจักเป็นพระคุณยิ่ง

คำถามที่ ๑๑. อยากทราบประวัติภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป ที่ติดตามพระพุทธเจ้า ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และมา

จากกลุ่มคนพวกไหนบ้าง เช่น ชฎิลสามพี่น้องที่อยู่ฝั่งแม่น้ำเนรันชลานับถือลัทธิปูชาไฟมีสาวก ๙๐๐ รูปต่อมา

หันมาปฏิบัติตามพระพุทธเจ้าหมด เป็นต้น และท่านเหล่านั้นมีใครกันบ้างทำไมเห็นอ่านในหนังสือบ่อยๆ เช่น

ตอนพระพุทธเจ้าปรินิพพานก็มีพระภิกษุ ๑,๒๕๐ รูปมาพร้อมกันไม่ได้นัดหมาย

คำถามที่ ๑๒. พระที่ฝึกฌาน สามารถเข้าฌานได้นานที่สุดกี่วัน กี่ชั่วโมงโดยไม่ต้องทานอาหาร

คำถามที่ ๑๓. เปรตเกิดจากความห่วงหาอาลัยเวลาใกล้สิ้นชีพ แล้วสัตว์นรก อสุรกาย และเดรัจฉานเกิดจากอะไร

คำถามที่ ๑๔. อยากทราบวิธีเพ่งกสิณที่ถูกต้อง

คำถามที่ ๑๕. คำว่า ตัวตน บุคคล สัตวะ ชีวะ หมายความว่าอย่างไร

มายาวเลยคำถาม
สมาชิกมหายานตอบหน่อยครับ เห็นเจ้าของกระทู้มีแนวปฏิบัติตามมหายาน

จะตอบปัญหาให้ได้ทั้งหมด
คิดว่าคงจะต้อง ต้องกางตำราหลายเล่ม

เอาเฉพาะส่วนที่ ผมเห็นแล้ว อยากให้คนอื่นเห็นด้วย ก็แล้วกันนะครับ

แท้จริงขันธ์5 เป็นตัวหลัก เป็นตัวยืนโรง ขันธ์5 มีลักษณะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ตลอดเวลา

ชีวิตเป็นแค่สภาพธรรม หรือผลพวงจากการเป็นไปของขันธ์5 เท่านั้นเองครับ

ชีวิต หรือว่า เรา จึงเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว
ขันธ์5 ครับ เป็นสิ่งที่มีจริง มาก่อน เรามี หรือมีเรา

เรามี หรือมีเรา เท่าที่เราจำความได้

แต่ขันธ์5 มีมาก่อนหน้านั้น ไม่รู้เท่าไรแล้วครับ
และจะมีต่อไป หลังจากเราไม่มีชีวิต ....................นั่นคือกระแสของขันธ์5 ครับ

ผมเชื่ออย่างนั้น

ขันธ์5 เวลาเกิด เกิดพร้อมกัน ทั้งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

รูปมากมายกว่า 28 รูป เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อม และดับไป แบบทะยอยเกิดทะยอยดับ

นามคือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป โดยพร้อมเพรียงกัน

เมื่อไร มีวิญญาณ เมื่อนั้นมี เวทนา สัญญา สังขาร
เมื่อไร มีเวทนา เมื่อนั้นมีสัญญา สังขาร วิญญาณ
เมื่อไร มีสัญญา เมื่อนั้นมีสังขาร วิญญาณ เวทนา
เมื่อไร มีสังขาร เมื่อนั้นมีเวทนา สัญญา วิญญาณ

ผู้ใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่า เราจักบัญญัติการมา การไป จุติ อุปบัติ
หรือความเจริญงอกงามไพบูลย์แห่งวิญญาณ เว้นจากรูป เวทนา สัญญา สังขาร ข้อนี้ไม่เป็น
ฐานะที่จะมีได้.
http://www.84000.org...219&pagebreak=0
http://www.84000.org...246&pagebreak=0
http://www.84000.org...301&pagebreak=0

ข้อสังเกตุ...


ขณะที่เรารู้สึกตัว ว่าเป็นตัวเป็นตนอยู่ในขณะนี้ ขณะนั้น ขันธ์5 ก็ทำหน้าที่เกิดดับของมันอยู่
ขณะที่เรารู้สึกตัวอยู่ในความฝัน ขณะนั้น ขันธ์5 ก็ทำหน้าที่เกิดดับของมันอยู่
ขณะที่เราหมดความรู้สึกตัว เช่นหลับสนิทไม่ฝัน ขณะนั้น ขันธ์5 ยังทำหน้าที่เกิดดับของมันอยู่

ขันธ์5 จึงไม่ใช่เรา
และเราก็ไม่ใช่ขันธ์5

ขันธ์5 มีมาก่อนเราเกิดในชาตินี้ ที่จำความได้ มาก่อนนานเท่าไร กี่อสงไขย กี่กัป กี่กัลป์ ไม่ทราบได้
ได้ยินว่าการเกิดขึ้นของขันธ์5 ไม่สามารถหาจุดเบื้องต้นได้

เราหมดความรู้สึก หรือตายไปจากชาตินี้ ขันธ์5 ซึ่งมีจริง ก็จะทำหน้าที่เป็นไปในวัฏฏสงสาร สืบไปอีก
ไม่รู้จบสิ้น หรือคือนิรันดรนั่นเอง

การที่จะระงับดับขันธ์5 ได้ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทรงได้แสดงพระธรรมเทศนา ไว้แล้ว

คำถามยาวจัง ขอตอบเฉพาะข้อ 1 ก่อนนะครับ


ตอบ 1.ศึกษาอริยสัจ 4 ให้เข้าใจลึกซึ้ง ถ่องแท้
2.เจริญมรรค 8 หรือวิปัสสนาภาวนาให้ได้ในชีวิตประจำวัน

ขอถามคุณ perish ครับ

ที่ว่าแนวปฏิบัติ: มหายาน เป็นอย่างไร
แล้วงานอดิเรก : ทรงพระสูตร ทรงพระสูตรอย่างไรครับ

คุณ govit "ชีวิต" ที่ว่าหมายถึงอะไรช่วยขยายความสักหน่อยครับ

สัตว์เกิดปุ๊บ ก็ชื่อว่ามีชีวิต
สัตว์หลับ ก็ชื่อว่า มีชีวิต
สัตว์สลบไป ก็ชื่อว่า มีชีวิต
สัตว์ตายไป ก็ชื่อว่า สิ้นชีวิต

บางครั้ง เรา ก็เทียบเท่ากับชีวิต

เช่น เราเกิด เราหลับ เราสลบไป เราตาย

แต่ผมขอให้ความหมายว่า เรามี เมื่อมีความรู้สึก
และเราไม่มี เมื่อ ไม่มีความรู้สึก

ในขณะหลับฝัน มีเราหรือไม่ ........

เรามีความรู้สึก ในขณะหลับฝัน แสดงว่ามีเราอยู่ในฝัน

ขณะหลับสนิท ไม่ฝันเลย ............. ไม่มีเราเลย ไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งสิ้น

ขณะนั้น ไม่ว่า จะเป็น เย็น ร้อน อ่อนแข็ง มืด หรือสว่าง พ่อแม่ พี่น้อง ลูกเมีย สุข ทุกข์
ไม่มีอะไรเลย ปรากฏแก่เรา .............. เพราะไม่มีเรา ในขณะนั้น

คนอื่น เป็นคนกล่าวว่า เรายังมีชีวิตอยู่

ชีวิต กับ เรา จึงต่างกัน .................... เมื่อดูโดยละเอียด

เพราะมี เรา (กู) (อัตตา) อันเป็นเหตุอดีตไกลโพ้นจนค้นหาไม่เจอต้นตอที่มา จึงทำให้มีขันธ์ 5 ในปัจจุบันชาตินี้

ที่ไม่รู้เช่นนี้ก็เรียกว่า "อวิชชา"

กู นั่นแหละพาไปเกิด

กู นั่นแหละทำให้มีแก่

กู นั่นแหละพาให้มีเจ็บ

กู นั่นแหละพาให้มี ตาย

เกิด...........แก่...........เจ็บ...........ตาย

เฮ้อ....น่าเห็นใจทั้งคนถาม และคนตอบ..

ผมไม่ใช่พระ แต่ว่าหลงมาอ่านแล้ว แสดงความเห็นบ้างคงไม่ผิดอะไรนะครับ บอร์ดเงียบเหลือเกิน
ข้อใดเข้าใจไม่ยาก จะมีความเห็นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมีสมาชิกให้ความเห็นตามมาเอง



ทำตามพระพุทธเจ้าท่านแนะนำไว้เลยครับ

เย จิตฺตํ สญฺญเมสฺสนฺติ โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา.
ผู้ใดสำรวมจิต ผู้นั้นจักพ้นบ่วงแห่งมาร.

ส่วนขั้นตอน วิธีการ ก็ต้องไปตามลำดับ ดูเหมือนจะยาก แต่ที่ยากคือไม่ทำ

สังขารธรรมทั้งหลาย อันปัจจัยปรุงแต่งขึ้น ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตาไม่ว่าขณะตื่นหรือหลับ อัตตสัญญาก็เป็นเพียงธรรมอย่างหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่เรา

แท้จริงเราไม่ได้เกิด ไม่ได้หลับ ไม่ได้สลบ ไม่ได้ตายเลย
เมื่อเราไม่ได้เกิดแล้ว จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าเรามีชีวิตอยู่

ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ

จิตหลุดพ้น จากอุปกิเลสที่จรมา ด้วยการเจริญอริยมรรคมีองค์ 8

ชีวิตของสัตวโลก เป็นสิ่งปรุงแต่ง จาก ธาตุ 6 คือ
ปฐวีธาตุ
เตโชธาตุ
อาโปธาตุ
วาโยธาตุ
อากาสธาตุ
และวิญญาณธาตุ หรือจิต

ฟุ้งซ่าน

เจ้าชายนิทรา กับ อสัญญสัตว์ มีความเหมือนกันคือ กรรมเป็นกำเนิด
มีความต่างกัน คือกรรมเป็นเผ่าพันธ์

เจ้าชายนิทรา มีอกุศลกรรมเป็นเผ่าพันธ์
อสัญญสัตว์ มีกุศลกรรมเป็นเผ่าพันธ์

เจ้าชายนิทรา มีวิบากเพียงชั่วอายุของมนุษย์
อสัญญสัตว์ มีวิบากนานเป็นกัลป์

จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นมรรคภาวนา ประกอบด้วยสมถะและวิปัสสนา มีนิพพานเป็นอารมณ์
อสัญญสัตว์ เป็นผลจากการเจริญ โลกียฌานตั้งเจตนาโดยมีรูปเป็นอารมณ์ เพื่อเข้าถึงรูปพรหม