ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

คนติดยาสามารถทำบุญด้วยใจได้มั้ย
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=36804
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  les [ 16 ก.พ. 2011, 18:45 ]
หัวข้อกระทู้:  คนติดยาสามารถทำบุญด้วยใจได้มั้ย

ไม่ขอเอ่ยชื่อคนนี้นะค่ะ แค่อยากถามว่ารู้ว่ามันไม่ดี แต่ใจก็อยากจะทำบุญ ชอบเข้าวัดทำบุญ แต่ในส่วนตัวก็มีเล่นยาบ้าง ไม่ได้ติดมากมายอะไร อยากเลิกแต่มันจำเป็นต้องใช้ช่วงที่ทำงานหนักๆ....ค่ะ

แบบนี้เราจะสร้างบุญด้วยตัวเองได้หรือไม่ค่ะ ขอคำแนะนำค่ะ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 16 ก.พ. 2011, 20:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนติดยาสามารถทำบุญด้วยใจได้มั้ย

ทำบุญ...ก็ย่อมได้บุญ
ทำบาป..ก็ย่อมได้บาป

บุญส่วนบุญ..บาปส่วนบาป..ไม่ได้ปะปน..หักล้าง..กัน
ส่วน..ณ..เวลาใด..จะเสวยบุญหรือบาป..ก็แล้วแต่ว่า..ข้างไหนกำลังให้ผล

คนติดยาสามารถทำบุญได้...และก็ควรจะทำบุญให้มาก ๆ ซะด้วย

และขณะเดียวกัน..ก็ควรลด..ละ..เลิก..การทำบาปไปพร้อมกันเลย

ขอให้เข้มแข็งนะครับ :b8:

เจ้าของ:  หัสพล พวงแก้ว [ 17 ก.พ. 2011, 01:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนติดยาสามารถทำบุญด้วยใจได้มั้ย

กบนอกกะลา เขียน:
ทำบุญ...ก็ย่อมได้บุญ
ทำบาป..ก็ย่อมได้บาป

บุญส่วนบุญ..บาปส่วนบาป..ไม่ได้ปะปน..หักล้าง..กัน
ส่วน..ณ..เวลาใด..จะเสวยบุญหรือบาป..ก็แล้วแต่ว่า..ข้างไหนกำลังให้ผล

คนติดยาสามารถทำบุญได้...และก็ควรจะทำบุญให้มาก ๆ ซะด้วย

และขณะเดียวกัน..ก็ควรลด..ละ..เลิก..การทำบาปไปพร้อมกันเลย

ขอให้เข้มแข็งนะครับ :b8:


:b42: ขออนุโมทนากับคำตอบด้วยครับ :b39: :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ศรีสมบัติ [ 17 ก.พ. 2011, 13:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนติดยาสามารถทำบุญด้วยใจได้มั้ย

les เขียน:
แต่ใจก็อยากจะทำบุญ ชอบเข้าวัดทำบุญ

ขอเป็นกำลังใจ ที่ใจ อยากจะทำบุญ และขอให้ได้ทำดังสมหวัง
ควรเจริญภาวนา สวดมนต์ หรือ เจริญกรรมฐาน บ้างครับ เพราะยิ่ง
เราติดสิ่งเสพติดอยู่ มันอาจจะดลใจ ให้ ลด ละ เลิก สิ่งไม่ดีเหล่านี้ได้
เจริญในธรรม :b8:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 18 ก.พ. 2011, 22:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนติดยาสามารถทำบุญด้วยใจได้มั้ย

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ทักทาย [ 18 ก.พ. 2011, 23:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนติดยาสามารถทำบุญด้วยใจได้มั้ย

บุญก็ส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป
ทำบุญได้บุญ ทำบาปได้บาป
คนชั่วทำบุญย่อมได้บุญ
คนดีเผลอทำบาปย่อมได้บาป

อนุโมทนาค่ะ :b8:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 19 ก.พ. 2011, 00:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนติดยาสามารถทำบุญด้วยใจได้มั้ย

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 19 ก.พ. 2011, 07:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนติดยาสามารถทำบุญด้วยใจได้มั้ย

les เขียน:
ไม่ขอเอ่ยชื่อคนนี้นะค่ะ แค่อยากถามว่ารู้ว่ามันไม่ดี แต่ใจก็อยากจะทำบุญ ชอบเข้าวัดทำบุญ แต่ในส่วนตัวก็มีเล่นยาบ้าง ไม่ได้ติดมากมายอะไร อยากเลิกแต่มันจำเป็นต้องใช้ช่วงที่ทำงานหนักๆ....ค่ะ

แบบนี้เราจะสร้างบุญด้วยตัวเองได้หรือไม่ค่ะ ขอคำแนะนำค่ะ

คุณน้องจขกทครับ ก่อนอื่นคุณจะต้องแยกเรื่องบาปและบุญออกจากกันเสียก่อน
มาดูกันถึงเรื่องบาปเสียก่อน บาปมันเกิดจากการกระทำที่เจตนาแล้วไปทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
กายหรือใจครับ

ทีนี้มาดูเรื่องการติดยาว่ามันจะบาปไหม การติดยาถ้าไม่ไปกระทบคนอื่นให้เดือดร้อน
มันก็ไม่น่าจะบาปในเรื่องของศีล
เรื่องนี้ละเอียดมากต้องดูกันลึกๆ เพราะมีปัจจัยในเรื่องของใจไปเกี่ยวข้องด้วย
อย่าลืมครับ ถ้าคนอื่นเดือดร้อนใจ จากการติดยาของเรามันก็เป็นบาปนะครับ
ตัวอย่างสมมุติ คนอื่นเช่นเพื่อนร่วมงานพ่อแม่รู้ว่าคุณติดยา แต่คุณใช้เงินของคุณที่หามาโดยสุจริต
ไปซื้อยาเสพไม่ได้ขโมยหรือรบกวนใคร อันนี้ก็บาปนะครับ การกระทำของคุณทำให้คนอื่นเป็นห่วง
หรืออาจทำให้เพื่อนร่วมงานต้องเดือดร้อนใจ อาจจะเป็นห่วงหรือต้องคอยระแวงไม่เชื่อใจคุณครับ

เรื่องบาปได้บอกไปแล้วที่นี้มาดูเรื่องบุญ บาปคือข้อห้าม บุญคือสิ่งที่ต้องกระทำ
ถ้าเอาเรื่องติดยามาดูในแง่ของการกระทำ มาดูว่ามันเป็นบาปหรือบุญ
ถ้าคนอื่นไม่รู้เห็นหรือได้รับผลกระทบ มันก็ไม่เป็นทั้งบาปและบุญครับ

การติดยาในลักษณะนี้เรียกว่า กรรมครับมันเป็นวิบากต้องชดใช้ และใช้กันในชาติปัจจุบัน
ที่บอกว่าเป็นวิบาก ก็คือคุณจะรู้สึกทุกข์ทรมาณถ้ามีอาการอยากยา เวลาที่ต้องการเสพ
ดูๆแล้ว มันเป็นเรื่องของกิเลสของตัวเอง แก้ก็ต้องแก้ที่ตัวเอง ยาเสพติดเป็นเพียงสิ่งเร้า
ให้เราเห็นกิเลสในตัวให้ชัดขึ้น มันเหมือนกับเป็นบทเรียนทดสอบกิเลส ให้เราต่อสู้กับมัน
ว่าจะผ่านไปได้หรือไม่
ดังนั้นถ้าอยากจะเลิก ก็เอาสิ่งที่พลาดไปกลับมาเป็นเครื่องมือในการ
ปฏิบัติธรรมเพื่อละกิเลส ยึดเอาผลที่จะได้รับมาเป็นกำลังใจ คิดเสียว่าเรา
ได้เปรียบกว่าผู้อื่น ได้แบบฝึกหัดที่เป็นจริงให้ลองครับ
การจะสร้างบุญให้ตัวเอง ผมว่าต้องเลิกยาให้ได้ก่อนครับ ถึงจะเรียกว่า
สร้างบุญให้กับตัวเอง อย่าพึ่งคิดไปทำบุญกับคนอื่นเลยครับ
การทำบุญด้วยใจ ใจตัวเองต้องเป็นบุญเสียก่อนครับ ถึงจะเรียกทำบุญด้วยใจ

เจ้าของ:  les [ 19 ก.พ. 2011, 09:59 ]
หัวข้อกระทู้:  เจ้าของกระทู้

การจะสร้างบุญให้ตัวเอง ผมว่าต้องเลิกยาให้ได้ก่อนครับ ถึงจะเรียกว่า
สร้างบุญให้กับตัวเอง อย่าพึ่งคิดไปทำบุญกับคนอื่นเลยครับ
การทำบุญด้วยใจ ใจตัวเองต้องเป็นบุญเสียก่อนครับ ถึงจะเรียกทำบุญด้วยใจ



แสดงว่าต่อให้ทำบุญยังไงก็ไม่ขึ้นใช่มั้ย......ต้องให้เลิกยาก่อน อันที่จริงเค้าก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีกอย่างเค้าเสพเฉพาะเวลาทำงานหนัก...เท่านั้นและถ้าวันไหนไม่มีงานจะไม่เสพค่ะ เค้าหารายได้ของเค้าเองไม่พึ่งพาคนอื่นๆ
ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนอะไรแบบนั้นอ่ะ ค่ะ ถ้าจะเลิกคงจะยากค่ะ เวลาทำงานหนัก...จะไม่มีแรงถ้าไม่ได้รับยาที่เสพไปแต่ถ้าได้รับยาไปแล้วจะรู้สึกมีแรงทำงานได้ตลอดเวลาค่ะ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ....เค้าจะพยามเสพให้น้อยที่สุดเสพเฉพาะช่วงไปทำงานเท่านั้นกลับมาบ้านจะไม่เสพเพราะทราบดีถ้าเสพไปจะนอนไม่หลับค่ะ


อนุโมทนาค่ะ ที่ให้ทางสว่าง :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  เจโตวิมุติ [ 19 ก.พ. 2011, 10:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนติดยาสามารถทำบุญด้วยใจได้มั้ย

:b42: พุดไปก็มาก ต่อไปจะพูดให้น้อยลง การทำบุญในส่วนของผู้ให้มันอยู่แค่จิตที่เป็นกุศล และทรัพย์ที่หามาโดยชอบ อื่นๆนอกนั้นไม่เกี่ยวเลย...../เจโตวิมุติ

เจ้าของ:  bluebird [ 19 ก.พ. 2011, 15:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนติดยาสามารถทำบุญด้วยใจได้มั้ย

พูดลำบากนะคะ ติดยาแต่อยากทำบุญ แต่ การทำบุญทำได้ทุกคนทุกที่ละค่ะ ไม่เว้นแม้แต่คนติดยาหรอก

คิดดีทำดีก็เป็นบุญแล้วละ ตืดยาเนี่ยถ้าไม่เดือดร้อนคนอื่น อย่างน้อยก็เบียดเบียนตัวเองนะคะ

ถ้าเป็นไปได้เลิกเถอะค่ะ

แต่บุญก็ส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป มันไปหักกลบลบกันไม่ได้นะคะ

ในเมื่อมีจิตกุศลอยากจะทำบุญ ขอกุศลที่มีจงดลบันดาลให้คุณคนนั้นทำบุญให้กับตัวเอง

เลิกยาได้ด้วยเทอญ สาธุ :b4: :b12:

เจ้าของ:  les [ 19 ก.พ. 2011, 16:19 ]
หัวข้อกระทู้:  เจ้าของกระทู้

ขอบพระคุณมากค่ะที่ให้คำแนะนำ

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 19 ก.พ. 2011, 16:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนติดยาสามารถทำบุญด้วยใจได้มั้ย

les เขียน:
ไม่ขอเอ่ยชื่อคนนี้นะค่ะ แค่อยากถามว่ารู้ว่ามันไม่ดี แต่ใจก็อยากจะทำบุญ ชอบเข้าวัดทำบุญ แต่ในส่วนตัวก็มีเล่นยาบ้าง ไม่ได้ติดมากมายอะไร อยากเลิกแต่มันจำเป็นต้องใช้ช่วงที่ทำงานหนักๆ....ค่ะ

แบบนี้เราจะสร้างบุญด้วยตัวเองได้หรือไม่ค่ะ ขอคำแนะนำค่ะ


เช่นนั้น ขอโอกาสสหายธรรม แสดงความเห็นแก่เจ้าของกระทู้ ดังนี้
คุณ les ครับ...
บาป-บุญ พิจารณาจาก กุศลกรรมบถและ อกุศลกรรมบถ 10 นะครับ

กุศล-อกุศล เป็นความฉลาดของจิต หรือความไม่ฉลาดของจิตในการละ การลด โลภะ โทสะ โมหะ หรือ ราคะ โทสะ โมหะ ครับ

คนติดยามีเจตนาทำบุญอันเป็นเครื่องยินดีเครื่องฟูใจเพื่อประกอบความสละ จิตขณะนั้นเป็นกุศล และมีบุญเจตนาย่อมได้บุญ

คนติดยาขณะเสพยา ขณะนั้นนะครับ จิตเป็นอกุศล และมีความเมาในสิ่งมึนเมา ก็เป็นบาปด้วยครับ

การกระทำให้แต่ละขณะย่อมให้ผลเป็นวิบากต่อๆไป นะครับ ไม่ปะปนกันแล้วแต่ว่าวิบากไหนมีกำลังแรงกว่าก็จะให้ผลก่อน อันนี้เป็นเรื่อง ของ กรรมจัดสรรให้นะครับ

ทำบุญไปเถอะครับ อนุโมทนาครับ
เลิกเสพได้ จิตก็เป็นกุศลมีกำลังแรงให้เราประกอบกุศลกรรมได้อีกแยะเลยทีเดียวครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับต่อการทำบุญ
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับถ้าจะพยายามลด ละ เลิกการเล่นยาครับ

:D

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 19 ก.พ. 2011, 18:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เจ้าของกระทู้

les เขียน:
การจะสร้างบุญให้ตัวเอง ผมว่าต้องเลิกยาให้ได้ก่อนครับ ถึงจะเรียกว่า
สร้างบุญให้กับตัวเอง อย่าพึ่งคิดไปทำบุญกับคนอื่นเลยครับ
การทำบุญด้วยใจ ใจตัวเองต้องเป็นบุญเสียก่อนครับ ถึงจะเรียกทำบุญด้วยใจ



แสดงว่าต่อให้ทำบุญยังไงก็ไม่ขึ้นใช่มั้ย......ต้องให้เลิกยาก่อน อันที่จริงเค้าก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีกอย่างเค้าเสพเฉพาะเวลาทำงานหนัก...เท่านั้นและถ้าวันไหนไม่มีงานจะไม่เสพค่ะ เค้าหารายได้ของเค้าเองไม่พึ่งพาคนอื่นๆ
ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนอะไรแบบนั้นอ่ะ ค่ะ ถ้าจะเลิกคงจะยากค่ะ เวลาทำงานหนัก...จะไม่มีแรงถ้าไม่ได้รับยาที่เสพไปแต่ถ้าได้รับยาไปแล้วจะรู้สึกมีแรงทำงานได้ตลอดเวลาค่ะ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ....เค้าจะพยามเสพให้น้อยที่สุดเสพเฉพาะช่วงไปทำงานเท่านั้นกลับมาบ้านจะไม่เสพเพราะทราบดีถ้าเสพไปจะนอนไม่หลับค่ะ
อนุโมทนาค่ะ ที่ให้ทางสว่าง :b8: :b8: :b8:

คุณlesครับ ผมขออธิบายให้คุณฟังเพิ่มอีกเล็กน้อยครับ และเป็นการคุยให้คนอื่นที่ยังไม่เข้าใจ
ในเรื่องการทำบุญนะครับ

หลักการทำบุญยังมีหลายท่านที่ยังเข้าใจว่า ทำบุญไปเถอะแล้วบุญจะสนองในสิ่งที่ปรารถนา
จะได้ไปสวรรค์ จะได้ร่ำรวย ผมว่าเป็นการเข้าใจผิดอย่างมากครับ
หลักการทำบุญที่แท้จริง คือการทำให้จิตใจรู้จักเสียสละ ไม่ยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งนอกกาย
มันช่วยให้กิเลส ความโลภ โกรธหลงให้เบาบางไปจากจิตใจ
ผมว่านี่แหล่ะเป็นผลจากการทำบุญที่แท้จริง

มีบางท่านครับบอกว่า บุญกับบาปมันคนละส่วนกัน ผมว่าอย่างนี้แค่คิดก็ผิดแล้วครับ
คนที่คิดแบบนี้เป็นคนที่ทำบุญเพื่อหวังผลครับ ทำบุญแต่ละครั้งไม่คิดว่า ผลบุญที่ได้ก็คือความสบายใจ
แต่กลับไปคิดว่า ต้องมีสิ่งตอบแทน ต้องขึ้นสวรรค์ชีวิตดีขึ้นรวยขึ้น เอาเป็นว่าใครจะคิดแบบนี้ก็แล้วแต่ครับ

คุณจขกทครับ สิ่งที่ผมแนะนำไป แล้วคุณบอกว่าคนติดยาทำบุญไม่ขึ้นใช่มั้ย แบบนี้มันแรงไปครับ
ผมว่าน่าจะใช้ว่า ทำไปก็ไม่เห็นผลครับ

ด้วยหลักการทำบุญที่ว่า ทำบุญแล้วผลบุญที่ได้คือความสบายใจ ช่วยละกิเลสในใจ
ซึ่งเรื่องต่างๆแล้วนี้ ต้องเป็นคนที่มีชีวิตอย่างคนปกติทั่วไป ไม่ติดเหล้าติดยา
แต่มาดูเรื่องของคุณ คุณต้องยอมรับนะครับว่า ยาเสพติดเป็นตัวการทำให้ใจไม่ปกติ
ทำให้จิตใจเกิดกิเลสต่างๆ เกิดความโลภ โกรธ หลง
แล้วคุณลองคิดดูว่า คุณทำพร้อมกันไปทั้งสองอย่าง มันจะเห็นผลอะไรครับ
ตอนเช้าไปทำบุญจิตใจสบายแล้ว พอตกตอนเย็นมานั่งกินเหล้าหรือเสพยาจิตเริ่มมีกิเลสอีกแล้ว
ผมถึงบอกในตอนแรกว่าให้เลิกยาเสียก่อน เป็นยาเสพติดเป็นตัวการหรือตัวเร่งเร้าให้เกิดกิเลส

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 19 ก.พ. 2011, 18:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เจ้าของกระทู้

les เขียน:
แสดงว่าต่อให้ทำบุญยังไงก็ไม่ขึ้นใช่มั้ย......ต้องให้เลิกยาก่อน อันที่จริงเค้าก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีกอย่างเค้าเสพเฉพาะเวลาทำงานหนัก...เท่านั้นและถ้าวันไหนไม่มีงานจะไม่เสพค่ะ เค้าหารายได้ของเค้าเองไม่พึ่งพาคนอื่นๆ
ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนอะไรแบบนั้นอ่ะ ค่ะ ถ้าจะเลิกคงจะยากค่ะ เวลาทำงานหนัก...จะไม่มีแรงถ้าไม่ได้รับยาที่เสพไปแต่ถ้าได้รับยาไปแล้วจะรู้สึกมีแรงทำงานได้ตลอดเวลาค่ะ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ....เค้าจะพยามเสพให้น้อยที่สุดเสพเฉพาะช่วงไปทำงานเท่านั้นกลับมาบ้านจะไม่เสพเพราะทราบดีถ้าเสพไปจะนอนไม่หลับค่ะ
อนุโมทนาค่ะ ที่ให้ทางสว่าง :b8: :b8: :b8:

ขอเพิ่มอีกหน่อยครับ ดูจากความเห็นของคุณเดาว่าอายุคงไม่เท่าไร เอาเป็นว่า
อยากบอกเพราะมีประสบการณ์ครับ
คุณน้องครับ คำพูดของน้องที่แสดงมามันเหมือนกับว่า เป็นตัวคุณน้องเอง ถ้าไม่ใช่ก็ขอโทษ
คุณน้องรู้หรือเปล่าครับ คนที่โกหกเก่งที่สุดในโลก ปากแข็งที่สุดในโลก เห็นแก่ตัวที่สุดในโลก
ก็คือคนติดยาครับ คุณน้องรู้หรือเปล่าครับ คำพูดที่คุณน้องบอกมา มันเป็นคำแก้ตัวของคนที่เสพยา
ทั่วไปครับ นี่เป็นเพียงแค่คำแก้ตัวพื้นๆเองนะครับ มันยังมีมากกว่านี้
จะว่าไปแล้วก็ต้องเห็นใจครับ เพราะที่เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะยา
ฉะนั้นผมว่า คุณอย่าเห็นดีเห็นงาม หรือว่านิดหน่อยไม่เป็นไร ทางที่ดีคุณไปหาทางให้เขาเลิก
เสียดีกว่า บางคนเสพมานานพ่อแม่ยังไม่รู้ มารู้อีกที่ตอนลูกนอนตายคาเข็ม ถึงจะเชื่อว่าลูกติดยา

ไอ้งานที่อ้างว่าหนัก ต้องเสพยาถึงทำได้ ผมว่าถ้าไม่เสพทำงานไม่ได้ก็ไม่ต้องทำหรอกครับ
ขอพูดแรงๆหน่อยครับ ยอมอดตายดีกว่า

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/