ลานธรรมจักร :: แสดงกระทู้

ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/

กาแฟ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=37790	หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:	ดอกอุบล [ 16 เม.ย. 2011, 13:53 ]
หัวข้อกระทู้:	กาแฟ
อยากขอถามว่าผมเอากาแฟปรุงสำเร็จไปตักบาตรไปถวายพระที่วัดเป็นบาปหรือเปล่า แล้วพระฉันกาแฟเป็นบาปหรือไม่ช่วยไขความข้องใจให้ผมด้วยครับ?

เจ้าของ:

สุดปลายฟ้า [ 16 เม.ย. 2011, 17:41 ]

หัวข้อกระทู้:

Re: กาแฟ

ดอกอุบล เขียน:

อยากขอถามว่าผมเอากาแฟปรุงสำเร็จไปตักบาตรไปถวายพระที่วัดเป็นบาปหรือเปล่า แล้วพระฉันกาแฟเป็นบาปหรือไม่ช่วยไขความข้องใจให้ผมด้วยครับ?

อนุโมทนาค่ะ ไม่บาปนะคะ เพราะอาจารย์สุดปลายฟ้าก็ฉันค่ะ น่าจะไม่บาปนะคะ เห็นคนใส่บาตรกันเยอะแยะมาก สุดปลายฟ้าเองก็ถวายเหมือนกันค่ะ หรือว่ายังไร เดี๋ยวเพื่อน ๆ ผู้รู้แจ้งอาจจะตอบได้ค่ะ อยากรู้เหมือนกัน แต่คิดว่าไม่บาปนะ ขอให้คุณอย่ากังวลเลยค่ะ ขออนุโมทนาด้วยค่ะ :b38:

ไฟล์แนป:

พระพุทธเจ้า.jpg [ 12.01 KiB | เปิดดู 10983 ครั้ง ]

เจ้าของ:	เจ้าวังทอง [ 17 เม.ย. 2011, 00:25 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: กาแฟ
ไม่บาป แต่ถ้าเอาของที่ผิดพระวินัยถวายจึงจะบาป เช่น เงิน เป็นต้น

เจ้าของ:	ปฤษฎี [ 17 เม.ย. 2011, 00:45 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: กาแฟ
ถ้าเราโอนเงินบริจาคไปทำบุญ แต่ชื่อบัญชีเป็นชื่อพระนี่บาปมั้ยครับ

เจ้าของ:	หัสพล พวงแก้ว [ 17 เม.ย. 2011, 02:00 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: กาแฟ
จริงๆแล้วก็ยังไม่เข้าข่ายบาป แต่จริง ๆแล้วพระภิกษุก็จะไม่ฉันกาแฟเพราะผิดพระวินัยอยู่แล้ว ฉะนั้นเราอย่าถวายกาแฟเลยครับ เอาน้ำผลไม้(ปานะ)ถวายท่านจะดีที่สุดเลยครับ

เจ้าของ:	คนเกือบหลงทาง [ 17 เม.ย. 2011, 10:31 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: กาแฟ
ความจริงแล้วถ้าจะถวายแนะนำให้ถวายพวกน้ำขิงผง ชาสมุนไพรผงดีกว่า เพราะหลังจากเพลมาแล้วพระภิกษุจะฉันได้เฉพาะน้ำเปล่าและยา พูดแล้วมันก็เป็นเรื่องยาก เพราะมันก็ขึ้นกับเจตนาอีกนั่นแหละ ว่ากินเพราะอะไร ถ้ากินเผื่อดับความหิวก็ถูกเรียกว่าอาหาร ถ้ากินเพื่อดับความกระหายก็เรียกว่า น้ำปานะ ถ้ากินเพื่อดับโรคก็เรียกว่า ยา จึงเกิดเหตุการณ์ว่ากินน้ำผึ้งซึ่งเป็นยาเพื่อกินเพื่อดับความหิว ซึ่งในแง่มุมนี้ก็เรียกว่าผิด ซึ่งตอนเด็กๆไปปฏิบัติธรรมก็ไม่รุ้ก็กินโอวันติน ไมโล คิดว่าไม่ผิดเพราะไม่ได้เคี้ยว แต่ที่จริงแล้วมันผิด เพราะเราถือศีล 8 ผลของกรรมที่ตามมาก็จะได้บริวารเหลาะแหละ(เขาพูดมาอย่างนี้นะ ฟังมาอีกต่อหนึ่ง) บริวารขี้ฉ้อ ขี้คด ขี้โกง ต่างๆนานา ดังนั้นศีลทีวางไว้อย่าไปตัดช่อง เพราะแน่นอนมันก็ต้องไปผิดที่เจตนา ทางที่ดีก็ถวายน้ำเปล่าเป็นขวดๆ สมุนไพรซอง แบบนี้น่าจะดีกว่าครับ ผิดถูกประการใด ต้องขออภัยด้วยนะครับ

เจ้าของ:	ดอกอุบล [ 17 เม.ย. 2011, 12:57 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: กาแฟ
เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจริงๆ ถ้าไม่ได้ศึกษาเรื่องเหล่านี้จริงๆก็คงจะไม่เข้าใจ สาธุ สาธุ สาธุ

เจ้าของ:

อนัตตาธรรม [ 22 เม.ย. 2011, 19:47 ]

หัวข้อกระทู้:

Re: กาแฟ

กาแฟ สงเคราะห์เข้าอยู่ในข้อห้ามของศีลข้อที่ 5 ข้อย่อยที่ 3 คือ มัชชะ อันแปลว่าของเมา

ของเมาคือสิ่งที่ กิน ดื่ม สูบ เสพย์ ฉีด ดม เข้าไปในร่างกายแล้วทำให้ประสาทผิดเพี้ยน และเสพย์ติด

กาแฟก็ทำให้ประสาทผิดเพี้ยนได้ เช่น ง่วงแสนง่วง พอได้กาแฟสดสักแก้วใหญ่ๆ ทำให้หายง่วงได้ แต่ประสาทจะทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ สติ ปัญญา จะไม่คมกล้า ลึก ละเอียด และยังทำให้พระเป็นผู้เลี้ยงยากขึ้น ดุจเดียวกับบุหรี่ กัญชา ยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี ฝิ่น มอร์ฟีนส์ เฮโรอีน เป็นต้น

คุณทำบุญด้วยกาแฟ คุณก็จะได้รับวิบากคือมีกาแฟดื่มอย่างอุดมสมบูรณ์ในอนาคตทั้งใกล้และไกลครับ

ไฟล์แนป:

GEDC1747_resize.JPG [ 74.99 KiB | เปิดดู 10887 ครั้ง ]

เจ้าของ:	din [ 25 เม.ย. 2011, 02:55 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: กาแฟ
พระท่านฉันกาแฟได้ หากคุณต้องการถวายกาแฟสำเร็จรูปแล้วหละก็ควรถวายท่ายตอนจังหัน สงเคราะห์เป็นจังหันก็ไม่ผิดข้อวิกาลโถชนาแล้วครับ แต่ควรถวายเป็นกาแฟเปล่า(ผง)จะดีกว่า เพราะท่านรับเก็บได้นานได้เนื่องจากถือเป็นปรมัต รูปีนะ(เงิน)ก็ถวายได้ครับ บอกพระท่านว่าถวายเดี๋ยวอุปฐากวัดก็เก็บไว้ให้พระท่านใช้ตามศาสนกิจเอง แต่ไม่ควรยื่นให้พระท่านรับครับ เรื่องปานะละเอียดอ่อนนะครับ ไม่ควรถวายปานะที่ทำจากผลไม้ที่มีขนาดใหญ่กว่า ผลมะตูม พวกส้ม แอปเปิ้ล ผลไม้รวมอย่าเชียว ใส่แป้งโอวัลตินครีมเทียมก็ห้าม พวกที่ได้เห็นถวายประจำก็ น้ำลิ้นจี่ น้ำมะตูม น้ำมะนาว น้ำองุ่น โกโก้บริสุทธิ์ก็ได้เช่นกัน ปรมัตและปานะใช้ดับโรคหิว โรคอ่อนเพลียครับ

เจ้าของ:	bluebird [ 25 เม.ย. 2011, 17:39 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: กาแฟ
เป็นเรื่องละเอียดอ่อนจรืง ๆ

เจ้าของ:

ฟ้าใสใส [ 13 ก.ย. 2011, 13:48 ]

หัวข้อกระทู้:

Re: กาแฟ

ไฟล์แนป:

อดทน.jpg [ 3.63 KiB | เปิดดู 10507 ครั้ง ]

เจ้าของ:	กามโภคี [ 13 ก.ย. 2011, 16:48 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: กาแฟ
เป็นเรื่องง่ายที่ไม่ง่ายจริงๆ เข้าใจตั้งกระทู้ถาม ในสมัยที่พระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ ก็ไม่มีกาแฟด้วย สมัยหลังๆ ก็ไม่ได้มีวินิจฉัยตามธรรมวินัยอีกด้วย อ่านทุก คห. ก็นับว่ามีเหตุผลหลักการที่ดี น่าอนุโมทนาครับ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1	เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/