ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ทำไมเศียรพระจึงแหลม
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=33468
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  เด็กแก่ [ 28 ก.ค. 2010, 13:19 ]
หัวข้อกระทู้:  ทำไมเศียรพระจึงแหลม

สงสัยมากเลยว่าทำไมเคียรพระหรือบนเศียรพระจึงมีปลายแหลมๆอยากรู้และสงสัยมากๆ

เจ้าของ:  จันทร์ ณ ฟ้า [ 28 ก.ค. 2010, 18:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมเศียรพระจึงแหลม

ไม่มีความรู้ด้านนี้ค่ะ แต่เท่าที่ search(จาก 3 แหล่งที่มา)ก็ได้คำตอบดังนี้ค่ะ

1.พระเศียรที่แหลมนั้น หมายถึง สติปัญญาที่เฉียบแหลมในการดำเนินชีวิตสอนให้ชาวพุทธแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยสติปัญญาไม่ใช่ใช้อารมณ์

2.ตรงยอดแหลมๆ นั้นไม่ใช่อื่นใด คือไฟนั่นเอง พระพุทธเจ้าพระองค์กำลังสอนเราว่า ให้เราเร่งรีบทำทุกสิ่งที่เป็นกรรมดี เสมือนกับมีไฟรนอยู่ที่หัว คือให้เร่งรีบ ทำให้เร็วที่สุด อาการก็เหมือนกับไฟใหม้ที่หัวแล้วเราพยายามวิ่งรีบเร่งหาน้ำมาดับ คือต้องรีบด่วนแบบนั้น ไม่ใช่อาการเดินทอดน่องหาน้ำ

3. เปลวไฟบนพระเศียร คือ นิมิตรหมายถึงเมื่อเราขมวดปมปัญหาขึ้นแล้ว เราจะต้องร้อนใจ (ดังไฟสุมหัว) จึงควรเตือนใจตนว่า ถ้าสร้างปมปัญหา จะต้องร้อนใจ

ยอดแหลมของพระเศียร ที่เหนือเปลวไฟ คือนิมิต หมายถึง เมื่อเราเป็นทุกข์ จะต้องใช้ปัญญาเป็นอาวุธดังยอดแหลมคมดุจปลายหอกของยอดพระเศียร แทงทะลุปมปัญหา และดับความร้อนรุ่มดุจ เปลวไฟนั้นไปให้ได้จึงจะมีความสงบเป็นปกติ


แต่เศียรพระพุทธรูปที่มีลักษณะค่อนข้างแบนก็มีค่ะ
เป็นเศียรพระพุทธรูปศิลปะหริภุญไชย พุทธศตวรรษที่
17-19 http://www.thailandmuseum.com/hariphunchai/hilight.htm
เศียรพระพุทธรูปดินเผาหล่อจากแม่พิมพ์ มีลักษณะค่อนข้างแบน พระพักตร์รูปสี่เหลี่ยม
พระนลาฏกว้าง พระขนงเป็นสันนูนต่อกันและมีเส้นขีดซ้อนกันขนานอยู่เบื้องใต้

เจ้าของ:  ตรงประเด็น [ 28 ก.ค. 2010, 22:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมเศียรพระจึงแหลม

@ ทำไม เศียรพระจึงแหลม@


ปลายพระเกศ แหลมเรียว เพรียวไสว

โชติช่วง ดุจคบไฟ ส่องทั่วหล้า

เป็นเคื่องหมาย ชี้แสดง แหล่งปัญญา

ธ สาดแสง แห่งธรรมา ทั่วแดนไตร


อโห พุทโธ ข้าๆนอบน้อม

อัญชลี พลีพร้อม วันทาไหว้

ชีวิตนี้ พลีถวาย ด้วยกายใจ

ขอรับใช้ เบื้องบาท พระศาสดา




ตรงประเด็น
28 กค 2553

เจ้าของ:  sitta navi [ 30 ก.ค. 2010, 19:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมเศียรพระจึงแหลม

ตรงส่วนแหลม ของเศียรพระพุทธรูป ตามคำศัพท์เรียกว่า "พระรัศมี" อยู่บนพระเกตุมาลา มีลักษณะเป็นรูปต่อมกลม หรือปลายแหลมดุจดอกมะลิตูม ซึ่งหมายถึงก้อนแก้ว หรือ "ดวงปัญญา" นั่นเอง ต่อมามีการประดิษฐ์พระรัศมีเป็น เปลว หรือเปลวเพลิง วางอยู่บนพระเกตุมาลา เช่นเดียวกัน

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/