ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
เมื่อจิตทราบซึ้งในธรรมจึงหลั่งไหลออกมาเป็นบทกลอน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=38388 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | อนัตตาธรรม [ 03 มิ.ย. 2011, 10:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | เมื่อจิตทราบซึ้งในธรรมจึงหลั่งไหลออกมาเป็นบทกลอน |
![]() กวีทั้งหลาย เมื่อทราบซึ้งใจในรสชาติแห่งชีวิต ภาษาและวรรณกรรม จึงลิขิตหลั่งใหลออกมาเป็นบทกลอน คติพจน์ คำคม สุภาษิต นักศึกษาและปฏิบัติธรรม เมื่อได้ค้นพบความจริงจากคำสอน บทกลอน โคลง ฉันท์คติพจน์ คำคม สุภาษิต ทั้งหลายก็หลั่งไหลออกมาจากใจ ดุจเดียวกัน ในลานธรรมมจักรแห่งนี้มีผู้ที่จิตดื่มด่ำในภาษาและธรรม มากมายหลายท่าน เรามาส่งเสริมกันถ่ายทอดธรรมมะออกสูกันฟังในรูปของบทกลอนกันสักตั้งดีไหมครับ ทั้งยังจะเป็นการช่วยฟื้นฟูศิลปการแต่งบทกลอน กาพย์ โคลง ฉันท์ ให้เยาวชนคนยุคใหม่ที่แต่งกลอนกันไม่ค่อยจะเป็นหรือไม่ค่อยจะสัมผัสคล้องจองกันแล้ว ดังตัวอย่างเพลงของวัยรุ่นยุคใหม่ที่เราได้ยินได้ฟังกันทุกวันนี้ ขอเริ่มกลอนและร่ายบทแรก ซึ่งเป็นการบอกให้รู้ตัวและสรุปหลักการปฏิบัติธรรมไว้ดังต่อไปนี้ โฉลกธรรม เพราะไม่รู้ จึงอยู่เช่น วัวควาย กิน ขี้ สี่ นอน ไป เท่านี้ โกรธ โลภ หลง เต็มกาย ทั่วถ้วน วนว่ายวัฏฏ์สุดลี้ ตราบชั่ว กัปกัลป์ จนกุศลส่งได้ เป็นคน พบพุทธธรรมช่วยดล จิตให้ พลิกรู้สัจจ์ในตน จบแจ้ง จึ่งจักอาจพ้นได้ ข่ายทุกข์ สงสาร จงดูอริยสัจจ ๔ พิจร์ณให้ดีอย่าข้าม เพียรสอบถามผู้รู้ ทางออกสู่เสรี มีอยู่แล้วในตน อย่าวกวนบัญญัติ อย่าผูกมัดสิ่งใด จงเป็นไทยทุกเมื่อ เชื่อคำพระชินวร คำสอนท่านสุดง่าย เฝ้ารู้กายและจิต อย่างพินิจ พิจารณา ณ เพลาปัจจุ จักรู้ลุทั่วตัว ความเมามัวจักหาย หลักใหญ่คืออัตตา อย่าให้มาเข้าร่วม ทิ้งความเห็นเป็นตน กมลมั่นกับธรรม ที่เกิดตามยถา ซึ่งบัญชาไม่ได้ ไร้ศัพท์ใดบัญญัติ จึ่งจักอาจเห็นจริง ตัดทิ้งซึ่งตัวข้า โคนเหง้าแห่งอวิชชา ขาดสิ้น สู่มรรค ผล นิพพาน ![]() |
เจ้าของ: | อนัตตาธรรม [ 06 มิ.ย. 2011, 17:32 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: เมื่อจิตทราบซึ้งในธรรมจึงหลั่งไหลออกมาเป็นบทกลอน | ||
![]() ธรรมใดก็ไร้ค่า ถ้าไม่ทำ ขอทุกท่านจงจำไว้เถิดหนา บัญญัติธรรมเต็มลานที่อ่านมา จะไร้ค่าถ้าไม่มีคนไปทำ
|
เจ้าของ: | อนัตตาธรรม [ 08 มิ.ย. 2011, 13:42 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: เมื่อจิตทราบซึ้งในธรรมจึงหลั่งไหลออกมาเป็นบทกลอน | ||
![]() อโศกะบรรณาการ ส่งโพธิธรรมชำระใจ ให้ถึงมือ เหลือแต่เพียงฝึกปรือ ด้วยใจมั่น จักไม่นานเนิ่นช้า มากเดือนวัน พระนิพพานก็จะแจ้ง ประจักษ์ใจ ขอพุทธธรรมคำสอน อันประเสริฐ จงบังเกิด เจิดจรัส สว่างใส สู่ใจชน คนดี ทุกที่ไป ให้พบทาง มรรควิถี ถึงนิพพาน อโศกะ ๑๒/๐๖/๒๕๕๓ โทร ๐-๘๙๘-๓๘๖-๒๑๓ ![]()
|
เจ้าของ: | อนัตตาธรรม [ 08 มิ.ย. 2011, 13:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เมื่อจิตทราบซึ้งในธรรมจึงหลั่งไหลออกมาเป็นบทกลอน |
![]() เมื่อถึง รู้ ตื่น เบิกบาน (พุทธะ) แสนสุกใส จิตไร้โศก หมดธุลี สิ้นสุดกิจ เสียที หมดตัวข้า ทั้งมานะ ทิฐิ อวิชชา หมดสิ้นแล้วตัณหา กิเลสมาร จากนี้ไปคงเหลือ สักแต่ว่า กิริยาเป็นเครื่องหล่อชีวิตนั่น มีนิพพานเป็นสมบัติ ตลอดกาล วงวัฏฏะขาดสะบั้น หมดเวรกรรม อโศกะ ๒๕๕๔ ![]() |
เจ้าของ: | เสียงธรรม [ 09 มิ.ย. 2011, 16:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เมื่อจิตทราบซึ้งในธรรมจึงหลั่งไหลออกมาเป็นบทกลอน |
.................
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ปลีกวิเวก [ 14 มิ.ย. 2011, 20:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เมื่อจิตทราบซึ้งในธรรมจึงหลั่งไหลออกมาเป็นบทกลอน |
![]() กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์และกวีเอกแห่งโลก ![]() ![]() ไม่ประโยชน์อย่าหวังใช้ฝั่งฝา การโลกีย์สี่ประการเป็นมารยา คือรูปรสพจนาเครื่องบำเรอ อันบทเบื้องเครื่องสัมผัสเหมือนมัดผูก เข้ากระดูกแล้วมันทำเสียย่ำเหยอ จงหักจิตสละอย่าทะเยอ ที่เปรมเปรอปฏิพัทธิ์จงตัดใจ เอาดวงจิตคิดในพระไตรลักษณ์ จะประจักษ์รักห้ามความสงสัย อันขันตีมีกำหนดให้อดใจ จงตั้งในยุติธรรมคงสำราญ ได้ตัดห่วงบ่วงใจในมนุษย์ จะบริสุทธิ์เห็นภัยในสงสาร อุเบกขาตั้งมั่นในสันดาน หวังนิพพานเบื้องหน้าให้ถาวรฯ ![]() (จากเรื่องพระอภัยมณี) |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |