กิเลส 1,500 ตัณหา 108
กิเลส 1,498 เป็นลูก ตัณหา 108 เป็นหลาน
มี สักกายทิฐิ หรือ อัตตทิฐิ เป็น พ่อ มี วิจิกิจฉา เป็นแม่

กิเลสและตัณหาทั้งหมดนี้ทำให้เกิด ความทุกข์ เดือดร้อน ซ้ำซากไม่รู้จักจบแก่มนุษย์และสัตว์โลกทั้งหลาย ใคร ชีวิตใดอยากจะพ้นจากทุกข์นี้ไปได้ ต้อง ต่อสู้และกำจัด กิเลส ตัณหาให้หมดสิ้นไปจากจิตใจ

ผู้ที่จะชำระ กิเลส ตัณหา ให้หมดสิ้นไปจากจิตใจนั้น จะต้องใช้ สติ ปัญญา วิริยะ ความอดทน เป็นอย่างมากเพื่อต่อสู้ เอาชนะ การต่อสู้ก็ต้องสู้อย่างฉลาดเฉลียว

การไปตั้งหน้าสู้กับกิเลสทั้ง 1,500 ตัณหาทั้ง 108 พร้อมกันทีเดียวนั้น เปรียบเหมือนคนคนเดียว ไปต่อสู้กับคนเป็นสิบ เป็นร้อย ถ้าไม่เก่งจริงๆ คงต้องถูกรุมกินโต๊ะพ่ายแพ้ไป

คนฉลาดสู้กับกิเลสนั้น เขาจะสู้กับ พ่อ หรือแม่ของกิเลส ตัวเดียว เพราะธรรมชาติของกิเลสนั้น ถ้าฆ่าพ่อมันได้ แม่มันจะตายตามทันที ถ้าฆ่าแม่มันได้ พ่อของมันก็จะตายตามเหมือนกัน

หากฆ่า ทำลายพ่อแม่ของกิเลส คือ สักกายทิฐิ หรือ วิจิกิจฉาตายได้ ลูกทั้ง 1,498 หรือหลานทั้ง 108 ขาดผู้เลี้ยงดูก็จะพากันตายตามไปหมดทั้งรัง

ในครั้งพุทธกาลบรรดาอัครสาวก มหาสาวกทั้งหลาย ท่านได้อาศัยกำลังศรัทธา ความเชื่อถืออันแรงกล้า ต่อพระธรรมคำสอนอันวิเศษของพระพุทธเจ้า ทำลายแม่ของกิเลส ตัณหา คือ วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย ให้ตายขาดไปก่อนแล้ว สักกายทิฐิ ความเห็นผิด ยึดผิด ว่าเป็นอัตตา ตัวตน จึงตายตาม ได้บรรลุความเป็นโสดาบันกันโดยง่ายทันที

ในโลกยุคปัจจุบันนี้ ซึ่งยังคงมีเหลือแต่ ปกติสาวก อย่างเราๆ ท่านๆ ทั้งหลาย ผู้ที่จะมีสติ ปัญญา และศรัทธาอันแรงกล้าอย่างเช่นครั้งพุทธกาลนั้น หาได้ยาก

การจะเอาชนะกิเลส ตัณหา บรรลุธรรมได้นั้น ต้องใช้ สติ ปัญญา สมาธิ วิริยะ ขันติ สู้กับกิเลสตัวหัวหน้าใหญ่ หรือกิเลสตัวพ่อ คือ สักกายทิฐิ ความเห็นผิด ยึดผิด ว่าเป็นอัตตา ตัวตน ให้ชนะ จนฆ่าพ่อของกิเลสตัวนี้ตายได้ จึงจะได้พบเห็นพระนิพพาน

ดังนั้น ท่านใด บุคคลใด ที่ปารถนาจะทำพระนิพพานให้แจ้งทันในชาติปัจจุบันนี้ จง ใช้สติ ปัญญา สังเกต พิจารณาให้ดี สู้กับกิเลส ตัณหาให้ถูกที่ คือสู้กับอัตตา หรือ สักกายทิฐิ อันเป็นกิเลสตัวพ่อตรงๆ การปฏิบัติธรรม วิปัสสนาภาวนาจึงจะเป็นการที่ไม่ยุงยาก ไม่ลำบากซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ด้วยบัญญัติอันวิจิตร พิสดาร ที่แตกลูก ออกหลาน ขยายความกันมามากมาย จนแก่นแท้คำสอนแทบจะสูญหายไป ดังเช่นที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้

อันที่จริง คำสอนตรงๆจากพระโอษฐ์ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงแจกแจงวิธีการปฏิบัติ ภาวนา เพื่อจะพาตนให้พ้นทุกข์ วัฏสงสาร ไว้ถึง 21,00 วิธี ดังมีบันทึกไว้ในพระสูตร คนฉลาด พึงไปค้นคว้า ศึกษาให้ลึกซึ้ง ใน สูตรใด สูตรหนึ่ง หรือ คาถา พุทธอุทาน ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ตนชอบ และตรงกับจริต นิสัย วาสนา บารมี พื้นฐานความรู้ ความสามารถของตน แล้วลงมือปฏิบัติจริง ไม่ช้า ไม่นานเกินรอ ก็อาจสามารถ เอาชนะ กิเลส ตัณหา อัตตา พาตนเข้าถึง มรรค ผล นิพพาน ได้ ทันในปัจจุบันชาตินี้

ขอนำเอาคำสรุป วิธีสู้ กับพ่อ ของกิเลส คือ สักกายทิฐิ หรือ อัตตา ตรง ที่อาจารย์วิปัสสนาท่านหนึ่งสรุปไว้และสอนให้ลูกศิษย์ท่องจำจนขึ้นใจว่า

1.งานและหน้าที่ของชาวพุทธ

“ละความเห็นผิด ว่าเป็น อัตตา ตัวกู ของกู
พอกพูน ความเห็นถูกต้อง ว่าเป็น อนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ ตัวกู ของกู
ทุกวัน เวลา นาที วินาที ที่ระลึกได้ และมีโอกาส”

2.เมื่อเอาสติ ปัญญา เฝ้าดู รู้ สังเกต พิจารณาค้นคว้าเข้าไปในกายและจิต จนพบเห็น อุปาทานความเป็น กู เป็นเราแล้ว ให้ทำอย่างนี้

“ ใจปัญญา อย่ายอม ใจเป็นกู นิ่งดู นิ่งสังเกต พิจารณา
ด้วย วิริยะ อุตสาหะ ตบะ ขันติ มิยอมถอย
ถ้าสู้ได้ ทนได้ ไม่ตะบอย กูจะถอยหรือตายดับ ไปจากใจ”

กิเลสทั้งหมดมาจากร่างกายขันธ์5 ละร่างกายตัวเดียวกิเลศที่เหลือก็หมดไปง่ายดายรวดเร็ว
ศึกษาเพิ่มเติมที่ www.sangthipnipparn.com

ผมเคยได้ยินคำสรุปของพระอาจารย์ท่านหนึ่งว่า

รู้กายรู้ใจลงปัจจุบัน จนละความเห็นผิดว่ากายใจนี้เป็นเราได้ เป็นโสดาบันและสกิทาคามี

รู้กายรู้ใจลงปัจจุบัน จนละความยึดถือในกายได้ เป็นพระอนาคามี

รู้กายรู้ใจลงปัจจุบัน จนละความยึดถือในจิตได้ เป็นพระอรหันต์

สาธุจริงๆครับกับคำสอนอันย่นย่อเช่นนี้ แต่จะมีซักกี่คนที่เข้าใจ