วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 21:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2010, 12:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผีอำ คือ ร่างกาย กับวิญญาณ(เจตภูต)แยกออกจากกัน การที่ร่างกายกับวิญญาณ(เจตภูต)แยกออกจากกัน สาเหตุมีได้หลายทาง เฃ่น

1. ทำสมาธิเข้าสู่ภวังค์ ซึ่งเป็นการเปิดประตูภพภูมิสู่โลกวิญญาณ

2. ร่างกายเราหลับไปตอนนอน แต่หลับไม่สนิท กึ่งหลับกึ่งตื่น ภาวะนั้นก็คือภวังค์ เมื่อมีวิญญาณ(เจตภูต)ดวงอื่นมาปลุกวิญญาณเราให้ตื่นขึ้น วิญญาณของเราก็เข้าสู่ภพภูมิของโลกวิญญาณ แต่ไอ้ตัวร่างกายของเราซิ มันหลับไปแล้ว ที่ตื่นคือวิญญาณ(เจตภูต)ของเรา

การที่เราเคลื่อนไหวไม่ได้ เนื่องจากร่างกาย กับวิญญาณ(เจตภูต)แยกออกจากกันแล้ว ร่างกายมันหลับไป วิญญาณก็ไม่อยู่ติดสนิทกับร่างกาย พอมีวิญญาณดวงอื่นมาอยู่ใกล้เรา วิญญาณธาตุ(เจตภูต)ของเราก็เลยเข้าไปสู่มิติของโลกวิญญาณ

วิญญาณพยายามยกแขน ยกขา ก็ทำไม่ได้ สาเหตุคือ วิญญาณมันแยกออกจากร่างแล้ว เราต้องฝืนมัน โดยเฉพาะฝืนทางตา พยามลืมตาให้ได้ ถ้าลืมตาได้ ก็จะทำให้วิญญาณกลับมาอยู่ในร่างกายเนื้อใหม่ พลังการอำในโลกวิญญาณ(มิติของโลกวิญญาณ)ก็จะสลายไปทันที


เหตุผลหลักใหญ่ที่โดนผีอำ (รวมทั้งโดนผีหลอก)


เมื่อ 30 ปีก่อน เป็นช่วงที่ผมเริ่มหัดทำสมาธิใหม่ๆ เจอผีอำประจำ ก่อนหน้านั้นผมแทบไม่เคยโดนผีอำ ผมก็เลยสงสัยว่า ผีอำเป็นผีจริงไหม? แล้วมันมาหาเราทำไมวะ มาทุกวันด้วยในวันที่เราทำสมาธิ

ตอนหลังผมเลยลองแผ่เมตตาให้วิญญาณของสิงมอร์เตอร์ไซด์ ที่ขับรถซิ่งมาตายหน้าหมู่บ้าน ชาวบ้านชาวช่อง ต่างด่าแช่งกันหมด แต่ผมสงสารเขา

คุณกบนอกกะลารู้ไหม ตกดึกผมนอนหลับแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น(อยู่ในภวังค์) วิญญาณของสิงมอร์เตอร์ไซด์คนนั้นมาหาผม(ผีอำ) เขาจับไม้จับมือผมแบบแสดงความขอบคุณผม เขาดีใจมากๆเลยที่ผมแผ่เมตตาไปให้

ตั้งแต่นั้นมา ผมเลยรู้ว่า การทำสมาธิจะเกิดพลังกุศล สามารถแผ่เมตตาให้วิญญาณต่างๆได้ ผมเลยแผ่เมตตาให้วิญญาณต่างๆในหมู่บ้านจนหมด(มีประมาณ 10 ดวง) และบอกให้พวกเขาแต่ละคนมาอำผม หรือมาเข้าฝันผมด้วย เพื่อแสดงว่าเขาได้รับผลบุญแล้ว พวกเขาก็มาจริงๆ

ตั้งแต่นั้นมา...ไม่มีวิญญาณดวงไหนมาหาผมอีกเลย ผมเลยเหงา ตอนหลังไปไหนมาไหน นอนโรงแรมไหน นอนบ้านใครที่ไหน ผมก็ทำสมาธิที่นั่น แล้วแผ่เมตตาให้ดวงวิญญาณที่อยู่ที่นั้นด้วย นอกจากนี้ ยังบอกให้ดวงวิญญาณเขามาอำหรือมาเข้าฝัน เพื่อแสดงว่าเขาได้รับผลบุญแล้ว ก็เช่นเคย พวกเขาก็มาจริงๆ แต่ถ้าผมห้ามเขาไม่ให้มา พวกเขาก็จะไม่มาหา

ตอนหลังพอผมเลยรู้ 100%ว่า เหล่าวิญญาณจะไปหาคนที่ชอบทำสมาธิและชอบทำบุญตักบาตร ชอบสวดมนต์ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดกุศลผลบุญ ซึ่งเราสามารถโอนไปช่วยเหลือพวกวิญญาณได้โดยไม่ต้องกลัวหมด ยิ่งช่วยใจเรายิ่งสะอาด ยิ่งบรรลุธรรมสูงขึ้นเรื่อยๆ

คุณรู้ไหม...ในปรโลกอยู่ได้อย่างเป็นสุขจากผลบุญเท่านั้น เมื่อวิญญาณเหล่านี้ไม่ค่อยได้ทำบุญมา พอตายแล้ว เขาจึงลำบาก ต้องแสวงหาผลบุญจากคนทำสมาธิและชอบทำบุญตักบาตร แต่กฎสวรรค์ห้ามไม่ให้เขาไปพูดขอให้มนุษย์ช่วยทำบุญให้ตรงๆ เขาเลยต้องมาอำ หรือมาหลอก พอคนถูกอำถูกหลอกกลัว ก็จะแผ่เมตตาหรือทำบุญอุทิศกุศลให้พวกเขา

ผีพวกนี้เขาไม่ไปหาคนที่ชอบทำบาปหรอกถ้าไม่มีความแค้นต่อกัน....เสียเวลาเปล่า ผีส่วนใหญ่จะไปพึ่งคนทำสมาธิและคนที่ชอบทำบุญ คุณกบนอกกะลาต้องถามตัวเองสิ ว่า คุณกบนอกกะลาเป็นคนทำสมาธิหรือชอบทำบุญไหม..... ถ้าใช่ คุณกบนอกกะลาก็เป็นเป้าหมายของพวกวิญญาณ


ทำไมคนจำนวนมากไม่เคยเจอผีอำหรือผีหลอกเลย?


เหตุผลก็ง่ายๆครับ พวกเขาปิดระบบinternetทางจิตของเขา โดยการสะกดจิตตัวเองทุกวันว่า ผีไม่มีจริง ยิ่งคนสมัยใหม่ด้วย พอพูดเรื่องผี ก็กลัวคนอื่นกล่าวหาว่าเชย เป็นพวกงมงาย เป็นพวกหัวโบราณอะไรทำนองนี้

ที่สำคัญที่สุด ก็คือพวกนักวิปัสสนาล้วนๆ ไม่เน้นสมถะ(สมาธิ) พวกนี้ปิดระบบinternetทางจิตสนิทเลย ไม่ยอมรับรู้มิติอื่น(ปรโลก) โดยชอบอ้างคำพูดของหลวงปู่ดุลย์ที่ว่า สิ่งที่เห็นในนิมิต

"ที่เห็นนั้น เขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็น ไม่จริง"


โดยตนเองก็ไม่ทราบเลยว่า หลวงปู่ดุลย์ท่านมุ่งนิพพานอย่างเดียว ไม่มุ่งความรู้อื่นทางโลกและปรโลกเลย เมื่อมุ่งนิพพานอย่างเดียว จิตก็ต้องไม่ส่งออกไปอยู่ในภพ 3 และ 31-33 ภูมิ นั่นหมายถึง สิ่งที่เห็นในนิมิต ทุกอย่างต้องตัดทิ้งหมด

แต่พระป่าหรือพวกที่ทำทั้งสมถะและวิปัสสนา เช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่ชอบ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ฯลฯ พระเหล่านี้ แม้ท่านมุ่งนิพพาน แต่ท่านก็ไม่ปิดจิตในการรับรู้ภพภูมิอื่นหรือมิติอื่น พวกท่านจึงเจอทั้งผี สัมภเวสี เปรต เทวดา พรหม และช่วยแผ่เมตตาให้เหล่าวิญญาณที่เดือดร้อนในปรโลก


แก้ไขล่าสุดโดย คนดีที่โลกลืม เมื่อ 12 มี.ค. 2010, 21:02, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2010, 12:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนที่โดนผีอำส่วนใหญ่จะมี 2 พวก
1.พวกที่ชอบทำบุญ ทำสมาธิ จึงดึงดูดให้สรรพวิญญาณที่ต้องการความช่วยเหลือ มาหาเขา
2.พวกที่ทำความเจ็บแค้นให้กับเหล่าวิญญาณ เช่น ไปข่มขืนฆ่าเขา เป็นต้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2010, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2010, 09:00
โพสต์: 18

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีก็ช่างไม่มีก็ช่าง คิดว่าไม่สำคัญอะไรนะ รู้ว่ามีจริงหรือไม่จริง แล้วจะเป็นไง ?
หมดทุกข์หมดโศกเหรอ? หรือจะได้กลัว?
หรือเลิกกลัว ? หรือจะขอหวย ? หรือจะได้เลิกทำบุญให้บรรพบุรุษ ? หรืออะไรอ่ะ ช่างมันเถอะ
:b34: ขอโทษด้วยถ้าไม่ถูกใจใครๆ :b34: แค่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องอะไรที่ต้องไปสนใจก็แค่นั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2010, 23:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Sasha เขียน:
มีก็ช่างไม่มีก็ช่าง คิดว่าไม่สำคัญอะไรนะ รู้ว่ามีจริงหรือไม่จริง แล้วจะเป็นไง ?
หมดทุกข์หมดโศกเหรอ? หรือจะได้กลัว?
หรือเลิกกลัว ? หรือจะขอหวย ? หรือจะได้เลิกทำบุญให้บรรพบุรุษ ? หรืออะไรอ่ะ ช่างมันเถอะ
:b34: ขอโทษด้วยถ้าไม่ถูกใจใครๆ :b34: แค่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องอะไรที่ต้องไปสนใจก็แค่นั้น


พูดอย่างกับว่าคุณเป็นพระอรหันต์แน่ะ
ถ้าคุณยังไม่เป็นพระอรหันต์ คุณก็เป็นคนธรรมดา คนธรรมดาก็ย่อมอยากรู้ความจริงว่า สิ่งนี้คืออะไร?
ผมเชื่อว่าคุณถูกมารสิงใจให้เขียนไร้สาระ มารเขาต้องการปิดบัความจริงในเรื่องโลกวิญญาณ ซึ่งผมกำลังเปิดเผย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 218 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร