วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2024, 19:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 00:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 19:12
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เข้าใจว่าทำใม เวลาไปงานปิดทองฝังลูกนิมิต ทางวัดจึงต้องจัดคนจัดพระมาเรี่ยใรเงินทำบุญ จากญาติธรรมทั้งหลายทุกวิธี สารพัดรูปแบบ ตั้งแต่เดินเข้าเขตวัด... :b10: วิทย์ครับผม.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 01:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


นั่นซิ!!!!!!

ผิดหลักการทำบุญของศาสนาพุทธรึเปล่า???? :b6:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 01:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คิดในแง่..เจตนาดี

จะดีกว่า..นะครับ

เป็นกุศล..แก่ตัวเราเอง

บัณฑิต..ย่อมสามารถ..ทำกุศล..ให้กับตัวได้เสมอ..

ไม่ว่าสถานการณ์นั้น..จะเป็นยังงัย

ส่วน..คนที่ทำ..เขาเจตนาอย่างไร..

เขาจะได้ของเขาเอง..แหละครับ

อย่างไป..worry...กะเขาเลย
:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 07:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เอ๊ะ ไม่อ๊ะ ไม่อะไรกับอะไรดีกว่า เดียวบุญเหี่ย(เหี่ยภาษาอีสานแปลว่า หาย) บุญคือ สงบ ระงับ ดับ เย็น ตอนนี้ก็สงบจากตัวตน ไม่ต้องให้ค่าความเห็นความหมายอะไรกับอะไร เป็นนั้นนี้ดีกว่า ใครทำอะไรก็ช่างเขาเพราะทำอย่างไรมีผลอยู่แล้วในเรื่องของกฏแห่งกรรม จึงไม่ต้องไปสงสัยเอ๊ะอ๊ะ ลังเลอะไร บ้างคนเขายังไม่อิ่มในเรื่องทาน ในการสร้างบารมี เขาก็มีแต่การให้ทาน สร้างนั้นนี้ ก็เป็นทิศทางการสร้างบารมีเช่นเดียวกัน จึงไม่ควร มีคติ อคติในเรื่องแบบนี้เลย ช่างเขา ปลงใจเป็น แล้วจะ ดับ เย็น เป็นบุญทั้งกลางวันกลางคืน ที่ไม่ต้องเสียเงินทองสักบาท ดีกว่าไหมอย่างนี้


แก้ไขล่าสุดโดย yodchaw เมื่อ 05 มี.ค. 2010, 11:52, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 00:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 11:39
โพสต์: 85

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอบเรื่องนี้

อยากให้มองในหลาย ๆ แง่

ค่อนข้างล่อแหลมนะครับ เพื่อความกระจ่าง ขอตอบ




ฝังลูกนิมิต ขอให้เข้าใจเบื้องต้นนิดนึง ย่อ ๆ นะครับ

การทำสังฆกรรมที่สำคัญเกือบทั้งปวง ต้องมีสถานที่ที่ชัดเจน เป็นกิจลักษณะ เป็นเรื่องเป็นราว ทำใน
สถานที่ ที่สงฆ์ร่วมกันกำหนดไว้เท่านั้น ไม่มีการ มุบมิบ แอบทำกัน


สถานที่ตรงนั้น ต้องมีเขตแดนชัดเจน มีนิมิตเครื่องหมายเขตแดนชัดเจน

คำว่า นิมิต คือ การปักเขตแดน(ที่จริงตามวินัย ใช้ต้นไม้ใหญ่ น้ำ จอมปลวก ถาวรวัตถุ
ที่เคลื่อนย้ายยากเป็นเขตแดนก็ได้)


ไม่มีโบสถ์ ก็ปักเขตแดนได้ ขอให้เป็นที่ปลอดภัย จากภัยต่าง ๆ เช่น สัตว์ร้าย ไฟ ฝน โจร พระราชา
เป็นต้นมาทำอันตรายในขณะสงฆ์ประชุมกันทำสังฆกรรม


เมื่อมีการสร้างวัด ถาวรวัตถุ ก็มีการสร้างโบสถ์ ถวายให้พระสงฆ์ทำสังฆกรรมปลอดภัยขึ้น
อย่างไม่ต้องกังวล ถึงขนาดขอพระราชทานที่เป็นวิสุงคามสีมา


(วิสุงคามสีมา แปลว่า แดนที่แยกขาดออกจากบ้าน
คือสมัยก่อน เขาถือว่าทีทั้งหมดเป็นของพระเจ้าแผ่นดิน พอพระราชทานขาดออกไปเป็นที่สงฆ์แล้ว
แม้พระเจ้าแผ่นดินก็ไปแสดงพระราชอำนาจไม่ได้)


โบราณ ถือว่าการสร้างโบสถ์เป็นเรื่องใหญ่ จะไม่ทำคนเดียว พอทำเสร็จ
ก็อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมฝังลูกนิมิต เป็นขั้นตอนสุดท้าย ของการสร้างโบสถ์


คนก็อยากร่วม อยากมา อยากทำ

เอาละ ทีนี้ก็เป็นที่มาของประโยชน์ มีทั้งบริสุทธิ์ และ แอบแฝง

มีขาว มีเทา มีดำ ปะปนกันอยู่ (บางวัดนะครับ ไม่ทุกวัด)

จัดงานใหญ่ ๆ จัดยาก พระท่านไม่ค่อยชำนาญ มีเรื่องร้อยแปดให้ปวดเศียร
จ้างมหรสพ ตลาดขายของ ประสานบ้านเมือง


เท่าที่ทราบ โดยมากพระมักจะมีบทบาทน้อย กรรมการวัดจะมีบทบาทมาก

บางวัดก็ทำเอง บางวัดก็หา มือปืนรับจ้าง

มีกลุ่มบุคคลหัวใสจำนวนมาก ตั้งเป็นคณะ ผู้รับเหมาจัดงานฝังลูกนิมิต
มีอุปกรณ์จัดงานครบครัน มหรสพมิตรภาพ แม่ค้าในเครือ

พวกนี้ พอเริ่มสร้างโบสถ์ที่ไหน ก็เริ่มวิ่งไปติดต่อ เสนอผลประโยชน์ให้วัด
วัดจะได้เท่านี้ ผมจะได้เท่านี้ ทางกลุ่มจะรับผิดชอบให้หมด ค่ามหรสพ ค่าถวายพระ
แล้วแต่ตกลง เป็นการต่อรองอย่างมีลีลา ให้เป็นเปอร์เซ็นต์ หรือเหมาขาด แต่โดยมากเปอร์เซ็นต์
(วัดมักจะได้น้อยกว่า)


กรรมการวัด จะมีบทบาท เรื่องนี้

พระอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร (ถึงทำก็ไม่ง่าย แค่ผูกผ้าก็ยากแล้ว)
มักเป็นผู้ฟัง ไม่ค่อยทันพวกนักเซ้งงานวัด ก็ต้องยอม ทำไงได้
โดยเฉพาะวัดตามต่างจังหวัด มีพระ สี่ ห้าองค์


ด้วยประการฉะนี้แล จึงเป็นที่มาของบุญพิศดารในงานฝังลูกนิมิต

อย่าโทษพระท่านเลย

ผมเองก็ชอบไป ตอนเด็ก ๆ จำได้ว่า เคยไปดูเมียงู ในวัด รถไต่ถัง คนประหลาด เยอะแยะ ๆ

ไปเดินดูของมั่ง ทำบุญมั่ง สบายใจ

ที่สำคัญที่สุด อย่าง คุณกบนอกกะลาแนะนำครับ

ดูตัวเรา ดูใจเรา บุญมาก บุญน้อย อยู่ที่เรา


อนุโมทนาครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 00:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมคิดว่า คำว่า "ขอทาน"
ป้นคำที่ไพเราะนะ

เพราะเขามาขอ ให้เราทำทาน
การระลึกถึงทาน การทำทาน ผลของทาน ก็เป็นการเจริญสติอย่างหนึ่งนะ

ไม่พอใจก็ดูลงไปที่ใจ ดูซิว่า "ไม่พอใจ" มันรู้สึกอย่างนี้ๆนี่เอง
นานเข้าก็จะเห็นว่า ความไม่พอใจมันก่อตัวยังไง
พอเห็นบ่อยๆ ใจเรามันจะฉลาด มันจะรู้ความไม่พอใจนี่มันทุกข์ มันเครียด
เราดุบ่อยๆ เราจะเบื่อ ไม่อยากจะเครียดอีก เบื่อความเครียด

เพื่อเบื่อเต้มที่แล้ว พอมันเกิดไม่พอใจดังนั้นอีก มันจะคลายเอง
เรียกว่า ใจเรามันมันวางเอง เพราะเหนื่อยและเครียด
มันไม่อยากแบกภาระ ไม่อยากจับอารมณ์แบบนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 12:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เค้าเรียกวิธีชักจูง ให้สร้างทานบารมีครับ

ถ้าไม่ชักจูง คนก็ไม่เข้าใจ ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน

อันนี้ ผมว่า ก็แล้ว แต่ปัญญาการมองว่า จะทำไม่ทำได้ หรือแล้วแต่ศรัทธานั่นเอง

ว่ามีเท่าไหร่ ก็ทำตามกำลังศรัทธาที่ตัวเองมี หรือนึกได้ถึงอานิสงส์ที่่ทำครับ

tongue

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 02:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 19:12
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


.....ขอขอบพระคุณทุกท่านครับ ที่กรุณาให้แสงธรรมแก่กระผม จริงๆแล้วกระผมก็เป็นแค่อุบาสกคนหนึ่ง แต่บางครั้งสิ่งที่รู้มากับสิ่งที่เห็น ณ ปัจจุบันมันแตกต่างกันมากจนบางครั้งอดไม่ได้ที่จะสับสนเพราะแทบทุกครั้งที่ไปงานปิดทองฝังลูกนิมิตก็มักจะเจอแบบนี้...แต่กระผมก็ยังชอบไปครับ.... ขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งครับ วิทย์ครับ (086-9628493)bambam16@windows live.com


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2010, 23:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
นั่นซิ!!!!!!

ผิดหลักการทำบุญของศาสนาพุทธรึเปล่า???? :b6:

:b12: .... :b14:
จะถูำหรือผิด ก็อยู่ที่เจตนาและวิธีการ
เจตนาของผู้ให้และผู้รับบ่งชี้ถึงความถูกผิด และผลของการกระทำนั้น แต่...
วิธีการก็เป็นตัวชีบ่งความถูกผิดด้วย เพราะถ้าไม่ถูกวิธีการ ก็มักจะมีเจตนาที่ไม่ดีๆ
ปนมาอยู่เสมอ

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


แก้ไขล่าสุดโดย กามโภคี เมื่อ 08 มี.ค. 2010, 23:18, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2010, 22:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพราะคนเข้าใจไปว่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดไปแล้ว ซึ่งมันก็เป็นจริงในสังคมปัจจุบัน การสร้างนู่นนี่ก็เพราะความเชื่อว่าทำแล้วได้บุญ ทั้งที่จริงๆแล้วบุญสร้างกันได้ด้วยการทำความดี ถือศีลทำสมถะสมาธิก็ได้บุญแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2010, 00:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มี.ค. 2010, 23:16
โพสต์: 47

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็ประชาชนทั่วไปเค๊าชอบยังงั้น มันก็ยังคงมีอยู่

ถ้าประชาชนทั่วไป เค๊าไม่ชอบ มันก็งคงอยู่ไม่ได้

ธรรมชาติ มันก็จะคัดสรรมันเอง

ร้านค้า แผงลอย ตามงานวัด ที่ชอบเอาเปรียบประชาชนทั่วไป

บุญ ที่ ไม่บอกความจริงกับประชาชนทั่วไป

วันนึง ถ้าเค๊า รู้ เค้า ก็คงพิจารณาเอง





:b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2010, 22:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2010, 19:12
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


...........น่าเสียดายน่ะครับ! ที่ชาวพุทธส่วนมาก(ไม่ใช่ทั้งหมด)ทำได้แค่เพียง..ทาน..ทั้งที่ยังมี ศีล- สมาธิ ซื่งอยู่สูงขึ้นไปอีกรอให้ปฎิบัติอยู่ ทุกท่านคิดว่า ณ ปัจจุบันนี้เราเน้นบุญกิริยาวัตถุ... มากเกินไปหรือเปล่าครับ! เข้าใจน่ะว่าการเจริญทางด้านวัตถุมันก็ดีอยู่ แต่ถ้าจะให้
ดีกว่าจิตใจสติปัญญาต้องเจริญไปพร้อมๆกัน......หรือทุกท่านว่ายังไงครับ! :b42: :b6: (vit ครับ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 13:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


vit bunnisa เขียน:
...........น่าเสียดายน่ะครับ! ที่ชาวพุทธส่วนมาก(ไม่ใช่ทั้งหมด)ทำได้แค่เพียง..ทาน..ทั้งที่ยังมี ศีล- สมาธิ ซื่งอยู่สูงขึ้นไปอีกรอให้ปฎิบัติอยู่ ทุกท่านคิดว่า ณ ปัจจุบันนี้เราเน้นบุญกิริยาวัตถุ... มากเกินไปหรือเปล่าครับ! เข้าใจน่ะว่าการเจริญทางด้านวัตถุมันก็ดีอยู่ แต่ถ้าจะให้
ดีกว่าจิตใจสติปัญญาต้องเจริญไปพร้อมๆกัน......หรือทุกท่านว่ายังไงครับ! :b42: :b6: (vit ครับ)


สัตว์โลกมีวาระกรรมที่ต่าง แม้แต่องค์พุทธะท่านยังตรัสไว้ว่าเปรียบดังดอกบัวสี่เหล่า แต่สิ่งที่คุณทำคิด อยากให้เป็นบัวเหล่าเดียว ทำอะไรก็ต้องไปเป็นแบบคุณ มันคิดได้ ปราถณาดีได้ แต่ไม่เป็นจริงได้ ในขณะนี้ ฉะนั้นเมื่อเข้าใจอย่างนี้ก็ไม่ควรให้ความเลื่อมล้ำอะไรที่จะก่อให้เกิดมานะทิฐิต่อไป เช่นเราดีกว่า สูงกว่า คนอื่น เป็นต้น ควรที่เข้าใจกรรมของสัตว์แล้วไม่อะไรกับอะไรไปเสียเอง เลิกติ เลิกว่า เลิกขัดแย้งในใจเสียเถิด ปลงซะเถิด


แก้ไขล่าสุดโดย yodchaw เมื่อ 20 มี.ค. 2010, 20:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 28 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร