| ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ | |
| "เจ้ากรรมนายเวร" http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=34156 | หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | 
| เจ้าของ: | ตรี แก้วเกิด [ 28 ส.ค. 2010, 11:44 ] | 
| หัวข้อกระทู้: | "เจ้ากรรมนายเวร" | 
| เรียนอาจารย์ดร.สนอง วรอุไร อยากจะเรียนถามอาจารย์ว่าการที่คนเราป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนาน 1 เดือน โดยที่หมอไม่สามารถจะวินิจฉัยอาการได้ว่าเป็นโรคอะไร ในตอนช่วงเวลากลางวันกลับไม่มีอาการใดๆเลย แต่พอตกช่วงเวลากลางคืนกลับมีไข้ขึ้นสูง เป็นอย่างนี้อยู่ทุกคืน พอหมอบอกว่าให้กลับบ้านได้ อาการกลับทรุดหนักลงไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่พออีกวันหนึ่งอาการกลับดีขึ้น อยากเรียนถามอาจารย์ว่าเหตูลักษระแบบนี้เกี่ยวข้องกับเจ้ากรรมนายเวรของตนเองหรือไม่ | |
| เจ้าของ: | นายฏีกาน้อย [ 28 ส.ค. 2010, 13:00 ] | 
| หัวข้อกระทู้: | Re: "เจ้ากรรมนายเวร" | 
| มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา      มโนเสฏฺฺฐา มโนมยา มนสา เจ ปทุฏเฐน ภาสติ วา กโรติ วา ตโต นํ ทุกฺขมนฺเวติ จกฺกํ ว วหโต ปทํ เหตุและผล กฏแห่งกรรม ในโลก สุขหรือโศก กายจิต เกิดจากใจ เป็นลูกน้อง เป็นหัวหน้า นำพาไป แล้วอาศัย สุขทุกข์ รับผลกรรม     การทำร้าย ทำลาย ถึงชีวิต กรรมลิขิต หยิบผล ยุติธรรม ทั้งคุณโทษ จ่ายสิ้น ไม่หลอกอำ คืนทุกคำ จำเลยโจทย์ เ่ท่าเทียม     ใส่บาตรพระ ให้ข้าวน้ำ มอบชีวิต น้อมอุทิศ ผ้าไตร ให้เต็มเปรียม บำบัดหนาว ร้อนเย็น อันยอดเยี่ยม ให้ตระเตรียม ทานศีล ภาวนา     ให้แจกจ่าย เติมเต็ม ให้คนเจ็บ อย่าไปเก็บ จิตหลง งงมายา สลัดทิ้ง ร้อนหนาว ไม่ห่วงหา เอาธรรมมา ยึดเหนี่ยว เหนื่อสิ่งใด     ตั้งสติ หมั่นสร้าง ทางกุศล ช่วยเหลือคน บ่นทุกข์ สุขยากไร้ แล้วรอรับ อายุยิ่ง ผิวผ่องใส(อายุ วรรโณ) สุขกว่าใคร พลังใจ จะกลับมา(สุขขัง พลัง)              ธรรมบรรยาย โดย ดร. สนอง วรอุไร http://www.kanlayanatam.com/voice/voice.htm http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jummaip&month=01-2008&date=26&group=9&gblog=537 | |
| เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 28 ส.ค. 2010, 15:47 ] | 
| หัวข้อกระทู้: | Re: "เจ้ากรรมนายเวร" | 
| อ้างคำพูด: เจ้ากรรมนายเวรของตนเองหรือไม่ จะเรียกว่าเป็นหรือไม่เป็นก้ได้นะคับ จะด่วนสรุปคงจะไม่ได้ ต้องอาศัยหลักเหตุและผลมาประกอบ เป็นปัจจัยให้เกิดขึ้นด้วย จะร้ว่าเปนเพราะเจ้าเวรนายกรรมมาทวงหนี้ที่ค้างไว้นั้น คนที่ร้ได้ต้อง ปฏิบัติกรรมฐานได้และเกิดตาทิพยเหนในสิ่งที่เร้นลับหรือเหนเปนนิมิตรในสมาธิเมื่อจิตเป้นสมาธิ ระดับหนึ่ง ดังนั้นการทำกรรมฐานช่วยให้โรคที่เป้นอยู่หายได้โดยอาศัยกำลังใจจากสมาธิและความ ไม่กลัวตายคือความอดทนเปนแรงขับให้จิตอยู่ในอำนาจกุศล เมื่อจิตเกิดกุศลเต้มที่เอาตรงส่วนนี้ แผ่ออกไปไม่มีประมาณรวมถึงให้เจ้ากรรมนายเวรที่คนชอบเรียกกัน แผ่ให้เขาด้วย ตอนนั้นโรคภัย ที่เป็นอยู่จะหายได้ ก้ได้จากจิตทีมีพลังกุศลอันเกิดจากสมาธิช่วยๆผู้นั้นไว้     | |
| เจ้าของ: | -dd- [ 30 ส.ค. 2010, 13:56 ] | 
| หัวข้อกระทู้: | Re: "เจ้ากรรมนายเวร" | 
| ตรี แก้วเกิด: อ้างคำพูด: การที่คนเราป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนาน 1 เดือน โดยที่หมอไม่สามารถจะวินิจฉัยอาการได้ว่าเป็นโรคอะไร ในตอนช่วงเวลากลางวันกลับไม่มีอาการใดๆเลย แต่พอตกช่วงเวลากลางคืนกลับมีไข้ขึ้นสูง เป็นอย่างนี้อยู่ทุกคืน พอหมอบอกว่าให้กลับบ้านได้ อาการกลับทรุดหนักลงไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่พออีกวันหนึ่งอาการกลับดีขึ้น อยากเรียนถามอาจารย์ว่าเหตูลักษระแบบนี้เกี่ยวข้องกับเจ้ากรรมนายเวรของตน เองหรือไม่ ขออนุญาตออกความเห็นเพิ่มจากท่านผู้รู้ที่ตอบข้างบนดังนี้.. คำว่าเจ้ากรรมนายเวรนั้น ไม่มีในพระพุทธศาสนาแต่ประการใด มีแต่คำว่า"คู่เวร"..อย่างในกรณีพระเทวทัตเป็น"คู่เวร"ของพระพุทธเจ้า.. ..หากพระพุทธเจ้าทรงยังมีพระชนม์ชีพอยู่ก็คงไม่สรรเสริญให้ชนทั้งหลายหวาดวิตกเรื่อง"เจ้ากรรมนายเวร"จนกลายเป็น talk of the countryอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจนเรียกได้ว่าเป็นความคิดติดสมองทุกหย่อมหญ้า น่าจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีความเชื่อเรื่องเจ้ากรรมฯอย่างหนาแน่น..    จนน่าประหลาดใจในคุณภาพและคุณสมบัติของการเป็น"ชาวพุทธ"ในประเทศนี้.. พระพุทธเจ้า ท่านทรงสอนเป็นอันมากว่า"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน"ความข้อนี้ย่อมชัดเจนอยู่แล้วในผู้ที่สามารถเข้าใจภาษาไทยได้ เมื่อสัตว์มีกรรมเป็นของตน ควรหรือที่เราจะตระเวณหา"เจ้ากรรมฯ"ที่ใหนๆ ? หรือเข้าใจว่าความเดือดร้อนประดามีของใครๆ เกิดจาก"เจ้ากรรมฯ"ที่เป็นอะไรสักอย่างที่คอยตามหรือจ้องทำลายใครๆอยู่ราวกะคนตกงานหรือว่างมาก..  ...แท้จริง  สัตว์ทั้งหลาย ทำกรรมแล้วย่อมเป็นผู้เสวยวิบากหรือผลแห่งกรรมนั้นด้วยตนเอง  หาได้มีใครอื่นที่ใหนสามารถมาทำให้ได้ไม่  ..คนอื่นเป็นได้เพียง"เครื่องมือ"ให้กรรม(คือเจตนา)ที่ตนทำไว้แล้ว มาปรากฏเป็นผลให้ตนได้รับเท่านั้น.. ต่อคำถามที่ถามมา(อยากเรียนถามอาจารย์ว่าเหตูลักษระแบบนี้เกี่ยวข้องกับเจ้ากรรมนายเวรของตน เองหรือไม่)จึงตอบได้ว่า... พระพุทธองค์ตรัสว่า โรคภัยไข้เจ็บนั้น เกิดจากเหตุ ๔ ประการ ๑. กรรม คือเจตนาที่ตนเคยทำไว้มีการเบียดเบียนสัตว์อื่นมาก่อน เป็นต้น ๒. จิต คือสภาพจิตของคนป่วยเอง ที่อาจมีความกดดัน วิตกกังวลหรือสบายใจ ฯลฯ ๓. อุตุ ได้แก่อุณหภูมิ สภาพแวดล้อม ร้อนหนาวชื้น แห้ง ฯลฯสามารถมีอิทธิพลต่ออาการป่วยไข้ได้ ๔. อาหาร เช่นได้อาหารแสลงโรค ทำให้ทรุด หรือได้อาหาร(รวมถึงยาด้วย)ถูกโรค อาการก็ดีขึ้นได้ เป็นต้น .. ส่วนอาการที่เล่ามาก็ย่อมมีปัจจัยหลักคือกรรมเข้าเกี่ยวข้องแน่นอน การที่ได้รับเวทนาหรือผัสสะที่ดี ไม่ดีย่อมเป็นผลจากเหตุเก่า(กรรม)ที่ตนนั่นเองทำไว้ เหตุและผลย่อมสอดคล้องต้องกันเสมอ.. โดยสรุป ควรกลัว"เจตนา"(=กรรม)ของตนเองไว้ให้มาก ดีกว่าจะกลัวแต่เจ้ากรรมนายเวรที่ใหนๆและในคำสอนของพุทธศาสนา ผลทั้งหลายไม่ได้เกิดได้ด้วยเหตุใดเหตุเดียว แต่เกิดจากกาประชุมประกอบกันของปัจจัยมากมายหลายอย่างเสมอ...จึงไม่อาจมีเจ้ากรรมนายเวรที่ใหนมาทำให้ใครป่วยได้หากเขาคนนั้นไม่เคยเบียดเบียนทำร้ายสัตว์อื่นมาก่อน หรือหากอยู่ในสวรรค์ เจ้ากรรมฯเก่งอย่างไรก็ตามไปทำให้ป่วยไม่ได้ เป็นต้น คนที่กลัวเจ้ากรรมฯแต่ไม่กลัวบาปกรรมของตน ย่อมไม่ขวนขวายในการประพฤติศีลเป็นต้น จึงน่าจะเป็นความเสี่ยงที่อันตรายยิ่งนักพึงพิจารณาด้วยเหตุผล ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องของพระพุทธเจ้าให้มากจะได้ไม่เชื่อคำเล่าขานอะไรๆที่ขาดเหตุผล ไม่เข้าถึงความเชื่อเรื่องที่ไม่มีที่มาที่ไปอย่างไร้ขอบเขตและสามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกตรง พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะควร..       | |
| เจ้าของ: | จักรแก้วรัตนะ [ 31 ส.ค. 2010, 11:36 ] | 
| หัวข้อกระทู้: | Re: "เจ้ากรรมนายเวร" | 
| ถ้าเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า ทุกอย่างมีเหตุ เกิดแต่เหตุ กรรมที่ทำไว้ ก่อเหตุนั้น จะมีการจองเวรด้วยหรือไม่ก็ได้ เมื่อทำดี หรือจะพ้นกรรมนั้น คุณหมอก็จะหาโรคเจอเอง และจะหาย หรือไม่ ก็เป็นไปตามกรรม คือป่วยไปเรื่อยๆ จนร่างกายแตกดับไปครับ | |
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง | 
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ | |