ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สอบถามผู้ภาวนา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=33811 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | thongwhat [ 12 ส.ค. 2010, 20:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | สอบถามผู้ภาวนา |
![]() พอหยุดยาวหรืออยู่บ้านเฉยๆ จะรู้สึกซึมๆเซื่องๆ หากไปหากิจกรรมทำก็ทุกข์บ้าง สุขบ้าง มันย้อมจิต ก่อกวนจิตอยู่ตลอดเวลา รู้สึกได้ว่า สุขก็ทุกข์ ทุกข์ก็ทุกข์ เลยมีแต่ทุกข์กับทุกข์กับทุกข์กับทุกข์ ใจมันรับไม่ได้ ตอนนี้อยู่เฉยๆมันซึมลูกเดียว |
เจ้าของ: | บัวสีน้ำเงิน [ 12 ส.ค. 2010, 20:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามผู้ภาวนา |
คุณก็ไปทำบุญ ตักบาตร ไปวัด บุญจะทำให้เกิดปิติ ไม่เซื่องซึมหดหู่ ถ้าไม่มีบุญหล่อเลี้ยงใจ ก็ซึมอย่างนี้ ซังกะตายอยู่ ควรนั่งสมาธิ ภาวนาทุกวัน ก็คงหายซึมหรอกค่ะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 12 ส.ค. 2010, 21:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามผู้ภาวนา |
![]() ![]() วันหยุดยาวอย่างนี้ อยู่บ้านเฉยๆรู้สึกเซ็งๆ เซื่องซึมก็หาอะไรตื่นเต้นๆทำเช่น ปืนหน้าผา โดดบันจี้จัมพ์ ฯลฯ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 12 ส.ค. 2010, 21:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามผู้ภาวนา |
thongwhat เขียน: :b8: รู้สึกได้ว่า สุขก็ทุกข์ ทุกข์ก็ทุกข์ เลยมีแต่ทุกข์กับทุกข์กับทุกข์กับทุกข์ ใจมันรับไม่ได้ ตอนนี้อยู่เฉยๆมันซึมลูกเดียว สาธุ.. ![]() แล้วรู้สึกอยากออกจากทุกข์ไหมลครับ??? ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | นายฏีกาน้อย [ 12 ส.ค. 2010, 21:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามผู้ภาวนา |
![]() |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 13 ส.ค. 2010, 03:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามผู้ภาวนา |
thongwhat เขียน: ใจมันรับไม่ได้ ก็เมื่อไหร่ ใจมันรับได้ ยอมรับความจริงเมื่อใด ก็คงจะดีขึ้นนะครับ ผมเชื่อว่าการภาวนา คือการเฝ้าดูปรากฏการณ์ต่างๆ ตามความเป็นจริง เราไม่ได้มีหน้าที่เลือกว่าจะเอาอะไร หรือไม่เอาอะไร อยากจะซึม หรืออยากจะไม่ซึม ก็ไม่ใช่ทั้งนั้น มีหน้าที่รู้ไปตามความจริง |
เจ้าของ: | student [ 13 ส.ค. 2010, 06:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามผู้ภาวนา |
ชาติสยามเขียน อ้างคำพูด: ผมเชื่อว่าการภาวนา คือการเฝ้าดูปรากฏการณ์ต่างๆ ตามความเป็นจริง เราไม่ได้มีหน้าที่เลือกว่าจะเอาอะไร หรือไม่เอาอะไร อยากจะซึม หรืออยากจะไม่ซึม ก็ไม่ใช่ทั้งนั้น มีหน้าที่รู้ไปตามความจริง เช่นกันครับการที่เรายังซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่าเราทำไมนั่งสมาธิไม่ได้ผล ก็เพราะอารมณ์ต่างๆไม่สามารถบังคับได้คนเราอยากมีความสุขสงบทั้งวันเพราะรู้สึกดีกว่า แต่นักปฏิบัติต้องพิจารณาธรรมที่เกิดขึ้นนั่นเป็นวิปัสสนา ก็วิปัสสนาคือการกำหนดรู้ อารมณ์ซึมเศร้าเราก็ควรกำหนดรู้ตามไม่นานปัญญาก็เกิด |
เจ้าของ: | ภาวิตา-พหุลีกตา [ 13 ส.ค. 2010, 08:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามผู้ภาวนา |
กรัชกาย เขียน: ![]() ![]() วันหยุดยาวอย่างนี้ อยู่บ้านเฉยๆรู้สึกเซ็งๆ เซื่องซึมก็หาอะไรตื่นเต้นๆทำเช่น ปืนหน้าผา โดดบันจี้จัมพ์ ฯลฯ ![]() |
เจ้าของ: | ศรีสมบัติ [ 13 ส.ค. 2010, 12:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามผู้ภาวนา |
thongwhat เขียน: รู้สึกได้ว่า สุขก็ทุกข์ ทุกข์ก็ทุกข์ เลยมีแต่ทุกข์กับทุกข์กับทุกข์กับทุกข์ นั่นหล่ะครับ...ความจริง..ความสุข มันไม่มีดอก มันมีแต่ความทุกข์ บางคนที่เห็นว่าเป็นสุข...มันก็คือทุกข์นั่นแหละ...แต่มันทุกข์แบบละเอียด..เรามองไม่เห็น การ ครองเรือน ที่เราเห็นว่ามัน สุข..มีลูกน่ารัก..สามี-ภรรยา อยู่ ด้วยปัจจัย ๔ พร้อม..ลาภ ยศ สมบัติ เขาก็คิดว่า นั่น คือความสุข ๆ ๆ ที่สุด...แต่แล้ว..มันก็ไม่ใช่..เพราะมันไม่เที่ยง..มันต้องมีวันจาก-พลัดพราก..หรือ มันมี บ่วง เป็นห่วงอยู่...ห่วงลูก...ห่วงเมีย...ห่วงสมบัติ...ห่วง ยศ สรรเสิญ ....พระพุทธเจ้า...ท่านจึงสอนแต่เรื่องทุกข์...ถ้าได้เกิดมาแล้ว..มันก็คือทุกข์...ท่านจึงสอนแต่เรื่องดับทุกข์...เหตุแห่งทุกข์...วิธีดับทุกข์.. ....หาวิธี ดับทุกข์นี้ให้ได้ครับ...เราจะไม่ซึม...จะต้องเป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ขอเจริญในธรรม ![]() |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 13 ส.ค. 2010, 14:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามผู้ภาวนา |
thongwhat เขียน: :b8: ผมทำงานมีเงินเดือนประจำครับ ต้องไปทำงานทุกวันทำการ พอหยุดยาวหรืออยู่บ้านเฉยๆ จะรู้สึกซึมๆเซื่องๆ หากไปหากิจกรรมทำก็ทุกข์บ้าง สุขบ้าง มันย้อมจิต ก่อกวนจิตอยู่ตลอดเวลา รู้สึกได้ว่า สุขก็ทุกข์ ทุกข์ก็ทุกข์ เลยมีแต่ทุกข์กับทุกข์กับทุกข์กับทุกข์ ใจมันรับไม่ได้ ตอนนี้อยู่เฉยๆมันซึมลูกเดียว สวัสดี ท่านเจ้าของกระทู้... จอดเรือ ไม่ทอดสมอ ไม่ผูกเรือ เรือย่อมลอยละล่องไปตามกระแสน้ำ เมื่อไม่หาหลักผูกใจ ไม่ทอดสมอจิต ใจย่อมถูกกระแสแห่งความเขลาพาไป จะทำอย่างไรดี? นำเอาทุกข์ที่รู้สึกอยู่ มาเป็นสังเวควัตถุ เป็นตัวตั้งความเพียร ศึกษาพระธรรมเพื่อเป็นหลักแห่งใจ ก่อเกิดเป็นสมอแห่งใจ ผูกใจให้มั่น ปฏิบัติธรรม เพื่อละอกุศลธรรม เจริญอธิจิตเพื่อละนิวรณ์อันเป็นเหตุแห่งความเซื่องซึม ยังจิตให้ร่าเริงเพื่อให้เกิดปัญญาในธรรม ความแช่มชื่นแห่งจิตจะเป็นกำลังให้จิตเกิดปัญญาในการละวาง และมีความสุขตามธรรม |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |