ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=37682
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  Akawanno [ 07 เม.ย. 2011, 23:28 ]
หัวข้อกระทู้:  บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

บริการให้คำปรึกษา และแนวทางในการปฎิบัติ

อาตมาไม่ดูดวง ไม่ดูอนาคต ทำได้แค่แนะนำแนวทางในการดำเนินชีวิตตามหลักชาวพุทธ และแนวทางการปฎิบัติ พอสังเขป หากโยมท่านใดมีปัญหาธรรมใดที่ข้องใจ โพสถามมานะโยม อาตมาจะเข้ามาตอบให้

เจ้าของ:  student [ 08 เม.ย. 2011, 02:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

อนุโมทนาครับ

เจ้าของ:  สุดปลายฟ้า [ 08 เม.ย. 2011, 14:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

Akawanno เขียน:
บริการให้คำปรึกษา และแนวทางในการปฎิบัติ

อาตมาไม่ดูดวง ไม่ดูอนาคต ทำได้แค่แนะนำแนวทางในการดำเนินชีวิตตามหลักชาวพุทธ และแนวทางการปฎิบัติ พอสังเขป หากโยมท่านใดมีปัญหาธรรมใดที่ข้องใจ โพสถามมานะโยม อาตมาจะเข้ามาตอบให้


:b8: นมัสการพระคุณเจ้าAkawanno
มีเรื่องอยากเรียนถามพระคุณเจ้าค่ะ ว่าสวดมนต์ทำวัตรที่โบสถ์วัดข้างบ้านเสร็จแล้ว นั่งสมาธิต่อ ขณะที่นั่งสมาธิกำลังรู้สึกสบายๆ เบา ๆ จะต้องไอเหมือนมีอะไรมาติดคอทุกครั้งเลย แล้วน้ำตาก็จะไหลด้วย ไหลออกมาเยอะ ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้เครียด หรือทุกข์ใจเรื่องอะไร แต่รู้ว่าน้ำตาไหล แบบนี้มันเป็นยังไงคะ มารมาผจญหรือเปล่า แต่ก็อุทิศส่วนกุศลใหเขาทุกครั้งนะ รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวร ศัตรูคู่อาฆาตด้วยทุกครั้ง ถามว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ รู้สึกรำคาญมากเลย เพราะเกรงใจพระ และเพื่อน ๆ ที่นั่งสมาธิข้างเราค่ะ เพราะเขาต้องการความสงบ เราจะไม่ไอก็ไม่ได้ เบื่อจริงๆ เลยค่ะ แปลกแต่เวลาสวดมนต์ไม่เป็นนะ จะต้องทำอย่างไรดี อาการแบบนี้จึงจะหายไปคะ

:b8: :b8: :b8: นมัสการค่ะ

ไฟล์แนป:
38.jpg
38.jpg [ 6 KiB | เปิดดู 10598 ครั้ง ]

เจ้าของ:  หัวหอม [ 08 เม.ย. 2011, 15:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

เอ เป็นอะไรอะครับ ผมก็สงสัยเหมือนกัน :b41: :b6: :b48:

เจ้าของ:  Akawanno [ 08 เม.ย. 2011, 15:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

สุดปลายฟ้า เขียน:
Akawanno เขียน:
บริการให้คำปรึกษา และแนวทางในการปฎิบัติ

อาตมาไม่ดูดวง ไม่ดูอนาคต ทำได้แค่แนะนำแนวทางในการดำเนินชีวิตตามหลักชาวพุทธ และแนวทางการปฎิบัติ พอสังเขป หากโยมท่านใดมีปัญหาธรรมใดที่ข้องใจ โพสถามมานะโยม อาตมาจะเข้ามาตอบให้


:b8: นมัสการพระคุณเจ้าAkawanno
มีเรื่องอยากเรียนถามพระคุณเจ้าค่ะ ว่าสวดมนต์ทำวัตรที่โบสถ์วัดข้างบ้านเสร็จแล้ว นั่งสมาธิต่อ ขณะที่นั่งสมาธิกำลังรู้สึกสบายๆ เบา ๆ จะต้องไอเหมือนมีอะไรมาติดคอทุกครั้งเลย แล้วน้ำตาก็จะไหลด้วย ไหลออกมาเยอะ ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้เครียด หรือทุกข์ใจเรื่องอะไร แต่รู้ว่าน้ำตาไหล แบบนี้มันเป็นยังไงคะ มารมาผจญหรือเปล่า แต่ก็อุทิศส่วนกุศลใหเขาทุกครั้งนะ รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวร ศัตรูคู่อาฆาตด้วยทุกครั้ง ถามว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ รู้สึกรำคาญมากเลย เพราะเกรงใจพระ และเพื่อน ๆ ที่นั่งสมาธิข้างเราค่ะ เพราะเขาต้องการความสงบ เราจะไม่ไอก็ไม่ได้ เบื่อจริงๆ เลยค่ะ แปลกแต่เวลาสวดมนต์ไม่เป็นนะ จะต้องทำอย่างไรดี อาการแบบนี้จึงจะหายไปคะ

:b8: :b8: :b8: นมัสการค่ะ


อาการนี้อาตมาภาพ เคยอ่านเจอจากหนังสือเล่มหนึ่ง ขอไม่เอ๋ยนามนะโยม เรื่องอาการไอ อาจจะเกิดจากชาติก่อนโยมเคย วิพากษ์ วิจารณ์พระสงฆ์มาก่อน เช่น พระสงฆ์สบายไม่ต้องทำอะไรก็มีกิน เป็นต้น กรรมนี้จึงอาจจะได้ย้อนมาสู่ภพปัจจุบัน อาตมาไม่มีวิธีแก้ให้โยมได้นะ เพียงแต่อยากให้โยม นั่งสมาธิ พิจรณาร่างกาย ที่สำคัญเวลาไปวัด ก็นำเงินใส่ซองตามจำนวนศรัทธา และเขียนหน้าซองว่า ชำระหนี้สงฆ์ พยายามทำบ่อย ๆ กรรมจะหลุดไปเอง กรรมที่เราทำ เราหนีไปไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้คือเจริญสมาธิ ยกระดับจิตให้สูง หัดทำเป็นกิจวัตร บุญไม่หนี้ไปไหนหรอกนะ ธรรมะ ยังไงก็ชนะอธรรมโยม ส่วนเรื่องมารผจญ อาตมาคงพูดไม่ได้นะโยม มันไม่ใช่กิจของสงฆ์ และสงฆ์เองก็แสดงคุณวิเศษที่มีในตัวไม่ได้ ทั้งทางตรง และทางอ้อม เจริญพรโยม

เจ้าของ:  หัวหอม [ 08 เม.ย. 2011, 15:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

อาจเป็นเพราะพักผ่อนน้อยอ๊ะเป่าครับเลยไอแบบสุขภาพอ่อนแอ ส่วนน้ำตาไหลนี่เป็นเรื่องปกติครับ ถ้าไอมากๆน้ำตาก็จะไหล ลองหาพวกลูกอมสมุนไพรเช่นชะเอมอะไรประมาณนี้อมเวลามีอาการไอก็ได้ครับ ชะเอมช่วยให้ชุ่มคอ :b39: :b40:

เจ้าของ:  สุดปลายฟ้า [ 08 เม.ย. 2011, 15:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

อาการนี้อาตมาภาพ เคยอ่านเจอจากหนังสือเล่มหนึ่ง ขอไม่เอ๋ยนามนะโยม เรื่องอาการไอ อาจจะเกิดจากชาติก่อนโยมเคย วิพากษ์ วิจารณ์พระสงฆ์มาก่อน เช่น พระสงฆ์สบายไม่ต้องทำอะไรก็มีกิน เป็นต้น กรรมนี้จึงอาจจะได้ย้อนมาสู่ภพปัจจุบัน

:b8: นมัสการค่ะ
เอ แต่ว่าสุดปลายฟ้าอดีตไม่ทราบนะคะ แต่ว่าปัจจุบันไม่เคยกล่าวติเจียนพระสงฆ์เลยค่ะ อย่างนี้ จะเป็นเช่นไรคะ
:b8: นมัสการค่ะ

ไฟล์แนป:
34.jpg
34.jpg [ 5.08 KiB | เปิดดู 10584 ครั้ง ]

เจ้าของ:  Akawanno [ 08 เม.ย. 2011, 15:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

สุดปลายฟ้า เขียน:
อาการนี้อาตมาภาพ เคยอ่านเจอจากหนังสือเล่มหนึ่ง ขอไม่เอ๋ยนามนะโยม เรื่องอาการไอ อาจจะเกิดจากชาติก่อนโยมเคย วิพากษ์ วิจารณ์พระสงฆ์มาก่อน เช่น พระสงฆ์สบายไม่ต้องทำอะไรก็มีกิน เป็นต้น กรรมนี้จึงอาจจะได้ย้อนมาสู่ภพปัจจุบัน

:b8: นมัสการค่ะ
เอ แต่ว่าสุดปลายฟ้าอดีตไม่ทราบนะคะ แต่ว่าปัจจุบันไม่เคยกล่าวติเจียนพระสงฆ์เลยค่ะ อย่างนี้ จะเป็นเช่นไรคะ
:b8: นมัสการค่ะ


มันเป็นผลกรรมเก่าจ้ะโยม หากโยมปฎิบัติธรรม แล้วสิ่งต่าง ๆ จะหายไปเองโยม ภพนี้ชาตินี้ ไม่วิพากษ์ วิจารณ์พระก็ดีแล้วโยม อยากจะบอกไว้ว่า หากพระท่านจะดีหรือจะเลวอย่างไร ขอให้นึกถึงผ้าเหลืองไว้ เราทำบุญได้บุญ หากท่านไม่ดี ท่านก็ได้บาป หนีก็ไม่พ้นหรอกโยม โดยรวมอาตมาสรุปอีกทีนะ ไม่แก้ไม่ได้นะโยมให้ไปหาหมอเก่งขนาดไหนก็ไม่ได้ มันเป็นกรรม ต้องแก้ด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา

เจ้าของ:  สุดปลายฟ้า [ 08 เม.ย. 2011, 15:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

ต้องแก้ด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา

:b8: นมัสการพระคุณเจ้าอีกครั้งค่ะ

โยมปัจจุบันก็ทำบุญให้ทานเกือบจะทุกวันนะคะ สวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็น และสมาทานศีล 5 ก็เกือบจะทุกวันค่ะ เมื่อสวดมนต์เสร็จก็จะนั่งสมาธิด้วยน้อยมากตามแต่สถานการณ์ค่ะ ส่วนเรื่องกรรมเก่านั้นไม่ทราบจริง ๆ แต่ปัจจุบันนี้เข้าออกวัดเป็นว่าเล่น เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้วัดค่ะ จึงนับว่าเป็นคนโชคดีที่ได้เกิดมาอยู่ใกล้วัด เรื่องของพระนั้นโยมไม่ค่อยทราบหรอกค่ะ ทราบแต่ว่าพระเมื่อมาบวชเรียนแล้วย่อมมีศีล ต้องเป็นที่เคารพบูชาของญาติโยมค่ะ แต่พระที่โยมพบเจอโดยส่วนมากแล้วเกือบทั้งหมดเป็นพระดีอยู่ในศีลในธรรมค่ะ ฉะนั้นจึงหมดปัญญาเรื่องพระในความรู้สึกของโยม เพราะพระเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมเป็นที่สักการะของญาติโยมโดยทั่วไปอยู่แล้ว ขอบพระคุณพระคุณเจ้ามากเลยค่ะ ที่ได้กรุณาแนะนำสิ่งที่ดี ๆ ให้โยมได้ทราบ รู้สึกซาบซึ้งและน้อมรับไปปฏิบัติตามค่ะ ขออนุโมทนาบุญที่พระคุณเจ้ากรุณาค่ะ

:b8: นมัสการค่ะ

ไฟล์แนป:
39.bmp
39.bmp [ 147.93 KiB | เปิดดู 10572 ครั้ง ]

เจ้าของ:  Rotala [ 08 เม.ย. 2011, 15:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

นมัสการพระคุณเจ้า

อาการระคายคอน้ำตาไหลเป็นเหมือนกันเลย
ตอนเด็กผมเดินผ่านวัดไปโรงเรียน ตอนนั้นชอบคิดกับพระในวัดไปในทางที่ไม่ค่อยดีด้วย
สมัยเด็กคิดไม่ดีกับเพื่อนที่เขาไม่ค่อยชอบทำการบ้านด้วย
ตอนนั้นมีกำลังเจตนาของความคิดมาก
ผลที่ได้คืออ่านหนังสือไม่ค่อยเข้าใจขึ้นเรื่อยๆกับตอนหาที่เรียนต่อ
จะไม่ค่อยได้รับผลสำเร็จ
เวลาไปตำหนิใครในใจ ตอนมีเจตนามากๆ สุดท้ายเรากับกลายเป็นแบบนั้นเสียเอง
ทำไมบางเรื่องเราแค่คิดก็ต้องประสบกับความคิดของเราเสียเอง

อนุโมทนาครับ :b8:

เจ้าของ:  Akawanno [ 08 เม.ย. 2011, 15:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

เปลี่ยนแนวคิดได้โยม ยังไม่สายไปนะ

ทำดีก็ได้ดี
ถ้าทำชั่วก็ได้ชั่ว

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 08 เม.ย. 2011, 16:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

:b8: :b8: :b8: :b20:

ขออนุโมทนาสาธุการกับพระคุณเจ้าด้วยเจ้าค่ะ

เจ้าของ:  ariyachon [ 08 เม.ย. 2011, 16:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

อนุโมทนาครับ

:b8: :b8:

เจ้าของ:  suttiyan [ 08 เม.ย. 2011, 21:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

กราบนมัสการพระคุณเจ้า กระผมได้อ่านถึงคำถามของคุณสุดปลายฟ้า เกี่ยวกับการสวดมนต์หรือนั่งสมาธิแล้วมีการไอ หรือน้ำตาไหล กระผมขอแสดงความเห็น เมื่อผู้ปฎิบัติได้มีการสวดมนต์หรือนั่งสมาธิแล้ว มีสติอยู่กับคำบริกรรม เมื่อสมาธิเกิดจะมีความสบาย สิ่งที่ปรุงแต่งไว้ในอดีตอันเกิดจากตัณหาจะคลายตัวออกมาจากขันธ์ 5 ฃื่งขันธ์ 5 นี้จะประกอบด้วยธาตุดิน น้ำ ลม และไฟ การคลายตัวของสิ่งปรุงแต่งจะแสดงในรูปของความอึดอัดของจิต(นามธรรม) ความร้อน ความคัน ความชา ความเจ็บปวดของร่างกาย (รูปธรรม) ทำให้ธาตุทั้ง 4 ต้องปรับตาม การไอ การหาวคือการปรับตัวของธาตุลม และจะมีน้ำตาไหลคือธาตุน้ำ และที่หน้าผากหากสังเกตุจะมีความร้อนเกิดขื้นคือธาตุไฟ ชื่งทั้งหมดเป็นปรากฏการของทุกข์ ที่กล่าวว่าขันธ์ 5 เป็นกองทุกข์ ขณะเกิดสภาวะดังกล่าวคุณสุดปลายฟ้าเพียงแต่รับรู้สภาวะที่เกิดขื้นด้วยใจที่เป็นกลาง ภายหลังสิ่งต่างๆได้คลายไปแล้ว จิตจะเข้าสู่ความสงบ ด้วยหลักที่ว่า ตัณหาเป็นของร้อนเมื่อตัณหาคลายตัว ความร้อนคลายออก ก็จะพบความเย็น สงบ ความสงบหรืออีกนัยหนึ่งเป็นผลเกิดจากสมาธิที่เกิดจากการรู้ตามความเป็นจริง (วิปัสสนา) :b8: suttiyan

เจ้าของ:  Akawanno [ 08 เม.ย. 2011, 21:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บริการให้คำปรึกษา ในด้านธรรมะ และแนวทางการปฎิบัติ

suttiyan เขียน:
กราบนมัสการพระคุณเจ้า กระผมได้อ่านถึงคำถามของคุณสุดปลายฟ้า เกี่ยวกับการสวดมนต์หรือนั่งสมาธิแล้วมีการไอ หรือน้ำตาไหล กระผมขอแสดงความเห็น เมื่อผู้ปฎิบัติได้มีการสวดมนต์หรือนั่งสมาธิแล้ว มีสติอยู่กับคำบริกรรม เมื่อสมาธิเกิดจะมีความสบาย สิ่งที่ปรุงแต่งไว้ในอดีตอันเกิดจากตัณหาจะคลายตัวออกมาจากขันธ์ 5 ฃื่งขันธ์ 5 นี้จะประกอบด้วยธาตุดิน น้ำ ลม และไฟ การคลายตัวของสิ่งปรุงแต่งจะแสดงในรูปของความอึดอัดของจิต(นามธรรม) ความร้อน ความคัน ความชา ความเจ็บปวดของร่างกาย (รูปธรรม) ทำให้ธาตุทั้ง 4 ต้องปรับตาม การไอ การหาวคือการปรับตัวของธาตุลม และจะมีน้ำตาไหลคือธาตุน้ำ และที่หน้าผากหากสังเกตุจะมีความร้อนเกิดขื้นคือธาตุไฟ ชื่งทั้งหมดเป็นปรากฏการของทุกข์ ที่กล่าวว่าขันธ์ 5 เป็นกองทุกข์ ขณะเกิดสภาวะดังกล่าวคุณสุดปลายฟ้าเพียงแต่รับรู้สภาวะที่เกิดขื้นด้วยใจที่เป็นกลาง ภายหลังสิ่งต่างๆได้คลายไปแล้ว จิตจะเข้าสู่ความสงบ ด้วยหลักที่ว่า ตัณหาเป็นของร้อนเมื่อตัณหาคลายตัว ความร้อนคลายออก ก็จะพบความเย็น สงบ ความสงบหรืออีกนัยหนึ่งเป็นผลเกิดจากสมาธิที่เกิดจากการรู้ตามความเป็นจริง (วิปัสสนา) :b8: suttiyan


เจริญพรขอบคุณที่ช่วยเสริมให้อาตมา

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/