วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 22:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2010, 20:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

ธรรมะแก้ปัญหาฆ่าตัวตาย (ลป.ชา)

คนในยุคนี้มีความกดดันทางจิตใจมากขึ้นกว่าคนในยุคก่อน เพราะเงื่อนไขทางสังคมที่ต้องวิ่งไปตามแรงเหวี่ยงของระบบทุนนิยม เสรีนิยม บริโภคนิยม หรูหรานิยม และวิตถารนิยม ซึ่งเป็นถ้อยคำที่เราไม่คุ้นหู โดยเฉพาะสองคำหลังดังกล่าวมา แต่เราไม่อาจปฏิเสธว่ากระแสสังคมสมัยใหม่ไหลไปตามกระแส โลกียะแบบสุดโต่ง น้อยกว่าน้อยนักที่จะผลักเบนชีวิตเข้าสู่กระแสธรรมกระแสโลก หรือที่เราเรียกกันว่าเป็นกระแสโลกาภิวัตน์นี่แหละที่เป็นตัวการสร้างความเครียดให้สังคมอย่างสำคัญ คนยุคนี้มีความรู้ในเรื่องไกลตัวมากขึ้น แต่มีความรู้ในเรื่องใกล้ตัวลดน้อยถอยลง การประคับประคองชีวิตให้อยู่ได้ในยุคนี้นั้น จำเป็นจะต้องเลี้ยวกลับคืนสู่ฐานที่มั่นคงแห่งวันคืน มิใช่ปล่อยใจให้ไหลเตลิดไปตามกระแสภายนอกจนละเลยความสงบภายใน

คนที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายนั้น เป็นคนที่ขาดอาหารทางใจอย่างรุนแรง ไม่ว่าการฆ่าตัวตายนั้นจะมีสาเหตุมาจากเรื่องใดก็ตาม คนที่มองเห็นว่าความตายดีกว่าการมีชีวิตอยู่ เป็นเพราะเขาไม่มีชีวิตอยู่กับชีวิต เขาไม่มีความยินดีพอใจในชีวิตที่ดำเนินอยู่ ณ ปัจจุบันขณะ อาจเป็นเพราะเขาไม่ได้สร้างคุณค่าให้กับชีวิตให้มากพอที่จะชื่นชมคุณค่าภายในของตน หรือแม้จะสร้างคุณค่าของชีวิตไว้มากมาย แต่เป็นการสร้างแบบหวังผลให้ผู้อื่นเห็นคุณค่าของชีวิตตน และมักจะนำมาซึ่งความผิดหวังที่””ใครๆก็ไม่รักผม...แม้แต่พัดลมก็ยังส่ายหน้าเลย

คนที่ทำความดีแล้วยังไม่ได้รับผลดีนั้นเป็นเพราะยังทำความดีไม่มากพอ มิใช่เพราะคนอื่นมองข้ามความดีของตน หากว่าใครก็ตามที่ทำความดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย มีความต่อเนื่องเป็นเรื่องเป็นราว เช่นเดียวกับคนขยันหมั่นปลูกต้นไม้ แม้ไม่มีใครเห็นต้นไม้ที่ตนเองได้ปลูกเลยสักต้นเดียว ต้นไม้ก็ย่อมยืนต้นเติบโตตามประสาต้นไม้อยู่นั่นเอง ต้นไม้ไม่เคยกังวลอาวรณ์ว่าจะไม่มีใครมาเห็นลำต้นของตน คนที่แน่ใจว่าได้ทำความดีก็น่าจะมีความภูมิใจที่ได้ทำความดี โดยมิพักต้องเสียเวลาและอารมณ์ที่ใครจะเห็นค่าของตน เพราะความดีย่อมมีค่าในตนอยู่แล้ว ความน้อยใจ เว้าใจ แหว่งใจ เมื่อประสบภาวะไม่สมใจ นำคนไปสู่การทำอัตตวินิบาตกรรมมานักต่อนักแล้ว คนที่มีอาการหิวโหยความรักจากผู้อื่น มักจะประสบทุกข์จากอาการจิตที่ไม่คงที่ ชอบที่จะทำให้คนอื่นมีสภาพเหมือนดวงจันทร์ โดยที่ตนเองกลายเป็นน้ำขึ้นน้ำลง ภายใต้อิทธิพลของดวงจันทร์นั้น

คนที่คิดฆ่าตัวตายนั้นต้องออกจากโลกส่วนตัวไปสัมผัสสัมพันธ์กับโลกส่วนรวม การกักขังตนเองอยู่กับความ คิดที่เต็มไปด้วยความเครียดนั้น เป็นอันตรายทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ธรรมชาติของมนุษย์เป็นสัตว์สังคม หรือเป็นสัตว์โขลงที่ต้องอยู่ร่วมกัน แม้จะมีปัญหาระหว่างคนกับคน ก็ยังไม่น่ากลัวเท่ากับปัญหาระหว่างตนกับตน

คนรอบข้างที่ทราบข่าวหรือสังเกตได้ว่าคนรู้จักของตนเริ่มมีอาการปลีกวิเวกอย่างผิดสังเกต ก็ขอให้ใส่ใจต่อความเป็นไปของเขาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องไปเซ้าซี้จี้ใจดำของเขาหรอก เดี๋ยวเขาจะปฏิเสธ ขอให้เข้าไปหาเขาแบบเพื่อนร่วมทุกข์ ดึงเขาออกไปจากความคิดส่วนตัวสักชั่วคราว อารมณ์ทุกข์เป็นอารมณ์ไม่เที่ยง หากไม่จมกับอารมณ์นั้นนานนัก เดี๋ยวอารมณ์ก็จะผ่อนคลายหายเครียด

:b8: :b8: :b8:


.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 210 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร