วันเวลาปัจจุบัน 16 พ.ค. 2025, 07:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2010, 01:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงเอาไว้ถึง 84000 พระธรรมขันธ์นั้นก็เป็นเพราะจริตของมนุษย์ทุกคนแตกต่างกัน เพราะการที่จะบรรลุธรรมได้นั้นต้องอาศัยธรรมที่ตรงกับจริตของแต่ละคน ซึ่งผมก็อยากจะรู้ว่าธรรมอันใดที่ท่านฟังแล้วเกิดความรู้แจ้งในจิต(ไม่ใช่รู้แคความหมาย) เช่นมีคน 2 คนเห็นเงินจำนวนมากวางอยู่ คนที่ 1 เป็นคนที่มีโลภะ(ความโลภ)มาก แต่ไม่หยิบเพราะกลัวบาป ส่วนคนที่ 2 ก็ไม่หยิบเพราะมีความโลภน้อยกว่าคนที่ 1 จิตจึงไม่คิดจะเอาเพราะไม่ได้แค่กลัวบาป แต่เพราะไม่อยากได้ของผู้อื่น เพราะฉะนั้นคนที่ 1 ทำกรรมแค่มโนกรรมเท่านั้น ส่วนคนที่ 2 ไม่มีมโนกรรมเลยเพราะมีจิตที่ละความโลภได้มากว่าคนที่ 1 นั่นเองครับ ฉะนั้นคนที่ 1 ยังไม่สามารถรู้ธรรมเห็นแจ้งในจิตอยู่ แต่คนที่ 2 มีธรรมรู้แจ้งในจิตแล้ว ก็เป็นที่มาของคำถามว่า ท่านคิดว่าธรรมะใดที่ท่านได้สดับรับฟังมาจากหลายๆที่นั้นคือธรรมอันใดหรือ ได้โปรดแสดงธรรมที่ท่านได้รู้มาด้วยเถิด และอีกคำถามนึง ท่านชอบให้ใครแสดงธรรมให้ท่านฟัง(ไม่ได้หมายถึงพระสงฆ์เท่านั้น ฆราวาสก็ได้) :b6: :b6: :b6:
ส่วนของผมนั้นธรรมที่ผมชอบมากก็คือ "สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด" "เราทุกคนมีความตายเป็นเบื้องหน้า" "สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม" พอได้ฟังทีไรสติเป็นต้องเกิดขึ้นมาทุกที (ความรู้ตัวตื่นอยู่ในขณะปัจจุบัน) ส่วนชอบฟังใครนั้นถ้าฝ่ายพระสงฆ์ก็มี ท่าน ว.วชิรเมธี , พระสุนทรธรรมภาณ(พระอาจารย์สมชาติ ธมมฺโชโต) , พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล , พระอาจารย์ชานนท์ ชยนนฺโท ฝ่ายฆราวาสก็คุณดังตฤณ , อารจารย์บรรจบ บรรณรุจิ
นึดนึง ขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า ก่อนปีใหม่นี้ผมจะแจกซีดีในระบบMP3 ชุด "ธรรมะสบายใจ ชุดที่1"
บทประพันธ์โดยปิยโสภณ (พระศรีญาณโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก)อ่านบรรยายโดย ไพร ดวงดาว พร้อมดนตรีประกอบทุกเนื้อหาที่มีในแผ่น และแถมท้ายด้วยเพลงบทสวดมนต์ทำวัตรเช้า,เย็นด้วยท้ายแผ่น เพื่อเป็นของขวัญวันปีใหม่ครับ มีแค่ 100 แผ่นเท่านั้นเพราะงบมีน้อยแต่อยากแจกเป็นธรรมทานเพราะผมได้ฟังมาแล้วก็เลยอยากจะแบ่งให้คนอื่นได้ฟังบ้าง ฟังแล้วความรู้สึกเหมือนกับชื่อชุดเลย คือ ธรรมะสบายใจ เพราะพอได้ฟังแล้วสบายใจจริงๆ แต่จะสบายจริงหรือไม่นั้นบอกได้คำเดียวว่า "ต้องฟัง" เท่านั้น (ปัจจัตตัง)เอาไว้ถ้าแจกได้เมื่อไหร่ก็จะมาโพสต์เอาไว้ที่กระทู้ "ธรรมทาน"ครับ แต่ผมจะแจกตามลำดับนะครับใครโพสต์ก่อนก็ได้ก่อน ถ้าโพสต์เกิน 100 ท่านก็จะดูงบก่อนนะครับว่าจะแจกต่อได้หรือเปล่าหรือถ้าได้ได้กี่ชุดครับ

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2010, 01:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


สำหรับผมนั้น เมื่อออกนอกบ้านไปกินข้าวตามร้านอาหารแล้วมองคนกินข้าว การกินอาหารของคนเรานั้นสร้างความรู้สึกว่า การกินอาหารเพื่อความอยู่รอดเป็นทุกข์ที่ใหญ่หลวงอันหนึ่ง รู้สึกเห็นสัจธรรมที่เด่นชัดเกิดความสังเวทใจ

ส่วนการแสดงธรรมหรือ วาจาของพระพุทธเจ้านั้นชอบทั้งหมด หรือคำพูดของพระอนุพุทธะก็กินใจ ถ้าปัจจุบันก็มีคำพูดหรือเขียนที่กินใจทั้งจากหนังสือทั่วไป หรือในบอร์ดนี้ก็เยอะ

ถ้าจะยกตัวอย่างก็มี "ในที่ใดไม่มีความสงบ ที่นั้นไม่ชื่อว่าสภา คนเหล่าใดพูดไม่เป็นธรรม คนเหล่านั้นไม่ชื่อว่าสัตบุรุษ"

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2010, 09:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กระผมเป็นคนขี้เกียจ...แต่ถูกปังคับให้เรียน..ไม่เรียนก็ไม่ได้..พ่อแม่ไม่ได้เป็นเศรษฐี..จะได้มีเงินทองโดยไม่ต้องทำอะไร..จึงต้องเรียนเพราะจำใจ..และต้องเรียนให้ดีด้วย..เดียวไม่มีงานทำ..เรียกว่าสะสมความคับอกคับใจมายาวนาน...

และแล้ว..วันหนึ่ง..ได้อ่านหนังสือหลวงพ่อองค์หนึ่ง..ความคิดก็ถูกปฏิวัติ..อย่างสิ้นเชิง..ความคิดของเด็ก ๆ :b17: :b17:

(หนังสือ)ท่านว่า..เราทุกข์เพราะมีกาย :b6:
เราคิด.....มีกายจึงต้องกิน..ต้องกินจึงต้องทำงาน..ต้องทำงานจึงต้องเรียน..อ่อ..เพราะมีกายนี้เองเราจึงต้องเรียน...แต่เอ๋..เป็นเทวดาก็น่าจะได้นะ :b12:

(หนังสือ)ท่านว่าต่อ...เป็นเทวดาก็ดีแต่ก็สุขได้ไม่นาน :b7:
เราคิด..อ้าว..สุขแป๊บ ๆ ไม่เอาหรอก..เป็นพรหมก็ได้ :b12:

(หนังสือ)ท่านว่าต่อ..เป็นพรหมสุขได้นานแต่ก็มีวันหมด :b7:
เราคิด...อ้าว..มียังงี้ด้วยรึ..แล้วเป็นอะไรละ?? :b6: :b6:

(หนังสือ)ท่านว่า...นิพพานัง..ปรมัง..สุขัง..นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง :b12:
เราคิด...อ่อ..ที่จะทำให้ไม่กลับมามีกายอีกเลย..คือนิพพานรึ..แล้วทำยังงัย??? :b10:

(หนังสือ)ท่านว่า..ตัดสังโยชน์ 10
เราคิด...แค่ 10 อย่างเอง..ไม่มากเลยนี้.. :b4:
(สันดานคนขี้เกียจมันชอบอะไรน้อย ๆ :b32: )
(อาจารย์นี้ก็ชังหลอกล่อดีแท้ ๆ :b13: )
(เอาเข้าจริง..ข้อแรกก็เหมือนวิ่งชนกำแพงแล้ว :b34: )

สุดท้าย...ความคิดเห็นเรื่องจริต
คนเรานี้นะมันแปลก..คนที่เราเคารพรักชอบพอนี้นะ..พูดอะไรก็ดูว่าจะใช่ไปทั้งหมด...แต่กับคนที่ไม่ชอบหน้านี้..ต่อให้พูดเหมือนกัน..ยังไม่เอาเลย

พอมันเกิดมาอีก...ความรักใคร่ชอบพอมันยังติดมา..ฟังอีกก็ชอบอีก..บางคนแค่เห็นหน้าก็ชอบแล้ว..แล้วเกิดหลาย ๆ ครั้ง..ก็พัวพันเป็นสายบุญสายกรรมกันไป..(แต่ไม่ใช่จะมีสายเดียวนะ)..

แล้วลูกศิกษ์สำนักเดียวกัน..ความชอบย่อย ๆ ของแต่ละคนก็อาจไม่เหมือนกันอีก..บางคนจับลมแล้วง่าย..บางคนพุทโธแล้วง่าย..บางคนยุบพองแล้วง่าย..บางคนเดินแล้วง่าย..คนเป็นอาจารย์เขาก็ต้องเอาพวกนี้อยู่หมัดทั้งหมดนั้นแหละ..

ทีนี้..หากคนสอนเราหมดกิเลสแล้ว..ก็โชคดีของคนฟังแล้วเชื่อไป..จะได้กลเม็ดเด็ดพรายของคนจริงใช้ได้จริง..ไปด้วย..ครูบาอาจารย์จึงสำคัญตรงนี้..นี้ยังเรียกว่าครูเล็ก...แต่ครูใหญ่ครอบเราชาวพุทธกันอยู่แล้ว..องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าครูใหญ่ของเราทุกคน

เรามีครูใหญ่..ก็เหมือนมีชัยไปกว่าครึ่งแล้วละครับ :b12: :b12:
ที่เหลือ..ทำกันเอาเองเน้อ.. :b4: :b4:
..


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 17 ต.ค. 2010, 09:39, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2010, 14:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หัสพล พวงแก้ว เขียน:
ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงเอาไว้ถึง 84000 พระธรรมขันธ์นั้นก็เป็นเพราะจริตของมนุษย์ทุกคนแตกต่างกัน เพราะการที่จะบรรลุธรรมได้นั้นต้องอาศัยธรรมที่ตรงกับจริตของแต่ละคน ซึ่งผมก็อยากจะรู้ว่าธรรมอันใดที่ท่านฟังแล้วเกิดความรู้แจ้งในจิต(ไม่ใช่รู้แคความหมาย) ....

ท่านคิดว่าธรรมะใดที่ท่านได้สดับรับฟังมาจากหลายๆที่นั้นคือธรรมอันใดหรือ ได้โปรดแสดงธรรมที่ท่านได้รู้มาด้วยเถิด และอีกคำถามนึง ท่านชอบให้ใครแสดงธรรมให้ท่านฟัง(ไม่ได้หมายถึงพระสงฆ์เท่านั้น ฆราวาสก็ได้) :b6: :b6: :b6:


ถึงขนาดรู้แจ้งในจิตเลยหรือ... :b9: :b9:

ตอบยากมากเลย...เพราะ...ธรรมเป็นประหนึ่ง
เชือก - ที่ให้เรายึดและฉุดตัวเองขึ้นจาก ... วิกฤตชีวิต
ประตู - ที่เปิดจากที่อยู่อาศัยเดิม ไปสู่ ที่อยู่อาศัยใหม่ ...
รถราง - ที่นำพาเราชมสภาพแวดล้อมไปรอบ ๆ เมือง ...
บันใด - ที่นำพาเราขึ้นไป... ให้เห็นโลกในมุมที่สูงขึ้น ...
ชั้นวางสัมภาระ - ที่ ๆ เราจะวางทุกสิ่งทุกอย่างลง...
และ
เตียงนอน - หลับตาลง...เข้าสู่การพักผ่อน ผ่อนคลายตัวเราจากการเดินทางอันเหน็ดเหนื่อย
มานานแสนนาน...

:b16:

ธรรมที่รู้แจ้งในจิต สำหรับแต่ละคน ... อย่างเช่น ...
ผู้ที่ท่องบทว่าด้วยเมตตา จะไม่รู้ความนัยแห่งเมตตาได้ลึกซึ้งเท่าผู้ที่กำลังเพียรอยู่บนวิถีแห่งการไม่เบียดเบียน และ การให้อภัย...
ดังนั้น ผู้ที่กำลังถูกท้าทายด้วย วิกฤตอันเนื่องด้วยโทสะ พยาบาท
ขอให้เข้าใจว่า ... สิ่งที่รออยู่ปลายธรรม ก็คือการบรรลุคุณธรรมอันว่าด้วยพรหมวิหาร 4

ผู้ที่ท่องบทว่าด้วยพรหมวิหาร 4 อาจมิใช่เป็นผู้ถึงซึ่งพรหมวิหาร 4 ได้
แต่ผู้ที่ข้ามผ่านภัยแห่งการเบียดเบียน จองเวร พยาบาทได้ นั่นคือผู้ถึงซึ่ง พรหมวิหาร 4

ผู้เห็นแจ้งในธรรม คือผู้บรรลุ
ผู้บรรลุ มิใช่ ผู้รู้ในอรรถแห่งธรรม
แต่คือผู้มีความประพฤติ ทั้งกาย วาจา ใจล่วงแล้วจากบ่วงภัย...(เหตุอันเกี่ยวเนื่อง)
เพราะล่วงแล้ว...จึงถึงซึ่งธรรม... ก็ประหนึ่ง
ผู้ไม่ย่อท้อต่อหนทาง...ย่อมถึงซึ่งที่ตั้งแห่งธงชัย...
...

ดังนั้น...ในชีวิตเอกอน...เจอวิกฤตมามากมาย...
ทุกธรรม...ล้วนสำคัญต่อจิตใจเราทั้งหมดทั้งสิ้น...ขาดแม้เพียงธรรมใดธรรมหนึ่ง
ก็มิอาจจะมีวันเช่นนี้สำหรับเราได้...
ดังนั้น "ธรรมทุกบท...ล้วนรวมลงสู่ใจ"...

:b16: :b16: :b16:


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 17 ต.ค. 2010, 14:24, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2010, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หัสพล พวงแก้ว เขียน:
ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงเอาไว้ถึง 84000 พระธรรมขันธ์นั้นก็เป็นเพราะจริตของมนุษย์ทุกคนแตกต่างกัน เพราะการที่จะบรรลุธรรมได้นั้นต้องอาศัยธรรมที่ตรงกับจริตของแต่ละคน ซึ่งผมก็อยากจะรู้ว่าธรรมอันใดที่ท่านฟังแล้วเกิดความรู้แจ้งในจิต(ไม่ใช่รู้แคความหมาย) ....

ท่านคิดว่าธรรมะใดที่ท่านได้สดับรับฟังมาจากหลายๆที่นั้นคือธรรมอันใดหรือ ได้โปรดแสดงธรรมที่ท่านได้รู้มาด้วยเถิด และอีกคำถามนึง ท่านชอบให้ใครแสดงธรรมให้ท่านฟัง(ไม่ได้หมายถึงพระสงฆ์เท่านั้น ฆราวาสก็ได้) :b6: :b6: :b6:


อ๊ะ...ลืมตอบอีกคำถาม...

ขันธ์ทั้ง 5 ร่วมกัน ประสานกัน แสดงธรรมให้เรารู้ ให้เราเห็น...
เพราะ...
เป็น...ธรรมบทอันผู้ใดมีโอกาสได้สำเนียกแล้ว...
ย่อมรู้ชัดแจ้ง ตรงประเด็น ตรงใจ
บ่งหนามที่ทิ่มแทงจิตใจ ได้ถูกที่ ถูกเวลา มิคลาดเคลื่อนไปจากสัจจะเลย
ประหนึ่ง...ได้ฟังธรรมนั้นจากพระโอษฐ์...

:b8: :b8: :b8:

:b12: :b13: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2010, 15:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ต.ค. 2010, 17:16
โพสต์: 177

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอตอบ ธรรมที่แจ้งในจิต(ตอบแบบผู้มีความรู้เท่าหางอึ่ง นะคะ ) ว่าอนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา(กฏไตรลักษณ์) เพราะสิ่งที่จิตจะรู้ จะเห็น ก็แค่สามอย่างนี้เท่านั้นคะ คิดว่าทุกคนที่ศึกษาธรรมย่อมเห็นและรู้ด้วยจิตเองได้ เลยทำให้กิเลสที่มีเบาบางลง แม้จะไม่หลุดพ้นก็ตาม

และอีกคำถามนึง ท่านชอบให้ใครแสดงธรรมให้ท่านฟัง(ไม่ได้หมายถึงพระสงฆ์เท่านั้น ฆราวาสก็ได้ คำตอบคือผู้มีปัญญาเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานคะ :b34:(กำปั้นทุบดินเลยนะเนี่ยะ) ผู้เจริญในธรรมแม้ยังไม่หลุดพ้น ก็จะเป็นผู้รู้(มากน้อยแล้วแต่บุคคล) ผู้ตื่น(ตื่นจากกิเลสมากน้อยแล้วแต่บุคคล) ผู้เบิกบาน(เบิกบานได้ด้วยปัญญาของตัวเอง) :b42:

รอฟังคำตอบอยู่คะ ท่าน


แก้ไขล่าสุดโดย ploypet เมื่อ 19 ต.ค. 2010, 13:06, แก้ไขแล้ว 5 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ต.ค. 2010, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


zผมอ่านแล้วไม่เหนจะกำปั้นทุบดินตรงไหนเลย จะเรียกว่า อิสระทางความคิดชาวพุทธ จะดีกว่า
อ้างคำพูด:
ว่าอนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา(กฏไตรลักษณ์) เพราะสิ่งที่จิตจะรู้ จะเห็น ก็แค่สามอย่างนี้เท่านั้นคะ
กฏสามข้อที่ว่า...ต้องทำให้ได้บ่อยๆ เพราะเปนการปูทางไปสู่มรรค8 ผู้ที่เจริญในมรรค
8 ข้อเท่านั้นถึงจะเหนถึงการดับทุกข์ เพราะมรรค8 เป็นหนทางการดับทุกข์ และไตรลักษณ์ยังเปน
สิ่งที่เกิดขึ้นจากการทำวิปัสสนาญาณให้แจ้ง :b41:

สิ่งที่ฟังแล้วให้เกิดความรู้แจ้งภายในเท่าที่ฟังมามี2 อย่าง ไม่นับเอาละอวิชชานะ ก้คือการละความกำหนัดในกามคุณ5 และ ความไม่ยึดมั่นถือมั่นในตน ในของของตน และความเปนตัวตนของตน :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ต.ค. 2010, 20:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 09:39
โพสต์: 219

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชอบ อริยสัจจ์ กับ ปฏิจจสมุปบาท ฟังแล้วลึกซึ้งกินใจ

ส่วนธรรมที่รู้ และระลึกไว้เสมอ อันนี้ครับ :b9:
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งเราแล้ว เราขอเตือนพวกเธอทั้งหลายให้จำมั่นไว้ว่า
สิ่งทั้งปวงมีเสื่อมและสิ้นไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด ”

ขอบคุณครับ

.....................................................
.................................................ธ ทรงครองแผ่นดินโดยทศพิธราชธรรม
........................................................พระปฐมบรมราชโองการว่า
.......................“ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม “

........................ขอพ่อเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญ มีพระชนย์มายุ ยิ่งยืนนาน พระพุทธเจ้าข้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2010, 23:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 21:59
โพสต์: 234

สิ่งที่ชื่นชอบ: ในตัวเอง
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บทธรรมที่ทำให้รู้แจ้งในจิต ตอนนี้ก็ยังสงสัยอยู่ ว่าเมื่อไรจะมาให้รู้สักที

:b30: :b30: :b30:


แก้ไขล่าสุดโดย จางบาง เมื่อ 23 ต.ค. 2010, 00:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร