วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 11:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 16:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มันมาอีกแล้วครับ เสียงดังสุดๆ เปิดเพลงและโทรทัศน์เสียงดังมาก ไม่รู้มันจะเปิดเผื่อเราทำไม ไม่ได้อยากฟังด้วยซะหน่อย สงสัยจะใจดีเกินไปแล้วมั้ง รำคาญสุดๆ บางทีพาเพื่อนมากินเหล้าก็เปิดเพลงเสียงดังไม่ได้หลับได้นอน จะอ่านหนังสือก็ไม่มีสมาธิ พาเพื่อหญิงมาก็แหกปากคุยกันซะลั่น เสียงดังมาก แถมยังชอบถอดรองเท้าไว้หน้าห้องกลิ่นเหม็นสุดๆ เหมือนไม่ได้ซักมาซะร้อยปีได้ ทุกข์ใจจริงๆเรา ถ้ามีเงินเยอะๆคงจะไปหาห้องแพงๆอยู่ เอาชนิดที่ว่าห้องเงียบๆเลย ฮึ่ ไม่รู้จะทำยังไงดี

พี่น้องในเวบนี้มีใครพอจะแนะนำอะไรดีๆให้พอเป็นแนวทางได้บ้างครับเพื่อให้เราไม่ต้องทุกข์ใจมาก แต่ว่านะห้องพักแถวๆนี้ก็ลักษณะคล้ายๆกันครับ ผมย้ายมาหลายที่แล้วก็เหมือนเดิม บางครั้งนะเวลามีเสียงดัง ผมเคยเดินไปบอกเขาให้เงียบเสียงลง "พี่ครับ รบกวนพี่กรุณาลดเสียงลงหน่อยได้มั้ยครับ ผมจะอ่านหนังสือ" เท่านั้นแหละครับ โดนรุมกระทืบเลย กลายเป็นว่าเราผิดซะงั้นที่ไปรบกวนเวลาแห่งความสุขของเขา(มันมีความสุขได้ทั้งวันจริงๆ รำคาญโว้ย เสียงดังทุกวันเลย เดี๋ยวก็เพื่อน เดี๋ยวก็ผู้หญิง ไม่รู้จะอะไรนักหนา) ถ้าพูดรู้เรื่องก็ดีไป แต่บางคนพูดไม่รู้เรื่อง ไม่มีเหตุผล รู้อย่างเดียวถ้ามีคนขัดใจ เอ็งตาย ประมาณนั้น(พูดง่ายๆว่าบ้า สติไม่ดี...ดูจากหน้าตาท่าทางไม่ได้จริงๆ) เราก็เลยไม่อยากมีเรื่อง ปล่อยให้มันเสียงดังไป...ประมาณว่าเอ็งอยากจะทำไรก็ทำไป.....เราก็รำคาญสุดๆ แต่ไม่รู้จะทำไงดี....เมื่อไหร่จะมีจิตสำนึกซะทีนะคนพวกนี้.....อพาร์ทเมนต์คนเขาอยู่กันตั้งหลายคนถ้ามีคนมาทำเสียงดังมันไม่นึกบ้างหรือไงว่าคนอื่นเขาจะรำคาญ...เฮ้อ

นี่คือทุกข์ของคนที่พักอพาร์ทเมนต์อย่างผมครับ ถ้าใครไม่เคยพักอพาร์ทเมนต์คงจะไม่ค่อยเข้าใจถึงความรู้สึกอึดอัดแบบนี้ซะเท่าไหร่ แต่คนที่เคยพักอพาร์ทเมนต์จะเข้าใจถึงความขมขื่นนี้เป็นอย่างดีว่ามันเลวร้ายขนาดไหนที่ต้องอยู่ร่วมกับคนที่ไร้จิตสำนึก.

ขอบคุณพี่น้องในเวบแห่งนี้ที่ทนอ่านเรื่องความทุกข์ของผมนะครับ และต้องขอโทษด้วยนะครับที่เอาเรื่องหนักใจส่วนตัวมาโพสต์ให้พี่น้องได้รับรู้....แต่ถ้าไม่ได้ระบายบ้างคงจะเป็นบ้าตายแน่ๆ...เวรกรรมจริงๆ

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 17:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ต.ค. 2008, 15:38
โพสต์: 31

ชื่อเล่น: joy
อายุ: 0
ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


เข้าใจค่ะเพราะพี่ก้ออยู่คอนโดที่คล้าย ๆ อพาร์ตเม้นท์เหมือนกัน ห้องที่อยู่ชั้นเดียวกัน เอาลูกสุนัขมาเลี้ยง และปล่อยให้มาอุจจาระ และปัสสาวะหน้าห้องคนอื่น เหม็นสุด ๆ และห้องนี้ กินเหล้าทั้งสามีและภรรยาทั้งคู่เลย ชอบพาเพื่อนมาเสียงดัง ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน เวลาเดินออกหน้าห้องต้องกลั้นลมหายใจ เบื่อมาก ทั้ง ๆ ที่เขาห้ามนำสุนัขมาเลี้ยง ถ้าอยากเลี้ยงทำไมไม่ดูแลให้ดี แต่ดูแล้วถ้าไปเตือน คงโดนแกล้งแน่ เลยไม่อยากยุ่ง แม่บ้านยังไม่จัดการเลย ปกติพี่ชอบเปิดประตูแง้มไว้ แต่เดี๊ยวนี้ทำไม่ได้เลย เพราะเหม็นมาก
คนที่ทำความเดือดร้อนให้คนอื่นนี่นะ จะได้รับผลกรรมยังไงนะ อยากรู้จริง ๆ เลย

.....................................................
รู้รักษาใจ...เป็นยอดดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 17:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


kanchapron เขียน:
เข้าใจค่ะเพราะพี่ก้ออยู่คอนโดที่คล้าย ๆ อพาร์ตเม้นท์เหมือนกัน ห้องที่อยู่ชั้นเดียวกัน เอาลูกสุนัขมาเลี้ยง และปล่อยให้มาอุจจาระ และปัสสาวะหน้าห้องคนอื่น เหม็นสุด ๆ และห้องนี้ กินเหล้าทั้งสามีและภรรยาทั้งคู่เลย ชอบพาเพื่อนมาเสียงดัง ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน เวลาเดินออกหน้าห้องต้องกลั้นลมหายใจ เบื่อมาก ทั้ง ๆ ที่เขาห้ามนำสุนัขมาเลี้ยง ถ้าอยากเลี้ยงทำไมไม่ดูแลให้ดี แต่ดูแล้วถ้าไปเตือน คงโดนแกล้งแน่ เลยไม่อยากยุ่ง แม่บ้านยังไม่จัดการเลย ปกติพี่ชอบเปิดประตูแง้มไว้ แต่เดี๊ยวนี้ทำไม่ได้เลย เพราะเหม็นมาก
คนที่ทำความเดือดร้อนให้คนอื่นนี่นะ จะได้รับผลกรรมยังไงนะ อยากรู้จริง ๆ เลย


เรื่องแบบนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะใจคนเรานี่สุดคาดเดาจริงๆ ถ้าเดินไปบอกเขาแล้วเขาเกรงใจก็ดีอยู่หรอก ที่สำคัญถ้าเราไปเตือนแล้วเขาไม่ฟังเหตุผลและไม่ฟังอะไรทั้งนั้น อุตส่าห์ไปบอกดีๆ พูดดีๆ พูดเพราะๆ ขอร้อง แล้วเขาไม่ฟัง คิดว่าเราจะไปหาเรื่อง.....อย่างนี้เราเองที่จะซวยทั้งๆที่เราเป็นผู้เดือดร้อนแท้ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเราผิดที่ไปขอร้องเขาซะงั้น... คนเรานี่ถ้ามีจิตสำนึกของการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ถ้ารู้จักเกรงอกเกรงใจกันสักนิดนึง คนเราคงจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สังคมคงน่าอยู่ขึ้นมาก...เฮ้อ...คงได้แต่หวังที่อยากจะเห็นสังคมมีแต่สันติสุข...

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 17:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


มงคลข้อที่ 4 ในมงคล 38
บอกว่า "อยู่ในประเทศอันสมควร"


ในที่นี้ก็หมายถึงว่า คุณควรจะพิจารณาว่าสังคมแวดล้อม สิ่งแวดล้อม ที่คุณอยู่นั้น
ถ้ามันเป็นอุปสรรคต่ิอความเจริญ ก็ควรต้องตัดใจย้ายไปในที่ที่ดีขึ้น
นี่เป็นการเสริมสิริมงคลให้ตัวเอง เป็นเหตุเป็นผลและได้ผลยิ่งกว่าฮวงจุ้ยอะไรอีกนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 18:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
มงคลข้อที่ 4 ในมงคล 38
บอกว่า "อยู่ในประเทศอันสมควร"


ในที่นี้ก็หมายถึงว่า คุณควรจะพิจารณาว่าสังคมแวดล้อม สิ่งแวดล้อม ที่คุณอยู่นั้น
ถ้ามันเป็นอุปสรรคต่ิอความเจริญ ก็ควรต้องตัดใจย้ายไปในที่ที่ดีขึ้น
นี่เป็นการเสริมสิริมงคลให้ตัวเอง เป็นเหตุเป็นผลและได้ผลยิ่งกว่าฮวงจุ้ยอะไรอีกนะ


ที่จริงอยากย้ายมาก แต่เคยย้ายมาหลายที่แล้ว เจอแบบนี้ทั้งนั้นเลย ตอนนี้ไม่มีเงินจะย้ายแล้ว ได้แต่ทนรับเคราะห์.....เศร้า นี่ถ้ามีเงินก็อยากจะไปอยู่ในที่ดีๆกว่านี้นะ...แต่ตอนนี้เป๋าแบน เลยไม่รู้จะทำไงดี...คงได้แต่คิดว่า เอาน่ะ อย่างน้อยก็ยังมีที่ให้อยู่(แบบขมขื่นก็ยังดีกว่านอนใต่สะพานลอย...เฮ้อ)

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 19:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue คุณเสียงธรรม เป็นกำลังใจให้นะ เข้าใจค่ะว่ามันเป็นแบบไหน เพราะเคยเห็นบ่อยๆ
แต่พี่ว่าบางครั้งมันอยู่ที่สำนึกของคนด้วยนะคะ บางครั้งสภาพแวดล้อมดีแต่คนขาดสามัญสำนึก
ในการอยู่ร่วมกันในสังคน มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยค่ะ
:b48: จะเล่าให้ฟังขำๆนะ ที่หมู่บ้านที่พี่อยู่นี่นะคะ ก็ระดับปานกลางใช้ได้เลยค่ะ
ปัญหาเสียงดังไม่มีค่ะ แต่เป็นแบบไม่มีเสียงเลยค่ะ รั้วติดกันสูงริบแถมมีเหล็กแหลมโค้งออก
ไปบ้านอื่นอีกแบบไม่เห็นหน้า ไม่รู้จักแล้วห้ามติดต่อกันด้วย :b32:
พอดีพี่เป็นกรรมการหมู่บ้านก็คอยรับฟังปัญหา ที่หนักสุดคือ อึหมาค่ะ
เช้ามาคนรักหมาก็จะปล่อยให้วิ่งออกไปเลยนอกบ้าน
ไอ้หมาก็รู้หน้าที่ดีเลยไปอึหน้าบ้านคนอื่นเป็นกองๆๆ พอรถผ่านทับเป็นทางไปเลย
ส่วนคนไม่เลี้ยงก็ไม่ยอมมาฟ้องเรา เราคณะกรรมการก็ไกล่เกลี่ย พอหายไปสักพัก
เดี๋ยวก็มีอีกแล้ว รักหมาแต่ไม่รักอึ :b21: หมา
:b48: ทุกเดือนจะมีเก็บค่าส่วนกลางเพื่อขยะ ยาม คนกวาดถนนดูแลหมู่บ้าน

คนที่หมาไปอึหน้าบ้านจ่ายเพียงครึ่งเดียว
เพราะเกี่ยงให้คนกวาดถนนให้ไปเก็บอึทุกวัน
ส่วนคนกวาดก็บอกอึหมาแบบนี้ไม่ทำ เพราะเค้าทำอย่างอื่นแยะแล้ว
ไม่ช่คนกวาดอึ ให้เจ้าของหมามาทำเจ้าของหมาก็บอกตีหมาแล้ว มันก็แอบออกไปอึ
:b6: พวกเรากรรมการจิตอาสานะ เสียสละเพื่อส่วนรวม
เงินเดือนก็ไม่ได้ และยังต้องมารับฟังปัญหาที่ไม่น่า.......มีเลยจริง
:b48: เห็นไม๊คะ คนเราถ้าไร้ซึ่งสามัญสำนึกที่ดี ต่อให้อยู่ในสภานแวดล้อมดียังไง
มันก็ไม่มีทางแก้ได้เลย ที่บ้านพี่เลี้ยงหมา 3 ตัว เพราะตอนมาอยู่ใหม่ๆสักสิบปีทีแล้ว
มันค่อนข้างเปลี่ยว พอตอนนี้คนอยู่เต็มก็รู้สึกเกรงใจเพื่อนบ้านเวลาหมาเราเห่า
เพราะบ้านติดกันถึงแม้จะมีบริเวณด้วย แต่เสียงอาเซเชียน จะกังวาลแค่นั้น
ตอนนี้หมามันแก่แล้วน่ะ พี่ก็จะคอยขอโทษเพื่อนบ้าน ถามถึงว่ารำคาญไม๊ ปีใหม่ให้ของขวัญ
เล็กๆน้อยๆ ก็จะแอบขอโทษเสียงหมาเราไปด้วย ทุกครั้งเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร
ส่วนอึหมา พี่และสามีจะเก็บทึ้ง ไม่เคยให้หมาออกไปนอกบ้านเลย และเก็บก็จะใส่ถุง
พลาสติก และใส่ถุงขยะดำทิ้งในถังขยะอีกที
เพราะเราก็ต้องนึกถึงคนที่เค้าเก็บขยะอีกอกเขาอกเรา :b16:
:b48: คุณเสียงธรรม อ่านแล้วคงสบายใจนิดๆ นะคะ
คนรวยบ้านใหญ่จิตใจคับแคบมีแยะไป และพี่ว่าแยะมากด้วย
บางคนห้องเช่าเล็กๆ แต่ถ้าเค้ามีมโนสำนึก มีคุณธรรม มันก็มีความสุขได้ค่ะ :b16: :b16:
นี่ยังไม่รวมปัญหารถมากเกินที่จอดในบ้านตัวเอง ไปจอดขวางบ้านอื่น
จ่ายค่าส่วนกลางแล้วยังอยากให้ยามดูแลบ้านแบบส่วนตัวเนี่ย :b10:
โอ้ย.....อีกมากมาย เล่ากันไม่ไหว
เห็นไม๊คะ หมู่บ้านหรือ อพาร์ทเม้นต์ มีปัญหาทั้งนั้น ก็ได้แต่..ปลง...ปลง...ปลง :b6: ค่ะ






.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


แก้ไขล่าสุดโดย O.wan เมื่อ 03 ก.ค. 2010, 19:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 19:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


O.wan เขียน:
แต่พี่ว่าบางครั้งมันอยู่ที่สำนึกของคนด้วยนะคะ


ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจดีๆครับ แต่คำว่า"สามัญสำนึกของการอยู่ร่วมกัน" คำนี้แหละครับที่ผมรออยู่และหวังอยากเห็นสังคมไทย(ทั่วโลกยิ่งดีใหญ่) มีคำๆนี้อยู่ในใจ และคิดว่าสังคมไทยคงจะมีแต่คนที่รักกันและเป็นสังคมที่น่าอยู่ขึ้นนะ ผมว่างั้นนะ แต่ผมว่าท่าจะยาก เพราะคนเราคิดไม่เหมือนกัน ใจคนนี่ยากแท้หยั่งถึง สุดคาดเดา ตนที่มีสำนึกก็อนุโมทนาสาธุ จำเริญ จำเริญ ส่วนคนที่ไร้สึนึกก็อนุโมทนาสาธุ ขอให้เขามีสำนึกโดยเร็ว...แล้วจะแผ่เมตตาให้เขาเหล่านั้นครับ.....เพราบุญกุศลและคำแผ่เมตตาจะทำให้เขาดีขึ้น ผมคิดอย่างนี้จริงๆนะ.....แต่ตอนนี้ก็ทนไปก่อน..

ขอพุทธคุณคุ้มครองครับ

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 20:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันเคยอยู่หอพักหญิงที่เลยเที่ยงคืนไปแล้วก็ยังทำเสียงดัง(เป็นหอพักนักศึกษา)
ข้างห้องคุยโทรศัพท์ได้ยินทุกคำ
ไม่นับเสียงทีวีและเพลง เพราะหอพักนี้ใช้กระดานบอร์ดไม้กั้นระหว่างห้อง
เสียงจึงทะลุถึงกันได้ดีกว่ากำแพงปูนมาก
ตอนแรกหงุดหงิดสุดๆ ทั้งแจ้งผู้จัดการหอแล้ว(ทางหอก็เตือนแล้ว)
เขียน Note ไปติดที่หน้าประตูห้องที่เสียงดังก็แล้ว โทรไปบอกตรงๆ(อย่างสุภาพเพราะกำลังจะอ่านหนังสือสอบ)
เงียบไปพักนึง ก็เสียงดังอีก จนตอนหลังเริ่มชิน^^
ย้ายมาที่พักใหม่ไม่มีปัญหาเสียงจากคน ก็มีปัญหาเรื่องอื่นที่ไม่ได้อย่างใจเราอีก

บ้านดิฉันเคยอยู่ในหมู่บ้านที่มีคนมาก เพื่อนบ้านตะโกนกันเสียงดัง
มีการด่าว่าหยาบคาย
คิดว่าถ้าย้ายไปอยู่หมู่บ้านที่ดูดี เพื่อนบ้านจะดีตามไปด้วย
แต่เมื่อย้ายไปอยู่หมู่บ้านดีๆเงียบๆแล้ว ก็ยังเจอปัญหาอื่นอยู่ดี
เช่น เรื่องอึหมาของเพื่อนบ้านหลังนึง และเรื่องเล็กๆที่กลายเป็นเรื่องใหญ่จนต้องต่อกำแพงสูง
กั้นระหว่างรั้วของเพื่อนบ้านอีกหลังนึง เพราะเพื่อนบ้านเอายาราดต้นไม้ในรั้วบ้านดิฉันจนตายไปเป็นแถบ
(ใบไม้ร่วงไปบ้านของเพื่อนบ้าน ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยว่า)
สาเหตุแท้จริงคือบ้านดิฉันไปสนิทสนมกับเพื่อนบ้านอีกหลังที่เค้าไม่ชอบ
ทำดีและเอาขนมไปให้แค่ไหนก็ยังมีปัญหาอื่นๆอีกร้อยแปด-_-"

เราไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมภายนอกให้เป็นอย่างใจเราได้ทั้งหมด
แต่หากเราวางใจเป็น มีสติรู้เท่าทัน ปัญหามีมากมาย แต่เราจะไม่รู้สึกทุกข์ไปกับปัญหามากนัก

อ่านหนังสือเล่มนึง (ทำชีวิตให้ได้ดีและมีสุข –ดร.สนอง วรอุไร)
ท่านกล่าวถึงเรื่องที่คล้ายกันนี้ว่า
มีผู้ฟังท่านหนึ่งมาขอคำปรึกษา เพื่อนบ้านของท่านผู้นี้เลี้ยงสุนัข
แทนที่สุนัขจะถ่ายที่บ้านตัวเอง มันกลับมาถ่ายมูลหน้าบ้านของเขา
ทำให้เขาต้องกวาดมูลสุนัขทุกวันทั้งที่ตนไม่ได้เลี้ยง
กวาดไปก็เกิดโทสะหงุดหงิดอยากจะทะเลาะกับเพื่อนบ้านทุกที
เขาคิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไร จึงมาขอคำปรึกษา
ผมฟังแล้วจึงแนะนำเขาไปว่า ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะกวาดมูลสุนัขด้วยความยินดี
ที่ทำให้ได้ชดใช้กรรมให้หมดกันไปในชาตินี้ และขอบคุณที่ทำให้ได้สร้างขันติบารมีด้วย
ถ้าไล่สุนัข ตีสุนัข ปัญหาไม่หมด แถมทั้งสุนัขและเจ้าของอาจผูกเวรกับเราต่อ
ทำให้ต้องตามใช้กรรมกันไม่จบสิ้น
แต่ถ้าเรากวาดไปนึกเสียว่าเป็นการใช้กรรมให้หมดไป
ต่อไปจะได้ไม่ต้องตามกวาดกันอีก
เท่ากับว่าเราได้สร้างกุศลกรรมเพื่อใช้หนี้กรรมเก่าที่ทำไว้ โดยไม่สร้างกรรมใหม่อีก

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2010, 00:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จันทร์ ณ ฟ้า เขียน:
ดิฉันเคยอยู่หอพักหญิงที่เลยเที่ยงคืนไปแล้วก็ยังทำเสียงดัง(เป็นหอพักนักศึกษา)
ข้างห้องคุยโทรศัพท์ได้ยินทุกคำ
ไม่นับเสียงทีวีและเพลง เพราะหอพักนี้ใช้กระดานบอร์ดไม้กั้นระหว่างห้อง
เสียงจึงทะลุถึงกันได้ดีกว่ากำแพงปูนมาก
ตอนแรกหงุดหงิดสุดๆ ทั้งแจ้งผู้จัดการหอแล้ว(ทางหอก็เตือนแล้ว)
เขียน Note ไปติดที่หน้าประตูห้องที่เสียงดังก็แล้ว โทรไปบอกตรงๆ(อย่างสุภาพเพราะกำลังจะอ่านหนังสือสอบ)
เงียบไปพักนึง ก็เสียงดังอีก จนตอนหลังเริ่มชิน^^
ย้ายมาที่พักใหม่ไม่มีปัญหาเสียงจากคน ก็มีปัญหาเรื่องอื่นที่ไม่ได้อย่างใจเราอีก

บ้านดิฉันเคยอยู่ในหมู่บ้านที่มีคนมาก เพื่อนบ้านตะโกนกันเสียงดัง
มีการด่าว่าหยาบคาย
คิดว่าถ้าย้ายไปอยู่หมู่บ้านที่ดูดี เพื่อนบ้านจะดีตามไปด้วย
แต่เมื่อย้ายไปอยู่หมู่บ้านดีๆเงียบๆแล้ว ก็ยังเจอปัญหาอื่นอยู่ดี
เช่น เรื่องอึหมาของเพื่อนบ้านหลังนึง และเรื่องเล็กๆที่กลายเป็นเรื่องใหญ่จนต้องต่อกำแพงสูง
กั้นระหว่างรั้วของเพื่อนบ้านอีกหลังนึง เพราะเพื่อนบ้านเอายาราดต้นไม้ในรั้วบ้านดิฉันจนตายไปเป็นแถบ
(ใบไม้ร่วงไปบ้านของเพื่อนบ้าน ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยว่า)
สาเหตุแท้จริงคือบ้านดิฉันไปสนิทสนมกับเพื่อนบ้านอีกหลังที่เค้าไม่ชอบ
ทำดีและเอาขนมไปให้แค่ไหนก็ยังมีปัญหาอื่นๆอีกร้อยแปด-_-"

เราไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมภายนอกให้เป็นอย่างใจเราได้ทั้งหมด
แต่หากเราวางใจเป็น มีสติรู้เท่าทัน ปัญหามีมากมาย แต่เราจะไม่รู้สึกทุกข์ไปกับปัญหามากนัก



อืม...จริงๆครับ ปัญหานี่มันมาไม่จบไม่สิ้นจริงๆ น่าเห็นใจครับ หัวอกเดียวกันเลย...เรามาช่วยกันสวดมนต์ แผ่เมตตาให้กับคนเหล่านั้นกันครับ เผื่อว่าบางที่บุญกุศลที่เราแผ่เมตตาให้เขา จะทำให้เขาเหล่านั้นมีแต่ความสงบสุข...ผมว่าบางทีนะ การที่เขาทำเสียงดังหรือว่า...ฯลฯ นี่อาจจะเป็นเพราะว่าเขาอาจจะกำลังเรียกร้องอะไรสักอย่างในชีวิตที่ขาดหายไป เพราะฉนั้นการได้ทำเสียงดังหรือ ฯลฯ นี่อาจจะเป็นการเติมเต็มให้กับชีวิตเขาก็ได้มั้งครับ...ผมว่านะ....แผ่เมตตาให้เขาไป เขาอาจจะได้รับ ได้พบ ได้เจอแต่สิ่งดีๆ...อนุโมทนาครับ

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2010, 07:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


จันทร์ ณ ฟ้า เขียน:
อ่านหนังสือเล่มนึง (ทำชีวิตให้ได้ดีและมีสุข –ดร.สนอง วรอุไร)
ท่านกล่าวถึงเรื่องที่คล้ายกันนี้ว่า
มีผู้ฟังท่านหนึ่งมาขอคำปรึกษา เพื่อนบ้านของท่านผู้นี้เลี้ยงสุนัข
แทนที่สุนัขจะถ่ายที่บ้านตัวเอง มันกลับมาถ่ายมูลหน้าบ้านของเขา
ทำให้เขาต้องกวาดมูลสุนัขทุกวันทั้งที่ตนไม่ได้เลี้ยง
กวาดไปก็เกิดโทสะหงุดหงิดอยากจะทะเลาะกับเพื่อนบ้านทุกที
เขาคิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไร จึงมาขอคำปรึกษา
ผมฟังแล้วจึงแนะนำเขาไปว่า ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะกวาดมูลสุนัขด้วยความยินดี
ที่ทำให้ได้ชดใช้กรรมให้หมดกันไปในชาตินี้ และขอบคุณที่ทำให้ได้สร้างขันติบารมีด้วย
ถ้าไล่สุนัข ตีสุนัข ปัญหาไม่หมด แถมทั้งสุนัขและเจ้าของอาจผูกเวรกับเราต่อ
ทำให้ต้องตามใช้กรรมกันไม่จบสิ้น
แต่ถ้าเรากวาดไปนึกเสียว่าเป็นการใช้กรรมให้หมดไป
ต่อไปจะได้ไม่ต้องตามกวาดกันอีก
เท่ากับว่าเราได้สร้างกุศลกรรมเพื่อใช้หนี้กรรมเก่าที่ทำไว้ โดยไม่สร้างกรรมใหม่อีก

coolใช่เลยค่ะคุณ จันทร์ ณ ฟ้า ทุกวันนี้สามีพี่ ตื่นตี 5 ออกกำลังกายโดย
กวาดใบไม้หน้าบ้านและแถมกวาดให้อีก 4-5 หลังที่ไม่ชอบทำของตัวเอง
ยิ่งบ้านที่นิยมปลูกมะยมหน้าบ้าน เวลาที่ลูกออกแยะๆ แล้วปล่อยทิ้งให้ร่วง
ทั้งลูกทั้งใบ รกหน้าบ้าน ตรงข้ามบ้านพี่ และข้างๆบ้านค่ะ :b33: เมื่อก่อนโกรธนะ
เดี๋ยวนี้ทำใจ ให้คนกวาดประจำตัวของพี่ :b9: กวาดแทน
เพื่อความสะอาดและตัดปัญหาแกพกถุงใส่อึหมาด้วย ถ้าเจอแถวๆนั้นเป็นเก็บค่ะ
เพราะแกไม่อยากให้เพื่อนบ้านมีปัญหากัน เราต้องการความสงบร่วมกัน
แต่ถ้าเราเสียสละแบบนี้ คนรอบๆเค้าก็จะมีความเกรงใจ อย่างน้อยสำนึกความผิดในใจ
ความเป็นคน 0.01% มันต้องมีบ้างละนะ
:b48: เพราะเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านใกล้ๆพี่เค้าก็จะดีกับเรามากๆ
เกรงใจเราอย่างเห็นได้ นั่นแหละค่ะ
พี่ถึงอยู่อย่างมีความสุข(สไตร์คนกวาดถนน :b32: :b9: )

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2010, 09:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


แหม ถ้าเป็นชาติสยาม
จะไปค้นหนังสือพิมพ์เก่าที่ห้องสมุด
หาข่าวที่ยิงกันตายเพราะเสียงหมาและอึหมา
เอามาทำจดหมายข่าวแจกทั้งหมู่บ้านเลย

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2010, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ยิง กันตายเพราะขี้หมา
หนุ่มลูกเจ้าของอู่อารมณ์เดือด

ฉุนถูกลูกเพื่อนบ้านต่อว่า เรื่องที่สุนัขของตัวเอง ไปขี้ถ่ายกองไว้หน้าบ้านที่อยู่ตรงข้ามกัน เลยเดินเข้าบ้าน คว้าปืนยิงใส่บ้านอีกฝ่าย 1 นัดแบบไม่ตั้งใจ กระสุนถูกห้องครัวก่อนทะลุเจาะหน้าผาก พ่อของคู่กรณีที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ แต่บังเอิญดวงซวยยืนอยู่ในห้องครัวพอดี จึงรับเคราะห์ไปเต็ม ๆ ก่อนจะไปสิ้นใจที่ รพ.


เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 พ.ค. ร.ต.ท.วีรวัฒน์ กิตติสุบรรณ ร้อยเวร สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

รับแจ้งมีเหตุยิงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 651 ถนนแป๊ะกง ต.ตลาด อ.กระทุ่มแบน รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ขวัญชัย ธีระกุล รอง ผกก.สส. และมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุในห้องครัว พบเพียงกองเลือด ส่วนคนเจ็บนำส่งโรงพยาบาลกระทุ่มแบน และทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อนายเสริมศักดิ์ พุ่มอ่ำ อายุ 63 ปี เจ้าของบ้าน ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาด ที่กลางหน้าผาก 1 นัด

จากการสอบสวนนายคันฉัตร พุ่มอ่ำ อายุ 29 ปี บุตรชายผู้ตายให้การว่า

มือปืนรายนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นลูกชายเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ ที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านตน ชื่อนายอดิศร อาภาพิมลรัตน์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 649 ถนนแป๊ะกง หลังก่อเหตุสลดได้หลบหนีไป โดยก่อนหน้านี้สุนัขที่บ้านนายอดิศร ชอบวิ่งมาขี้ที่หน้าบ้านตนเป็นประจำ จนทำให้ตนต้องคอยกวาดขี้สุนัขไปทิ้งอยู่เสมอ

นายคันฉัตรให้การต่ออีกว่า กระทั่งก่อนเกิดเหตุ สุนัขที่บ้านของนายอดิศร วิ่งมาขี้ที่หน้าบ้านเหมือนเคย

ตนเลยร้องตะโกนให้ช่วยดูแลสุนัขด้วย อย่าปล่อยให้มาขี้ที่หน้าบ้านคนอื่น ทำให้นายอดิศรที่กำลังซ่อมรถอยู่หลังบ้านไม่พอใจ เดินเข้าไปในบ้าน คว้าปืนออกมายิงใส่บ้านตน 1 นัด กระสุนถูกห้องครัว ก่อนจะทะลุไปโดนหน้าผากบิดาที่ไม่รู้เรื่อง ซึ่งกำลังยืนอยู่ในห้องครัวพอดี จนล้มทรุดจมกองเลือด ตนกับญาติเลยรีบนำส่ง รพ.และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงแจ้งตำรวจทราบดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่านายอดิศรคงไม่ตั้งใจจะยิงให้ถูก เพียงแค่ต้องการยิงขู่ แต่กระสุนพลาดไปถูกนายเสริมศักดิ์พอดี ซึ่งจะติดตามมือปืนเลือดร้อนรายนี้ มาดำเนินคดีต่อไป.

จาก เดลินิวส์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2010, 11:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
แหม ถ้าเป็นชาติสยาม
จะไปค้นหนังสือพิมพ์เก่าที่ห้องสมุด
หาข่าวที่ยิงกันตายเพราะเสียงหมาและอึหมา
เอามาทำจดหมายข่าวแจกทั้งหมู่บ้านเลย

:b32: :b32: :b32:


น่าสนแฮะ ว่าแตลงทุนไปป่าวครับ ท่าทางจะเหนื่อยไม่น้อยนะนั่น ถ้าทำจริงๆคงเหนื่อยเลยล่ะ

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2010, 11:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


มาอีกรอบ^^
ไม่รู้ตอนนี้คุณเสียงธรรมทุกข์น้อยลงยังนะคะ ความทุกข์ก็ไม่เที่ยงเนอะ

ถือโอกาสนี้บำเพ็ญขันติบารมีและเมตตาบารมี
ได้ครูดีที่ใกล้ตัวฟรีๆไม่ต้องเสียตัง
ทุกครั้งที่หงุดหงิด โทสะเกิด เอามาเป็นแบบฝึกหัดให้จิตได้เรียนรู้(ไตรลักษณ์)
ถึงจุดหนึ่ง ไม่ว่าเสียงอะไรจะกระทบ อารมณ์อะไรจะกระเทือน
จิตก็ไม่รู้สึกหวั่นไหวไปด้วยเลย

และเดี๋ยวธรรมก็จะจัดสรรให้เราได้พบเพื่อนบ้าน สภาพแวดล้อมที่ควรแก่เหตุที่เราทำไว้เอง
สร้างเหตุดีๆต่อไปนะคะ :b8:

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


แก้ไขล่าสุดโดย จันทร์ ณ ฟ้า เมื่อ 04 ก.ค. 2010, 11:51, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2010, 12:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


นี่ก็อีกข่าวครับ

เรื่องเล็กที่ไม่เล็ก
การสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่เพื่อนบ้าน เป็นเรื่องเล็กที่ไม่เล็ก
แต่ทุกคนยังคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก

ลงท้าย นอกจากจะไม่มีใครได้อะไรขึ้นมาแล้ว
ก็ยังเสียหายทุกฝ่าย

อึหมา กับ เสียงนก คงไม่ต่างกัน

อ้างคำพูด:
เพื่อนบ้าน ฆ่ากันตาย ”นกขุนทอง” เป็นเหตุ ร้องไม่เป็นอันหลับ
Posted on 24 มี.ค. 2010 at 6:46am

พ่อเฒ่าปืนโหดสารภาพสิ้น ภายหลังปลิดชีพพ่อเฒ่ารุ่นน้อง เพื่อนบ้านรั้วติดกัน ตายอนาถหน้าบ้านพัก “ปกติผมเป็นคนนอนดึกเพราะนอนไม่ค่อยหลับ แล้วยังต้องตื่นเช้าอีก ทำให้รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก เมื่อมาได้ยินเสียงนกขุนทองร้อง ยิ่งอารมณ์ไม่ดีเข้าไปใหญ่ เรื่องนี้เคยเข้าไปพูดคุยเรื่องนกขุนทองอยู่หลายครั้งกับเจ้าของนก แต่ได้รับคำตอบแบบกำปั้นทุบดิน ให้ไปแจ้งตำรวจเอา ตำรวจมาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จนวันนี้รู้สึกทนไม่ไหว เลยเอาปืนออกมายิงใส่ แล้วรอมอบตัวพร้อมรับผิด”

ถือปืนยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ยอมรับกรรมที่ตัวเองทำขึ้น

ต้นเหตุมาจากนกขุนทองแท้ๆ

นกตัวเดียวทำให้เพื่อนบ้านรั้วติดกันเปลี่ยนจากมิตรภาพกลายเป็นศัตรูถาวร สาเหตุเป็นเพราะสุดทนกับเจ้านกขุนทองส่งเสียงร้องรบกวนเวลาพักผ่อนจนไม่เป็น อันนอนมานานกว่า 2 ปี

จนกระทั่งเช้าตรู่ของวันที่สิ้นความอดทน ได้ออกมาดักรอเจ้าของนกที่หน้าบ้าน หวังเคลียร์ปัญหาที่คาราคาซัง แต่จบไม่ลงเลยใช้ปืนตัดสิน

นำมาสู่ความตายอย่างไม่คาดฝัน!!!

เหตุรำคาญเสียงนกร้องถึงกับฆ่ากันรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเช้าตรู่วันที่ 19 มีนาคม ร.ต.ท.สันติ ผิวทองคำ ร้อยเวร สน.สุทธิ สาร รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดี มีคนถูกยิงเสียชีวิตภายในซอยลาดพร้าว 48 แยกย่อยซอยพัทลุงแขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับ บัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.สุทธิสาร แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อ เต็กตึ๊งรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 114/115 พบร่างนายทองเจือ พฤกษา อายุ 70 ปี อดีตข้าราชการบำนาญการรถไฟแห่งประเทศไทย สภาพศพสวมเสื้อสีขาวลาย ตาราง นุ่งกางเกงขาสั้นสีฟ้า มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 จำนวน 3 นัด เข้าที่อกซ้าย ราวนมซ้าย และโหนกแก้มซ้าย นอนตะแคงคร่อมรถจักรยานจมกองเลือดอยู่ ที่คอจักรยานมีถุงข้าวโพดและอาหารแขวนอยู่

ที่เกิดเหตุพบ นายหนุน อ่ำอ่อน อายุ 75 ปี เพื่อนบ้านซึ่งมีรั้วติดกัน อดีตลูกจ้างประจำกรมช่างอากาศ อยู่บ้านเลขที่ 999/117 ซอยลาดพร้าว 48 แขวงสามเสนนอก เขตห้วย ขวาง กรุงเทพฯ รอมอบตัวรับผิดกับเจ้าหน้าที่

โดยในมือถืออาวุธปืนขนาด .38 รีวอล เวอร์ทูตมรณะเอาไว้ด้วย

ตํารวจเรียก นางมณี พฤกษา อายุ 69 ปี เมียคนตายเข้าสอบปากคำเพื่อคลายชนวนเหตุสยอง จนได้ความกระจ่าง โดยก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้า นายหนุนได้เดินออกมาตะโกนอยู่ที่หน้าบ้านเพื่อถามหานายทองเจือสามีตน เป็นจังหวะเดียวกับที่สามีขี่รถจักรยานกลับมาจากใส่บาตรที่ปากซอย

เมื่อมาถึงทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง มาจากเรื่องเจ้านกขุนทองซึ่งสามีเลี้ยงไว้มานานกว่า 2 ปี ได้ส่งเสียงดังรบกวนทำให้นายหนุนเพื่อนบ้านเกิดความไม่พอใจ จนทำให้ทั้งสองทะเลาะกันอยู่สักพัก ก่อนที่นายหนุนจะเข้าไปหยิบปืนออกมาลั่นไกใส่สามีในระยะเผาขน

เหตุการณ์ครั้งนี้ แม้ตนจะพยายามตะโกนร้องขอชีวิตสามีไว้ แต่ก็ไม่ทัน สิ้นเสียงปืนร่างของนายทองเจือล้มลงไปพร้อมกับรถจักรยานที่นั่งคร่อมตายอนาถ

เกิดจากเหตุบันดาลโทสะ!!!

ส่วนพ่อเฒ่าหนุนมือปืนโหด เผยถึงความสัมพันธ์ในอดีต ตนกับนายทองเจือซึ่งรั้วบ้านติดกัน ได้รู้จักกันมานานกว่า 28 ปี แต่เพิ่งมีเรื่องระหองระแหงกันมาเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากภรรยาของนายทองเจือพูดจาไม่ดี อีกทั้งบ้านของเขายังเจาะกำแพงห้องทะลุยังห้องลูกสาวตน

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาต้นไม้ของคนตายที่ปลูกแล้วล้ำเข้ามาในบ้าน

ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ถึงขั้นขึ้นโรงพักแจ้งความกันมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่สามารถดำเนินคดีอะไรได้ เพียงแค่ตักเตือนก็เท่านั้น ไม่ทำให้การแก้ปัญหาจบลงได้ด้วยดี แถมยังบั่นทอนความรู้สึกที่ดีในอดีต สู่การทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่อยมา

ล่าสุดมาหนักเข้ากับเสียงร้องเจ้านกขุนทองที่ส่งเสียงดังรบกวนโสตประสาท จนไม่เป็นอันนอน ทำให้พ่อเฒ่าหนุน ทนไม่ไหว เข้าไปเอาอาวุธปืนขนาด .38 ทะเบียนกท. 643328 ซึ่งซื้อมาสมัยทำงาน ออกมายิงใส่เพื่อระบายอารมณ์

สุดท้ายยืนคอตกสิ้นอิสรภาพ ช่วงไม้ใกล้ฝั่ง!!!

ไม่เฉพาะคนใกล้ตัวผู้ตายเท่า นั้นที่ตำรวจเรียกมาสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนทางคดี ยังมีเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกันถูกเรียกมาสอบประกอบในฐานะพยานแวดล้อม ต่างบอกว่า คนตายเป็นคนนิสัยดี ยิ้มแย้ม แล้วยังชอบทำบุญ แต่พบว่า 2 บ้านมักมีปัญหาระหองระแหงกันมาตั้งแต่ลูกของทั้งคู่ยังเด็ก จนโตแล้วก็ยังไม่ยอมเลิก

แถมพบว่าพ่อเฒ่าปืนโหดมักจะเป่านกหวีดเพื่อล้อเลียนเสียงนกขุนทองของคน ตายอยู่เป็นประจำ ไม่ตอนเช้าก็ตอนเย็น เป็นเรื่องที่ชาวบ้านเห็นและได้ยินชินหูชินตา

แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นฆ่ากัน

ต้องรับโทษทัณฑ์ในตะราง!!!


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 144 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร