วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 12:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 12:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 12:06
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าพ่อของเรามีหนี้สินล้นพ้นตัว สาเหตุมีหลายอย่าง แต่ที่สำคัญคือส่งเสียตัวข้าพเจ้าและพี่ให้เรียนปริญญาโท พ่อดื่มเหล้าหนักตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่ม ด้วยความเป็นคนใจกว้างและเป็นหัวหน้าของใครหลายคนจึงเป็นผู้จ่ายเงินกับสิ่งเหล่านี้ เงินเดือนติดลบเรื่อยมา แต่พ่อก็มีความซื่อสัตย์มาก อาชีพของพ่อก็สามารถเอื้อต่อการทุจริตได้แต่พ่อไม่ทำค่ะ ข้าพเจ้าชื่นชมในความดีข้อนี้ของพ่อ ปู่กับย่าได้ช่วยเหลือตามชดใช้หนี้สินให้พ่อตลอดมา ตอนนี้ปู่ไม่อยู่แล้ว ย่าก็คงไม่สามารถตามชดใช้หนี้สินให้พ่อได้ตลอดชีวิต ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่กับพ่อตั้งแต่เด็กเพราะพ่อกับแม่แยกกันอยู่ พ่อบอกว่า "ไม่ต้องห่วงพ่อ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องการเงินของพ่อ พ่อจัดการได้" แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เคยมีความสุข บางครั้งก็จะไม่พยายามคิด ตอนนี้หนี้บัตรเครดิตของพ่อคงจะเข้าใกล้ล้านบาทแล้ว ด้วยอัตราดอกเบี้ยขนาดนั้น ข้าพเจ้าควรทำอย่างไรดี ควรจะชดใช้หนี้ให้พ่อหรือเปล่า ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาใช้ได้หมด สมมติว่าชดใช้ให้พ่อหมด พ่อจะสร้างหนี้อีกหรือเปล่า รู้สึกว่ามันเป็นวัฏจักร ไม่รู้จะมีทางออกอย่างไร ช่วยด้วยค่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย ammm เมื่อ 25 มี.ค. 2010, 16:52, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 13:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ammm เขียน:
ถ้าพ่อของเรามีหนี้สินล้นพ้นตัว สาเหตุมีหลายอย่าง แต่ที่สำคัญคือส่งเสียตัวข้าพเจ้าและพี่ให้เรียนปริญญาโท พ่อดื่มเหล้าหนักตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่ม ด้วยความเป็นคนใจกว้างและเป็นหัวหน้าของใครหลายคนจึงเป็นผู้จ่ายเงินกับสิ่งเหล่านี้ เงินเดือนติดลบเรื่อยมา แต่พ่อก็มีความซื่อสัตย์มาก อาชีพของพ่อก็สามารถเอื้อต่อการทุจริตได้แต่พ่อไม่ทำค่ะ ข้าพเจ้าชื่นชมในความดีข้อนี้ของพ่อ ปู่กับย่าได้ช่วยเหลือตามชดใช้หนี้สินให้พ่อตลอดมา ตอนนี้ปู่ไม่อยู่แล้ว ย่าก็คงไม่สามารถตามชดใช้หนี้สินให้พ่อได้ตลอดชีวิต ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่กับพ่อตั้งแต่เด็กเพราะพ่อกับแม่แยกกันอยู่ พ่อบอกว่า "ไม่ต้องห่วงพ่อ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องการเงินของพ่อ พ่อจัดการได้" แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เคยมีความสุข บางครั้งก็จะไม่พยายามคิด ตอนนี้หนี้บัตรเครดิตของพ่อคงจะเข้าใกล้ล้านบาทแล้ว ด้วยอัตราดอกเบี้ยขนาดนั้น ข้าพเจ้าควรทำอย่างไรดี ควรจะชดใช้หนี้ให้พ่อหรือเปล่า ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาใช้ได้หมด สมมติว่าชดใช้ให้พ่อหมด พ่อจะสร้างหนี้อีกหรือเปล่า รู้ซึกว่ามันเป็นวัฏจักร ไม่รู้จะมีทางออกอย่างไร ช่วยด้วยค่ะ


วาง
เมื่อไม่รู้จะทำอะไรได้แล้วก็ ...

เมื่อไหร่รู้ว่าขับรถกำลังจะชน หลบไม่พ้นแล้วก็ปล่อยเลย
ตั้งใจยอมรับสิ่งที่จะเกิด เพราะลนลานฟุ้งซ่านไปก็เท่านั้น
ไม่ได้ช่วยอะไรเลย


เมื่อไหร่รู้ขึ้นได้ว่าควรทำอะไรค่อย...ทำ

ผมก็เป็นคนนึงที่มีปัญญาในการจัดการเรื่องไม่น่ารักของบุพการี
ผมได้ข้อสรุปว่า อันไหนแก้ไม่ได้ อย่าฝืน ปล่อยวางดีกว่า

เวลาคิดหาคำตอบไม่ได้ว่าจะทำอะไรยังไง ขอให้ท่องไว้เลยว่า
ถ้าหาคำตอบไม่ได้แล้ว
...วาง .... เป็นคำตอบสุดท้ายเสมอ
ถึงไม่อยากจะวาง ช้าเร้วก็ต้องวางอยู่ดี ไม่สภาพใดก้สภาพหนึ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 14:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แต่พ่อก็มีความซื่อสัตย์มาก อาชีพของพ่อก็สามารถเอื้อต่อการทุจริตได้แต่พ่อไม่ทำค่ะ


อนุโมทนาครับ..ชื่นชมในความดีข้อนี้ของพ่อด้วยครับ..

อ้างคำพูด:
ปู่กับย่าได้ช่วยเหลือตามชดใช้หนี้สินให้พ่อตลอดมา ตอนนี้ปู่ไม่อยู่แล้ว ย่าก็คงไม่สามารถตามชดใช้หนี้สินให้พ่อได้ตลอดชีวิต

ตรงนี้พ่อทุจริตหนักเลยครับ เพราะมาทุจริตด้วยการสร้างภาระให้ปู่ย่า บาปหนักที่ทำนี้ส่งผลให้ทันตาจนชีวิตเต็มไปด้วยหนี้สินที่ไม่อาจชดใช้ด้วยตนเอง หนี้นี้จะถูกยกยอดไปให้ได้ใช้อีกในหลายร้อยพันอัตภาพหน้า.. :b5: :b5:

อ้างคำพูด:
ชีวิต ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่กับพ่อตั้งแต่เด็กเพราะพ่อกับแม่แยกกันอยู่ พ่อบอกว่า "ไม่ต้องห่วงพ่อ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องการเงินของพ่อ พ่อจัดการได้"


เชื่อท่านสักครั้งเถิด ในเมื่อท่านกล่าวเช่นนั้น..

อ้างคำพูด:
แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เคยมีความสุข บางครั้งก็จะไม่พยายามคิด ตอนนี้หนี้บัตรเครดิตของพ่อคงจะเข้าใกล้ล้านบาทแล้ว ด้วยอัตราดอกเบี้ยขนาดนั้น ข้าพเจ้าควรทำอย่างไรดี ควรจะชดใช้หนี้ให้พ่อหรือเปล่า ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาใช้ได้หมด


ยุติความเดือดร้อนใจเสียนะครับ อย่าปล่อยใจไหลไปกับบาปอยู่ เพราะความเดือดร้อนใจนี้เป็นจิตที่มีโทสะประกอบ หากตายตอนนี้ อบายทุคติย่อมเป็นที่ไปครับ..

สรุปอาการที่เดือดร้อนใจนั้น มาจากเหตุ๒อย่างคือ..

๑. จะช่วยพ่อดีหรือไม่
๒. พ่อจะทำหนี้เพิ่มหรือไม่

การแก้ไขคือ..

๑. หากคุณมีรายได้แล้ว พอจะแบ่งให้พ่อบ้างตามอัตภาพ จะเป็นสิบ หรือร้อยหรือพัน หมื่นฯลฯก็ได้ตามที่ตนคิดว่าสามารถทำได้แล้วตนไม่เดือดร้อน..การทำเช่นนี้ย่อมได้ชื่อว่่าคุณเป็นกตัญญูบุคคล และ สามารถเลี้ยงดูพ่อได้ นับเป็นมงคลชีวิต ๒ ประการแล้ว..เมื่อคุณทำได้เช่นนี้ ขึ้นชื่อว่าคุณได้เอื้อเฟื้อช่วยบุพพการีอยู่ ความเดือดร้อนใจในข้อนี้จะหมดไปแม้เงินที่ให้จะไม่มาก แต่จิตคิดสงเคราะห์พ่อเต็มเปี่ยม บุญที่ได้ย่อมมีอานิสงค์นับประมาณมิได้ครับ..พ่อแม่คือพระอรหันต์ของลูก การทำบุญใดๆกับท่านย่อมยังผลไพบูลย์มาสู่ตนครับ..

๒. ข้อนี้ขอให้ทำความเห็นให้ถูกตรงก่อนดังนี้ว่า สัตว์ทั้งหลายย่อมมาด้วยกรรมของตน พ่อก็มาด้วยกรรมของพ่อ การที่พ่อ-มีไม่พอ-หรือ -พอไม่มี- นั้นมาจากส่วนผสม๒อย่าง อย่างแรกที่ มีไม่พอ มาจากบาปเก่าที่เคยล่วงศีลข้ออทินนาทานมาแล้ว กรรมจึงมาส่งผลให้เป็นผู้ขาดแคลน มีไม่พอจึงต้องเป็นหนี้ท่วมหัวเช่นนี้ ..

ส่วนที่ พอไม่มี..นั้นมาจากกิเลสตัณหาของพ่อเอง คือเป็นผู้มักมาก อยากมีหรือได้เกินตัว ไม่มีสติปัญญายั้งคิดว่าสิ่งใดควรไม่ควร เขลาบอดเพราะไม่มีหิริโอตตัปปะคือการละอายชั่วกลัวบาปเพราะไม่เคยสดับฟังคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเลยจึงแยกไม่ออกว่าสิ่งใดดีหรือชั่ว มีประโยชน์หรือไม่มี..

อุปนิสสัยที่มาจากเหตุทั้ง๒ดังกล่าวนี้ พ่อต้องแก้ไขเอง คนอื่นจะแก้ให้ไม่ได้ หากพ่อได้สดับฟังพระธรรมบ้าง ก็อาจสามารถแก้ไขความเดือดร้อนของตนได้ แต่หากพ่อไม่สนใจไม่มีบุญเก่ามาเพื่อจะฟังธรรม ก็ให้ทราบว่า การเพิ่มหนี้ของพ่อย่อมเป็นที่หวังได้ เพราะกรรมและกิเลสตัณหาของพ่อย่อมเป็นกำลังส่งเสริมกันให้เป็นไป...เมื่อเป็นเช่นนี้ พึงทราบว่า แม้พระพุทธเจ้าจำนวนเท่าเม็ดทรายในทะเลก็ไม่อาจช่วยหรือแก้ไขคนเช่นนี้ได้..

ก็แล้วเราเป็นใคร...ดีกว่าพระพุทธเจ้าแล้วหรือ จึงคิดว่าจะสามารถช่วยคนเช่นนี้ได้...??..นี่ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ควรเดือดร้อนเลย พ่อก็มาด้วยกรรมของพ่อ ส่วนดีที่พ่อมีคือเลี้ยงส่งเสียเรามาก็เป็นบุญของพ่อที่จะตามอุปการะพ่อในกาลต่อไป ส่วนเรื่องหนี้ของพ่อ เราได้มีส่วนก่อด้วยหรือเปล่า? หากไม่มีเลย ไม่ยินดีเลย กรรมนั้นเป็นของพ่อคนเดียวเท่านั้น เพราะการทำกรรมแทนกันได้ไม่มีเด็ดขาด ..

เมื่อเรามิได้มีส่วนในกรรมนั้น แต่กลับเอามาเดือดร้อนใจอยู่ ก็กลายเป็นการทำบาปทางใจอย่างต่อเนื่องหากปล่อยไปเช่นนี้นานเข้า จะเป็นการสั่งสมอุปนิสสัยให้เป็นผู้มีจิตเป็นโทสะบ่อยๆ ในที่สุดโทสะนั้นย่อมยังรูปคือกายนี้ให้เสียหายมีการเข้าถึงความเป็นโรคซึมเศร้า โรคเครียดและฯลฯตามมา อำนาจทางจิตนั้นมีพลังเกินหยั่งถึงครับ จึงพึงปล่อยวางเสีย ในส่วนนี้..


.. :b54: :b54: :b54: :b48: :b54: :b54: :b54:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 25 มี.ค. 2010, 14:34, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 15:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
เมื่อไม่รู้จะทำอะไรได้แล้วก็ ...

เมื่อไหร่รู้ว่าขับรถกำลังจะชน หลบไม่พ้นแล้วก็ปล่อยเลย
ตั้งใจยอมรับสิ่งที่จะเกิด เพราะลนลานฟุ้งซ่านไปก็เท่านั้น
ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เมื่อไหร่รู้ขึ้นได้ว่าควรทำอะไรค่อย...ทำ
เวลาคิดหาคำตอบไม่ได้ว่าจะทำอะไรยังไง ขอให้ท่องไว้เลยว่า
ถ้าหาคำตอบไม่ได้แล้ว
...วาง .... เป็นคำตอบสุดท้ายเสมอ
ถึงไม่อยากจะวาง ช้าเร้วก็ต้องวางอยู่ดี ไม่สภาพใดก้สภาพหนึ่ง


cool เดี๋ยวนี้คุณอา เปลี่ยนไปนะคะ ดูเป็นผู้ใจดี แนะนำเหมือนครู สอนลูกศิษย์ เลยค่ะ :b32:
แต่ชอบนะ ปล่อยวางเป็นคำตอบสุดท้าย
แต่การที่จะทำนี่ซิคะ.....ยากจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 15:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นใจครับ..เห็นใจจริงๆ..แต่ปัญหาการมีหนี้นี้ ในประเทศนี้ หรือในโลกนี้ มีผู้คนอีกมากมายที่เป็นแบบคุณรวมทั้งกระผมด้วย อยากจะส่งเสียลูกสาวให้ได้เรียนปริญญาโท แต่ก็ไม่มีกำลังพอและก็เป็นหนี้
อย่าท้อ..อย่าน้อยใจใดๆ มีผู้คนอีกมากมายที่ด้อยโอกาศกว่าคุณ
คุณจงภูมิใจ..คุณมีปัญญาทางโลก(ปริญญาโท)ที่จะสามารถแก้ปัญหาหนี้ของบิดาได้ ไม่หมดก็เหลือน้อย ซึ่งเป็นการกตัญญูต่อพ่อแม่ อันพุทธศาสนิกชนพึงกระทำ เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ ถึงจะเป็นการตอบแทนบุญคุณเล็กน้อย เมื่อเทียบกับพ่อ-แม่(พระอรหันต์ของเรา)ที่ให้ชีวิตเรามา อุ้มชู เพาะ บ่มเรามาตอบแทนยังไงชาตินี้คงไม่หมด(เว้นแต่...)

ส่วนส่งเสริม แนะนำ คือขอให้คุณมีปัญญาทางธรรม(ปริญญาทางธรรม) ทางจิต วิญญาน ข้อนี้คุณจะประสบผลในการแก้ปัญหาทุกอย่างในชีวิตคุณ ตัวคุณ ในจิตใจคุณ เข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แล้วคุณมีจะอริยทรัพย์ที่แท้จริง ทั้งทางโลก ทางธรรม อันจะพาคุณแก้ปัญหาทุกอย่างได้ในที่สุด.
ขอจงเจริญในธรรมยยิ่งขึ้นไป เทอญ.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 16:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 22:46
โพสต์: 167

แนวปฏิบัติ: buddhism
อายุ: 0
ที่อยู่: nontaburi

 ข้อมูลส่วนตัว


.....
:b8: :b8: :b8:

ถ้าเรามีกำลัง แนะนำให้ช่วยใช้ครับ ให้อยู่บนพื้นฐาน "เราพออยู่ได้"

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 16:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 12:06
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณทุกท่านนะคะ ที่ชี้ทางธรรมให้โดยเฉพาะคูณ dd ตอนอ่านน้ำตาไหลพรากเลยค่ะ

ขอเล่าเพิ่มเติมนะคะ
ตั้งแต่เรียนจบมา 4 ปี ข้าพเจ้าส่งเงินให้แม่หลักหมื่นทุกเดือนค่ะ เงินเดือนเดือนแรกให้แม่หมดค่ะ ในขณะที่ข้าพเจ้าจะส่งเงินให้พ่อหลักพันค่ะทำมาประมาณเกือบ 2 ปี หลังจากพอมีรายได้เพิ่มขึ้นและไม่เกินกำลังของตัวเอง ปัจจุบันข้าพเจ้ายังพอมีเงินเหลือเก็บและให้ทานเป็นประจำ ตอนนี้ทำงานไปด้วยและเรียนโทจะจบเทอมนี้โชคดีที่ได้รับทุนการศึกษาค่ะ กลัวว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้ยังไม่ดีพอ

คิดว่า "ให้พ่อน้อยไป" ถ้าอยู่เฉยเกรงว่าจะบาป พ่อมีหนี้จากตัวพ่อเองนานแล้ว ถึงแม้ว่าหนี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่พ่อส่งเงินให้เรียนจบป.ตรี และส่งพี่สาวเรียนป.ตรีและป.โทจนจบ (ตอนเด็กแม่ส่งเสียลูก 2 คนเพียงลำพังค่ะ) ก็เลยคิดว่าเรามีส่วนทำให้พ่อเป็นหนี้ เราควรจะแบกรับหนี้สินเอาไว้

ตอนนี้รู้แล้วว่าควรปล่อยวาง รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น ขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย ammm เมื่อ 25 มี.ค. 2010, 16:53, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 17:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ตั้งแต่เรียนจบมา 4 ปี ข้าพเจ้าส่งเงินให้แม่หลักหมื่นทุกเดือนค่ะ เงินเดือนเดือนแรกให้แม่หมดค่ะ ในขณะที่ข้าพเจ้าจะส่งเงินให้พ่อหลักพันค่ะทำมาประมาณเกือบ 2 ปี หลังจากพอมีรายได้เพิ่มขึ้นและไม่เกินกำลังของตัวเอง ปัจจุบันข้าพเจ้ายังพอมีเงินเหลือเก็บและให้ทานเป็นประจำ ตอนนี้ทำงานไปด้วยและเรียนโทจะจบเทอมนี้โชคดีที่ได้รับทุนการศึกษาค่ะ กลัวว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้ยังไม่ดีพอ


สาธุๆ อนุโมทนาครับ บุคคลเช่นนี้ ย่อมมีความเจริญทั้งในโลกนี้และโลกหน้าครับ... :b8:

พึงยินดีในมหากุศลของตนเช่นนี้เนืองๆย่อมยังจิตให้เป็นกุศลสืบเนื่องยาวนานเพิ่มพูนผลแห่งบุญได้อีกไม่จำกัดกาลทีเดียว...

เรื่องบุญคุณพ่อแม่นั้น หากสามารถตอบแทนได้ก็เป็นสิ่งที่วิเศษยิ่งยวดครับ ส่วนเรื่องที่เดือดร้อนใจนั้น เมื่อเกิดขึ้นคราใดก็พึงปรารภเรื่องกรรม แล้วคิดถึงความขวนขวายที่เรามีมาแล้วในการตอบแทนคุณท่านและกำลังดำเนินอยู่ให้ปลื้มใจแทน มนัสสิการว่า การอุปการะตอบแทนคุณบิดามารดาอันบุคคลทั่วๆไปทำได้ยากยิ่งนั้น แม้เราก็ทำแล้ว..และจะทำให้ดีที่สุด เมื่อเราปรารภเช่นนี้เจตนาของเราเป็นมหากุศลแล้ว เรียกว่าทำเหตุดีไว้แล้ว.คือเป็นไปเพื่อการตอบแทนคุณท่าน...ส่วนผลจะได้อย่างไรแก่พ่อย่อมไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาหรือบงการอะไรได้..จึงไม่พึงพะวงถึงด้วยความวิตกกังวล..

หากมีโอกาสทำได้ ควรชักนำพ่อให้ศึกษาและปฏิบัติธรรม นี้จะเป็นการตอบแทนคุณที่ยิ่งยวดกว่าการเลี้ยงดูท่านด้วยข้าวน้ำหรือวัตถุใดๆครับ..อาจหาหนังสือธรรมะไปให้ท่านอ่าน หรือชวนไปฟังธรรม..เป็นต้น แต่ก็ไม่พึงคาดหวังใดๆมากเพราะเรื่องของธรรมะนี้ื เฉพาะผู้มีบุญเก่าสั่งสมมาดีเท่านั้นจึงจะรับได้ ในโลกนี้ ผู้มีบุญเช่นนี้มีน้อยมากจริงๆ..แต่อย่าเพิ่งท้อก่อนเริ่มครับ บางทีนี่จะเป็นโอกาสทองทั้งของพ่อและเราเองก็เป็นได้..

:b54: :b54: :b54: ขอให้ประสบสิ่งกุศลอันพึงหวังครับ :b54: :b54: :b54:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.พ. 2010, 19:37
โพสต์: 13

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาในความกตัญญค่ะ

ก่อนจะอุเบกขา ต้องผ่านความพยายามก่อนนะคะ เมื่อเห็นว่าไม่เป็นผลค่อยวางอุเบกขา ถ้าวางตั้งแต่ยังไม่ทำอะไร(ตามคำสั่งกิเลส)ก็เสร็จค่ะ กรณีของคุณ คือต้องวางเฉยที่ใจค่ะ สิ่งที่ควรส่งเสียในฐานะลูก ก็ต้องทำต่อไป เพราะบุญคุณของพ่อแม่ ต่อให้ท่านนั่งบนบ่า สองข้าง ถ่ายรดเรา (นานขนาดไหนจำไม่ได้ค่ะ) ก็ยังใช้หนี้ไม่หมด เราเกิดเป็นลูกท่าน เพราะมีกรรม(ทั้งดีและไม่ดี)ผูกพันกันมา ยังไงก็ต้องชดใช้ และทำให้ดีที่สุดค่ะ ยังไงเสีย คนมีความกตัญญู ก็ต้องพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองแน่นอน

สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2010, 07:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 06:38
โพสต์: 59

อายุ: 21

 ข้อมูลส่วนตัว


จะให้วางโดยทั้งหมดก็ไม่ได้

ความกตัญญูจัดเป็นมงคลข้อที่ ๒๕ หมายถึง การรู้คุณ
กตเวที จัดเป็นมงคลข้อที่ ๒๖ หมายถึง การทดแทนคุณ

แต่ว่าเรื่องนี้ก็คงสาหัสน่าดูถ้าหนี้เหยียบล้านแบบนี้
แต่ในฐานะที่เราเป็นลูก บุคคลที่เป็นพระอรหันต์สำหรับลูกคือ พ่อและแม่
เพราะท่านเป็นผู้ให้ชีวิตเรามา ไม่ว่าลูกจะเลวชั่วยังไงพ่อแม่ก็มีเมตตาพร้อมที่จะให้อภัยลูกเสมอ
แม้ว่าบางอย่างไม่ได้กระทำออกมาให้เราเห็นชัดเจน แต่สัมพันธ์ความเป็นพ่อ ความเป็นแม่ที่มีต่อลูกนี้
ไม่เคยเปลี่ยนแปลงหรือหันไปโกรธแค้นเลย

โดยส่วนตัวแล้วนั้นหนี้เหยียบล้าน เราคงจะไม่มีปัญญาช่วย เหมือนกับ เรามีบุญหลักร้อย จะไปช่วยคนบาปหลักพัน มันเหนื่อยเกินไปสำหรับเรา แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น เราจะวางปล่อยให้ท่านเป็นไปตามยถากรรม นี่ก็ได้ชื่อว่า อกตเวที แล้ว ชาติหน้า ชาติต่อๆไป ย่อมส่งผลเป็นแน่ เพราะหนี้ชีวิตกับหนี้ 1 ล้าน โปรดท่านพิจารณาเองเถิดอันไหนใหญ่กว่ากัน
แต่วิธีแก้เราก็ต้องแก้แบบผู้มีปัญญา หมายความว่า อย่าไปกลุ้ม อย่าไปทุกข์กับมัน
สิ่งที่กระผมพอจะแนะนำได้ อยากให้ท่านนึกถึงกลอนบทนี้

มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท
อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง
อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน
หลายๆท่านตอนเด็กๆน่าจะเคยได้ยินกลอนนี้

กลอนนี้อาจจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร แต่สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ ค่อยๆให้ ค่อยๆชดใช้ตาม
ถ้ามันไม่ทำให้เราทุกข์มากก็ตามชดใช้กันไป เวลาคุยกับคุณพ่อก็พูดดีๆ อย่าดุ อย่าด่า
อย่าทำให้ท่านเสียใจ เราชดใช้ตามกำลังของเรา เราไม่สามารถชดใช้ได้ทั้งหมด แต่เราก็ขึ้นชื่อว่า
เราได้กระทำหน้าที่ลูกที่ดีสำหรับพ่อคนหนึ่ง ขอฝากกลอนบทนี้ให้นะครับ

พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จําจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววารของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แค่ชีพมิทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป
ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร
ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ
เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องไห้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ยล เติบโตจนสง่างาม
ขอโทษถ้าทําผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้
วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง

ผิดพลาดประการใดกระผมต้องขออโหสิกรรมด้วยครับ ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2010, 07:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนาในความกตัญญู
ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญ
สว่างทั้งทางโลกและทางธรรมนะค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2010, 09:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 12:06
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณมากค่ะ ที่ให้ธรรมะข้อคิดที่ดี เรื่องปล่อยวาง สำหรับข้าพเจ้าเอง ก็คงหมายถึง ทำใจให้สบายไม่ร้อนใจ ค่อยเป็นค่อยไปค่ะ ถึงอย่างไรก็ต้องช่วยจนสุดความสามารถไม่ดูดายแน่นอนค่ะ ตอนนี้ได้รับคำแนะนำดีๆ จากหลายท่าน ทำให้รู้สึกเข้มแข็ง และไม่ท้อถอยค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2010, 12:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเกือบหลงทาง เขียน:

พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จําจากเจ้า ไม่อยู่นาน
จะพบ จะพ้องพาน เพียงเสี้ยววาร ของคืนวัน

ใจจริง ไม่อยากจาก เพราะยังอยาก เห็นลูกหลาน
แต่ชีพ มิทนทาน ย่อมร้าวราน สลายไป

ขอเถิด ถ้าสงสาร อย่ากล่าวขาน ให้ช้ำใจ
คนแก่ ชะแรวัย คิดเผลอไผล เป็นแน่นอน

ไม่รัก ก็ไม่ว่า เพียงเมตตา ช่วยอาทร
ให้กิน และให้นอน คลายทุกข์ผ่อน พอสุขใจ

เมื่อยาม เจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึง เมื่อเยาว์วัย
ร้องไห้ ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่า เฝ้าปลอบโยน

เฝ้าเลี้ยง จนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกาย ก็ยอมทน
หวังเพียง จะได้ยล เติบโตจน สง่างาม

ขอโทษ ถ้าทําผิด ขอให้คิด ทุกทุกยาม
ใจแท้ มีแต่ความ หวังติดตาม ช่วยอวยชัย

ต้นไม้ ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวัง อยู่นานได้
วันหนึ่ง คงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ ให้วังเวง


ไมไ่ด้ยินนานแล้ว
ได้ยินอีกที ซาบซ่าน หวั่นไหว ทุกทีๆ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 205 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร