ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
จิตและจักรวาล..ในความหมายของหลวงปู่ดูลย์ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=37876 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | อานาปานา [ 23 เม.ย. 2011, 06:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | จิตและจักรวาล..ในความหมายของหลวงปู่ดูลย์ |
จิตและจักรวาล ในความหมายของหลวงปู่ดูลย์ ![]() ![]() ![]() จิตและจักรวาล มีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันอยู่ หลวงปู่ดูลย์ได้เมตตาอธิบายถึงเรื่องนี้ไว้อย่างพิสดารว่า.. จิต วิญญาณ เกิดจากรูปนามของจักรวาล และ นิพพาน เป็นการรวมของจิตบริสุทธิ์เข้ากับความว่างอันบริสุทธิ์และสว่างของจักรวาลเดิม ไว้ดังนี้ “สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตในจักรวาล มีนับไม่ถ้วน รวมแล้วมี รูป กับ นามสองอย่างเท่านั้น นามเดิม ก็คือความว่างของจักรวาล เข้าคู่กัน เป็นเหตุเกิด ตัวอวิชชา--เกิดเหตุก่อ ที่ใดมีรูป..ที่นั้นต้องมีนาม ที่ใดมีนาม..ที่นั้นต้องมีรูป รูปนามรวมกันเป็นเหตุเกิดปฏิกิริยา---ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเกิดกาลเวลาขึ้น คือ รูปย่อมมีความดึงดูดซึ่งกันและกัน จึงเป็นเหตุให้รูปเคลื่อนไหว และหมุนรอบตัวเองตามปัจจัย รูปเคลื่อนไหวได้ ต้องมีนาม--ความว่าง--คั่นระหว่างรูป รูปจึงเคลื่อนไหวได้” “เมื่อสภาวธรรมเป็นอย่างนี้ สรรพสิ่งของวัตถุ--สสารมีชีวิต และไม่มีชีวิต---จึงต้องเปลี่ยนแปลง เป็นไตรลักษณ์ เกิด ดับ สืบต่อทุกขณะจิต ไม่มีวันหยุดนิ่ง ให้คงทนเป็นปัจจุบันเช่นนั้นได้” ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 23 เม.ย. 2011, 07:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตและจักรวาล..ในความหมายของหลวงปู่ดูลย์ |
![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ผงธุลีดิน [ 23 เม.ย. 2011, 15:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตและจักรวาล..ในความหมายของหลวงปู่ดูลย์ |
![]() |
เจ้าของ: | MiMee [ 22 พ.ค. 2012, 06:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตและจักรวาล..ในความหมายของหลวงปู่ดูลย์ |
![]() ![]() ![]() Ancient Caves Temple Found in India |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 22 พ.ค. 2012, 07:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตและจักรวาล..ในความหมายของหลวงปู่ดูลย์ |
![]() ![]() ![]() ท่านแสดงไว้ในรูปแบบ ปฏิจจสมุปบาทด้วย ใช่ มั้ยครับ ท่านลองเอามาให้ท่านทั้งหลายลองพิจารณาดู นะครับ ขอบคุณครับ สาธุครับ |
เจ้าของ: | MiMee [ 25 พ.ค. 2012, 06:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตและจักรวาล..ในความหมายของหลวงปู่ดูลย์ |
เราเองก็หาทางที่จะไปให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ด้วยกันกับท่านๆนั่นแหละ อะไรที่เห็นว่าพอเกื้อกูลกับท่านๆ ก็นำมาแบ่งปัน ก็เท่านั้นเอง. หากว่าเป็นประโยชน์กับท่านฯ เราก็ยินดี หากตรงกันข้ามท่านฯ(เราเอง)ก็ละไปเสีย เราก็ยินดี อนุโมทนากับผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมทุกท่าน |
เจ้าของ: | MiMee [ 25 พ.ค. 2012, 06:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตและจักรวาล..ในความหมายของหลวงปู่ดูลย์ |
ขอโอกาส พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านฯ กล่าวไว้ว่า... การเริ่มต้นภาวนาให้ใช้..คำบริกรรม คำบริกรรม นั้นก็เป็นวิตก วิจาร เรียกว่า วจีสังขาร ลมหายใจ เป็น กายสังขาร สัญญาและเวทนา เป็น จิตตสังขาร ขณะที่ท่านฯอ่านนี้ ลองนึกทบทวนเวลาที่ท่านฯนั่งภาวนาที่เคยได้เคยถึงมาแล้วตามไปด้วย... คำบริกรรม คือ วิตก วิจาร นั้นจะหายไปก่อน แล้วเข้าไปอยู่ใน ทุติยฌาน (เหลือแต่ ปีติ สุข เอกักคัตตา) ในช่วงปลายของอุปจารฯ จิตจะมารู้ลมหายใจ( กายสังขาร) ...ว่ากำลังจะหมด เบาลง ละเอียดอ่อนลง หรือจนหมด แล้วเข้าไปสู่อัปนาสมาธิ/ฌาน/ จตุถฌาน.( กายสังขารดับ) หากจิตท่านฯมีกำลังมาก ก็จะทะลุเข้าไปในอรูปฌาน คือ เหลือแต่จิต เข้าไปสู่... อากาสานัญญาญตนะ จิตจะเห็นอากาศหาที่สุดไม่ได้ (มันว่าง..กว้าง..สุดลูกหูลูกตา) วิญญานัญญาญตนะ จิตจะกลับมาหาตัวจิต อยู่กับตัวจิตเอง อากิญจัญญาญตนะ จิตจะพูดออกมาเองว่า...ไม่มีอะไร /ไม่เห็นมีอะไรเลย /ไม่เห็นเห็นอะไรเลย (ขอท่านฯไตร่ตรอง...จิตทิ้งคำบริกรรมไปตั้งแต่เข้าทุติยฌาน เพราะฉนั้น ฌานขั้นสูง ไม่มีการท่องคำบริกรรมใดๆเลย ที่ว่าบริกรรมนั้น ก็คือ จิตพูดออกมาเอง (ขอท่านฯ อย่าได้ระเคืองใจเลย หากมี ก็ขออภัย) เนวสัญญานาสัญญาญตนะ.....พูดไม่ถูก อธิบายไม่ถูก สัญญาเวทยิตนิโรธ....(รูปดับก่อนแล้ว ทิ้งรูปฌาน) นามดับ ก็คือ..จิตตสังขารดับ (สัญญาและเวทนา) ก็คือ ขันธ์ห้าดับ กิเลสดับ สังขารดับ ไปพร้อมกัน .....เป็นการตายจากปุถุชน ๑.........ฯลฯ ตรงนี้แหละ เป็นการตาย/กาละของทุกรูปทุกนาม ตรงนี้แหละ เป็นที่สุดแห่งสมถะ หากท่านฯยังคงรักษาฌานไว้ตลอดในชาติปัจจุบันนี้ เมื่อชีวิตท่านฯหมดอายุ แล้วจะไปเกิดในภพใดๆขื้นอยู่กับฌานที่ท่านฯรักษา ให้ลองไปเทียบกับวิญญาณฐีติที่ ๑ ถึง ๗ ดูเอาเอง แล้วท่านฯจะเข้าใจในความหมายของวิญญาณฐีติทั้ง ๗ ที่ท่านฯเคยสงสัยกันว่าคืออะไร? viewtopic.php?f=1&t=41623&p=293695#p293695 ที่เล่ามา ตั้งแต่ต้นจนจบ มีแต่ รู้(เฉยๆ) คือ มีสติ อยู่ตลอดสาย อาการภวังค์ ไม่มี!!! ฌานจะเอาหรือไม่เอา ก็เลือกไม่ได้ !!! มันขึ้นอยู่กับจิต ว่า จิตนั้น มีพละ มีกำลัง หรือไม่เท่านั้น!!! ท่านฯพอจะมองเห็นประโยชน์ของการ มีสติ แล้วหรือยัง? ท่านฯพอจะมองเห็น ทั้งคุณและโทษ ของฌาน แล้วหรือยัง? viewtopic.php?f=1&t=41623&p=293700&sid=959198af230f314de684fbb9cca25cf8#p293700 สมาธิ นั้น เกิดได้ ในทุกอิริยาบถ นั่ง ยืน เดิน นอน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด ทำได้ เกิดได้ทั้งนั้น ท่านฯลองศึกษาจากประวัติของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ท่านฯบรรลุในอิริยาบถต่างๆ ขอท่านฯโปรดพิจารณา ไตร่ตรองด้วยความรอบคอบ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | MiMee [ 27 พ.ค. 2012, 02:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตและจักรวาล..ในความหมายของหลวงปู่ดูลย์ |
![]() ![]() ![]() ท่านฯปฏิบัติทราบว่าจะเห็นจิตเดิมแท้..ต้องได้ฌาน นับว่า เยี่ยม!! ท่านฯปฏิบัติแล้ว..เคยได้...เคยถึง ก็เยี่ยม!! ท่านฯปฏิบัติจนได้ฌาน นับว่า ยอดเยี่ยม หาได้ยากในโลก ท่านฯปฏิบัติจนถึง สังขารุเปกขาญาน นั่นคือ ที่สุดยอดของปุถุชน เหลือเพียงอีกก้าวเดียวเท่านั้น ก็จะข้ามโคตรฯ... แล้วอะไรหนอ??...จึงหยุด..ท่านฯไว้.... ครูบาอาจารย์ ท่านฯกล่าวว่า.... หากผู้ปฏิบัติมาถึง สังขารุเปกขาญาน แล้วหยุด..ไปต่อไม่ได้สักที.... ให้ถามว่า.... ๑. เคยปรารถนาพุทธภูมิไว้หรือเปล่า? ถ้าจะไปต่อให้ถึงที่สุด ...ให้ไปอธิฐานจิตละความปรารถนานั้นต่อหน้าพระพุทธรูป (ถ้ายังปรารถนาอยู่ ก็จบลงตรงนี้) ๒. เคยล่วงเกินคุณพ่อคุณแม่หรือเปล่า? หากท่านฯยังอยู่ให้ไปขอขมา...ขออโหสิกรรม....(บอกความปรารถนา ขอพรจากท่านฯ) หากท่านฯเสียไปแล้ว....ให้ขอขมา..ที่รูปของท่านฯ แล้วลองสังเกตุดูความเปลี่ยนแปลง สู้ สู้!!! นะท่านฯ เราท่านๆโดนกิเลสภายนอกภายในกดขี่ข่มเหงมาชั่วกัปชั่วกัล วันใดท่านฯฟันกิเลสภายในขาดสะบั้น...กิเลสภายนอก มันทำอะไรท่านฯไม่ได้เลย ไม่มีใครในโลกที่ไม่เคยผิดพลาด เเม้เเต่...พระพุทธองค์ ทรงลองผิด มาเป็นเวลา ๖ ปี พระพุทธองค์ ท่านฯเป็นนักรบ ร่างกายชีวิตท่านฯแทบสิ้น ท่านฯไม่ย่อท้อต่อสิ่งใดเลย อุปสรรคที่เราๆท่านๆเจออยู่...มันแค่เศษ...ขี้ขี้ ผง แล้วท่านๆจะมาท้อแท้ อะไรกันหรือ?? ท่านฯยังต้องการหลักฐานอะไรอีก??? อย่ารอช้า..... ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | MiMee [ 27 พ.ค. 2012, 03:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตและจักรวาล..ในความหมายของหลวงปู่ดูลย์ |
ขอท่านฯพิจารณา...พระพุทธองค์ทรงเตือนท่านโมคคัลลานะ ว่า..อย่าประมาทในฌานทุกฌาน …ตั้งเเต่ต้น...จนสำเร็จ จุดสำคัญอยู่ที่ตรงนี้..... ![]() ...โมคคัลลานะๆ เธออย่าประมาทปฐมฌานฯ ![]() ![]() ![]() ....ดูกรอานนท์... เพราะภิกษุมาทราบชัด... ![]() ![]() ![]() ![]() ---------------------->ก็คือ...อนัตตา นั่นเอง ย่อมเป็นผู้หลุดพ้นได้ เพราะไม่ยึดมั่น ![]() อานนท์ ภิกษุนี้เราเรียกว่า ปัญญาวิมุตติฯ ปัญญาวิมุตติฯ ---->ก็คือเห็น...อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั่นเอง ------------------->ก็คือเห็น...ไตรลักษณ์ นั่นเเหละ โปรดศึกษาไตร่ตรอง..น้อมมา..ปฏิบัติโดยละเอียด ทุกอรรถทุกธรรม...อย่าได้เว้น ท่านฯทราบหรือไม่ว่า.... ท่านโมคคัลลานะมีอิทธิเสมอพระพุทธองค์ คำสอนนี้...สุดยอดศาสดา..มีให้กับ..สุดยอดสาวก viewtopic.php?f=1&t=41623&p=293700#p293700 เเล้วท่านฯยังลังเลอะไรอีกหรือ?? ![]() ![]() ชี้ทางสว่างให้ท่านฯสำเร็จสมความปรารถนาทุกประการเทอญ. ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | jojam [ 27 พ.ค. 2012, 17:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตและจักรวาล..ในความหมายของหลวงปู่ดูลย์ |
![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |