ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ความไม่ประมาท http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=39035 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 21 ก.ค. 2011, 02:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | ความไม่ประมาท |
เรียนถามทุกท่านว่า ความไม่ประมาทนั้นคืออะไร กินเนื้อความกว้างประมาณเท่าใด กระทำเช่นไรชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาท |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 21 ก.ค. 2011, 03:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
ใจจรดศูนย์ตลอดเวลา.....ดำเนินจิตให้ตรงตามลักษณะ ดังในมหาวรรคอานาปานกถา ใจหยุดและเข้ากลางแบบที่หลวงวัดปากน้ำท่านสอน ปล. ทำยากกกกกกกกกมหาบรมยากแสนยาก แค่เจริญสติ,สัมปัฌัณญะ,สมาธิ...ให้ได้ธรรมเอกผุดขึ้นในส่วนของปฐมฌาณก็ยากแล้ว..... |
เจ้าของ: | Hanako [ 21 ก.ค. 2011, 04:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
อืม เอาเท่าที่เข้าใจตอนนี้ก็ คือ การระวัง สำรวมกาย วาจา ใจและอยู่กับปัจจุบันธรรมอ่ะค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | student [ 22 ก.ค. 2011, 02:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
อ้างคำพูด: FLAME เขียน เรียนถามทุกท่านว่า ความไม่ประมาทนั้นคืออะไร กินเนื้อความกว้างประมาณเท่าใด กระทำเช่นไรชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาท ความดำเนินชีวิตให้เป็นไปให้รอดพ้นจากความเห็นผิดและกระทำผิดที่เป็นตัวการให้ได้รับความเดือดร้อนภายหลัง กินเนื้อความทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตทั้งโลกนี้ถึงโลกหน้า กระทำตนให้รอดพ้นจากภัยทั้งหลายชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาท รวมถึงภัยที่ตัวเองสร้าง |
เจ้าของ: | Rosarin [ 22 ก.ค. 2011, 10:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
FLAME เขียน: เรียนถามทุกท่านว่า ความไม่ประมาทนั้นคืออะไร กินเนื้อความกว้างประมาณเท่าใด กระทำเช่นไรชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาท ![]() ...ตามความเข้าใจของข้าพเจ้า...การระลึกถึงความตายทุกวินาทีเป็นการตั้งอยู่ในความไม่ประมาท... ...จากการรับรู้สภาพธรรมที่มีการเกิด-ดับ เรียกว่าตายทุกขณะจิตแต่ละอย่างแต่ละทางทีละ1ลักษณะ... ...เช่นสภาพรู้ทางตาเห็นดับหมดไม่เหลือซากอะไรเลยแล้วจึงเกิดสภาพอื่นๆเช่นได้ยินสืบต่อไปได้... ...เพราะสภาพที่รู้เป็นแบบองค์รวมโดยจิตแต่ละดวงยังเข้าไม่ถึงสภาพเกิด-ดับแบบตายทุกขณะจิตได้... ...จึงสมควรที่จะมีการฝึกจิตให้ระลึกสติเข้าใจสภาพธรรมโดยสอนจิตว่ามีการตายทุกครั้งที่กระพริบตา... ...คือตายจากการเห็น ตายจากการได้ยิน ตายจากการได้กลิ่น ตายจากการลิ้มรส ตายจากสัมผัส... ...ที่รู้สึกได้ว่าทุกอย่างเกิดเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้รส รับสัมผัสเข้ามารวมเป็นอารมณ์ที่ใจทั้งหมดนั้น... ...แท้ที่จริงแล้วหลังกระพริบตาทั้งหมดที่ผ่านไปตายแล้วไม่เหลือซากอะไรเลยแต่เกิดอันใหม่สืบต่อ... ...อย่างรวดเร็ว...อันนี้ที่เรียกว่าธรรมเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา บังคับและเปลี่ยนทั้งหมดไม่ได้เลยค่ะ... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 22 ก.ค. 2011, 23:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
ไม่ประมาท คือมีสติ ประมาท คือ ขาดสติ เมื่อใดมีสติ ย่อมไม่ชื่อว่าประมาท |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 23 ก.ค. 2011, 17:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
ขอบคุณครับ เมื่อภิกษุอภิภูยืนอยู่ในพรหมโลก กล่าวคาถา ทั้งหลายอยู่ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยินอย่างนี้ว่า " ท่านทั้งหลายจงริเริ่ม จงก้าวหน้า จงประกอบ (ความเพียร)ในพระพุทธศาสนา จงกำจัดเสนาแห่งมัจจุเหมือนช้างกำจัดเรือนไม้อ้อ ฉะนั้น ผู้ใดจักไม่ประมาทในพระธรรมวินัยนี้อยู่ ผู้นั้นจักละสงสารคือชาติ แล้วจักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้พระเจ้าข้า ฯ " ในปัจฉิมโอวาทพระพุทธเจ้าก็ตรัสถึงความไม่ประมาท "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เอาเถิดบัดนี้ เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิดดังนี้ นี้เป็นวาจาครั้งสุดท้ายของตถาคต" |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 23 ก.ค. 2011, 19:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 23 ก.ค. 2011, 20:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
คุณกบเห็นว่าความไม่ประมาทเป็นเช่นไรครับ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 23 ก.ค. 2011, 22:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
อ้างคำพูด: ในปัจฉิมโอวาทพระพุทธเจ้าก็ตรัสถึงความไม่ประมาท "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เอาเถิดบัดนี้ เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิดดังนี้ นี้เป็นวาจาครั้งสุดท้ายของตถาคต" ![]() ![]() ![]() ความตายมาถึงเราได้.ทุกที่..ทุกเวลา...จงเป็นผู้มีคติที่แน่นอนโดยเร็ว..เถิด |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 23 ก.ค. 2011, 22:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
สาธุ ![]() |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 24 ก.ค. 2011, 10:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
ดูกรอานนท์ นั่นโคนไม้ นั่นเรือนว่าง เธอทั้งหลาย จงเพ่งฌาน อย่าได้ประมาท อย่าได้เป็นผู้เดือดร้อนในภายหลัง นี้เป็นคำ พร่ำสอนของเราแก่พวกเธอ ฯ Quote Tipitaka: เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ บรรทัดที่ ๑๑๐๔๓ - ๑๑๐๗๓. หน้าที่ ๔๖๙ - ๔๗๐.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B= ... agebreak=0 |
เจ้าของ: | Hana [ 25 ก.ค. 2011, 23:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
FLAME เขียน: ขอบคุณครับ เมื่อภิกษุอภิภูยืนอยู่ในพรหมโลก กล่าวคาถา ทั้งหลายอยู่ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยินอย่างนี้ว่า " ท่านทั้งหลายจงริเริ่ม จงก้าวหน้า จงประกอบ (ความเพียร)ในพระพุทธศาสนา จงกำจัดเสนาแห่งมัจจุเหมือนช้างกำจัดเรือนไม้อ้อ ฉะนั้น ผู้ใดจักไม่ประมาทในพระธรรมวินัยนี้อยู่ ผู้นั้นจักละสงสารคือชาติ แล้วจักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้พระเจ้าข้า ฯ " ในปัจฉิมโอวาทพระพุทธเจ้าก็ตรัสถึงความไม่ประมาท "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เอาเถิดบัดนี้ เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิดดังนี้ นี้เป็นวาจาครั้งสุดท้ายของตถาคต" ![]() พระสุรเสียงดังฟังชัด ไปได้ไกลหมื่นโลกธาตุ ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร เสียงดังแค่ไหน ยังต้องอาศัย เทวดาบอกกันต่อๆๆ เป็นทอดๆๆๆ นี่ล่ะ คือ ความไม่ประมาท ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 26 ก.ค. 2011, 03:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความไม่ประมาท |
คุณ ฮานะหายไปซะนานเลยนะครับ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |