ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=36971
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 26 ก.พ. 2011, 23:07 ]
หัวข้อกระทู้:  ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

วันนี้ไปกินเลี้ยงกับเพื่อนมา มีคนเลี้ยงช้างเดินเข้ามาในกลุ่มผม เสนอขายอ้อย
แต่ก็ไม่มีเพื่อนในกลุ่มซื้อเลย ปกติเวลามีใครมาขออะไร ถ้าให้ได้ผมก็จะให้ ไม่ค่อยปฏิเสธ
ครั้งนี้ก็เลย ซื้อไปเลยร้อยนึง ถึงแม้จะมีเพื่อนห้าม แต่ผมก็ไม่ได้หวั่นไหวอะไร
อยากจะขอเรียนถาม กัลยาณมิตรทุกท่านว่า การกระทำของผมนี้ สมควรหรือไม่
จะได้บุญหรือบาป อย่างไร ขอบคุณครับ

เจ้าของ:  yuy [ 27 ก.พ. 2011, 01:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

แนะนำว่าอย่าไปให้อีกเพราะจะทำให้ช้างลำบาก ควาญช้างสบายได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเพราะหากินกับช้าง
อย่างนี้เขาเรียกว่า ช้างเลี้ยงคนไม่ใช่คนเลี้ยงช้างนะ เพราะคนพวกนี้ใช้ความน่าสงสารของสัตว์มาหากินให้กับตัวเองซื่งเห็นแก่ตัวมาก เป็นบาปแน่นอนเพราะไปเบียดเบียนให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมาน ถ้าเราไปให้อาหารก็เท่ากับว่าเราไม่ได้ช่วยช้างแต่ช่วยคนมากกว่า รวมถึงพวกที่ชอบจับนกกระจอกมาใส่ในกรงแล้วเที่ยวเอามาให้คนที่ชอบทำบุญได้ปล่อยนก แต่หารู้ไม่ว่านกที่ปล่อยไปนั้นมีแค่ไม่กี่ตัว แต่พอเวลาจับมาขังต่อนั้นจับได้ทีละหลายๆตัวเลย :b26:

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 27 ก.พ. 2011, 02:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

ผมเคยซื้อนก มาปล่อยด้วยนะครับ
สงสารเห็นเค้าลำบาก
เมื่อช่วยแล้วเราก็สบายใจ
นึกถึงก็ปลื้มครับ

เจ้าของ:  muntana [ 02 มี.ค. 2011, 09:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

เคยถามท่านผู้รู้ หลาย ๆ ท่าน ๆ และ พระสงฆ์องค์เจ้า ท่านเหล่านั่นไม่ค่อยเห็นด้วย และ สนับสนุน เพราะ เป็น
การสงเคราะห์บุญ เพื่อบาป เทียบกันไม่ได้เลย เหมือนกับการลงทุน เพื่อ การขาดทุน

เท่ากับเป็นการทำบาป มากกว่า ไม่สมควรอย่างยิ่ง ๆ บาป มากกว่า บุญ

สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมารมากกว่า และเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยถึงตาย ได้

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 07 มี.ค. 2011, 03:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

โถ่ ผมก็สงสารน่ะครับ มองแค่ว่า พอให้อาหาร หรือปล่อยนกเค้าก็ได้รับความสุขจากการที่เราทำ
ไม่เบียดเบียนตน ไม่ได้ทำให้เค้าลำบาก ผมไม่ได้มองไกลขนาดนั้นหรอกครับ

คิดว่าสัตว์โลกเป็นไปตามกรรม เราก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้
และก็ดูกุศลกรรมบทด้วยครับ ว่าผิดไหม

ถ้าผมเป็นช้าง หรือนกนะครับ มีคนให้อาหาร หรือปล่อยให้เราเป็นอิสระ
เราก็ดีใจ ไม่ได้คิดแค้นคนผู้นั้นเลย

เจ้าของ:  จางบาง [ 07 มี.ค. 2011, 21:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

คิดซะว่าซื้ออ้อยเลี้ยงคนเลี้ยงช้างก็ได้
จ่ายเงิน100 ได้เลี้ยงทั้งช้าง ได้เลี้ยงทั้งคน

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  สุดปลายฟ้า [ 07 มี.ค. 2011, 21:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

tongue :b8: :b8: อนุโมทนากับความใจดีด้วยค่ะ แต่ว่าจะทำให้ช้างต้องลำบากหรือเปล่า ควาญช้างน่าจะสบายกว่านะ เพราะอ้อนที่ขายเรานะนิดเดียว ช้างตัวใหญ่จะกินพอหรือ น่าจะอยู่ในป่ามากกว่านะ มันคงมีความสุขมากกว่า
ให้อาหารช้างก็ดี เห็นด้วย แต่ไม่เห็นด้วยเลยที่ควาญช้างเอาช้างมาเดินตามถนน ไม่เป็นไปตามธรรมชาติขิงช้างที่จะต้องอยู่ป่า หาอาหารเองตามธรรมชาติ อยู่ป่าน่าจะดีกว่าป่าปูน อืม แล้วแบบนี้เราสนับสนุนควาญช้างเปล่านี่ :b20: tongue

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 07 มี.ค. 2011, 23:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

การให้ทานเป็นของดีครับ บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญการให้ทานแม้เล็กน้อย
คนพาลย่อมติเตียนการให้ทาน

ส่วนการทรมานผู้อื่นก็เป็นบาบแน่นอน พระพุทธเจ้าสอนเรื่องอวิหิงสา คือความไม่เบียดเบียน
พระองค์ทรงบัญญัติกุศลกรรมบท 10 เพื่อไม่ให้เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ทั้งทางกาย วาจา และใจ

ผมไม่ได้มีเจตนาส่งเสริมแต่อย่างใด แค่อยากจะสงเคราะห์ช้าง รีบซื้อของจะได้หมดช้างจะได้ไม่ต้องเดินนาน

สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม มีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์มีกรรมเป็นที่พึ่งที่อาศัย ทำกรรมอย่างไร จะดีหรือชั่วก็ตามย่อมได้รับผลของกรรมนั้น

ทุกคนต้องรับผลกรรมถ้าไม่อยากถูกกักขังก็อย่าได้กักขังผู้อื่น เมื่อวิบากส่งผลก็ต้องรับผลของกรรมไป
มันเป็นวาระกรรมที่ช้างต้องรับ แถมคนก็คิดว่าจะไม่ซื้ออาหารให้อีกเพราะกลัวว่าจะสนับสนุน นี่ก็คงเป็นกรรมของช้างที่ไม่ได้สั่งสมทานหรือเป็นผู้ตระหนี่ก็เป็นได้

แต่ช้างบางตัวนี่สบายหน่อยอยู่ในสวนสัตว์ มีคนไปประเคนอาหารให้ หรือมีคนซื้ออาหารเลี้ยงเลยไม่ต้องลำบากเที่ยวเดินเร่รอน

สัตว์เลี้ยงบางตัวก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี บางตัวก็ได้รับการเลี้ยงดูที่ไม่ดี นี่เป็นผลุเพราะความแตกต่างของทานที่สัตว์นั้นเคยให้ไว้ นกบางตัวถูกขังแต่ก็ได้รับการเลี้ยงดูที่ดีนี่ก็เป็นผลของทาน แต่ที่ถูกขังเพราะเค้าเคยขัง เคยล่ามคนอื่นไว้ มันเลยต้องมาใช้กรรม เมื่อหมดวาระกรรมก็ไม่ต้องมาเป็นอย่างงี้

เรานั้นสงเคราะห์เค้าครับ เท่าที่จะช่วยได้ ได้เท่าไหร่ได้เท่านั้น มันเป็นกรรมของเค้าที่ต้องเผชิญแบบนี้ ทำอย่างไรย่อมได้รับผลเช่นนั้น ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วแน่นอน

ขอให้เจริญในธรรม

เจ้าของ:  ทักทาย [ 08 มี.ค. 2011, 00:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

กรณีคล้ายๆกัน....หน้าที่ทำงานจะมีชายผิวดำคนหนึ่ง
มากวาดหน้าร้านให้เป้นประจำ สองสามวันครั้ง เห็นแล้วชอบใจ
แลดูแล้วสะอาดสะอ้าน เฝ้าดูเขามาตลอด...หลายครั้งแล้ว
เห็นเขาทำโดยมิได้หวังอะไร ก็นึกชื่นชม เช้าเข็นรถมากวาดหน้าร้านให้
แล้วก็ไป......ตอนหลังจึงเดินเอาตังค์ไปให้เขาครั้งละสองเหรียญ

ต่อมา...พอกวาดเสร็จเขาจะเดิน...เข้ามาหาที่ร้าน เพื่อรอรับเงิน
แล้วก็มาบ่อยๆ จนกลายเป็นทุกวัน...ก็บอกเขาไปว่า ฉันให้เธอทุกวัน
ไม่ได้หรอกนะ.....เขาก็ต่อรองว่าไม่เป็นไร ฉันจะขอมากวาดห้าวัน..จันทร์ถึงศุกร์
และขอรับเงินวันศุกร์ ห้าเหรียญ(หยุดราชการด้วยแฮ่ะ) เราก็คิดว่าไม่ได้มากมาย
ก็ตอบตกลง..ทำได้แค่อาทิตย์เดียว....อยู่ๆก็เดินเข้าร้านมาแล้วบอกว่า ฉันไม่ทำแล้วนะ
อากัปกิริยา เหมือนกับว่าได้รับผลตอบแทน "ไม่คุ้ม" ทั้งๆที่ร้านแถวๆนั้น
มีด้วยกันสี่ห้าร้าน ไม่มีใครยอมให้เขาเลยสักร้านเดียว มีแต่ร้านเราที่ให้ไป
เพราะเห็นว่าเขามีจิตใจที่ดี ทำไปโดยมิได้หวังผล

แต่ปรากฎว่า พอให้ไปแล้ว กลับมาเล่นแง่ คิดว่าพูดแบบนี้แล้วเราจะเสนอ
ผลตอบแทนเพื่มขึ้น....ก็ตอบเขาไปว่า ไม่เป็นไร ฉันก็ไม่ได้ต้องการอยู่แล้ว
ฉันทำเองได้.....หลายวันต่อมา....เขาเดินเข้ามาหา และบอกว่า เขาทำความสะอาด
ให้สองสามวันแล้ว (ซึ่งเขาก็ทำจริงๆ) ก็เลยบอกเขาไปว่า ก็คุณเป้นคนบอกเองว่า
ไม่ต้องการแล้ว.....เขาก็บอกว่า ฉันรู้ แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่มีเงินเลย...ตอบเขาไปว่า
ฉันคงช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอกนะ....เขาก็เดินหน้าเศร้าออกไป และเพียรพยายาม
เข้ามาขออีกสองสามครั้ง....แต่เราก็ไม่ยอมให้....คนที่ทำงานด้วยกันบอกว่า
เรา "ใจดำ".....

ยอมรับว่าขุ่นเคืองอยู่ในใจ ร้านอื่นไม่ให้ ไม่เห็นเขาไปเรียกร้องจากใคร พอเราให้ทำไมถึง
มาเล่นแง่ใส่.....พอเขาจากไปทุกครั้งที่เข้ามาขอ จะเกิดอาการ "สะใจ" แต่หลังจากนั้น
ก็จะค่อยๆกลายเป็นความรู้สึก ลังเล สงสัย และสงสาร ว่าเราทำถูกหรือผิดกันแน่?.....

คนที่เดินผ่านไป ผ่านมา โดยมิได้ทำอะไรเลย ถ้าเข้ามาขอตังค์ เราก็ให้เขาอย่างไม่มีข้อแม้
แต่พอคนนี้เขาทำงานแลก ทำไมเราใจดำไม่ยอมให้เขา.....แบบนี้เราขาดเมตตาหรือเปล่า?

อยากขอความคิดเห็นจากทุกท่านเช่นกันว่า
ควรให้เขาหรือไม่ให้ดี.....?????

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 08 มี.ค. 2011, 02:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

ผมให้ทานด้วยจุดประสงค์ 5 อย่างด้วยกันครับ
1 เพื่อความปรารถนาที่ตั้งไว้
2 เพื่อละความตระหนี่อันเป็นของหนัก ละความยึดมั่นในสิ่งของ
3 ให้เพื่ออนุเคราะห์ผู้อื่น เพราะเราเห็นว่าทานที่เราให้จะยังประโยชน์สุขให้แก่ผู้อื่น
4 ให้เพราะหวังในความสุข เมื่อเราให้เราก็มีความสุข มีความปลาบปลื้มใจอยู่
5 เพื่อเป็นปัจจัยในสัมปรายภพเบื้องหน้า

เงินทองมีมาก็มีไป ตายไปก็ติดตัวไปไม่ได้ มีแต่บุญและบาปเท่านั้นจะเอาติดตัวไปได้
เมื่อเห็นดังนี้เราจึงควรเป็นผู้สั่งสมการให้ทาน ทำความสลัดออกซึ่งความตระหนี่อันเป็นของหนักคอยถ่วงใจของเราไว้ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งให้ก็ยิ่งเป็นสุขครับ

เพราะเรามีเมตตาหวังให้ผู้อื่นเป็นสุข เมื่อเห็นผู้อื่นมีทุกข์มีความลำบาก เราก็สงเคราะห์ด้วยกรุณา
เมื่อเห็นว่าเขาพ้นทุกข์แล้วเราก็มีมุทิตาในความสุขที่เขาได้รับ
แต่เพราะว่าสัตว์โลกเป็นไปตามกรรม บางครั้งเราไม่อาจช่วยได้ หรือช่วยที่สุดแล้วเขาก็ไม่อาจพ้นทุกข์ หรือมีความสุขได้ไม่เท่าที่เราหวัง ก็ต้องวางลงด้วยอุเบกขา เพื่อไม่ให้เราเป็นทุกข์เสียเอง

ลองพิจารณาดูนะครับ
ขอให้เจริญในธรรม

เจ้าของ:  ทักทาย [ 09 มี.ค. 2011, 00:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

อ้างคำพูด:
เพราะเรามีเมตตาหวังให้ผู้อื่นเป็นสุข เมื่อเห็นผู้อื่นมีทุกข์มีความลำบาก
เราก็สงเคราะห์ด้วยกรุณา เมื่อเห็นว่าเขาพ้นทุกข์แล้วเราก็มีมุทิตาในความสุขที่เขาได้รับ
แต่เพราะว่าสัตว์โลกเป็นไปตามกรรม บางครั้งเราไม่อาจช่วยได้ หรือช่วยที่สุดแล้วเข้าก็ไม่อาจพ้นทุกข์ หรือมีความสุขได้ไม่เท่าที่เราหวัง ก็ต้องวางลงด้วยอุเบกขา เพื่อไม่ให้เราเป็นทุกข์เสียเอง

ลองพิจารณาดูนะครับ
ขอให้เจริญในธรรม


เห็นด้วยค่ะ

อนุโมทนา :b8:

เจ้าของ:  neemagirl [ 12 มี.ค. 2011, 11:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

เห็นด้วยค่ะ การทำทาน ถ้าเจตนาบริสุทธิ์ก็ไม่น่าจะเป็นไรนะคะ ... :b8: :b8:

เจ้าของ:  เจ้าวังทอง [ 20 มี.ค. 2011, 23:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

มันเป็นอาชีพเขา พวกเขารู้ดีว่ทำอะไรอยู่ ดีชัว่อยู่ที่พวกเขา เลือกที่จะกระทำ

เจ้าของ:  petermac [ 21 มี.ค. 2011, 01:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ซื้ออ้อยเลี้ยงช้าง

แต่ผมเองไม่ค่อยซื้อนะ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/