ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=29969
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  uandi [ 10 มี.ค. 2010, 18:45 ]
หัวข้อกระทู้:  มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

:b44: :b44: สวัสดีค่ะ ทุกท่าน

เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกบอร์ดนี้ เข้ามาเป็นครั้งแรก...ขอฝากตัวด้วยนะคะ

มีเรื่องจะปรึกษาค่ะ

...ท่านทั้งหลายเคยเกิดความรู้สึกติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ...
ดิฉันไปปฏิบัติธรรมมาเจ็ดวัน หกคืนค่ะ
กลับมาบ้านได้ สามวันแล้ว

รู้สึกว่าตัวเองอยากจะเข้าปฏิบัติต่อ อยากกลับไปหาความสงบ
อีกใจก็ห่วงน้องหมาที่บ้าน ห่วงพ่อห่วงแม่
ติดเฟซบุ๊ก (อันนี้เกี่ยวไหม?) ติดดูหนังเสียแล้ว

ทั้งที่พยายามจะนั่งสมาธิ เดินจงกรมที่บ้าน
ก็ทำได้นะคะ แต่ไม่นานเหมือนทำที่วัด
แถมยังฟุ้งซ่านตลอดทั้งที่กำหนดรู้อยู่ ตัวฟุ้งมันฟุ้งเหลือเกิน

พยายามจะกำหนดอารมณ์เวลาเจอเรื่องมากระทบใจ
ทำให้โกธรบ้าง ให้เสียใจบ้าง แต่ก็ทำไม่ได้
ไม่เหมือนตอนอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดเลย ที่สภาวะจิตตัวเองนิ่งมาก


...ขอคำแนะนำท่านผู้รู้ค่ะ จะทำอย่างไรดีคะ
ไม่งั้นชีวิตเดินต่อไม่ได้แน่
ขอโมทนาสาธุบุญ มา ณ โอกาสนี้ ขอบคุณค่ะ


(ถ้าลองสวดมนต์ แล้วนั่งสมาธิ กำหนดให้นานขึ้น
จะช่วย หรือทำให้ดีขึ้นไหมคะ)

เจ้าของ:  อินทรีย์5 [ 10 มี.ค. 2010, 19:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

อ้างคำพูด:
ถ้าลองสวดมนต์ แล้วนั่งสมาธิ กำหนดให้นานขึ้น
จะช่วย หรือทำให้ดีขึ้นไหมคะ)

ช่วยได้ครับ และช่วยได้มากด้วย เพียงแต่ว่าสวดมนต์ต้องไม่เอา
เรื่องนี้มาคิดในตอนที่สวดมนต์ด้วย เพราะสวดไปคิดไปจิตจะไม่สงบ
และยิ่งฟุ้งซ่านหนักกว่าเก่า และไม่มีความสุขด้วยคับ

ผ้ชายถ้าเขาอยากจะเลิกก้ปล่อยให้เขาเลิกไปเถอะผมว่าผู้หยิงที่เขาคบ
อยู่ดีไม่สู้ขึ้นหรอก อาจจะดูมีเสน่ห์หรือแรงดึงดูดมากกว่า แต่ก้คงไม่นาน
เขาเบื่อเมือไร เขาก้คงคิดถึงและกลับมาคุณเหมือนเดิม เขายังไม่ค่อยหนักใจ
เราก้เฉยๆบ้าง และอย่าไปคิดอะไรมาก เด่วจะไม่สบายกายไปด้วย คิดแล้ว
ก้ค่อยๆปลงให้ได้ ปลงไม่ได้ก้ไม่เปนไร แต่พยายามให้กำลังใจตัวเองอย่
เรื่อยๆ จนอยู่ได้ด้วยตัวเอง....

วิธีแก้ก้ต้องแก้ที่ตัวเองให้ได้ก่อน จิตใจเราเมื่อหยุดคิดเรื่องแฟนนอกใจได้แล้ว
เราก้เริ่มสบาย เมื่อเริ่มสบายใจจะทำอะไรที่เป็นบุญเปนกุศล หรือจะสวดมนต์
ย่อมทำได้ดีขึ้น และจิตใจก้จะสบายขึ้นตามลำดับเช่นเดียวกัน ผมคิดว่าหลาย
คนที่ไม่ใช่คุณก้คงเคยเจอเรื่องแบบนี้มาบ้างมากน้อยต่างกัน แต่อยากจะให้
ฉุกคิดและเตือนสติให้ได้เสียก่อน เมื่อเตือนสติกับตัวเองทุกสิ่งทุกอย่างก็จะ
ดีขึ้นๆ แต่อาจจะดีขึ้นแบบที่ตอนนี้ไม่มีแฟนเพราะเราเข้าใจตัวเองและเข้าใจเขา
หรืออาจดีขึ้นเพราะเขากลับมาหาเราอีกครั้ง(แบบหลังก้อาจจะเป็นได้ยากหน่อย)

ปล.สิ่งที่คนเรายิ่งปิดก้ยิ่งปิดไม่อยู่ก้คือความเสียใจ ...........แต่สิ่งหนึ่งที่ตรงกันข้าม
กันคือความสงบความสงบกับเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดโดยไม่เสียสตางค์ แต่คนเรากลับ
มองข้าม และทำให้ชีวิตเดินไปข้างหน้า โดนไม่สนใจอดีตด้วย แต่คนเราจะเหนความสงบ
ได้ก้มักจะตอนที่ตัวเองเจอทุกข์เข้าจังๆ ทำให้ต้องวิธีทางออกที่ทำให้สบายใจ

55555555555555555 Onion_L 55555555555555555555555

เจ้าของ:  murano [ 10 มี.ค. 2010, 20:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

มันก็เป็นไปอย่างนั้นแหล่ะ นั่งไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ดีเอง...
ก็ไม่ได้เสื่อมอะไรหรอก แต่อยู่วัด มีเรื่องมากระทบน้อย ก็เลยรู้สึกว่านิ่ง... cool

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 10 มี.ค. 2010, 22:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

:b8: :b8: :b8:

สาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  sirisuk [ 11 มี.ค. 2010, 00:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

:b39: :b39: เคยรู้สึกเช่นนั้นค่ะ เพราะจิตติดในความสุขสงบ กิเลสนอนนิ่ง
เพราะมีสิ่งกระทบน้อย เหมือนหินทับหญ้า

แต่พอมาอยู่บ้าน ทุกสิ่งรอบ ๆ ตัวล้วนเป็นตัวกระทบ จิตยังไม่รู้เท่าทันอารมณ์
ทำให้จิตหลงไปตามอารมณ์ที่เกิดจากสิ่งที่มากระทบต่าง ๆ นั้น เกิดความรู้สึกไปตามอารมณ์
ไม่สามารถควบคุมจิตให้สงบนิ่งได้ง่าย

แต่ถ้าฝึกไปเรื่อย ๆ และแบ่งเวลาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไว้ให้ชัดเจน
ก็จะทำให้เราทำสมาธิได้นานตามเวลาที่กำหนด เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องอื่นในเวลาทำสมาธิ
ไม่ต้องห่วงดูหนัง หรือเฟซบุ๊ก จิตก็จะสงบได้ง่ายขึ้นค่ะ

:b53: :b53: :b53:

ไฟล์แนป:
36250_1.gif
36250_1.gif [ 2.12 KiB | เปิดดู 6274 ครั้ง ]

เจ้าของ:  Khun D [ 11 มี.ค. 2010, 00:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

:b42: :b42: :b53: :b42:
เคยเป็นเหมือนกันค่ะ ... ต้องพยายามฝึกบ่อย ๆ อ่านหนังสือของครูบาอาจารย์มาก ๆ แล้วจิตจะสงบได้ไม่ฟุ้งซ่าน... ถือเสียว่ามารมาราวีความดีที่คุณพยายามจะทำอย่าย้อท้อนะค่ะ :b16:

เจ้าของ:  ทัสยุ [ 11 มี.ค. 2010, 01:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

เป็นสภาวะหนึ่งที่ผู้ปฏิบัติต้องพบเจอ อย่าท้อนะครับ
พยายามและอดทนต่อไป อนุโมทนาครับผม :b43:

เจ้าของ:  natdanai [ 11 มี.ค. 2010, 10:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

uandi เขียน:
:b44: :b44: สวัสดีค่ะ ทุกท่าน

เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกบอร์ดนี้ เข้ามาเป็นครั้งแรก...ขอฝากตัวด้วยนะคะ

ยินดีต้อนรับครับ

อ้างคำพูด:
มีเรื่องจะปรึกษาค่ะ

...ท่านทั้งหลายเคยเกิดความรู้สึกติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ...


ผู้ปฏิบัติธรรมทุกคนล้วนเป็นอย่างนั้นครับ

อ้างคำพูด:
ดิฉันไปปฏิบัติธรรมมาเจ็ดวัน หกคืนค่ะ
กลับมาบ้านได้ สามวันแล้ว

อนุโมทนา...สาธุ :b8: ครับ

อ้างคำพูด:
รู้สึกว่าตัวเองอยากจะเข้าปฏิบัติต่อ อยากกลับไปหาความสงบ
อีกใจก็ห่วงน้องหมาที่บ้าน ห่วงพ่อห่วงแม่
ติดเฟซบุ๊ก (อันนี้เกี่ยวไหม?) ติดดูหนังเสียแล้ว

ทั้งที่พยายามจะนั่งสมาธิ เดินจงกรมที่บ้าน
ก็ทำได้นะคะ แต่ไม่นานเหมือนทำที่วัด
แถมยังฟุ้งซ่านตลอดทั้งที่กำหนดรู้อยู่ ตัวฟุ้งมันฟุ้งเหลือเกิน
พยายามจะกำหนดอารมณ์เวลาเจอเรื่องมากระทบใจ
ทำให้โกธรบ้าง ให้เสียใจบ้าง แต่ก็ทำไม่ได้
ไม่เหมือนตอนอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดเลย ที่สภาวะจิตตัวเองนิ่งมาก

...ขอคำแนะนำท่านผู้รู้ค่ะ จะทำอย่างไรดีคะ
ไม่งั้นชีวิตเดินต่อไม่ได้แน่
ขอโมทนาสาธุบุญ มา ณ โอกาสนี้ ขอบคุณค่ะ


(ถ้าลองสวดมนต์ แล้วนั่งสมาธิ กำหนดให้นานขึ้น
จะช่วย หรือทำให้ดีขึ้นไหมคะ)

ส่วนคำแนะนำที่ขอก็...ท่านลองพิจารณาคำตอบของหลายๆ คห.ของท่านสมาชิกที่ตอบมาก็ละเอียดและเข้าใจได้ง่ายดีแล้ว :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  เอรากอน [ 11 มี.ค. 2010, 11:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

อินทรีย์5 เขียน:
อ้างคำพูด:
ถ้าลองสวดมนต์ แล้วนั่งสมาธิ กำหนดให้นานขึ้น
จะช่วย หรือทำให้ดีขึ้นไหมคะ)


ผ้ชายถ้าเขาอยากจะเลิกก้ปล่อยให้เขาเลิกไปเถอะผมว่าผู้หยิงที่เขาคบ
อยู่ดีไม่สู้ขึ้นหรอก

ปล.สิ่งที่คนเรายิ่งปิดก้ยิ่งปิดไม่อยู่ก้คือความเสียใจ ...........

55555555555555555 Onion_L 55555555555555555555555

ท่าน incee v ง่ะ...

ไหง๋...แนะนำ...ให้ข้าน้อยงงได้...ล่ะนี่

เมื่อวานข้าน้อยอ่านแล้วนะ แต่ยังไม่มีเวลาตอบ
เพราะท่านเจ้าประคุณ..เจ้านายโทรเข้ามาขัดจังหวะพอดี...

พอตอนเช้าเข้ามาดูอีกรอบ เห็นคำตอบของท่าน...ข้าน้อยล่ะ...ไปไม่ถูกเลย...

อ๊ะ อ๊ะ... ดึกแล้วตาลายหรือเจ้าคะ... ดูดิ่ ดูดิ่

:b9: :b9: :b9:

อ๊ะ ข้าน้อยทำหน้าแดงแทนก็ได้... :b15: :b15:

ได้แซวท่าน incee v แล้ว สุขแล้ว วันนี้...
เดี๋ยวตอนเย็น ๆ หาเรื่องแกล้ง...เจ้านายต่อดีกว่า...

เจ้าของ:  Rosarin [ 11 มี.ค. 2010, 11:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

tongue
:b12:
...ธรรมดาของโลกมนุษย์ที่มีการรับรู้จากการเห็นต่างๆ แล้วปรุงแต่งอารมณ์คือกิเลสขึ้น...
...ยิ่งอยู่นานยิ่งปลูกฝังจิตให้จมปรักอยู่กับการเห็นนั้น...จึงต้องมีการฝึกจิตประจำทุกเวลา...
...ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน เพื่อรบกับการสร้างภาพจากการเห็นตลอดเวลานั้น...
...การเห็นที่ว่าก็คือ เห็นด้วย ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เรียกว่ารับรู้ผ่านอายตนะ 6...
:b27:
...การฝึกจึงต้องอาศัยเวลาไม่ใช่ทำแค่เจ็ดแปดวันแล้วพ้นทุกข์...
...เพราะใจตนสร้างทุกข์ตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นลืมตาจนกระทั่งหลับ...
...ทุกคนต่างสร้างทุกข์ในใจตนเองอยู่ตลอดเวลา...เห็นไหมว่าภัยเกิดจากการเห็นของตน...
...คนที่เห็นทุกข์ ก็คือเห็นใจตนเอง สงสารตนเองจึงรีบหาทางดับทุกข์...
:b17:
...การปฏิบัติธรรมคือการฝึกหัดปฏิบัติจิตใจให้ปล่อยวางความรู้สึกนึกคิดที่สร้างขึ้นจากการรับรู้...
...จากตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นรับรส กายรู้สัมผัสต่างๆ แล้วใจก็ปรุงแต่ง...
...เกิดภวตัณหาและวิภวตัณหา...ภวตัณหาอยากได้มากๆก็ตั้งเป้าแสวงหาให้ได้มา...
...วิภวตัณหาไม่อยากได้ไม่อยากเป็นอย่างนั้นมากๆก็เกิดการดิ้นรนให้พ้นสิ่งนั้น...
:b6:
...ทั้งสองทางคืออยากมากๆกับไม่อยากมาก...ล้วนแต่สร้างทุกข์ตามใจตน(กิเลส)ไว้ล่วงหน้า...
...พอสมหวังตามความอยากที่ใจคาดเอาไว้ก็เลยรู้สึกสุขใจ...ทุกข์ที่สร้างไว้มันลดลงแล้วก็สร้างใหม่...
...ถ้าผิดหวังขึ้นมาทุกข์ที่สร้างไว้ยิ่งเพิ่มมากขึ้น...ที่เราต้องฝึกจิตเพื่อให้รู้เท่าทันอารมณ์จนปล่อยวาง...
...คือทำให้การรับรู้แต่ละอย่างที่สร้างจากอายตนะ 6 (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) ไม่มีบวกลบ...
:b1:
...คือให้การรับรู้นั้นไม่ปรุงแต่งกิเลส ชอบไม่ชอบ รับรู้แล้ววางใจกลางๆ ทำให้ใจไม่ทุกข์-สุข...
...อย่างนั่งสมาธิแล้วเกิดภาพเห็นต่างๆ ก็ให้กำหนดเห็นไม่ปรุงแต่งอารมณ์ กำหนดว่า เห็นหนอๆๆๆๆ...
...ไม่ตามการเห็นไป...ให้ใจเฉยๆจนภาพหายไป...คือไม่ปรุงแต่งอยากตามไปดู(เรียกว่าจิตฟุ้งซ่าน)...
...ได้...ยินหนอๆๆๆๆ...ได้...กลิ่นหนอๆๆๆๆ...แข็งหนอๆๆๆๆ...นุ่มหนอๆๆๆๆ...ยกหนอ...วางหนอ...
:b9:
...งงไหมหนอ...ทุกอย่างต้องกำหนด...เดินเร็วๆหรือวิ่งก็กำหนดได้...ซ้าย-ขวาๆๆๆๆๆ...กำหนดเร็ว-ช้า...
...ฝึกทำที่บ้านนี่แหละค่ะ...ใหม่ๆก็จะยากเพราะไม่เคยชิน...เวลาคนด่าก็กำหนดแค่เสียงกระทบหู...ยินหนอ
...ไม่ปรุงแต่งอารมณ์โกรธ โมโหฉุนเฉียวค่ะ...คิดว่าน่าจะทำไหวไหมคะ...แบบไม่โต้ตอบตอนนั้น...
...พอแค่นี้ก่อนดีกว่า...ตอนนี้รู้สึกอยากเลิกพิมพ์แล้ว...อยากเป็นอิสระสักครู่...เดี๋ยวมาคุยต่อใหม่ค่ะ...
:b32: :b13:
:b55: :b55: :b55: :b55: :b55:

เจ้าของ:  หลับอยุ่ [ 11 มี.ค. 2010, 11:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

ส่วนตัวผม คิดว่า ทางโลก ทางธรรม เป็นเรื่องเดียวกันนะ :b16: smiley

ไฟล์แนป:
19564.jpg
19564.jpg [ 27.57 KiB | เปิดดู 6154 ครั้ง ]

เจ้าของ:  เอรากอน [ 11 มี.ค. 2010, 12:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

หลับอยุ่ เขียน:
ส่วนตัวผม คิดว่า ทางโลก ทางธรรม เป็นเรื่องเดียวกันนะ :b16: smiley


ส่วนเรา...มีแต่ทางนี้ที่เราเดิน...

:b43: :b43: :b43:

เจ้าของ:  Rosarin [ 11 มี.ค. 2010, 14:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

tongue
:b8:
...ข้าพเจ้าเคยฟังเทศนาธรรมของหลวงปู่พุทธอิสระใน ASTV...
...ท่านว่าทุกคนเกิดมาแล้วมีทุกข์เป็นเบื้องหน้า...มีสุขเป็นของแถม...
...เช่นมนุษย์เงินเดือนใช้เวลาทำงานทุกวันตั้งแต่วันที่1-31...
...พอเงินเดือนออกตอนสิ้นเดือน...เอาไปซื้อของเพื่อให้มีสุขเล็กน้อย...
...โดยไม่ได้คิดว่าที่ทำงานแต่ละวันมานี่มันทุกข์กว่าจะหาเงินได้...
:b12:
...การอยู่ทางโลกมากๆ...จะทำให้ประมาทลืมตัวไม่ระลึกถึงความตาย...
...เราทุกคนต้องเลือกทำทั้งสองอย่างคือเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม...
...ทางโลกเราต้องศึกษาเล่าเรียนวิชาทางโลกเพื่อนำมาใช้ทำมาหากิน...
...ให้มีอาชีพ...มีเงินไว้ใช้จ่ายในการบำรุงร่างกายไม่ให้เดือดร้อน...
...และแบ่งไว้ทำบุญให้ทานเพื่อสร้างบุญเข้าสู่จิตใจค่ะ...
:b20:
...ทางธรรมนั้น...ก็ควรศึกษาเกี่ยวกับหลักธรรมคำสอนและอื่นๆที่เกี่ยวข้อง...
...ศึกษาแล้วให้นำมาปฏิบัติเพื่อแก้ทุกข์ในจิตใจ...หมั่นฝึกฝนแลกเปลี่ยนเรียนรู้...
...ทางโลกเพื่อดูแลรักษาร่างกายให้มีสภาพใช้งานได้ตามอายุขัยที่ควรเป็น...
...ทางธรรมเป็นไปเพื่อบำรุงจิตใจให้เข้มแข็ง...เพราะถ้าป่วยใจกายก็ป่วยตามได้...
...ควรหาเวลาไปปลีกวิเวกในสถานปฏิบัติธรรมบ่อยๆ...อย่างที่เจ้าของกระทู้บอกค่ะ...
...อยู่บ้านบรรยากาศในการปฏิบัติธรรมมันจะดึงไปทางสร้างกิเลสได้มากถึงมากที่สุดดดดด....
:b13: :b9: :b32:
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

เจ้าของ:  Rotala [ 11 มี.ค. 2010, 15:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

โอวาทหลวงปู่พุทธะอิสระ ตอนที่ ๕ สัปปายะ
http://www.dharma-isara.onoi.org/index.php?option=com_content&view=article&id=113%3A-5-&catid=46%3Achapter&Itemid=53

อนุโมทนาครับ
:b41:
:b45: :b45: :b45: :b45:

เจ้าของ:  uandi [ 11 มี.ค. 2010, 18:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีใครเคยติดอยู่ตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมไหมคะ

:b38: :b38: :b38: คุณอินทรีย์5
ไม่เข้าใจค่ะ
มันไปโยงถึงตรงนั้นได้ไง
เอ่อ ไม่เกี่ยวกับเรื่องผู้ชายเลยค่ะ
แต่ก็ขอบคุณที่สอนสั่ง ขอน้อมรับฟังค่ะ


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้คำแนะนำค่ะ
ศีลนี่รักษายากจังนะคะ
นั่นสินะ...ไม่งั้นทั้งโลกคงมีแต่คนดีแล้ว

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/