ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=27809
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  Baal [ 18 ธ.ค. 2009, 17:14 ]
หัวข้อกระทู้:  หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

ดีใจที่มีเวทีธรรมะให้ถาม หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ
(1) คำว่า"การแผ่เมตตา" กับ "การแผ่ส่วนกุศล" ต่างกันอย่างไรคะ
(2) การกรวดน้ำนั้นเป็นการกรวดน้ำไปให้แก่ผู้ที่ถึงแก่กรรมเท่านั้นใช่หรือไม่คะ

ขอขอบคุณค่ะ

เจ้าของ:  Rosarin [ 18 ธ.ค. 2009, 17:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

tongue
...ความคิดเห็นที่รู้สึกด้วยตนเองเป็นแบบนี้...ถูกหรือผิดท่านอื่นชี้แนะต่อนะเจ้าคะ...
:b16:
...การแผ่เมตตา เป็นการแสดงความรักความเมตตาต่อสิ่งมีชีวิต...
...เพราะทุกชีวิตย่อมรักและหวงแหนชีวิตตน...ดังนั้นเวลาสวดมนต์ไหว้พระเสร็จ...
...จึงแผ่เมตตาให้ตนเองก่อนเพื่อให้รู้ว่าเรารักตนเอง...แล้วแผ่เมตตาต่อสิ่งมีชีวิตอื่น...
...ว่าเราไม่อยากมีเวรต่อกัน...ไม่พยาบาทเบียดเบียนกัน...อยากให้พ้นทุกข์และอยากให้มีความสุข...

:b16:
...การแผ่ส่วนกุศล เป็นการอุทิศสิ่งดีๆที่เราทำให้กับคนที่เรารัก...
...และทุกชีวิตที่เราปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์...

:b16:
...การกรวดน้ำ เป็นอุบายของจิตให้จดจ่อในการอุทิศส่วนกุศล...จิตมุ่งต่อสายน้ำแทนน้ำใจ...
...หลั่งลงดินใต้ต้นไม้ใหญ่ให้รุกขเทวา,พระแม่ธรณี,พระแม่คงคา,พระแม่โพสพ...
...(เวลากรวดน้ำจึงนิยมวางก้อนข้าวไว้ด้วย)...ให้ส่งข่าวบอกบุญไปถึงญาติที่เราเจาะจง...
...อย่างพระอรหันต์บางรูป...อย่างหลวงตามหาบัวจิตท่านส่งถึงได้3โลกธาตุ...ไม่กรวดน้ำก็ส่งบุญถึง...
:b8:
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

เจ้าของ:  -dd- [ 18 ธ.ค. 2009, 18:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

อ้างคำพูด:
(1) คำว่า"การแผ่เมตตา" กับ "การแผ่ส่วนกุศล" ต่างกันอย่างไรคะ
(2) การกรวดน้ำนั้นเป็นการกรวดน้ำไปให้แก่ผู้ที่ถึงแก่กรรมเท่านั้นใช่หรือไม่คะ


การแผ่อุทิศบุญก็คือการระลึกถึงบุญที่ทำจบไปแล้วนั้น ปรารภให้บุญนั้นตกแก่ญาติผู้ล่วงลับเป็นต้น บางทีก็นิยมใช้น้ำ เช่น การกรวดน้ำ เป็นต้น หากไม่สะดวก เราก็ระลึกแผ่บุญให้บุญที่เกิดแล้วด้วยดีของเรานั่นแหละให้แก่เขาไป เปรียบเหมือนคนนำเงินติดตัวมา แล้วยื่นให้แก่ผู้ทุกข์ยาก หากไม่มีเงิน ก็ให้ไม่ได้ บุญก็เป็นเช่นนั้น เราต้องทำเสียก่อนจึงอุทิศให้

"การแผ่เมตตา"นั้น เป็นคนละประเด็นกับการแผ่อุทิศบุญ (ปัตติทาน)...... เป็นการฝึกจิตให้ลดคลายโทสะ

เมตตา ได้แก่ ธรรมชาติที่รัก กล่าวคือ เยื่อใยปรารถนาดีต่อบุคคลอื่น เป็นความหวังประโยชน์สุขแก่บุคคลอื่น ใคร่จะให้เขาได้ดีมีสุข โดยไม่คำนึงถึงว่า การได้ดีมีสุขของบุคคลนั้น ตนเองมีส่วนได้รับกับเขาด้วยหรือไม่ ตลอดทั้งเยื่อใยในความรู้สึกนึกคิดของบุคคลอื่น
เมตตา - มีความเป็นไปโดยอาการที่ประพฤติแต่ประโยชน์ มีการน้อมเอาประโยชน์เกื้อกูลเข้าไปเป็นกิจ อธิบายว่า เมื่อเมตตาเกิดขึ้นแล้ว กิจกล่าว คือหน้าที่ที่เมตตาพึงกระทำ ก็ได้แก่การน้อมเอาประโยชน์เกื้อกูลเข้าไปในสัตว์ทั้งหลาย มีการสละบริจาควัตถุสิ่งของ การช่วยเหลือแห่งเบาภาระของคนอื่น เป็นต้น และแม้ยังไม่มีโอกาสแสดงออกมาทางกาย หรือวาจา เกี่ยวกับการสละบริจาควัตถุสิ่งของ เป็นต้นอย่างนั้น ก็มีใจน้อมไปเพื่อการกระทำอย่างนั้น

เมตตา-มีการกำจัดความอาฆาตเป็นผลปรากฏ อธิบายว่า เวลาที่เมตตานี้เกิดขึ้น เมตตาเป็นปฏิปักษ์ต่อโทสะอันเป็นมูลแห่งความอาฆาต เพราะฉะนั้น ผลปรากฏที่บัณฑิตเห็นได้ด้วยปัญญาก็คือ การกำจัดความอาฆาตได้

b]เมตตา[/b]-มีการเล็งเห็นภาวะที่สัตว์ทั้งหลายเป็นผู้นำชอบใจเป็นเหตุใกล้ให้เกิด อธิบาย ว่า ก่อนที่เมตตาจะเกิดขึ้น เวลานั้นจะต้องเห็นบุคคลอื่น คนเดียวก็ตาม หลายคนก็ตาม ว่าเป็นผู้ที่น่าชอบใจ คือประสบพบเห็นแล้วก็เจริญใจ ไม่เห็นว่าเป็นผู้น่ารังเกียจ ต้องมีการเล็งเห็นอย่างนี้ก่อนเมตตาจึงจะเกิดขึ้นได้ หากเล็งเห็นว่าเขาเป็นผู้น่ารังเกียจ เกี่ยวกับไปใส่ใจถึงความประพฤติที่ไม่มีของเขาเข้าเป็นต้น เมตตาก็ไม่เกิดขึ้น

อานิสงส์ของเมตตา
ประโยชน์ที่พึงได้รับจากการเจริญเมตตา ดังต่อไปนี้

พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ (ใน องฺ เอกาทสก. ๒๔/๓๗๐) ว่า เม ตฺตาย ภิกขเว เจโตวิมุตฺติยา อาเสวิตาย ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฐิตาย ปริจตาย สุสมารทฺธาย เอกาทสานิสํสา ปาฏิกงฺขา เป็นต้น แปลว่า
“ ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย บุคคลเมื่อได้ส้องเสพเมตตาเจโตวิมุตติ (การทำจิตให้น้อมไปด้วยเมตตา) ได้เจริญ ได้กระทำให้มาก ได้กระทำให้เป็นเครื่องนำออก (จากความอาฆาต) ได้กระทำให้เป็นที่ตั้งอาศัย ทำให้ตั้งมั่น สั่งสม ปรารภดีแล้ว ก็หวังได้ซึ่งอานิสงส์ ๑๑ ประการ อานิสงส์ ๑๑ ประการไฉน ? ได้แก่
๑. นอนหลับเป็นสุข
๒. ตื่นเป็นสุข
๓. ไม่ฝันร้าย
๔. เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย
๕. เป็นที่รักของอมุษย์ทั้งหลาย
๖. เทวดารักษา
๗. ไฟก็ดี ยาพิษก็ดี อาวุธก็ดี ย่อมกล้ำกรายเขาไม่ได้
๘. จิตย่อมตั้งมั่นได้เร็ว
๙. มีสีหน้าผ่องใส
๑๐.ไม่หลงตาย
๑๑.เมื่อยังไม่แทงตลอดธรรมที่สูงขึ้นไป (กว่าเมตตานี้) ก็จะเป็นผู้เข้าถึงพรหมโลก ” ดังนี้

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 18 ธ.ค. 2009, 19:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 18 ธ.ค. 2009, 19:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

Baal เขียน:
ดีใจที่มีเวทีธรรมะให้ถาม หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ
(1) คำว่า"การแผ่เมตตา" กับ "การแผ่ส่วนกุศล" ต่างกันอย่างไรคะ
(2) การกรวดน้ำนั้นเป็นการกรวดน้ำไปให้แก่ผู้ที่ถึงแก่กรรมเท่านั้นใช่หรือไม่คะ

ขอขอบคุณค่ะ


คำว่า "การแผ่เมตตา" หมายถึง "การคลี่กระจาย ความรักใคร่ กิริยารักใคร่ ปรารถนาให้ได้ดีพบสุข ให้กว้างออกไปจากตัวเอง โดยการ ระลึกนึกถึง สรรพสิ่งต่างๆ ที่ตัวคุณ คิดว่ามีอยู่ หรือมีผลต่อการดำรงชีวิตของคุณ ในขณะนั้นๆ ฯลฯ

คำว่า " การแผ่ส่วนกุศล" หมายถึง การคลี่กระจาย หรือแบ่ง ความดี จากตัวคุณ หรือคลี่กระจาย หรือแบ่งความดีของคุณ ให้สิ่งที่คุณคิดว่ามีอยู่ และสามารถได้รับความดี จากตัวคุณ ของคุณ "

ความจริงแล้วคุณคงเข้าใจแล้วว่า มันแตกต่างกันอย่างไร แต่เพื่อให้เกิดความเข้าใจ จะอธิบายความแตกต่างของทั้งสองอย่างดังนี้
การแผ่เมตตา มีวัตถุประสงค์ และจุดมุ่งหมาย เพื่อแสดงความเป็นมิตร หรือฝากเนื้อฝากตัว กับสิ่งที่คุณคิดว่ามีอยู่ อันเป็นสิ่งที่คุณคิดว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ หรืออันเป็นสิ่งที่คุณคิดว่า สามารถมากระทำ หรือปฏิบัติต่อคุณทั้งในทางที่ดี หรือในทางที่ไม่ดีก็ได้

การแผ่ส่วนกุศล มีวัตถุประสงค์ และจุดมุ่งหมาย เพื่อน้อมนำเอาความดีที่มีอยู่ในตัวคุณ ของคุณ บางอย่าง บางชนิด ส่งไปให้ หรือนำไปให้ บุคคลอื่นๆ หรือสิ่งอื่นใด ที่คุณคิด หรือ ค่านิยมทางสังคมนับว่า มีอยู่จริง เช่น วิญญาณของผู้ตาย เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ
ที่กล่าวไปข้างต้น คือความแตกต่าง ของ "การแผ่เมตตา" กับ "การแผ่กุศล"ขอรับ

เจ้าของ:  มหาราชันย์ [ 18 ธ.ค. 2009, 20:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

บุคคลมีชีวิตอยู่ เพราะการเกิด
บุคคลเกิดได้ เพราะตายมาก่อนแล้ว

บุคคลผู้มีเมตตา ย่อมรักชีวิตผู้อื่นเสมอรักตน
การอุทิศส่วนกุศล เกิดจากบุคคลผู้มีความเมตตานั้นแล




กิเลสเครื่องกังวลใดมีอยู่ในกาลก่อน
เธอจงยังกิเลสเครื่องกังวลนั้น
ให้เหือดแห้งหายไป
กิเลสเครื่องกังวลใด
จงอย่ามีแก่เธอในภายหลัง
ถ้าเธอจักไม่ยึดถือขันธ์ในท่ามกลาง
ก็จักเป็นมุนีผู้สงบระงับแล้วเที่ยวไป....ดังนี้



เจริญในธรรมครับ

เจ้าของ:  chulapinan [ 18 ธ.ค. 2009, 21:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

อ้างคำพูด:
(1) คำว่า"การแผ่เมตตา" กับ "การแผ่ส่วนกุศล" ต่างกันอย่างไรคะ


แผ่ส่วนบุญส่วนกุศล คือ ให้บุญที่เรามีต่อเขา

แผ่เมตตา คือ สงสารเขา ก็ค่อยให้บุญให้กุศลเขา

ประมาณ เมตตา แล้ว กรุณา น่ะค่ะ

อ้างคำพูด:
(2) การกรวดน้ำนั้นเป็นการกรวดน้ำไปให้แก่ผู้ที่ถึงแก่กรรมเท่านั้นใช่หรือไม่คะ


ไม่ใช่ค่ะ กรวดให้ทั้งหมดทุกอย่างค่ะ ให้เทวดาก็ได้ ให้ตัวเองก็ได้ค่ะ ให้พระก็ได้ค่ะ

หรือแม้แต่กับพระพุทธเจ้าก็ได้ แต่กรณีนี้ เป็นการถวายสักการะค่ะ ตอบแทนพีะคุณพระองค์ค่ะ

เจ้าของ:  moddam [ 18 ธ.ค. 2009, 23:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

ขอแสดงความคิดเห็นข้อ 2 ครับ

2) การกรวดน้ำนั้นเป็นการกรวดน้ำไปให้แก่ผู้ที่ถึงแก่กรรมเท่านั้นใช่หรือไม่คะ

ตอบ ใช่ครับ

แต่ หมายเอาบุญกุศลที่เราทำนั้น จงเป็นพลวปัจจัยให้ตัวเราเองด้วย เพราะเราเป็นผู้กระทำบุญอันนั้น

เพราะฉะนั้นจะได้ ถึง 2 ฝ่าย ด้วยกัน แต่ถ้าเราอุทิศให้กับ สัตว์ทั้งหลายด้วยก็ได้อีกเหมือนกันครับ เป็นการแผ่เมตตาในตัวด้วย :b1:

เจ้าของ:  nimitta [ 19 ธ.ค. 2009, 01:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

ขอเพิ่มเติมสักเล็กน้อยนะคะ :b1:

ได้ยินท่านผู้รู้มาว่า ถ้าจะแผ่ส่วนบุญให้คนเนี่ย ต้องบอกให้เค้าอนุโมทนาด้วย เค้าถึงจะได้บุญนะคะ แต่ถ้าแผ่เมตตา ก็คือแผ่ความปรารถนาดีเป็นมิตรให้ค่ะ แต่ใจเราต้องเป็นบวกก่อนจ้ะ ถ้าใจเรามีแต่ความเร่าร้อน ก็จะประมาณว่าแผ่รัศมีแห่งความร้อนของโทสะออกไป ผิดพลาดอย่างไรขออำภัยด้วยจ้า :b15:

เจ้าของ:  yodchaw [ 19 ธ.ค. 2009, 19:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

การแผ่เมตตา หมายถึง การดำริ การน้อม ความรู้สึกดี ไมตรีจิตที่ดี แผ่ออกไปแต่สรรพสัตว์ ทุกหมู่เหล่า ไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ ไม่จำกัดแค่กลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ภพหนึ่งภพใด
การแผ่บุญกุศล หมายถึง การดำริ การแสดงหรือการสื่อ ออกไปสู่สรพสัตว์ทั้งหลายไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ ไม่จำกัดแค่กลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ภพหนึ่งภพใด ให้มีส่วนในคุณงามความดีที่ได้เกิดขึ้นนี้

การทำบุญ กุศลนี้ สามารถแผ่ให้คนที่เป็นๆยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ เราดำริให้เขามีส่วน
เคยมีนะขอรับ มีเหตุการณ์หนึ่งเป็นเด็ก ตัวเล็กผอม เขาทานข้าวไม่รู้จักอิ่ม กินข้าวยังไงก็ไม่อิ่ม
แทนที่กินเยอะจะอ้วน ก็ไม่อ้วนและว่าหิวตลอด พ่อแม่ต้องห้ามตลอดเวลาเขาทานข้าวให้รู้จักประมาณ เรียกว่าต้องแย่งกับข้าวออกทุกครั้งกลัวลูกท้องแตก จนมีวันหนึ่งไปหาพระ แล้วท่านให้พากันถวายสังฆทานอุทิศให้เด็กคนนี้ หลังจากนั่นจึงเป็นปกติ และอ้วนสมบูรณ์ขึ้น

เจ้าของ:  panejon [ 23 ธ.ค. 2009, 21:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

(1) คำว่า"การแผ่เมตตา" กับ "การแผ่ส่วนกุศล" ต่างกันอย่างไรคะ
(2) การกรวดน้ำนั้นเป็นการกรวดน้ำไปให้แก่ผู้ที่ถึงแก่กรรมเท่านั้นใช่หรือไม่คะ


การแผ่เมตตา นั้น คือการทำจิตที่ให้สรรพดวงจิตที่เป็นทุกข์ให้พ้นจากทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง

การแผ่ส่วนกุศล นั้น คือการที่เราน้อมจิตในส่วนบุญส่วนกุศลที่เราได้ทำตั้งแต่อดีตชาติปัจจุบันชาติที่เป็นบุญเป็นกุศลให้กับท่านที่เราต้องการอุทิศให้หรือไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ

การกรวดน้ำไม่ใช่ว่าจะได้เฉพาะแก่ผู้ที่ละโลกไปแล้ว แต่ยังกรวดน้ำใก้แก่ผู้ที่มีชีวิตอยู่
เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติอาจจะเกิดบนโลกนี้ ที่แน่ๆเรากรวดน้ำให้ตัวเองเราก็ยังมีชีวิตอยู่

ขอให้หมั่นกรวดน้ำเจริญเมตตาภาวนาแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลอยู่เป็นนิจ
ชีวิตจะดีขึ้นทั้งชาตินี้และชาติหน้า

เจ้าของ:  bbb [ 24 ธ.ค. 2009, 08:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

การแผ่เมตตาก็คือ การที่จิตใจเรามีเมตตาต่อสัตว์โลก (สัพเพ สัตตา)
แผ่ความมีเมตตา ไมตรีจิตให้แก่สรรพสัตว์
ส่วนการแผ่ส่วนกุศล อุทิศส่วนกุศล ก็อย่างเช่นเราสร้างกรรมดี สร้างกุศลกรรมไว้
เราก็อุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวร บิดามารดา


ขอเดชะตั้งจิตอุทิศผล
บุญกุศลนี้แผ่ไปให้ไพศาล
ถึงบิดามารดาครูอาจารย์
ทั้งวงศ์วานญาติมิตรสนิทกัน
ทั้งคนเคยร่วมรักสมัครใคร่
ขอให้ได้ส่วนกุศลผลของฉัน
ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ
ขอให้ได้ส่วนกุศลผลนี้เทอญฯ

:b42: :b42: :b42:
.........................

การกรวดน้ำให้ได้ทุกคน ทุกสรรพจิต สรรพชีวิตครับ

:b41: :b41: :b41:

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 24 ธ.ค. 2009, 13:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ

Baal เขียน:
ดีใจที่มีเวทีธรรมะให้ถาม หนูขอถาม 2 ข้อค่ะ
(1) คำว่า"การแผ่เมตตา" กับ "การแผ่ส่วนกุศล" ต่างกันอย่างไรคะ


กุศล คือความรู้สึกฝ่ายดีทั้งหมด
เมตตา ก้เป็นความรู้สึกฝ่ายดีอันหนึ่ง เป็นความรู้สึกฝ่ายกุศล

การแผ่กุศลจึงได้แก่
แผ่ความรู้สึกอะไรก็ได้ที่ดีๆ ที่เป็นกุศล

แผ่ทางใจก็ได้แก่การแผ่ความรู้สึกดีๆ แผ่ไปในใจ หรือแผ่ออกไปนอกใจ
แผ่ไปทางกายก็เช่น การช่วยเหลือเกื้อกูลตนเองผู้อื่น การพูดจาไม่เบียดเบียนผู้อื่น (ดูกุศลกรรมบท 10)

นั่งนึกถึงความดีของตนก็เป็นการแผ่กุศลนะ
แผ่ให้ใคร แผ่ให้ตัวเองไง
ถ้าเรามีความสุขแล้วจะพูดจะคิดจะทำอะไรมันก็เป้นผลผลิตของความสุขของเรา
ลองเราอารมณ์เสียสิ สิง่ที่ตามมาก็... !#$%$#^%$*& ....ใช่ไหมล่ะ

ถ้าอยากแผ่กุศลทางใจนะ พระพุทธเจ้าท่านจัดชุด kit สำเร้จรูปไว้ให้แล้ว
สิ่งที่ควรระลึกถึงเนืองๆ 10 อย่าง ท่านเรียกว่า "อนุสติ 10" นะลองหาดู

ถ้าจะแผ่ทางกายเหรอ พระพุทธเจ้าของเราก็เตรียมชุด reday meal ให้พร้อมแล้วเหมือนกัน
ชื่อว่า "กุศลกรรมบท 10"

หรือถ้าจะแผ่ไปทางวาจา ท่านก้จัดชุด "DIY" ไว้ให้แล้ว ชื่อ "กถาวัตถุ 10"

พระพุทธเจ้าของเราท่านคิดไว้ให้หมดแล้ว เหนือแต่เราพยามทำเอา นะจ๊ะ จุ๊บๆ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/