ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ข่ายดักมนุษย์
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=38169
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  tongka [ 21 พ.ค. 2011, 23:21 ]
หัวข้อกระทู้:  ข่ายดักมนุษย์

สมัยก่อนพระพุทธเจ้าตรัสพรหมชาลสูตรเพื่ิอเปิดเผยให้โลกได้รับรู้ถึงสิ่งที่ปิดบังจิตวิญญาณเอาไว้ ทำให้โลกนี้ต้องพบกับปัญหามากมาย

ความรู้ ความเห็น ความคิดฯลฯ ที่เกิดขึ้นกับจิตวิญญาณของมนุษย์นี้เองที่สร้างความแตกต่างจนกระทั่งสร้างปัญหามากมายขึ้นมาจนโลกนี้หาความสงบสุขไม่ได้ ความรู้ ความเห็น ความคิดเหล่านั้นนั่นเองที่เป็นข่ายดักจิตวิญญาณมนุษย์เอาไว้ และความรู้ ความเห็น ความคิดเหล่านั้นเองที่ตีกรอบขังตนเองและหมู่มนุษย์ที่ถูกปลูกฝังความคิดเห็นแบบเดียวกันให้เป็นกลุ่ม ก๊ก พรรคพวก แล้วสุดท้ายเกิดเป็นแรงทำลายล้างกลุ่มอื่น พวกอื่น จนเป็นสงครามทำลายล้างไม่สิ้นสุดเพราะการปลูกฝังบ่มเพาะเมล็ดพันธ์อันเลวร้ายนั่นสืบต่อถึงลูกหลานเหลนโหลนไปเรื่อยๆ
เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครมาทำความเข้าใจ เปิดเผยให้โลกได้รับรู้สิ่งนี้เหมือนที่พระพุทธเจ้าทรงเปิดเผยมา น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง

เรารุ่นหลังน่าจะมาทำความเข้าใจใน พรหมชาลสูตรนี้ดีๆ หน่อย จนสามารถเชื่อมโยงถึงการเป็นไปในโลกปัจจุบันได้

ใครมีความคิดเห็นในเรื่องนี้เป็นเช่นไร เชิญแสดงความคิดเห็นเพื่อแบ่งปันทัศนะแก่กันและกัน

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 22 พ.ค. 2011, 00:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ข่ายดักมนุษย์

ต่อให้อ่าน..ให้จบ....แต่ไม่มีบุญ..คือไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับความรู้อันนั้นได้....

อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง....

แม้รู้เรื่องก็ไม่สำนึก...

เจ้าของ:  student [ 22 พ.ค. 2011, 00:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ข่ายดักมนุษย์

เราไม่เห็นใครที่ไหนในโลกนี้ที่มีปัญญา มีความสามารถเท่าพระพุทธเจ้า ผู้ที่สามารถพาสัตว์โลกทั้งหลายพ้นจากความทุกข์ สิ้นสุดการเวียนว่ายตายเกิด เราเกิดมามีบุญมากแค่ไหนที่เกิดมาเป็นมนุษย์และเกิดในพุทธศาสนาแห่งนี้ เราไม่รู้ว่าความตายจะมาถึงตัวเราเมื่อไหร่ รีบทำความเพียรเสียแต่วันนี้ ให้สมกับเกิดในแผ่นดินพุทธศาสนา

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 22 พ.ค. 2011, 02:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ข่ายดักมนุษย์

ถ้าพูดถึงข่ายดักมนุษย์ ก็ทำให้นึกถึง โมหะ
:b41:

เจ้าของ:  tongka [ 22 พ.ค. 2011, 04:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ข่ายดักมนุษย์

FLAME เขียน:
ถ้าพูดถึงข่ายดักมนุษย์ ก็ทำให้นึกถึง โมหะ
:b41:

ใช่ โมหชาลัง ข่ายคือโมหะ
และก็น่าทึ่งตรงที่ เจ้าโมหะนี้ยังสามารถครอบงำความรู้ ความเห็น ความนึกคิดทุกอย่างไว้ในอำอาจอีกด้วย

เจ้าของ:  tongka [ 22 พ.ค. 2011, 04:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ข่ายดักมนุษย์

กบนอกกะลา เขียน:
ต่อให้อ่าน..ให้จบ....แต่ไม่มีบุญ..คือไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับความรู้อันนั้นได้....

อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง....

้แม้รู้เรื่องก็ไม่สำนึก...


เราคิดว่า...
ลำพังตัวเราเองอ่านแล้วก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ เนื่องจากเราขาดการใคร่ครวญ เราไม่รู้เรื่องเพราะขาดผู้รู้ ขาดกัลยาณมิตร ขาดการสนทนากับผู้รู้ต่างหาก เพราะปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้เกิดการใคร่ครวญ การพินิจ ก็น่าจะเป็นตรงนี้แหละ

เราจึงใช้ลานสนทนานี้แหละเพื่อเพิ่มเติมส่วนปัจจัยพี้นฐานที่ขาดหายไป เพราะคิดว่าในลานสนทนานี้น่าจะมีกัลยาณมิตรที่ดี มีบัณฑิตที่น่าคบหา น่าเข้าใกล้อยู่บ้าง แม้ไม่ได้เข้าใกล้ชนิดเห็นหน้าค่าตาก็ตาม

อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง....

้เพราะไม่รู้เรื่องนี่แหละจึงได้นำมาตั้งกระทู้ เพื่อจะได้มาร่วมกันทำความเข้าใจ ลำพังปัญญาของเราผู้เดียวมันก็ได้เห็นแค่แง่มุมเดียว ถ้าหลายๆ ความคิดเห็นก็ได้เพิ่มทัศนะมากขึ้น คิดว่าไม่นานก็จะเข้าใจในเรื่องนี้ได้

แม้รู้เรื่องก็ไม่สำนึก...[/quote]

น่าจะเป็นเพราะเราไม่รู้จักข่ายที่แท้จริงมากกว่า คือไม่เห็นภัยร้ายของมันจริงๆ

เจ้าของ:  tongka [ 22 พ.ค. 2011, 05:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ข่ายดักมนุษย์

เราเคยอ่านหนังสืออะไรก็ไม่รุ้จำชื่อไม่ไ้ด้
แต่มีใจความสำคัญที่ว่า
พระโสณะ กับพระอุตตระ ได้ประกาศพรหมชาลสุตรนี้เป็นสูตรแรกในการนำพุทธศาสนาสู่สุวรรณภูมิแห่งนี้ คือแถบที่เราอยู่ซึ่งเรียกกันในสมัยนั้นว่าสุวรรณภูมิ

ฉะนั้น พรหมชาลสูตร นี้จะต้องมีความหมาย อะไรที่มากมายชนิดที่สามารถปราบความเลวร้ายในจิตวิญญาณของชาวสุวรรณภูมิในสมัยนั้นให้กลับมายอมรับเอาพุทธพจน์ไปเป็นแนวทางแห่งชีวิตได้จนกระทั่งมาถึงบัดนี้

แต่บัดนี้ความเข้าใจในเรื่องนี้ได้เปลี่ยนไปเพราะขาดการทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ในหมู่พวกเราผู้เป็นอนุชนคนรุ่นหลังนั่นเอง

ถ้าเรามาพากันทำความเข้าใจใน พรหมชาลสูตร ที่พูดถึงเรื่องข่ายนี้ให้ดีถี่ถ้วน ก็น่าจะช่วยอะไีรได้มากมายเหมือนครั้งที่พระโสณะกับพระอุตระยังอยู่ หรือไม่ก็สมัยที่พระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยุ่

เจ้าของ:  tongka [ 22 พ.ค. 2011, 19:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ข่ายดักมนุษย์

พระพุทธองค์ตรัสถึงทิฏฐิ หกสิบสอง คำว่าทิฏฐิ ในพรหมชาลสูตรนี้ตามที่เราเข้าใจน่าจะหมายถึง ความคิดเห็น ทัศนะ ความรู้ นั่นเองซึ่งเป็นบ่อเกิดของลัทธิต่างๆ มากมาย

เพราะแม้ปัจจุบันนี้ก็ตาม หมู่ชนแบ่งกันเป็นกลุ่มก้อน องค์กรต่างๆ ก็ย่อมเป็นผลผลิตออกมาจากความรู้ ความเห็น แม้กระทั่งศาสตร์ต่างๆ ก็เป็นตัวสร้างลัทธิองค์กร สมาคมอะไรต่างๆ ขึ้นมาเมื่อรวมตัวกันแล้วก็ย่ิอมตามมาด้วยผลประโยชน์ เมื่อมีผลประโยชน์แล้วก็ต้องเกิดอิจฉา แย่งชิง จึงจำเป็นต้องมีกฎเกณฑ์กติกา และกุสโลบายในการรักษาควมคุมสมาชิก เพิ่มพูนสมาชิก เพื่อเพิ่มผลประโยชน์อีกด้วย
สิ่งนี้จึงเป็นข่ายดัก เป็นเสมือนกำแพงปิดกั้นคนเอาไว้ เป็นข่ายดักกักขังเอาไว้ เป็นข่ายดักมนุษย์

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/