ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ ไม่เคยทำสำเร็จสักที เฮ้อ....กลุ้ม
| ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
| ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=35291 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
| เจ้าของ: | คนรักธรรม [ 27 ต.ค. 2010, 09:11 ] |
| หัวข้อกระทู้: | ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ |
ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ ไม่เคยทำสำเร็จสักที เฮ้อ....กลุ้ม
|
|
| เจ้าของ: | จันทร์ ณ ฟ้า [ 27 ต.ค. 2010, 09:28 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ |
ยากจริงๆแหละ เมื่อวานก็เพิ่งแพ้ไปเหมือนกัน^^ ส่วนใหญ่ใจมีแต่จะคอยไหลลงต่ำ ก็กิเลสมันคอยบงการเรามากี่ภพชาติแล้ว ทำอะไรไปก็เป็นการทำตามที่มันสั่งทั้งนั้น ต้องสร้างเหตุให้ปัญญาเกิด แล้วให้ปัญญาจัดการ แต่ระหว่างที่ปัญญายังไม่เกิด ก็รักษาศีลไว้ก่อนนะ (บอกตัวเองด้วย สู้ๆ^^) |
|
| เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 27 ต.ค. 2010, 09:37 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ |
คนรักธรรม เขียน: ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ ไม่เคยทำสำเร็จสักที เฮ้อ....กลุ้ม   “รักษาใจ” ดีกว่ารักษาอะไรทั้งหมดในโลกชนะ (ใจ) ตนเพียงคนเดียว เสมือนชนะคนทั้งโลก 
|
|
| เจ้าของ: | คนรักธรรม [ 27 ต.ค. 2010, 10:14 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ |
นั้นดิทำไมต้องยอมใจอ่อนให้กิเลสทุกที่ทั้งๆที่ตั้งใจไว้แต่แรกว่าไม่ๆแล้วนะ
|
|
| เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 30 ต.ค. 2010, 02:55 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ |
ความดีทำได้ยาก ส่วนความชั่ว ถึงเราไม่ทำอะไรเลย ใจมันก็หาทางชั่วไปได้เอง โดยไม่ต้องมีใครสอน ไม่ต้องมีใครบังคับ มันสอนตัวเองให้ชั่วได้เอง พระพุทธเจ้าถึงทรงตรัสว่าใจมนุษย์เหมือนน้ำไหลจากที่สูง กล่าวคือมีธรรมชาติไหลลงต่ำตลอดเวลา อยากชนะใจตนเอง ต้องทำเหมือนคนจะเลิกบุหรี่ คือถ้าหวังจะเลิกให้ได้ เด็ดขาดวันนี้วันพรุ่ง หักดิบเอาดื้อ อันนี้จะเมีสักกี่คน ที่ทำได้ แต่ถ้าลดสูบ ลดวันละนิด ลดวันละหน่อย อันนี้ยังไงมันก็มีหวัง และไม่ลำบากมาก |
|
| เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 30 ต.ค. 2010, 10:21 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ |
| เจ้าของ: | เจโตวิมุติ [ 30 ต.ค. 2010, 11:14 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ |
 อันนี้มันต้องรู้จักทุกข์ที่จะเกิดขึ้น ด้วย กายวาจา ใจเสียก่อน อันเนื่องมาจากเหตุอกุศลที่จะทำ ไต่ตรองให้ดีให้มาก ก่อนลงมือทำ ว่าทำแล้วผลมันจะเกิดอะไรขึ้นแน่ละมันจะต้องดึงกันไปมา ระหว่างจิตมี่เป็นฝ่ายกุศล-กับฝายอกุศลในช่วงที่มันยังเอาชนะกันอยู่หาอุบายอื่นๆหลีกหนีออกจากเหตุได้ ก็ฝ่ายกุศลก็จะชนะอาจชนะ จิตที่เคยบาดเจ็บเพราะเหตุอกุศลเดิมๆมันก็จะจำได้ มันรู้รสชาติแห่งทุกข์ที่ตามมา แต่บางเรื่องเป็นอกุศลที่ยังไม่เคยทำ แต่ต้องประจันหน้ากับม้นในระยะกระชั้นชิด บางครั้งสติมันช้ากว่ากิเลส ไม่เคยได้รับทุกข์เพราะเหตุนี้ ก็อาจเสร็จได้เหมือนกัน.......เหมือนชายหนุ่มสักคน เดินทางไปปฏิบัติงานต่างจังหวัดทั้งที่มีภรรยาแล้ว พอเช็คอินเข้าโรงแรม เปิดห้องเข้าไป ปรากฏว่า พบหญิงสาวสวยระดับพริ๊ตตี้ นั่งอยู่บนเตียง สวยบาดใจถูกสเปคมากๆ เธอกล่าวสวัสดี และบอกว่าหนูคือของขวัญวันเกิด ที่เพื่อนรักชื่อนาย ก.ส่งมา โดยที่เขาจ่ายหมดแล้ว พี่ไม่ต้องจ่ายอะไรเลย อันนี้ เหตุการอย่างนี้ เป็นเหตุการที่ไม่เคยเกิดขึ้น เหมือนเจอเสือในที่แคบ จะสู้หรือจะหนี สติจะทันหรือไม่....เรื่องเอาชนะกิเลสจึงเป็นเรื่องอยาก โดยเฉพาะราคะ ซึ่งอย่าว่าแต่คนธรรมดาเลย เจ้ากูหลายองค์ต้องโบกมืออำลา อาชีพหากินบนผ้าเหลืองไปก็มาก .....แต่ก็ยังดีที่คิดอยู่ตลอดเวลาที่จะเอาชนะ คนในสังคมเราก็หลาบแบบแบ่งชัดๆไว้แค่4แบบแล้วกัน ....แบบแรก...ไม่ทำชั่ว เพราะจิตปราศจากกิเลส ละเหตุของการทำชั่วใดๆเสียแล้ว อันนี้เป็นอริยะบุคคล ....แบบที่สอง...คือไม่ทำชั่วทั้งปวงเพราะกลัวเกรงต่อบาป จึงหักห้ามใจไว้ได้ แบบนี้คือคนดีมีศีล ธรรม ในสังคมนี้ ....แบบที่สาม..คือบางครั้งก็ยังมีผิดพลาดบ้าง และก็แก้ไขกันไป เริ่มต้นกันใหม่ แต่ทุกครั้งที่ทำชั่ว รุ้สึก ได้ถึงความผิดพลาดที่ทำไป อันนี้เป็นบัวเหล่าที่3 ยังอบรมจิต อบรมใจกันได้ ....แบบสุดท้าย...คือพวกที่ยังทำชั่วอยู่เป็นปกติ โดยไม่รู่สึกว่าตัวเองได้ทำชั่ว และต้องแก้ไขบาง ครัง หรือส่วนมาก กับมีทิฐิที่ผิด ว่าตัวเองเก่ง ฉลาดที่โขมยเขาได้ เขาโง่กว่าเราจึง ถูกเรา โกง ...............คนพวกนี้เราเห็นบ่อยแต่ไม่สังเกตู ก็ลองสังเกตุดุได้ เช่นรถติดเป็นคอขวดคนอื่นเขาต่อคิวกันยาวเหยียด หมอนี่ออกซ้ายหรือขวาแซงไปที่คอขวดแล้วปาดเข้าเลย ในใจก็นึกกระหยิ่มว่า เรานี่ฉลาดไอ้พวกนี้มันโง่ให้มันต่อแถวกันไป อันนี้เป็นตัวอย่างเล็กๆของพวกทำชั้วไม่รู้ชั่ว คนพวกนี้ถ้ามันเป็นคนธรรมดาก็ดีไป แต่บังเอิญมันมีสติปัญญาและความสามรถทางโลกได้ได้เป็นใหญ่มีอำนาจมันอาจทำให้โลกทั้งโลกเกิดการวิบัติได้ เห็นกันไหมในเขมรมันฆ่าเป็นล้านมันสำนึกผิดไหม ซัดดำในอิรัก จนวันตายมันก็ยังยืนยันว่าที่มันฆ่าเป็นล้าน นี่ไม่ใช่ความผิดของมัน เรื่องปาดหน้าคนเคยทำท่าไม่รีบก็อย่าไปทำ คนอื่นเขาดี ไม่ใช่เขาโง่ แต่ถ้ารีบ ถ้าอึจะแตกแล้วก็ทำเถอะเพราะมันจำเป็นแล้ว .....เจโตวิมุติ |
|
| เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 30 ต.ค. 2010, 11:48 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ |
คนรักธรรม เขียน: ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ ไม่เคยทำสำเร็จสักที เฮ้อ....กลุ้ม จริงเสมอไปหรือเปล่าจ๊ะ...คนรักธรรม การชนะใจตนเองเล็กๆ น้อยๆ บางทีก็ไม่ได้สังเกตุน่ะ เช่น "ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ ไม่เคยสำเร็จสักที เฮ้อ....กลุ้ม" ผู้ที่เขียนประโยคแบบนี้ได้ ในความคิดความรู้สึกของผู้เขียนประโยคนี้ อย่างน้อยก็ชนะใจที่มีความอยากอย่างเหนียวแน่นที่จะยึดเอาความอยากยินดีพอใจบ้างแล้ว ...จริงไม๊เอ่ย เพียงแต่จะรบให้สำเร็จเบ็ดเสร็จยังไม่ได้เท่านั้นเอง ก็จงเอาความกลุ้มนี่แหละ...ไปเป็นเชื้อไฟ โหมฉันทะความพยายามให้แรงขึ้น อย่างนี้ก็ยังถือว่าเป็นการชนะใจตนเองอีกเช่นกัน ^ ^ ไม่เห็นว่า คนรักธรรมจะทำไม่สำเร็จสักที เลยแฮะ ^U* |
|
| เจ้าของ: | คนรักธรรม [ 30 ต.ค. 2010, 13:30 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ |
ขอบคุณทุกๆท่านเลยคับมีประโยชน์จริงๆกับข้อชี้แนะ ชอบคำชี้แนะของคุณเช่นนั้นตอบได้น่ารักดีคับ ทำให้มีไฟๆที่จะชนะความชั่วทั้งปวงน่ะแต่ขอเริ่มจากเล็กๆไปก่อนนะคับ 
|
|
| เจ้าของ: | Hanako [ 30 ต.ค. 2010, 17:20 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ชนะใจตัวเองมันช่างยากอะไรเช่นนี้ |
เราเองก็คิดว่า จะพยายามไปทุกๆวันแบบนี้เรื่อยๆค่ะ คอยระวังไปให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ตามกำลังสติปัญญา แต่ที่แน่ๆก็คือ ระวังให้อยู่ในศีล ๕ เข้าไว้ก่อนเป็นเบื้องต้นน่ะค่ะ เวลาจะปฏิบัติธรรมน่ะ มารเยอะเนาะ อิอิ เมื่อก่อนพอคิดว่า จะตั้งใจงดเว้นอันนั้นอันนี้ พอคิดแบบนี้เท่านั้น ใจมันฝืน ดิ้นรนทันทีเลย แต่เราก็เปลี่ยนวิธีคิดเป็นว่า เราจะเอาชนะตัวเองแค่ทีละวัน มารน้อยลงเยอะเลยจริงๆน้า มีกำลังใจด้วยอ่ะ รู้สึกเป้าหมายมันใกล้มากๆๆ เอาใจช่วยค่ะ สู้ๆนะ |
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|
