วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 10:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2010, 22:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กฏแห่งกรรมเป็นกฎที่กำหนดทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของคนเรา คนๆหนึ่งมีกรรมมากมายกับสารพันคน/สัตว์/เปรต/เทวดา ซึ่งกรรมเหล่านั้นนั่นแหละค่ะที่จะทำให้เราไปไม่ถึงนิพพาน ถ้าเป็นกรรมดี เราก็ได้สุข ถ้าเป็นวิบากกรรม เราก็ได้ทุกข์

กรณีวิบากกรรม เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ไม่ใช่แต่เฉพาะอะไรที่ตายไปแล้ว แต่เป็นทุกอย่างที่เราเคยมีกรรมกับเขา และกรรมต้องได้รับการชดใช้ มันเป็นกฏแห่งสัจธรรมและยุติธรรมเสมอค่ะ

เจ้ากรรมนายเวรไม่ใช่ผู้ที่ จะตัดสินนะคะ แต่กฎแห่งกรรมต่างหากที่เป็นผู้ตัดสิน จริงอยู่ที่ว่าใครทำอย่างไร ต้องได้รับผลอย่างนั้นตอบแทน


ต่เราก็มีทางลดทอนกรรมที่จะถูกตอบแทนได้ค่ะ บทสวดด้านล่างนี้ จากสมเด็จพระพุฒาจารย์โตค่ะ


หาก มีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวรเทอญ

ตั้งนะโม ๓ จบ (แล้วสวดบทข้างล่างนี้ ๙ จบ)

ชินะปัญชะระ ปะริตตังมัง รักขะตุ สัพพะทา

หรือ

วิญญาณสัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะ

ขอ พระอนันตชินเจ้าในบัญชรแวดวงกงล้อม พระโมรปริตรและพระขันธปริตร อรหันต์เจ้า จงคุ้มครองรักษาข้าพเจ้าให้พ้นจากภยันตรายสรรพสิ่งทั้งปวง ตลอดเวลาทุกเมื่อเทอญ


กรรมมีผลต่อชีวิตจริงๆค่ะ คำสาปแช่ง ความอาฆาตพยาบาทใดๆ ก่อให้เกิดทุกข์ทั้งต่อเจ้ากรรมนายเวรและทั้งตัวเราทั้งนั้น เจ้ากรรมนายเวรทำอะไรเราไม่ได้หรอกนะคะ แต่กฎแห่งกรรมจะทำหน้าที่นั้นแทนค่ะ

เอาตัวอย่างของจุฬาภินันท์เลยก็ได้

จุฬา ภินันท์เคยฝันว่าเป็นเจ้าหญิงกินรีที่จับนางกินรีตนหนึ่ง ถ่วงน้ำโดยไม่ได้เจตนาจะฆ่า แต่เป็นเพราะความสนุก แต่นางกินรีตนนั้นตายจริงๆ และนางกินรีตนนั้นอาฆาตและสาบแช่งไว้

พอ มาชาตินี้ มีอยู่คืนหนึ่ง จุฬาภินันท์หายใจไม่ออกแบบไม่มีเหตุผล ไม่ได้เป็นหวัด ร่างกายสบายดีทุกอย่าง แต่อยู่ๆตอนประมาณเที่ยงคืนก็สะดุ้งตื่น แล้วหายใจไม่ออก จมูกตันทั้งสองข้าง ทีแรกก็นึกว่าเป็นหวัดกระทันหัน ก็กินยาแก้หวัด แต่มันไม่หาย มันอึดอัดหน้าอกด้วย อึดอัดแบบทรมานน่ะค่ะ นอนเฉยๆไม่ได้ ต้องดิ้นไปดิ้นมา

จุฬาภินันท์หายใจทางปาก แต่ปรากฏว่าแต่ละนาทีที่ผ่านไป อากาศที่หายใจเข้ามันน้อยลงทุกที มันทรมานมาก ทรมานอยู่นาน คิดว่าจะต้องตายซะแล้ว กลัวมากด้วย มันทรมานขนาดที่ว่าอยากตายเลยทีเดียว อยากตายให้พ้นจากความทรมานนั้น จุฬาภินันท์ทำถึงขนาดที่ว่าวิ่งไปห้องน้ำ เอาหน้าจุ่มลงน้ำ สูดน้ำเข้าจมูกเพื่อให้น้ำเข้าปอด ปอดจะได้วาย ทรมานน้อยหน่อย แต่มันไม่ได้ จมูกตันทั้งสองข้าง

ทำอยู่สามรอบ ไม่ได้ผลซักรอบ จนจุฬาภินันท์หมดหวัง ปลงว่าถ้าจะตายอย่างทรมานก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้น เพราะแก้อะไรไม่ได้แล้ว นอนหายใจระรวยอยู่หลายชั่วโมง

จุฬาภินัน ท์เปิด ipod touch ที่โหลดรูปของสมเด็จโตไว้ข้างหมอนทั้งคืนค่ะ ขอให้พระองค์ช่วย แล้วก็ไม่รู้ตัวอะไรอีกเลย พอประมาณหกโมงเช้าตื่นขึ้นมา อาการหายใจไม่ออกก็หายไป


ที่เล่าเพราะจุฬาภินันท์เรียนรู้ได้ ว่าวิบากกรรม ตอบแทนแรงเท่ากับที่เราทำ แต่วันนี้จำได้ว่า เคยได้ฟอร์เวิร์ดเมล์บทสวดนี้มา ไม่รู้อะไรดลใจ จุฬาภินันท์สวดแบบตั้งใจทันที

แล้วพอผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้ จุฬาภินันท์เข้าใจว่าที่ไม่ตายเพราะการสวดบทสวดนี้นั่นเอง ทรมานมากกว่าที่นางกินรีตนนั้นทรมาน เพราะทรมานนานกว่า จุฬาภินันท์เชื่อว่าเพราะสมเด็จโตช่วยให้จุฬาภินันท์สลบค่ะ เลยไม่ต้องทรมานแบบขาดอากาศทั้งที่มีสติอยู่

บทสวดนี้เป็นบทสวดที่ลด ทอนกรรมให้เบาบางลงค่ะ หมายถึงว่า วิบากที่ต้องใช้น่ะ ยังไงก็ต้องใช้ในปริมาณเท่ากัน แต่ในกรณีของจุฬาภินันท์ มันแลกกันด้วยความทรมานนานหลายชั่วโมง แต่ยังมีอากาศหายใจได้บ้างก่อนจะสลบไป และไม่ตาย แลกกับการตายอย่างทรมานแบบขาดอากาศหายใจร้อยเปอร์เซ็นต์


จนป่านนี้ คิดแล้วยังสยองเลยค่ะ แต่วิบากกรรมของจุฬาภินันท์กับนางกินรีตนนั้นก็หมดไปด้วย เพราะจุฬาภินันท์ไม่ได้สร้างวิบากกรรมต่อกับนางกินรีตนนั้นอีก

สรุป ว่า กรรมดี ก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นวิบากกรรม การชดใช้ต้องมีแน่ และถ้าเราพยาบาทอาฆาต กรรมก็ต้องมีต่อๆกันไป ไม่รู้จักหมด เหตุนี้เองที่ทำให้เราต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ

การตัดกรรมให้หมดก็คือ ใช้วิบากให้หมดซะก่อน แล้วไม่ไปต่อวิบากกับใครหรืออะไรอีกโดยการวางอุเบกขา หรือสร้างกรรมดีให้เขา

แล้ว พระนิพพานจะใกล้เข้ามา เพราะการจะเข้าพระนิพพานได้นั้น มีเงื่อนไข ๓ ข้อ คือ หมดกิเลส สะสมบุญบารมีได้ถึง และ หมดกรรมกับทุกผู้ทุกตน

จุฬาภินันท์พยายามอยู่ค่ะ จุดหมายสูงสุดคือได้ไปพระนิพพาน


สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาจุฬาภินันท์มาก นั่นเพราะจุฬาภินันท์สร้างบุญค่ะ บุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การถือศีลบริสุทธิ์และทำสมาธิ เพราะบุญนี้จะกลายเป็นอาหารบุญให้วิญญาณเร่ร่อน สัตว์นรก เปรต หรือแม้แต่เทวดา ที่มีโอกาสทำบุญน้อยกว่ามนุษย์ ลดทอนกรรมและตัดกรรมได้น้อยกว่ามนุษย์ การที่เขาได้อาการบุญ เขาอาจมีสิทธิ์มาเกิดเป็นมนุษย์ ซึ่งจะทำให้เขาสร้างบุญและตัดทอนกรรมได้ เพราะเหตุนี้ การถือศีลทำสมาธิจึงเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ แถมเราเองก็ได้บุญด้วยค่ะ

จุฬาภินันท์เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมสุดๆ อ้อ คราวหน้าจะเอาวิธีแก้ความทรมานมาบอกค่ะ จุฬาภินันท์รู้มาเพราะฝันเหมือนเดิมค่ะ ฝันว่าหายใจไม่ออก แล้วก็ได้นิมิตรู้มาค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2010, 23:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 08:36
โพสต์: 532

แนวปฏิบัติ: ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: กรรมทีปนี , วิมุตติรัตนมาลี , ภูมิวิลาสินี
ชื่อเล่น: เจ้านาง
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมเช่นกันค่ะ

:b8: สาธุ สาธุ สาธุ :b8:

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
...รู้จักทำ รู้จักคิด รู้ด้วยจิต รู้ด้วยศรัทธา...
..................ศรัทธาธรรม..................


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 134 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร