น่าคิดว่า ถ้าคนเราไม่มีหิริโอตตัปปะ คือ ความละอายและความเกรงกลัวต่อบาปเอาเสียเลย โลกและชีวิตของเราจะเป็นอย่างไรบ้าง
ความละอายต่อบาปก็ได้แก่ เห็นว่าบาปอันคือ ความผิดความชั่วนั้น ถ้าทำแล้วก็น่าละอาย คนอย่างเราไม่ควรทำบาปที่น่าละอายนั้น
ความเกรงกลัวต่อบาปก็ได้แก่ กลัวผลของบาปที่จะตามมา เช่น ตกนรก หรือถูกจับผิดติดคุก เป็นต้น
หิริและโอตตัปปะ คือ ธรรมที่คุ้มครองโลก คนเราล้วนคิดดีคิดชั่วด้วยกันทั้งนั้น ถ้าคิดชั่วแล้วทำชั่วอย่างที่คิด ก็จะเกิดการวิววาทบาดหมางกัน การทำร้ายกันอย่างไม่มีวันจบสิ้น แต่เมื่อคนมีความละอายที่จะไม่ทำบาปนั้น ก็ไม่ได้ทำร้ายกันหรือคนไม่ละอาย แต่กลัวผลของบาปที่จะตามมา ก็ไม่กล้าทำบาป เช่นนี้คนก็ไม่ได้ทำร้ายกันอีก
ไม่มีใครที่ไหนจะสามารถเฝ้ามองเราได้ตลอดเวลา คนที่เห็นว่าไม่มีใครจะมารู้กรรมชั่วของตนได้ ก็อาจคิดทำชั่ว เช่น ที่ว่านั้น แต่เมื่อคำนึงถึงผลที่จะตามมาอันให้ทุกข์โทษแก่ตน ไม่ว่าจะกลัวการตกนรกหมกไหม้ กลัวว่าจะถูกจับได้ในท้ายที่สุด เช่นนี้คนจึงไม่กล้าทำชั่ว จึงกล่าวได้ว่า ตนจึงควรเตือนตนเองเสมอให้มีหิริและโอตตัปปะ เพราะเมื่อตนมีหิริและโอตตัปปะแล้ว ตนก็จะรักษาตนไม่ให้ทำชั่ว เพื่อไม่ให้ได้รับผลที่ชั่วได้
ความชั่วย่อมให้ผลที่ชั่วเสมอ ถ้าเพียงเรามีหิริโอตตัปปะในอันที่จะไม่ทำชั่วเช่นที่ว่านั้น เราย่อมมีความสุข ปราศจากทุกข์อย่างแน่นอน
หิริโอตฺตปฺปิยณฺเญว โลกํ ปาเลติ สาธุกํ
หิริและโอตตัปปะ ย่อมรักษาโลกไว้เป็นอันดี
ที่มา :: ถ้าไม่มีชาติหน้าให้แก้ตัว
พิทักษ์ ไทรงาม
| ไฟล์แนป: |
|
.jpg [ 36.54 KiB | เปิดดู 3136 ครั้ง ] |