ถ้าซีดีนั้นคุณซื้อมาโดยถูกกฎหมาย

นายปรีชา กันธิยะ เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสถานประกอบการทั้งประเภทร้านเกม คาราโอเกะและร้านขายวีซีดี ดีวีดีในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่าขณะนี้ มีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ทำผิดกฎหมายใน ๒ ลักษณะ คือ

๑. เปิดร้านให้เช่า หรือขายเทป/วัสดุโทรทัศน์ (ได้แก่ วีดีโอเกม เลเซอร์ดิสก์ ดีวีดี วีซีดี ซีดีรอมที่มีภาพ) รวมถึงการเปิดร้านบริการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ เกมหยอดเหรียญ เกมเพลย์สเตชั่น และคาราโอเกะทั้งในบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ ฯลฯ โดยไม่ได้มาขอใบอนุญาต

๒.นำวีซีดี ดีวีดีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาจำหน่าย โดยไม่ผ่านการเซ็นเซอร์

ทั้งสองกรณีนี้ เป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.๒๕๓๐ มีโทษจำคุกและปรับ หรือทั้งปรับทั้งจำแล้วแต่กรณี เช่น เปิดร้านขายวีซีดี ดีวีดี ไม่ว่าจะขายในบ้าน ร้านค้า แผงลอย บูทในห้างสรรพสินค้า ฯลฯ โดยไม่มีใบอนุญาต หรือขายเทปที่ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒ หมื่นบาท หรือทั้งปรับทั้งจำ เป็นต้น

ดังนั้น จึงขอแจ้งให้ผู้ประกอบการที่กระทำความผิดโดยไม่ทราบหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ทราบและไปดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบกิจการให้เรียบร้อย โดยเฉพาะผู้ที่นำดีวีดี วีซีดีจากต่างประเทศ จะต้องนำต้นฉบับที่ได้รับลิขสิทธิ์แล้วมาผ่านการตรวจพิจารณา (เซ็นเซอร์) มิฉะนั้น จะมีความผิดทั้งตามพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวและกฎหมายลิขสิทธิ์

กรณีเราทำแผ่นขึ้นมาเอง ถ่ายเอง ทำปกเอง ทำเองทุกอย่าง ไม่ได้ก็อป*เรื่องราวของใครมา
แล้วเราไปวางขาย เฉยๆ ไม่ได้ไปขออนุญาติ อะไรที่ไหน

ผิดกฏหมายหรือไม่ครับ ข้อนี้

เปิดร้านขายวีซีดี ดีวีดี ไม่ว่าจะขายในบ้าน ร้านค้า แผงลอย บูทในห้างสรรพสินค้า ฯลฯ โดยไม่มีใบอนุญาต

หรือขายเทปที่ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒ หมื่นบาท หรือทั้งปรับทั้งจำ

รอให้คุณ BludwigZ เมตตา มาให้ความเห็นเพิ่มเติม ก็ดีค่ะ

(๑) วิจัยหรือศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น
(๒) ใช้เพื่อประโยชน์ของเจ้าของสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น
(๓) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น
(๔) เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น
(๕) ทำสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในจำนวนที่สมควรโดยบุคคลผู้ซึ่งได้ซื้อหรือได้รับโปรแกรมนั้นมาจากบุคคลอื่นโดยถูกต้อง เพื่อเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในการบำรุงรักษาหรือป้องกันการสูญหาย
(๖) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย หรือในการรายงานผลการพิจารณาดังกล่าว
(๗) นำโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ
(๘) ดัดแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในกรณีที่จำเป็นแก่การใช้
(๙) จัดทำสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเก็บรักษาไว้สำหรับการอ้างอิง หรือค้นคว้าเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน

-กรณี เรารับชมรายการจากโทรทัศน์ แล้วเราอัดเก็บไว้ ไปจำหน่ายต่อ
กรณีนี้ เราผิดกฏหมายหรือไม่

ผิดค่ะ เพราะรายการโทรทัศน์ เราไม่ได้สิทธิ์ในการเผยแพร่ต่อ เรามีิสิทธิ์เพียงแ่ค่ชมเท่านั้น
(ผิด กรณีที่ทำซ้ำหรือดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาติ)