เท่าที่เห็นตามกระดานบอร์ดต่างๆ รู้สึกจะมีปัญหาเยอะกันจริงๆ วันนี้ก็เลยมาว่าด้วยเรื่องพระธาตุบ้าง

1.เรื่องแรกพระธาตุกับพระอรหันต์
เถียงกันไปก็นรกกินหัวเปล่าๆ อัฐิท่านจะเป็นอย่างไรก็ตามนั่นก็คือพระธาตุของบุคคลที่เราสมควรบูชา และพระธรรมที่ท่านบอกกล่าวนั่นแหละคือพระธาตุที่เราควรบูชา

2.เรื่องการบูชาพระธาตุ
มงคลชีวิตข้อ "ปูชา จ ปูชนียานํ" นั่นก็เป็นมงคลข้อหนึ่งเหมือนกัน เรายังอยู่ในโลกยังต้องพึ่งบุญ บุญไหนทำได้ก็ทำเพื่อจะได้เป็นที่พึ่ง ไม่เสียหายอะไร แต่ถ้าอยากพ้นโลกก็คงต้องบูชาธรรมที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สอน

3.เรื่องพระอรหันต์
ถ้าท่านมีความสงสัยเรื่องในเรื่องนี้ ผมขอถามก่อน
- เราจะรู้อย่างว่าท่านใดเป็นพระอรหันต์
- ถ้าท่านไม่สามารถบอกได้ แล้วท่านแน่ใจได้อย่างไร ว่าพระธรรมคือพระธรรม พระพุทธเจ้าคือพระพุทธเจ้า
- ข้อสุดท้ายถ้าพระอรหันต์ หรือพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดท่านต่อหน้าท่าน ท่านจะรู้ได้อย่างไร

ขอจบการขายมะพร้าวห้าวที่สวนไว้เพียงเท่านี้ก่อน

อิอิ จริง ๆ ไม่เคยเข้าใจเรื่องพระธาตุหรอก
แต่สมัยเด็ก ๆ มีคนบรรยายถึงลักษณะของพระธาตุ
ซึ่ง เขาอธิบายไป ก็ไม่เข้าใจ สิ่งที่เขาอธิบายนั้น ไม่เข้าหูเลย
แต่เรากลับดันนึกไปเห็นภาพการกลั่นตัว การตกผลึกของแร่ธาตุตามธรรมชาติ
อย่างเช่น ภาพหินงอก หินย้อย คลิสตัน
มันสะท้อนถึงกระบวนการทำให้ ธาตุนั้นมีคุณลักษณะที่สะอาด บริสุทธิ์ แสดงความเป็นธาตุแท้ เนื้อแท้
ซึ่งกว่าจะมาเป็นหินงอก หินย้อยได้นั้น
มันทำงานอย่างเงียบ ๆ เชื่องช้า ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป
อย่างสม่ำเสมอ
ด้วยภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม เป็นระยะเวลาอันยาวนาน
กว่าจะปรากฎเป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็น

นี่คือ พระธาตุ ความหมายเดียว คุณค่าเดียวที่อยู่ในใจ
คือ การเรียนรู้ที่จะทำใจให้เหมือนการดำเนินไปเป็น พระธาตุ

วัตถุที่ บุคคลยึดถือเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า แล้วทำการกราบไหว้บูชาเช้าเย็นด้วยใจที่เลื่อมใสศรัทธาบุคคลนั้นย่อมประสบสิ่งที่เป็นบุญเป็นอันมาก ไม่ว่าจะเป็นพระธาตุ พระพุทธรูป เจดีย์ ต้นโพธิ์ ไม่ว่าวัตถุนั้นจะเป็นพระธาตุจริงๆหรือไม่ก็ตาม ขอเพียงมีใจน้อมเคารพบูชา ด้วยศรัทธาที่เต็มเปี่ยม แม้ไม่ใช่พระธาตุจริงๆบุคคลนั้นก็ย่อมประสบบุญเพราะอะไร เพราะธรรมมีใจเป็นเบื้องหน้า สรรพสิ่งสำเร็จได้ด้วยใจ

ส่วนเรื่องการจะดูว่าเป็นพระอรหันต์นั้น ผมว่ายกไว้ก่อน เรื่่องนี้ยากที่จะรู้ได้
น้ำลึกเงาลึก น้ำลึกเงาตื้น น้ำตื้นเงาลึก น้ำตื้นเงาตื้น
มาดูคณะสงฆ์หมู่ใหญ่ดีกว่า ถ้าจะศรัทธาก็ศรัทธาในสงฆ์หมู่ใหญ่
ไม่ว่าจะเป็นพระอริยะ หรือไม่ใช่พระอริยะ พุทธศาสนิกชนควร
คิดต่อพระสงฆ์ด้วยจิตที่เมตตา พูดต่อพระสงฆ์ด้วยเมตตา
ปฏิบัติต่อสงฆ์ด้วยจิตเมตตา

ไม่ว่าจะอย่างไรพระสงฆ์ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ ก็เป็นผู้ทรงไว้ซึ่งพระธรรม
เป็นผู้ถือธงชัยแห่งพระอรหันต์ เป็นตัวแทนของพระพุทธศาสนา
ที่เราต้่องเคารพบูชา

พระอรหันตธาตุ เป็นหลักฐานพยานสิ่งเดียวที่มนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา ด้วยตาเนื้อจะสามารถรู้ได้ว่าบุคคลหรือพระรูปนี้ได้ทำที่สุดแห่งทุกขืจบแล้ว คือได้เข้าถึงอรหัตผล

เมื่อได้สัมผัส เห็น พระอรหันตธาตุที่แท้จริงแล้ว จะทำให้ยิ่งทราบซึ้งและเพิ่มศรัทธา ในคุณแห่งพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ยิ่งๆขึ้นไป

อัศจรรย์จริงหนอ ที่เมื่อบุคคลได้อบรม อบร้ำตนเองด้วยธรรมมะอันถูกต้องของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว กระดูกยังหลอมรวมเป็นพระธาตุ มีรูปพรรณสัณฐานต่างๆกันออกไปตามคุณธรรมของพระอรหันตเจ้าองค์นั้นๆ

สิ่งสำคัญในยุคปัจจุบันนี้คือมีอลัชชีและพวกลวงโลกได้นำพระธาตุและพระบรมสารีริกธาตุปลอมมาเผยแพร่แจกแบ่งกันจนทำให้แทบแยกแยะไม่ออกว่าใดคือพระธาตุจริงใดคือพระธาตุปลอม ดังตัวอย่างเรื่อง พระจักษุธาตุของพระพุทธเจ้าซึ่งกำลังฮืออาและสอบสวนกันอยู่ทุกวันนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจงรีบทำความจริงให้กระจ่างเสียแต่เร็ววัน ก่อนที่พุทธบริษัทและชาวโลกจะพากันเอือมระอาและเบื่อหน่ายในพฤติกรรมของนักลวงโลกเหล่านี้ ที่เอาเพชรรัสเซียมาหลอกคนที่มีศรัทธาแต่ขาดสติปัญญาไต่ตรองให้หลงเชื่อและเข้าใจผิดเรื่องพระธาตุและพระบรมสารีริกธาตุมากไปกว่านี้

ทำกรรมอย่างไร ได้อย่างนั้น
ปัจจุบันโลกเต็มไปด้วยความฉ้อฉล
แต่ใจเราต้องไม่ฉ้อฉล ไม่หลงไปตามกระแสโลก
อย่าให้ศรัทธาหวั่นไหว ต้องตั้งมั่นในธรรม ให้มีปัญญาคุ้มครองตัวเอง

ต่างคน..ต่างคิด..ต่างมอง..
...เป็นสิ่งระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์บ้าง
..เป็นพระธาตุบ้าง..เป็นวัตถุมงคลบ้าง..เป็นของวิเศษบ้าง..เป็นเรื่องงมงายไร้สาระบ้าง..
..แต่ใครจะรู้ว่าถูกหรือผิด..
...ถ้าจะมีก็คงจะเป็นจิตใจของเราเอง
..
..ที่ไปตัดสินว่า..คนอื่นนั้นผิดหรือถูก..
..บางครั้งเราก็มองเห็นแต่ความคิดของตัวเอง..จนลืมพิจารณาความจริงที่มีอยู่..

ตัวผมเองก็มีความรู้สึกที่ว่า มีความศรัทธาต่อพระธาตุมาก ว่าพระปฎิบัติดีปฏิบัติชอบที่ฝากคำสอนไว้ให้คนไทยและชาวโลกได้อ่าน ฟัง ปฏิบัติตามนั้น เป็นคำสอนที่บริสุทธิ เป็นความจริง แสดงให้เห็นว่า ความดับทุกข์จริงๆนั้นทำได้ โลกไม่ว่างเว้นจากพระอรหันต์นั้นเป็นเรื่องจริง
พอข่าวออกมาว่าอัฐหลวงตามหาบัวเป็นพระธาตุนั้น นำความปลื้มปิติเกิดขึ้นมาก แม้พิจารณาว่าอย่าหวั่นไหวต่ออารมณ์แต่น้ำตาแห่งความปลื้มปิติก็อาบไหลออกมาจริงๆ หนทางปฏิบัตินั้นจริงๆก็ไม่แตกต่างเลยเทียบกับสมัยพุทธกาล
ส่วนการแสวงหาพระธาตุมาบูชาก็ไม่ได้จริงจังเลย เพราะว่าพระธาตุเป็นสมบัติของโลกทั้งสามไม่ใช่ของเรา แต่พระที่สวมใส่ห้อยคอก็ยังหาบูชาอยู่ตลอดครับ