ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=34036 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 |
เจ้าของ: | 91One [ 23 ส.ค. 2010, 10:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร เปรียบกับปัญญาแล้ว ต่างกันอย่างไรครับ สาธุ ![]() |
เจ้าของ: | skygolo [ 23 ส.ค. 2010, 12:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
ปฏิจจสมุปบาท ป ฏิ จ จ ส มุ ป บ า ท อวิชชาปัจจะยา สังขารา ( เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี ) สังขาระปัจจะยา วิญญานัง ( เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี ) วิญญาณะปัจจะยา นามะรูปัง ( เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี ) นามะรูปะปัจจะยา สะฬายะตะนัง ( เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี ) สะฬายะตะนะปัจจะยา ผัสโส ( เพราะสฬายตนเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี ) ผัสสะปัจจะยา เวทนา ( เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี ) เวทะนายะปัจจะยา ตัณหา ( เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี ) ตัณหาปัจจะยา อุปาทานัง ( เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปาทานจึงมี ) อุปาทานะปัจจะยา ภะโว ( เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี ) ภะวะปัจจะยา ชาติ ( เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี ) ชาติปัจจะยา ชะรามะระณัง ( เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี ) โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา สัมภะวันติ ( ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม ) เอวะเมตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ สะมุทะโย โหติ ( การเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมีด้วยประการฉะนี้ ฯ ) อวิชชายะ เตววะ อะเสสะวิราคะนิโรธา สังขาระนิโรโธ ( เพราะอวิชชาสำรอกดับไปไม่เหลือ สังขารจึงดับ ) สังขาระนิโรธา วิญาณะนิโรโธ ( เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ ) วิญญาณะนิโรธา นามรูปะนิโรโธ ( เพราะวิญญาณดับ นามรูปจึงดับ ) นามะรูปะนิโรธา สะฬายะตะนะนิโรโธ ( เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ ) สะฬายะตะนะนิโรธา ผัสสะนิโรโธ ( เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ ) ผัสสะนิโรธา เวทนานิโรโธ ( เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ ) เวทนานิโรธา ตัณหานิโรโธ ( เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ ) ตัณหานิโรธา อุปาทานะนิโรโธ ( เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ ) อุปาทานะนิโรธา ภะวะนิโรโธ ( เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ ) ภะวะนิโรธา ชาตินิโรโธ ( เพราะภพดับ ชาติจึงดับ ) ชาตินิโรธา ชะรามะระณัง ( เพราะชาติดับ ชรามรณะจึงดับ ) โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา นิรุชฌันติ ( ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจจึงดับ ) เอวะเมตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ นิโรโธ โหติ ( การดับแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมีด้วยประการฉะนี้ ฯ ) เมื่ออวิชชาสิ้น ปัญญาจึงเต็มรอบ แต่ในระหว่างภาวนา วงจรพวกนี้จะสั้นลงๆๆ อวิชชาจะคลายตัว ส่งผลให้จิตสว่างขึ้น ปัญญาจึงมีกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำลายอวิชชาได้หมดสิ้น นั่นคือ ดับกองทุกข์ได้สิ้นเชิงฯ ภาวิตา พะหุลีกะตาฯ |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 23 ส.ค. 2010, 14:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
91One เขียน: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร เปรียบกับปัญญาแล้ว ต่างกันอย่างไรครับ สาธุ ![]() สังขารของสัตว์ ในกามภพ มีรูปและอรูป เช่นคนเราตัวเป็นๆ มีสังขารคือ รูปและอรูป(สิ่งที่ไม่ใช่รูป) เราเรียกรูปอย่างนี้ ว่ากาย เราเรียกอรูปอย่างนี้ ว่าจิต สังขารอันเป็นกาย มีธาตุหลักๆ คือธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ (อากาสธาตุ) และรูปที่อิงอาศัยกับธาตุหลักๆ เหล่านั้น ...นี่เป็นกายสังขาร มีอายุเป็นเครื่องรักษา สังขารอันเป็นจิต มีตัวจิตและอรูปที่ประกอบกับจิตเป็นเนื้อเดียวกับจิตเกิดดับพร้อมจิต มีชีวิตเป็นเครื่องเลี้ยง อรูปที่ประกอบกับจิตเป็นเนื้อเดียวกับจิต ก็คือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ ปัญญา คือเครื่องนำออกจากความไม่รู้ จากความหลง เป็นหนึ่งในอรูปที่ประกอบกับจิตในสังขารขันธ์ ปัญญา มาทีหลังเกิดจากการอบรม การเรียนรู้ เพื่อละกำจัดความไม่รู้ สัตว์ทั้งหลายที่เกิดมา เพราะมูลกรรม คือความไม่รู้ และตัณหาความอยากอาลัยในภพ สังขารทั้งหลายจึงเกิดมาในภพ พอจะเข้าใจไม๊ครับ... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | 91One [ 23 ส.ค. 2010, 14:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
กระผม ถามเรื่อง สังขาร ความปรุงแต่ง ไม่ใช่ถามถึงรูป คร้าบบบ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | govit2552 [ 23 ส.ค. 2010, 14:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
จากพระไตรปิฏก อ้างคำพูด: สังขาร เป็นอย่างไร คือ เจตนา ๖ ประการนี้ ได้แก่ ๑. รูปสัญเจตนา (ความจำนงรูป) ๒. สัททสัญเจตนา (ความจำนงเสียง) ๓. คันธสัญเจตนา (ความจำนงกลิ่น) ๔. รสสัญเจตนา (ความจำนงรส) ๕. โผฏฐัพพสัญเจตนา (ความจำนงโผฏฐัพพะ) ๖. ธัมมสัญเจตนา (ความจำนงธรรมารมณ์) นี้เรียกว่า สังขาร เพราะความเกิดขึ้นแห่งผัสสะ ความเกิดขึ้นแห่งสังขารจึงมี เพราะความดับ แห่งผัสสะ ความดับแห่งสังขารจึงมี |
เจ้าของ: | ศรีสมบัติ [ 23 ส.ค. 2010, 15:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
91One เขียน: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร เปรียบกับปัญญาแล้ว ต่างกันอย่างไรครับ สาธุ สังขาร การปรุงแต่ง...อยู่ใน ขันธ์ ๕ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน เกิด จาก อวิชชา..ความไม่รู้ เช่นสัญญา..ความจำนี้..ก็ทำให้เกิด สังขาร ได้...ยกตัวอย่าง...พอเห็นความมืด...สัญญาที่รับรู้มาแต่ก่อน ความมืด..ก็ทำให้เกิดความกลัว...มันก็ปรุงไป...คิดไปนึกไปเรื่องน่ากลัวตางๆนาๆ สังขาร ขันธ์ เป็น กลุ่มธรรมชาติที่ปรุงแต่งจิต.... ส่วนปัญญา เข้าไปรู้ ว่า สังขาร ก็ไม่เทียง...มีเกิด..มีดับ รู้ว่า สิ่งเหล่านี้มันเป็นเพียงสิ่งๆ หนึ่ง ที่ไม่เที่ยง ที่เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ตัวตน และไม่เข้าไป ยึดมัน... ขอเจริญในธรรม ![]() |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 23 ส.ค. 2010, 15:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
91One เขียน: กระผม ถามเรื่อง สังขาร ความปรุงแต่ง ไม่ใช่ถามถึงรูป คร้าบบบ ![]() ![]() อ่านใหม่นะ คร้าบบบบ.... สังขาร ทั้งรูปทั้งอรูป ก็สังขาร การปรุงแต่ง คร้าบบบ... มีเหตุปัจจัย คืออวิชชาและตัณหา เหมือนกันละคร้าบบบ.. ถ้าจะทำความเข้าใจเฉพาะสังขารขันธ์ ... คือหน้าที่ปรุงแต่งอันเป็นพฤติจิตประกอบกับจิต ก็จะเกี่ยวข้องกับ มโนสัญญเจตนา อันเป็นส่วนหนึ่งของอรูปเช่นกัน ปัญญา ก็เป็นมโนสัญญเจตนาอย่างหนึ่งด้วย มโนสัญญเจตนา ความตั้งใจ ความจงใจ อันเป็นมโนกรรม คือการปรุงแต่งของจิต เป็นเหตุของกรรม ปัญญา จึงเป็นมโนกรรม เป็นสังขารขันธ์ อย่างหนึ่ง |
เจ้าของ: | govit2552 [ 23 ส.ค. 2010, 16:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
ผัสสะ ทำให้เกิด เวทนา ผัสสะ ทำให้เกิด เวทนา+สัญญา+สังขาร ผัสสะ ทำให้เกิด เจตสิก เจตสิก ต้องเกิดพร้อม จิต ดับพร้อมจิต เจตสิกจะเกิดลำพังเดี่ยวๆ ไม่ร่วมกับจิตไม่ได้.......................................ผม ในภูมิ ที่มีขันธ์5 จิตจะเกิดเพียงลำพังเดี่ยวๆ ไม่ได้ถ้าไม่อาศัยรูป แต่รูป อาจเกิดขึ้นได้ โดยไม่ต้องมีจิตเกิดร่วมด้วย เพราะรูปเกิดจาก กรรม จิต อุตุ อาหาร ที่ใดมีจิต ที่นั่นเลยต้องมี รูป เวทนา สัญญา สังขาร.......................ครบ ขันธ์5 ที่ใดไม่มีจิต ที่นั่นก็เลย ไม่มี เวทนา สัญญา สังขาร ยกเว้น รูป(ซึ่งอาจมีหรือไม่มี) เมื่อมีผัสสะที่ตา จึงหมายถึง มีขันธ์5ที่ตา........แม้รูปจะมีที่อื่นด้วยก็ตาม เมื่อมีผัสสะที่หู จึงหมายถึง มีขันธ์5ที่หู...........แม้รูปจะมีที่อื่นด้วยก็ตาม เมื่อไม่มีผัสสะ ทั้ง6ทวาร แต่มิได้หมายความว่า ไม่มีขันธ์5 ขันธ์5 ยังคงมี แม้ไม่มี ผัสสะทางตา หรือทางหู หรือทางจมูก หรือทางลิ้น หรือทางกาย หรือทางใจ |
เจ้าของ: | อนัตตญาณ [ 23 ส.ค. 2010, 17:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
ภิก ษุ ท .! สังขารทั้งหลาย เป็นอย่างไร เล่า ? ภิก ษุ ท .!หมู่แห่งเจตนาหกเหล่านี้ คือ สัญเจตนา (ความคิดนึก) ในเรื่องรูป, สัญเจตนาในเรื่องเสียง, สัญ เจตนาในเรื่องกลิ่น, สัญ เจตนาในเรื่องรส, สัญ เจตนาใน เรื่องโผฏฐัพพะ, แล ะสัญ เจตนาใน เรื่องธรรมารมณ์. ภิก ษุ ท.! นี้เรียกว่า สังขารทั้งหลาย. ความเกิดขึ้นแห่งสังขารทั้งหลาย มีได้เพราะความเกิดขึ้นแห่งผัสสะ; ความดับไม่เหลือแห่งสังขารทั้งหลาย มีได้ เพราะความดับไม่เหลือแห่งผัสสะ; อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้นั่นเอง เป็น ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งสังขารทั้งหลาย, ได้แก่ ความเห็นชอบ ความดำริชอบ;การพูดจาชอบ การทำการงานชอบ การเลี้ยงชีวิตชอบ; ความพากเพียรชอบ ความระลึกชอบ ความตั้งใจมั่นชอบ. - ขนฺธ.สํ. ๑๗/๗๔/๑๑๖. -------------------------------------- หากยังไม่มีผัสสะในรูป การปรุงแต่งในรูปก็ยังไม่เกิด หากยังไม่มีผัสสะในเสียง การปรุงแต่งในเสียงก็ยังไม่เกิด หากยังไม่มีผัสสะในกลิ่น การปรุงแต่งในกลิ่นก็ยังไม่เกิด หากยังไม่มีผัสสะในรส การปรุงแต่งในรสก็ยังไม่เกิด หากยังไม่มีผัสสะในธรรมารมณ์ การปรุงแต่งในธรรมมารมณ์ก็ยังไม่เกิด... มรรคองค์แปด คือเครื่องปฏิบัตินำไปสู่ความดับไม่เหลือแห่งสังขารทั้งปวง. ภิกษุ ท. ! ก็เมื่อเราเป็นผู้มีความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตายเป็นธรรมดา มีความโศกเป็นธรรมดา มีความเศร้าหมองเป็นธรรมดา ด้วยตน, ก็รู้จักสิ่งที่มีความเกิด แก่ เจ็บ ตาย โศก เศร้าหมองเป็นธรรมดา. ครั้นรู้แล้ว จึงได้แสวงหานิพพาน อันไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย ไม่โศก ไม่เศร้าหมองเป็นธรรมดา อันไม่มีสิ่งอื่นยิ่งไปกว่า อันเกษมจากโยคธรรม. เราก็ได้บรรลุพระนิพพานนั้น. อนึ่ง ปัญญาเครื่องรู้เครื่องเห็นได้เกิดแก่เราว่า “ความหลุดพ้น ของเราไม่กลับกำเริบ การเกิดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ภพเป็นที่เกิดใหม่มิได้มีอีก” ดังนี้. ฯ ปาสราสิสูตร โอปัมมวรรค ม.ม. ๑๒/๓๒๓/๓๒๐. ------------------------------------------------------------------------------ ปัญญา คือความรู้ ความเห็น ความรู้พร้อม ทางออก ความโล่ง ฯ มีการเกิด-ดับ เช่นเดียวกันกับสังขาร นามรูป ดับลงในที่ใด สติและปัญญาย่อมดับลงในที่นั้น. |
เจ้าของ: | วิสุทธิปาละ [ 23 ส.ค. 2010, 17:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
อ้างคำพูด: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร เปรียบกับปัญญาแล้ว ต่างกันอย่างไรครับ สาธุ สังขาร 1. สิ่งที่ถูกปัจจัยปรุงแต่ง, สิ่งที่เกิดจากเหตุปัจจัย เป็นรูปธรรมก็ตาม นามธรรมก็ตาม ได้แก่ขันธ์ ๕ ทั้งหมด, ตรงกับคำว่า สังขตะหรือสังขตธรรม ได้ในคำว่า “สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง” ดังนี้เป็นต้น 2. สภาพที่ปรุงแต่งใจให้ดีหรือชั่ว, ธรรมมีเจตนาเป็นประธานที่ปรุงแต่งความคิด การพูด การกระทำ มีทั้งที่ดีเป็นกุศล ที่ชั่วเป็นอกุศล และที่กลางๆ เป็นอัพยากฤต ได้แก่ เจตสิก ๕๐ อย่าง (คือ เจตสิกทั้งปวง เว้นเวทนาและสัญญา) เป็นนามธรรมอย่างเดียว, ตรงกับสังขารขันธ์ ในขันธ์ ๕ ได้ในคำว่า “รูปไม่เที่ยง เวทนาไม่เที่ยง สัญญาไม่เที่ยง สังขารไม่เที่ยง วิญญาณไม่เที่ยง” ดังนี้เป็นต้น; อธิบายอีกปริยายหนึ่ง สังขารตามความหมายนี้ยกเอาเจตนาขึ้นเป็นตัวนำหน้า ได้แก่ สัญเจตนา คือ เจตนาที่แต่งกรรมหรือปรุงแต่งการกระทำ มี ๓ อย่างคือ ๑. กายสังขาร สภาพที่ปรุงแต่งการกระทำทางกาย คือ กายสัญเจตนา ๒. วจีสังขาร สภาพที่ปรุงแต่งการกระทำทางวาจา คือ วจีสัญเจตนา ๓. จิตตสังขาร หรือ มโนสังขาร สภาพที่ปรุงแต่งการกระทำทางใจ คือ มโนสัญเจตนา 3. สภาพที่ปรุงแต่งชีวิตมี ๓ คือ ๑. กายสังขาร สภาพที่ปรุงแต่งกาย ได้แก่ อัสสาสะ ปัสสาสะ คือลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ๒. วจีสังขาร สภาพที่ปรุงแต่งวาจา ได้แก่ วิตกและวิจาร ๓. จิตตสังขาร สภาพที่ปรุงแต่งใจ ได้แก่ สัญญาและเวทนา (พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)) ปัญญา : 1) ปัญญาทางโลก (โลกียปัญญา เนื่องด้วยอาสวะ) 2) ปัญญาทางธรรม (โลกุตรปัญญา ไม่เนื่องด้วยอาสวะ) (วิสุทธิมรรค ปริเฉทที่ ๑๔ ขันธนิเทศ) เอาบัญญัติให้ตรงกันก่อนเนอะ ![]() คือว่า สังขารไหนครับผม (1, 2, 3 ?) และปัญญาไหนครับผม (1, 2 ?) ![]() เจริญในธรรมครับ ![]() |
เจ้าของ: | govit2552 [ 24 ส.ค. 2010, 05:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
ผัสสะ(อายตนภายใน+อายตนภายนอก+วิญญาณ) ทำให้เกิด เจตสิก(เวทนา+สัญญา+สังขาร) อายตนภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.................. จัดเป็นรูป รูป+วิญญาณ ทำให้เกิด เจตสิก(เวทนา+สัญญา+สังขาร) รูป+จิต ทำให้เกิด เจตสิก จากกฏข้อที่ว่า จิตเกิดอย่างน้อยต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วย 7 ดวง และกฏข้อที่ว่า เจตสิกต้องเกิดพร้อมกับจิตเสมอ และดับพร้อมกับจิต เจตสิกจะมีลอยๆไม่ได้ และกฏอีกข้อที่ว่า ในภูมิที่มีขันธ์5 จิตเกิดขึ้นโดยลำพังไม่อาศัยรูป ไม่ได้ ก็เลย... รูป+จิต+เจตสิก ทำให้เกิด เจตสิก+จิต+รูป ขันธ์5 ทำให้เกิด ขันธ์ 5 กฏอีกข้อหนึ่งคือ จิต ไม่เกิดพร้อมกับจิต ทำให้ได้ข้อสรุปว่า.... ขันธ์5เกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป ทำให้เกิด ขันธ์5ชุดใหม่เกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป จิตดวงหนึ่งเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไป ทำให้เกิด จิตดวงใหม่เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไป จิตดวงเก่าเป็นปัจจัย ให้จิตดวงใหม่เกิดขึ้นสืบต่อทันทีไม่มีระหว่างคั่น เพราะผัสสะ ทำให้เกิด เวทนา ทันทีไม่มีระหว่างคั่น |
เจ้าของ: | อนัตตญาณ [ 24 ส.ค. 2010, 06:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
สัพเพธัมมาอนัตตา... สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ทั้งที่เป็นสังขาร และมิใช่สังขาร ทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา ไม่ควรถือว่าเรา ว่าเป็นเรา ว่าตัวว่าตนของเรา. |
เจ้าของ: | 91One [ 24 ส.ค. 2010, 07:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
โอ้โห้..ทำไมเข้าใจยากจังครับ มีอะไรต่ออะไรยุบยับไปหมด แหะ ๆ ขอสั้น ๆ กระชับ ๆ สัก สอง-สาม บรรทัด อธิบายโดยความเข้าใจของท่านที่สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นเข้าใจ แบบภาษาชาวบ้านนะคร้บท่าน ขอโมทนากับทุกท่านนะคร้าบบบ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | walaiporn [ 24 ส.ค. 2010, 07:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
91One เขียน: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร เปรียบกับปัญญาแล้ว ต่างกันอย่างไรครับ ขอสั้น ๆ กระชับ ๆ สัก สอง-สาม บรรทัด อธิบายโดยความเข้าใจของท่านที่สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นเข้าใจ แบบภาษาชาวบ้านนะคร้บท่าน สังขาร เกิดจากอุปทาน การให้ค่าต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ปัญญา เกิดได้หลายทาง เช่น จากการอ่าน การฟัง การภาวนา |
เจ้าของ: | 91One [ 24 ส.ค. 2010, 07:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สังขาร การปรุงแต่ง เกิดจากอะไร |
walaiporn เขียน: สังขาร เกิดจากอุปทาน การให้ค่าต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ปัญญา เกิดได้หลายทาง เช่น จากการอ่าน การฟัง การภาวนา เริ่ม Get แล้วครับ ติดตรงนี้ครับ "การให้ค่าต่อสิ่งที่เกิดขึ้น" อ่านกระทู้คุณ walaiporn หลายกระทู้ ไม่เข้าใจ ขยายความหน่อยได้ไมครับ สาธุ ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |