วันเวลาปัจจุบัน 29 เม.ย. 2024, 14:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2011, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 09:43
โพสต์: 180

ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


คือไม่ทราบว่าใครเคยวิเคราะห์ไหมว่า คำสอนที่พุทธสอนจริงๆหลังจากตรัสรู้จนปรินิพพาน ถูกบรรจุใว้ในพระไตรปิฏกหมดเลยหรือเปล่า หรือแค่เท่าที่พระอรหันตร์500 รูปจำได้เท่านัน หรือแค่เท่าที่พระอานนทร์จำได้องค์เดียว
ขอบคุณครับ

.....................................................
โคตมะพุทธ ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ผู้รู้แจ้งโลก อัจฉริยมนุษย์ ยอดครูของครูทั้งหลาย
ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ ผู้ก่อตั้ง ผู้ค้นพบ คำสอนถูกบรรจุอยู่ในพระไตรปิฏก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2011, 01:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


wakeup เขียน:
คือไม่ทราบว่าใครเคยวิเคราะห์ไหมว่า คำสอนที่พุทธสอนจริงๆหลังจากตรัสรู้จนปรินิพพาน ถูกบรรจุใว้ในพระไตรปิฏกหมดเลยหรือเปล่า หรือแค่เท่าที่พระอรหันตร์500 รูปจำได้เท่านัน หรือแค่เท่าที่พระอานนทร์จำได้องค์เดียว
ขอบคุณครับ


ไม่ทราบครับ รู้เท่าที่อรรถกถาปัจจุบันที่มีอยู่ อธิบายไว้ครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2011, 01:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ในการสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งแรกมีพระมหากัสปะเถระเป็นประธานใหญ่และเป็นประธานในการรวบรวมพระอภิธรรม มีพระอุบาลีเถระเป็นประธานร่วมในเรื่องของวินัยสงฆ์ แล้วพระอานนท์ผู้มีความจำที่ดีเป็นประธานรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าและพระอนุพุทธะทั้งหลาย

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2011, 05:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


แค่... เท่าที่มีในพระไตรปิฏก ก็เพียงพอ ต่อการดับทุกข์

หรือ ท่านอาจารย์พุทธทาส ..............เอาแค่ 30 เปอร์เซนต์ ก็เพียงพอต่อการดับทุกข์

ว่าอย่างนั้น

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2011, 06:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่าบันทึกเฉพาะคำสอนหลักๆครับ ส่วนเรื่องจิปาถะ หรือ การสนทนาที่นอกเหนือจากสอนสั่งแล้วคงไม่ได้บันทึกไว้

พระอานนท์ท่านคงสาธยายตามสมควร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2011, 08:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 11:19
โพสต์: 15


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออธิบายตามความเข้าใจของผมที่ได้รับรู้รับฟังมาจากท่านผู้รู้นะครับ

คำสอนพระพุทธเจ้าในส่วนที่ได้ยกขึ้นสู่การสังคายนาโดยพระอรหันต์ 500 รูปนั้นมีอยู่
ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ที่สืบทอดและปรากฎอยู่ในพระไตรปิฎกในปัจจุบันนี้นั่นแหละ
แต่นอกจากนั้นในส่วนที่ไม่ได้ยกขึ้นสู่การสังคายนาก็มีอยู่ไม่น้อยครับ

ซึ่งในสมัยพุทธกาล พระอรหันต์ที่ท่านไม่ได้เข้าร่วมในการสังคายนานอกจาก 500 รูป ก็มีอีกไม่ใช่น้อย
และหลายรูปหลายองค์ท่านก็คงเคยได้เข้าเฝ้ารับฟังพระธรรมเทศนาโดยตรงจากพระพุทธเจ้า
เป็นครั้งเป็นคราวไปในหลายครั้งหลายโอกาศก็ย่อมต้องมีอย่างแน่นอน
ซึ่งต่างองค์ก็ย่อมได้รับฟังธรรมมะจากพระพุทธองค์ต่าง ๆ บทกันไปตามจริตนิสัยวาสนา

ทีนี้พอท่านได้รับฟังคำสอนจากพระพุทธองค์แล้ว ด้วยความเคารพเทอดทูลเพื่อรักษาคำของพระพุทธเจ้าเอาไว้ ท่านเหล่านั้นก็ได้พากันท่องจำเอาไว้ในส่วนของตนที่ได้รับมาไม่ยอมให้สูญหายลืมเลือน

ภายหลังพอแต่ละรูปแต่ละองค์ท่านชราภาพมีอาวุโสและชื่อเสียงมากขึ้นในยุคนั้น ๆ ก็ย่อมต้องมีพระที่เข้ามาขอศึกษากับท่านเป็นลูกศิษย์ลูกหาเป็นธรรมดา แม้ปัจจุบันก็เป็นลักษณะเช่นนั้น ดังจะเห็นหลวงปู่ครูบาอาจารย์ต่างๆ สายหลวงปู่มั่น แต่ละรูปแต่ละองค์ท่านก็ล้วนมีลูกศิษย์ลูกหาของท่านอยู่

และเหล่าลูกศิษย์ลูกหาของท่านเหล่านั้นนั่นเองที่ได้รับถ่ายทอด ก็ช่วยกันสวดท่องจำธรรมมะจากครูอาจารย์ของตนผู้ซึ่งได้รับฟังจากพระพุทธเจ้าโดยตรงนั้นมาอีกทีหนึ่ง เป็นทอด ๆ สืบต่อกันเรื่อยมา

ที่นี้พอพ้นจากยุคแห่งการสืบทอดโดยการท่องจำแล้ว เข้ามาสู่ยุคที่มีการจารบันทึกเป็นตัวอักษรลงบนคัมภีร์ โบราณจารย์ต่าง ๆ ท่านก็นำเรื่องราวที่ท่านได้รับถ่ายทอดมานั้น นำมาเรียบเรียงรจนาเป็นคัมภีร์ต่างๆ ทางพุทธศาสนานั่นเองแหละครับ

ดังจะเห็นว่าคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาเถรวาท (เน้นเถรวาทนะครับ) นอกพระไตรปิฎกนั้นก็ยังมีอยู่อีกหลาย ๆ คัมภีร์ที่น่าศึกษา ซึ่งคัมภีร์ต่างๆ เหล่านี้โบราณจารย์ที่มีชื่อเสียงท่านรจนาเอาไว้ ท่านคงไม่ได้ไปด้นเดาเอามาจากไหนหรอกครับ นอกจากธรรมมะที่ท่านได้รับฟังท่องจำสืบทอดมาจากครูอาจารย์ของท่านในรุ่นก่อนๆ นั่นเอง

ในส่วนที่ได้รับการจารบันทึกเอาไว้ก็ปรากฎอยู่จนปัจจุบันเป็นคัมภีร์ต่างๆ นอกพระไตรปิฎกอย่างที่เห็น
แต่ในส่วนที่สูญหายไปกับกาลเวลา กับโบราณจารย์ในอดีตที่ล่วงลับเชื่อว่าก็คงมีอีกไม่น้อยไปกว่ากันเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2011, 12:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
govit2552 เขียน
แค่... เท่าที่มีในพระไตรปิฏก ก็เพียงพอ ต่อการดับทุกข์

หรือ ท่านอาจารย์พุทธทาส ..............เอาแค่ 30 เปอร์เซนต์ ก็เพียงพอต่อการดับทุกข์

ว่าอย่างนั้น


ศึกษาเข้าไปเถอะครับ เป็นความรู้ต่อตัวเราเอง ได้มากได้น้อยก็ตั้งใจศึกษาเอา ธรรมของพระพุทธเจ้าที่ท่านนำมาสอนย่อมก่อประโยชน์ทุกอย่าง มีพระพุทธเจ้าเป็นครู เราย่อมเคารพครูของเรา ไม่เอามาแบ่งปันบั่นทอนลงคิดเป็นตัวเลข บัวมี4เหล่า ใครเขามีปัญญาเราก็มีมุทิตาต่อบุคคลนั้น

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2011, 15:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 09:43
โพสต์: 180

ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่างนั้นถ้ามีคำสอนใดที่ไม่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏก ก็จะกล่าวอ้างไม่ได้ว่าไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธเจ้าอาจกล่าวใว้ที่ใดที่หนึ่ง แต่ไม่ได้ถูกบันทึกใว้แค่นั้นเอง

.....................................................
โคตมะพุทธ ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ผู้รู้แจ้งโลก อัจฉริยมนุษย์ ยอดครูของครูทั้งหลาย
ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ ผู้ก่อตั้ง ผู้ค้นพบ คำสอนถูกบรรจุอยู่ในพระไตรปิฏก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2011, 16:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2010, 11:19
โพสต์: 15


 ข้อมูลส่วนตัว


wakeup เขียน:
อย่างนั้นถ้ามีคำสอนใดที่ไม่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏก ก็จะกล่าวอ้างไม่ได้ว่าไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธเจ้าอาจกล่าวใว้ที่ใดที่หนึ่ง แต่ไม่ได้ถูกบันทึกใว้แค่นั้นเอง



ถ้าจะมีใครมากล่าวอ้างลอยๆ อย่างนั้น ก็คงจะไม่ได้รับการยอมรับหรอกครับ
หรือถ้ามีก็คงต้องได้รับการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนจากเหล่าปราชญ์ทางพุทธศาสนาเสียก่อนแหละครับ

คัมภีร์อื่นนอกพระไตรปิฎกที่พระโบราณจารย์ผู้ทรงคุณที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในอดีตท่านรจนาไว้นั้นมีอยู่แล้ว ก็อย่างคัมภีร์มิลินท์ปัญหา คัมภีร์วิสุทธิมรรคที่พระพุทธโฆษาจารย์ท่านรจนาไว้เป็นต้น

ไม่แน่ใจจำไม่ค่อยได้ รู้สึกว่าคัมภีร์วิสุทธิมรรคนี้ ทางพม่าเขาถึงกับเอารวมเข้าไว้ในพระไตรปิฎกเลยทีเดียวนะครับ แต่ทางบ้านเรานั้นไม่นับรวมด้วย แต่ก็เป็นคัมภีร์ที่สามารถใช้ศึกษาประกอบเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้แล้วเท่าที่เคยได้ยิน คัมภีร์อื่นๆ ที่น่าสนใจก็มีอีกหลายเล่มนะ ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่ปราชญ์ทางพุทธศานาเถรวาทให้การยอมรับกัน

ผู้สนใจใฝ่ศึกษาทางพุทธศาสนาก็สามารถหาศึกษาเพิ่มเติมได้นอกจากพระไตรปิฎก ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
แต่ไม่ใช่จะให้ยึดเป็นหลักนะ เพราะเรายึดถือพระไตรปิฎกเป็นคัมภีร์หลักอยู่แล้ว คัมภีร์อื่นๆ นอกนั้นก็ใช้เพียงศึกษาหาความรู้ประกอบเพิ่มเติมเท่านั้นเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2011, 18:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2011, 09:16
โพสต์: 158

แนวปฏิบัติ: พุธโท
งานอดิเรก: นั่งสมาธิ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปรัชญา
ชื่อเล่น: T^^T
อายุ: 23
ที่อยู่: ลำปาง

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่นี้ก็ศึกษาไม่หมดแล้วครับ :b7: :b7:

.....................................................
ดูก่อu!!!ภิกษุทั้งหลาย!!!คนพาลเขากลัวยากจนจึงไม่รู้จักขวนขวายในการให้ทาน!!!ส่วนบัณฑิตชนเขากลัวยากจนจึงรู้ขวนขวายในการให้ทาน!!!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2011, 02:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ใช้หลักมหาปเทสสี่ สิครับ


พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 161

พระพุทธานุญาตมหาประเทศ ๔
[๙๒] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุทั้งหลายเกิดความรังเกียจในพระบัญญัติ
บางสิ่งบางอย่างว่า สิ่งใดหนอ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาตไว้ สิ่งใดไม่
ได้ทรงอนุญาต จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระมีพระภาคเจ้า.

วัตถุเป็นกัปปิยะและอกัปปิยะ
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสประทานสำหรับอ้าง ๘ ข้อ ดังต่อไปนี้.
๑. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่า สิ่งนี้ไม่ควร หาก
สิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้น ไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย.
๒. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่า สิ่งนี้ไม่ควร
หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้นควรแก่เธอทั้งหลาย.
๓. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ว่า สิ่งนี้ควร
หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้นไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย.
๔. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ว่า สิ่งนี้ควร
หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้นควรแก่เธอทั้งหลาย.


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 293

เรื่องมหาปเทส ๔ อย่าง

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จ
ถึงโภคนครแล้ว. ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ณ อานันทเจดีย์ใน
โภคนครนั้น. ณ ที่นั้นพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงมหาปเทส ๔ เหล่านี้ พวกเธอจงฟัง จงตั้งใจ
ฟังให้ดี เราจักกล่าว. ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้ว. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสดังต่อไปนี้.
[๑๑๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พึงกล่าวอย่างนี้
ว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย ข้อนี้ข้าพเจ้าได้สดับมา ได้รับมาเฉพาะพระพักตร์ พระ
ผู้มีพระภาคเจ้าว่า นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระศาสดา
พวกเธอไม่พึงชื่นชม ไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของภิกษุนั้น. ครั้นไม่ชื่นชม ไม่
คัดค้านแล้ว พึงเรียนบทพยัญชนะเหล่านั้นให้ดีแล้ว สอบสวนในพระสูตร
เทียบเคียงในพระวินัย. ถ้าสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย ลง
ในพระสูตรไม่ได้ เทียบเคียงในพระวินัยไม่ได้. พึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่า
นี้ไม่ใช่คำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น และภิกษุนี้จำมาผิดแล้ว
แน่นอน ดังนั้น พวกเธอพึงทิ้งคำกล่าวนั้นเสีย. ถ้าเมื่อสอบสวนในพระสูตร


http://www.samyaek.com/pratripidok/inde ... opic=436.0

คำของพระพุทธเจ้าจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือความสอดคล้อง เข้ากันได้ และไม่ขัดแย้งกันเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2011, 14:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 09:43
โพสต์: 180

ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคุณflame ที่แสดงความคิดเห็นครับ
ผมรู้จักพระสูตรที่คุณยกมานี่เหมือนกัน และยังสงสัยนิดๆตรงที่ว่า
"สอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย."
พระสูตร พระวินัยในที่นี้คงจะไม่ได้หมายถึง เฉพาะพระสูตร พระวินัยในพระไตรปิฏก คงหมายถึง พระสูตร พระวินัย ที่พระพุทธเจ้าสอนทั้ังหมด ซึ่งบางส่วนก็ถูกบันทึกในพระไตรปิก บางส่วนก็ไม่ได้ถูกบันทึกไว้
ผมเข้าใจถูกใช่ไหมครับ

.....................................................
โคตมะพุทธ ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ผู้รู้แจ้งโลก อัจฉริยมนุษย์ ยอดครูของครูทั้งหลาย
ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ ผู้ก่อตั้ง ผู้ค้นพบ คำสอนถูกบรรจุอยู่ในพระไตรปิฏก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2011, 15:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


พระธรรมทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนที่เปรียบเสมือนใบไม้ในกำมือ

ขณะที่ใบไม้ในป่ามีอยู่ตั้งมากมาย

นั่นไม่สำคัญ

สำคัญที่เราจะปฏิบัติอย่างไรกับใบไม้ในกำมือ

เป็นเครืองนำเราพ้นอุปาทานเพือดับทุกขในอริยะสัจจสี่


.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2011, 15:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 09:43
โพสต์: 180

ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


ความหมายผมคือว่า (มันอาจจะต้องละเอียดหน่อย) ใบไม้ในกำมือที่พุทธพูดถึงคือคำสอนที่พระพุทธเจ้าสอนทั้งหมดตั้งแต่ตรัสรู้จนพระนิพพาน แต่ผมกำลังจะเน้นว่า ไม่ใช่แค่คำสอนที่ถูกบันทึกใว้ในพระไตรปิฏกเท่านั้น ที่ถูกบันทึกใว้ในพระไตรปิฏกนั้นมีเท่าที่พระอานนท์กับพระอุบาลีจำได้เท่านั้น
ผมเข้าใจถูกใช่ไหม

.....................................................
โคตมะพุทธ ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ผู้รู้แจ้งโลก อัจฉริยมนุษย์ ยอดครูของครูทั้งหลาย
ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ ผู้ก่อตั้ง ผู้ค้นพบ คำสอนถูกบรรจุอยู่ในพระไตรปิฏก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2011, 15:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


wakeup เขียน:
ความหมายผมคือว่า (มันอาจจะต้องละเอียดหน่อย) ใบไม้ในกำมือที่พุทธพูดถึงคือคำสอนที่พระพุทธเจ้าสอนทั้งหมดตั้งแต่ตรัสรู้จนพระนิพพาน แต่ผมกำลังจะเน้นว่า ไม่ใช่แค่คำสอนที่ถูกบันทึกใว้ในพระไตรปิฏกเท่านั้น ที่ถูกบันทึกใว้ในพระไตรปิฏกนั้นมีเท่าที่พระอานนท์กับพระอุบาลีจำได้เท่านั้น
ผมเข้าใจถูกใช่ไหม


สันนิฐานว่าเป็นเช่นนั้นได้ครับ

ที่ตกหล่นต้องมีเป็นธรรมตามกำลังความจำของมนุษย์และกาลเวลาที่ทอดยาวนานมาก ที่แปลผิดอีกเท่าไหร่เราก็ไม่ทราบ ร้ายแรงกว่ามาก

แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ

แม้แต่คนที่อ่านพระไตรปิฎกไม่ออกเลย หรือ ไม่เคยอ่านพระไตรปิฎกเลยก็สามารถบรรลุนิพพานได้

อาจจะง่ายกว่านักปริยัติด้วยซ้ำเพราะไม่ต้องระวังสงสัยมากว่าตำราเขียนถูกหรือผิด

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งการปฏิบัติ

ลงมือปฏิบัติเป็นทางตรงสู่นิพพานที่สั้นที่สุด

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 110 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร