ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ปานะแปลว่าอะไร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=32089 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | tonnk [ 27 พ.ค. 2010, 09:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | ปานะแปลว่าอะไร |
ปานะ ทั้งหลายแปลว่าอะไร |
เจ้าของ: | บัวไฉน [ 08 ส.ค. 2010, 20:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปานะแปลว่าอะไร |
tonnk เขียน: ปานะ ทั้งหลายแปลว่าอะไร ![]() ถ้าไม่ใช่ ปานะ ในความหมายของคุณ tonnk ก็ขออภัยด้วย ไปลอกเขามาอีกที จริงๆ แล้วถ้าคุณไปวัดเพื่อ ฝึกกรรมฐานหรือนั่งสมาธิ สักครั้งละก็เข้าถึง คำว่า น้ำ "ปานะ" แน่ เพราะมีให้ดื่มทุกเย็น ![]() เจริญในธรรม ![]() ![]() ![]() ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาติแก่พระภิกษุให้รับ ประเคน แล้วสามารถเก็บไว้ฉันได้ตลอด ๑ วัน ๑ คืน เรียกว่า ยามกาลิก ทรงอนุญาติไว้ ๘ อย่าง ๑. อัมพะปานะ น้ำมะม่วง ๒. ชัมพุปานะ น้ำชมพู่หรือน้ำหว้า ๓. โจจะปานะ น้ำกล้วยมีเมล็ด ๔. โมจะปานะ น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด ๕. มะธุกะปานะ น้ำมะทรางต้องเจือด้วยน้ำจึงควร ๖. มุททิกะปานะ น้ำลูกจันทน์หรือองุ่น 7. สาลุกะปานะ น้ำเหง้าบัว ๘.ผารุสะกะปานะ น้ำมะปรางหรือลิ้นจี่ ![]() ท่านยังอนุญาตน้ำที่จะอนุโลมตามน้ำปานะไว้อีก เรียกว่า กัปปิยปานะอนุโลม คือน้ำปานะที่สมควร ซึ่งฉันได้โดยไม่เป็นอาบัติในเวลาวิกาล ได้แก่ น้ำปานะแห่งผลไม้เล็ก เช่น ลูกหวาย มะขาม มะงั่ว มะขวิด สะคร้อ และเล็บเหยี่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ยังอนุญาติให้ฉันน้ำปานะเหล่านั้นผสมกับน้ำตาล แล้วเคี่ยวไฟจนเข้มข้น (ยกเว้นที่ทำจากถั่วและนม) สามารถฉันได้ จัดเป็น อัพโพหาริก เช่น น้ำอัดลมในสมัยนี้ แม้นน้ำผลไม้สำเร็จรูป เช่น น้ำองุ่นที่กรองเนื้อออกดีแล้ว ก็ดื่มได้ ![]() อกัปปิยปานะอนุโลม หรือ เครื่องดื่มที่ไม่พึงดื่ม คือ น้ำปานะที่ไม่สมควร ภิกษุดื่มในเวลาวิกาลไม่ได้ ถ้าดื่ม ต้องอาบัติปาจิตตย์ ได้แก่ น้ำแห่งธัญชาติ (ข้าว) ๗ ชนิด คือ ข้าวสาลี ข้าวเปลือก ข้าวเหนียว ข้าวละมาน ข้าวฟ่าง ลูกเดือย และหญ้ากับแก้ น้ำแห่งมหาผล (ผลไม้ใหญ่ ) ๙ ชนิด คือ ผลตาล มะพร้าว ขนุน สาเก น้ำเต้า ฟักเขียว แตงไท แตงโม และ ฟักทอง น้ำแห่งอปรัณณชาติ ได้แก่ ถั่วชนิดต่าง ๆ มีถั่วเหลือ ถั่วเขียว ถั่วดำ และงา เป็นต้น แม้นจะต้มจะกรอง ทำเป็น เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ก็ย่อมเป็นอาบัติปาจิตตีย์ นม ท่านจัดเป็นอาหารอันประณีต ภิกษุสามเณรไม่พึงฉันยามวิกาล แม้นจะผสมกับเครื่องดื่มต่าง ๆ ก็ไม่ควร หากฉัน ก็ย่อมต้องอาบัติปาจิตตีย์ ![]() พึงงดเว้นเครื่องดื่มที่ทรงห้ามแก่ภิกษุทั้งหลายในยามวิกาล |
เจ้าของ: | ปฐมกรรม [ 23 ก.ย. 2010, 22:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปานะแปลว่าอะไร |
ความคิดส่วนตัวครับ น้ำปานะ ผมคิดว่าน่าจะเป็นน้ำเปล่า ที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ใดๆทั้งสิ้น เพราะเคยได้ยินจากพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอก ว่าไม่สมควรทานน้ำที่มี รส จะเกิดความอยากความต้องการมากขึ้น แทนที่จะตัดความอยากให้เกิด แต่กลับไปเพิ่มพูนให้มีเยอะขึ้น ฟังจากข้างต้นแล้ว ในสมัยก่อน การคั้นน้ำผลไม้ สำหรับพระสงฆ์แล้ว มันน่าจะลำบากน่าดูที่จะนำมาฉันท์ตอนเย็น ตอนค่ำ หรือจะเก็บไว้ก็ไม่สำควร เพราะพระไม่สมควรนำ อาหารคาว หวาน เก็บไว้เกินเที่ยง ส่วนน้ำต่างๆที่ได้มีการกลั่น น่าจะไว้ตอนพระท่านอาพาส มากกว่าครับ แต่สำหรับผู้ถือศีลอุโบสถ อาจจะเป็นการอนุโลมก็เป็นได้ ข้อความด้านบนนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวและส่วนครอบครัวโปรดใช้วิจารณาญานครับ |
เจ้าของ: | student [ 24 ก.ย. 2010, 00:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปานะแปลว่าอะไร |
อ่านแล้วได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับวินัยของสงฆ์ดีจัง |
เจ้าของ: | วังวนในกามภพ [ 25 ก.ย. 2010, 01:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปานะแปลว่าอะไร |
บัวไฉน เขียน: tonnk เขียน: ปานะ ทั้งหลายแปลว่าอะไร ![]() ถ้าไม่ใช่ ปานะ ในความหมายของคุณ tonnk ก็ขออภัยด้วย ไปลอกเขามาอีกที จริงๆ แล้วถ้าคุณไปวัดเพื่อ ฝึกกรรมฐานหรือนั่งสมาธิ สักครั้งละก็เข้าถึง คำว่า น้ำ "ปานะ" แน่ เพราะมีให้ดื่มทุกเย็น ![]() เจริญในธรรม ![]() ![]() ![]() ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาติแก่พระภิกษุให้รับ ประเคน แล้วสามารถเก็บไว้ฉันได้ตลอด ๑ วัน ๑ คืน เรียกว่า ยามกาลิก ทรงอนุญาติไว้ ๘ อย่าง ๑. อัมพะปานะ น้ำมะม่วง ๒. ชัมพุปานะ น้ำชมพู่หรือน้ำหว้า ๓. โจจะปานะ น้ำกล้วยมีเมล็ด ๔. โมจะปานะ น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด ๕. มะธุกะปานะ น้ำมะทรางต้องเจือด้วยน้ำจึงควร ๖. มุททิกะปานะ น้ำลูกจันทน์หรือองุ่น 7. สาลุกะปานะ น้ำเหง้าบัว ๘.ผารุสะกะปานะ น้ำมะปรางหรือลิ้นจี่ ![]() ท่านยังอนุญาตน้ำที่จะอนุโลมตามน้ำปานะไว้อีก เรียกว่า กัปปิยปานะอนุโลม คือน้ำปานะที่สมควร ซึ่งฉันได้โดยไม่เป็นอาบัติในเวลาวิกาล ได้แก่ น้ำปานะแห่งผลไม้เล็ก เช่น ลูกหวาย มะขาม มะงั่ว มะขวิด สะคร้อ และเล็บเหยี่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ยังอนุญาติให้ฉันน้ำปานะเหล่านั้นผสมกับน้ำตาล แล้วเคี่ยวไฟจนเข้มข้น (ยกเว้นที่ทำจากถั่วและนม) สามารถฉันได้ จัดเป็น อัพโพหาริก เช่น น้ำอัดลมในสมัยนี้ แม้นน้ำผลไม้สำเร็จรูป เช่น น้ำองุ่นที่กรองเนื้อออกดีแล้ว ก็ดื่มได้ ![]() อกัปปิยปานะอนุโลม หรือ เครื่องดื่มที่ไม่พึงดื่ม คือ น้ำปานะที่ไม่สมควร ภิกษุดื่มในเวลาวิกาลไม่ได้ ถ้าดื่ม ต้องอาบัติปาจิตตย์ ได้แก่ น้ำแห่งธัญชาติ (ข้าว) ๗ ชนิด คือ ข้าวสาลี ข้าวเปลือก ข้าวเหนียว ข้าวละมาน ข้าวฟ่าง ลูกเดือย และหญ้ากับแก้ น้ำแห่งมหาผล (ผลไม้ใหญ่ ) ๙ ชนิด คือ ผลตาล มะพร้าว ขนุน สาเก น้ำเต้า ฟักเขียว แตงไท แตงโม และ ฟักทอง น้ำแห่งอปรัณณชาติ ได้แก่ ถั่วชนิดต่าง ๆ มีถั่วเหลือ ถั่วเขียว ถั่วดำ และงา เป็นต้น แม้นจะต้มจะกรอง ทำเป็น เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ก็ย่อมเป็นอาบัติปาจิตตีย์ นม ท่านจัดเป็นอาหารอันประณีต ภิกษุสามเณรไม่พึงฉันยามวิกาล แม้นจะผสมกับเครื่องดื่มต่าง ๆ ก็ไม่ควร หากฉัน ก็ย่อมต้องอาบัติปาจิตตีย์ ![]() พึงงดเว้นเครื่องดื่มที่ทรงห้ามแก่ภิกษุทั้งหลายในยามวิกาล ขอบคุณครับ ได้ทบทวนอีกครั้ง เกือบลืมไปเลยตั้งแต่บวชเรียนมา อนุโมทนาครับ |
เจ้าของ: | Hanako [ 26 ก.ย. 2010, 11:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปานะแปลว่าอะไร |
น้ำเก็กฮวยน่าจะได้เนาะ กรองละเอียดเลยไม่มีผงเหลือเลย ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |