ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ขอคำแนะนำค่ะ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=38591 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | นฎกร [ 16 มิ.ย. 2011, 13:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | ขอคำแนะนำค่ะ |
เวลาที่หนูสวดมนต์ไหว้พระ จะมีคำบางคำที่ทำให้คิดถึงแต่คำที่ไม่ดี หรือเวลากราบไหว้พระ จะคิดถึงแต่เรื่องลามก รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา พยายามกำหนดจิตให้รู้ว่า กำลังคิดลามก คิดไม่ดี มันเป็นบาป หนูรู้สึกผิดในใจทุกครั้ง จึงทำให้ไม่อยากไปกราบพระ ไม่อยากสวดมนต์ ทุกข์ใจมาก เพราะสิ่งที่ใจคิดเป็นของสูงที่สักการะบูชา ใจหนึ่งก็อยากสวดมนต์ ไหว้พระ อยากไปวัด สุดท้ายก็ไม่ทำอะไร เพระเป็นการสร้างบาปอันใหญ่หลวง ที่ไปลบหลู่ คิดไม่ดีกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หนูขอคำแนะนำจากท่านผู้ใจบุญทั้งหลาย โปรดแนะทางออกให้หนูด้วย และขออนุโมนาบุญด้วยค่ะ |
เจ้าของ: | จันทร์ ณ ฟ้า [ 16 มิ.ย. 2011, 17:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำแนะนำค่ะ |
จิตมันคิดอะไรได้สารพัด แต่จิตไม่ใช่เราที่ตั้งใจคิดนี่นา การที่จิตเศร้าหมอง ครุ่นคิดแต่ว่าเราคิดไม่ดีนี่อกุศลเกิดแล้ว ดังนั้นเมื่อไหร่ที่คิด แล้วมีสติรู้ว่าเมื่อกี้คิดไม่ดี ก็เป็นกุศลแล้วนะคะ รู้ตัวให้เร็ว ละให้เร็ว และก็อาจจะขอขมากับพระพุทธรูปก็ได้ถ้าไม่สบายใจนะ |
เจ้าของ: | ปลีกวิเวก [ 16 มิ.ย. 2011, 17:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำแนะนำค่ะ |
นฎกร เขียน: เวลาที่หนูสวดมนต์ไหว้พระ จะมีคำบางคำที่ทำให้คิดถึงแต่คำที่ไม่ดี หรือเวลากราบไหว้พระ จะคิดถึงแต่เรื่องลามก รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา พยายามกำหนดจิตให้รู้ว่า กำลังคิดลามก คิดไม่ดี มันเป็นบาป หนูรู้สึกผิดในใจทุกครั้ง จึงทำให้ไม่อยากไปกราบพระ ไม่อยากสวดมนต์ ทุกข์ใจมาก เพราะสิ่งที่ใจคิดเป็นของสูงที่สักการะบูชา ใจหนึ่งก็อยากสวดมนต์ ไหว้พระ อยากไปวัด สุดท้ายก็ไม่ทำอะไร เพระเป็นการสร้างบาปอันใหญ่หลวง ที่ไปลบหลู่ คิดไม่ดีกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หนูขอคำแนะนำจากท่านผู้ใจบุญทั้งหลาย โปรดแนะทางออกให้หนูด้วย และขออนุโมนาบุญด้วยค่ะ ![]() จะแนะนำจากประสบการณ์อย่างนี้นะคะ วิธีที่ 1 ให้พิจารณาเมื่อความคิดที่ไม่ดีปรากฏขึ้นทางใจ ให้เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ จิตนี้ทำงานไปตามเหตุและปัจจัยที่เข้ากระทบผัสสะรับรู้เป็นอารมณ์เกิดแล้วก็ดับ บังคับบัญชาไม่ได้ไม่ใช่ตัวตนที่จะยึดถือว่าเป็นอารมณ์ของเรา...ด้วยการปล่อยวาง ความคิดนั้น (อุเบกขา)... วิธีที่ 2 ให้เพิ่มกำลังของสติ ด้วยการฝึกจิตให้ตั้งมั่น จะใช้วิธีนั่งสมาธิ หรือให้จิต จดจ่ออยู่กับงานที่ทำอยู่ก็ได้ เอาวิธีที่เราฝึกแล้วได้ผล เมื่อจิตมีความตั้งมั่นมากขึ้น สติจะมีกำลังพอที่จะระงับความฟุ้งซ่านได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อเวลาที่ความคิด ไม่ดีปรากฏทางใจ เมื่อสติเข้าไประลึกรู้ความคิดไม่ดีจะดับไป แล้วให้สติระลึกรู้อยู่ ที่การงานปัจจุบัน (ถ้าสวดมนต์อยู่ก็ให้รู้ว่ากำลังสวดมนต์ จิตใจก็จะจดจ่ออยู่ การสวดมนต์แทนการคิดไม่ดี) ความวิตกกังวล ความกลัว ยิ่งจะทำให้จิตเข้าไปหน่วงอารมณ์นั้นไว้ยิ่งสลัดไม่ออก ดังนั้นวิธีการแก้ไข ความกลัวบาปจากการคิดไม่ดี เวลาสวดมนต์ไหว้พระก็ให้ ขอขมาต่อหน้าพระรัตนตรัย ทุกครั้งจนกว่าความคิดดังกล่าวจะหมดไป ขอเจริญในธรรม ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 16 มิ.ย. 2011, 20:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำแนะนำค่ะ |
นฎกร เขียน: เวลาที่หนูสวดมนต์ไหว้พระ จะมีคำบางคำที่ทำให้คิดถึงแต่คำที่ไม่ดี หรือเวลากราบไหว้พระ จะคิดถึงแต่เรื่องลามก รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา พยายามกำหนดจิตให้รู้ว่า กำลังคิดลามก คิดไม่ดี มันเป็นบาป หนูรู้สึกผิดในใจทุกครั้ง จึงทำให้ไม่อยากไปกราบพระ ไม่อยากสวดมนต์ ทุกข์ใจมาก เพราะสิ่งที่ใจคิดเป็นของสูงที่สักการะบูชา ใจหนึ่งก็อยากสวดมนต์ ไหว้พระ อยากไปวัด สุดท้ายก็ไม่ทำอะไร เพระเป็นการสร้างบาปอันใหญ่หลวง ที่ไปลบหลู่ คิดไม่ดีกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หนูขอคำแนะนำจากท่านผู้ใจบุญทั้งหลาย โปรดแนะทางออกให้หนูด้วย พูดให้ฉุกคิดก่อน ![]() ถ้าเราไม่ยึดมั่นถือมั่นความคิด (จิต) ว่าคิดยังงี้ดี (ยินดี) คิดยังงี้ไม่ดี (ยินร้าย) แล้วเราจะเกิดความทุกข์ไม่สบายใจเพราะความคิดนั้นๆ ไหม ? |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 17 มิ.ย. 2011, 00:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำแนะนำค่ะ |
สิ่งที่ผ่านมาก็จะผ่านไป สิ่งที่เกิดขึ้น ก็ต้องดับไป ไม่ใช่สาระที่จะยึดมั่นให้เป็นทุกข์เปล่าๆ จงมองดูสิ่งเหล่านั้นด้วยความเป็นของว่างเปล่า หาสาระไม่ได้ ที่สำคัญคือต้องขอขมาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อยู่บ่อยๆ เป็นประจำทุกวันเช่นกันครับ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 17 มิ.ย. 2011, 01:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำแนะนำค่ะ |
นฎกร เขียน: เวลาที่หนูสวดมนต์ไหว้พระ จะมีคำบางคำที่ทำให้คิดถึงแต่คำที่ไม่ดี หรือเวลากราบไหว้พระ จะคิดถึงแต่เรื่องลามก รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา พยายามกำหนดจิตให้รู้ว่า กำลังคิดลามก คิดไม่ดี มันเป็นบาป เห้นมาเยอะ..เป็นกันหลายคน...ก็คนที่สวดมนต์ใหว้พระนี้แหละเป็น...เรื่องคิดไม่ดีกับพระกับเจ้านี้ก็เคยเป็น... ข่มจิตข่มใจแล้วก็ยังสู้มันไม่ได้ใช่มั้ย??? ก็ลองหันมาใช้ปัญญาดูนะ.. 1. ระยะสั้น..ใช้ปัญญาระงับความคิดใว้ก่อน...อันนี้ต้องใช้ความรู้มาประกอบครับ จากความรู้ที่ว่า..ขันธ์ 5ไม่ใช่เรา...เราไม่ใช่ขันธ์ 5..ขันธ์ 5 ก็มีรูป..เวทนา..สัญญา..สังขาร..วิญญาณ..เน๊าะ ที่เป็นปัณหาของเรา..คือ..สังขารความคิดปรุง..นี้แหละ..ปัณหา... ทีนี้...ก็จำให้ขึ้นใจเลยว่า....ความคิดนี้ไม่ใช่เรา...เราไม่มีในความคิดนี้...ท่องไปเลย ทีนี้..ก็กำหนดจิตว่า...หากมีความคิดไม่ดีขึ้นมา..เราจะท่องว่า....ความคิดนี้ไม่ใช่เรา...เราไม่มีในความคิดนี้...ท่องจนกว่าความคิดนั้นหายไป..ทุกครั้ง และสุดท้าย...ก็ให้มีสติ...พอเห็นความคิดไม่ดีนั้นปั๊ป...ก็ท่องคำที่เราเตรียมใว้ทันที... เวลาท่อง..ก็ให้คิดตามคำท่องไปด้วยนะ...ไม่ใช่สักแต่ว่าท่อง 2. ระยะยาว...ให้มั่นพิจารณาพุทธคุณ..ธรรมคุณ..สังฆคุณ..ทุกวันสม่ำเสมอ พุทธคุณพิจารณาอย่างไร???..ให้คิดอย่างนี้ว่า...กว่าจะพบธรรมอมฤทธ์..พระพุทธองค์สู้ทนลำบากลำบนทุกข์ยากตั้ง 6 ปี...หากพระพุทธองค์ไม่ยอมลำบาก..ไหนเลยเราจะรู้จักธรรมะได้...คุณของพระพุทธองค์มีอย่างนี้.. ระหว่างที่พระองค์เผยแผ่ธรรม..สังขารยอมมีทุกข์เวทนาทางกายเป็นธรรมดา..เพราะความเมตตาต่อสัพสัตว์พระองค์ก็สู้...หากพระพุทธองค์ไม่สู้ความลำบาก..ไหนเลยเราจะรู้จักธรรมะได้...คุณของพระพุทธองค์มีอย่างนี้... เป็นต้น.. คุณของพระสงฆ์พิจารณาอย่างไร???....ให้คิดอย่างนี้ว่า...พระอริยะสงฆ์แจ้งในธรรมแล้ว...กว่าจะแจ้งในธรรมะนั้นได้..ได้ผ่านความอยากลำบากต่าง ๆ นา นา..บ้างก็ธุดงค์ในป่าผ่านเป็นผ่านตายเรียกว่ายอมตาย...ไม่ได้ท้อถอย...กว่าจะรู้ธรรมเห็นธรรมตามพระศาสดาสัมมาสัพพุทธเจ้าได้..ต้องมอบกายถวายชีวิตสู้...แจ้งแล้วยังมาลำบากกายสังขาร..มาเป็นพยานแห่งธรรมะ..สั่งสอนพวกเรา...อรหันต์ป่วยก็เป็น..เจ็บก็เป็นนะ...บางองค์เจ็บเจียนจะตายก็ยังเมตตาสั่งสอนพวกเราให้หายโง่...คุณของพระสงฆ์มีได้อย่างนี้.. เป็นต้น... ส่วนคุณของพระธรรม..ใครเคยพิจารณาก็ช่วยบอกด้วยนะครับ..กระผมพิจารณาไม่เป็น ![]() กระผมไม่อยากจะใช้คำว่า..การระลึกถึง...แต่อยากจะใช้คำว่า...การเห็นถึงคุณพระพุทธ..พระธรรม..พระสงฆ์..อย่างแท้จริง...จะช่วยละความลังเลสงสัยได้จริง |
เจ้าของ: | chanachai2010 [ 17 มิ.ย. 2011, 15:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอคำแนะนำค่ะ |
![]() ไม่ต้องกังวลไป............บางท่านใหม่ๆก็อาจเป็นเหมือนกันที่คำสวดมนต์ทำให้จิตนั้นหวนไปคิดดีแล้วท่านเอ๋ย..............ท่านยังมีความละอายต่อบาปนี่แหละคือชาวพุทธ ลด...ละ...เลิก.............ไปทีละน้อยจิตเราก็จะสงบเอง ใจเย็นๆ..ค่อยๆเป็นค่อยๆไป อย่าไปวิตกและกังวล ขอให้ท่านรู้แจ้งในธรรมเทอญฯ.................. |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |