พระอมิตาพุทธเจ้า พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า พระยูไล้ แตกต่างกันอย่างไรครับ

เวลาเราไปวัดหรือไปซื้อพุทธรูปเราทราบได้อย่างไรว่าภาพไหนเขียนเป็นพระอมิตาพุทธเจ้า ภาพไหนเขียนเป็นพระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า ภาพไหนเขียนเป็นยูไล้ พอมีวิธีสังเกตุอย่างไรบ้างครับ หรือแม้แต่ตอนไปซื้อพุทธรูป เราทราบได้อย่างไรว่านี่คือ พุทธรูปของพระอมิตาพุทธเจ้า นี่คือ พุทธรูปของพระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า นี่คือ พุทธรูปของพระยูไล้ พอมีวิธีสังเกตุบ้างมั้ยครับ เช่นถ้าเป็นโพธิสัตว์กวนอิมจะถือกิ่งหลิว มีแจกัน แต่งตัวเหมือนชี ทราบได้ว่าคือโพธิสัตว์กวนอิม หรือถ้าเป็นพระกษิติครรภ์โพธิ์สัตว์ ก็สังเกตุมือถือลูกแก้ว ซึ่งแตกต่างจากพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร หรือพุทธรูปของพระเณรทั่วไป แล้วอยากจะทราบว่าพระพุทธเจ้าทั้งสามพระองค์มีจุดแตกต่างกันตรงไหนบ้างครับ ตามประวัติแล้วพระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า คือ พระยูไล้ หรือเปล่าครับ

คำถามข้อที่ 2 คือ
พระไวโรจนพุทธะ ๑ ถ้าจับคู่กันตามชื่อในพระบาลีไทยได้แบบนี้หรือเปล่าครับ พระกกุสันธะ
พระอักโษภยพุทธะ ๑ "พระโกนาคมน์
พระอโมฆสิทธิพุทธะ ๑ "พระกัสสปะ
พระอมิตาภพุทธะ ๑"พระโคดม
พระรัตนสมภพพุทธะ ๑ "พระเมตเตยยะ

ทราบว่า พระไวโรจนพุทธะ สีพระกาย คือ สีเหลือง
พระอักโษภยพุทธะ สีพระกาย คือ สีเขียว
พระอโมฆสิทธิพุทธะ สีพระกาย คือ สีน้ำเงิน
พระอมิตาภพุทธะ สีพระกาย คือ สีแดง
พระรัตนสมภพพุทธะ สีพระกาย คือ สีแสด
พระพุทธเจ้าทั้งห้ามีภาพให้ชมบ้างมั้ยครับ

คำถามข้อที่ 3 อยากจะขอภาพการทำ สมาธิมุทระ อัภยมุทระ วิตักกมุทระ ภูมิสัมผัสมุทระ และมุทระแบบอื่นๆเผยแพร่ให้ญาติธรรมผู้ศรัทธาได้นำไปประพฤติปฏิบัติเพื่อน้อมจิตเข้าสู่พุทธภูมิพอจะมีข้อมูลบ้างมั้ยครับ

ศีลพระโพธิสัตว์ ข้อหนึ่งว่า "มีสัตว์ผู้ใคร่ธรรมมาปรากฏเฉพาะหน้า สมควรจะแสดงธรรมก็ไม่แสดงต้องปาราชิก"

ทุกพระองค์ไม่มีความต่างกันในเชิงธรรมค่ะ ทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ พระยูไลก็ใช่ค่ะ

การจะรู้ได้ว่าพระพุทธรูปพระองค์ใดเป็นพระองค์ใด เราอย่ารู้เลยค่ะ มีมากมาย เรารู้ได้ไม่หมดแน่ แต่ถ้าอยากรู้จริงๆระหว่างสามพระองค์ จุฬาภินันท์บอกได้ค่ะ

พระศรีอริยเมตไตรย์ ยังไม่มีเป็นพระพุทธรูป ทรงบำเพ็ญบุญบารมีอยู่ในนิพพานสถานค่ะ

พระศากยมุนีพุทธโคดมพุทธเจ้า คือ พระพุทธชินราชค่ะ

พระยูไล คือ พระสุชาตะพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่ที่ฮ่องกง เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ๆน่ะค่ะ ทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๑๕ พระสุชาตะพุทธเจ้า ค่ะ

อย่าถามว่ารู้ได้ยังไง จุฬาภินันท์รู้จากปัญญาธรรมที่เรียกว่า สุตมยปัญญา และ จินตามยปัญญา ค่ะ ปัญญาสองตัวนี้ ต้องระดับสกิทาคามีขึ้นไปเท่านั้นค่ะที่จะมีได้



ถูกค่ะ



ถูกค่ะ



ถูกค่ะ



ถูกค่ะ



ถูกค่ะ



ถูกหมดค่ะ



ในเน็ตมีค่ะ ลองหาดูนะคะ อธิษฐานขอต่อท่าน เจตนาของคุณเป็นเครื่องตัดสินค่ะว่าท่านจะให้คุณรู้หรือเปล่า เชื่อในพระองค์นะคะ ทรงอยู่ทุกแห่งหน ทรงเป็นผู้ประเสริฐอย่างแท้จริงๆ อธิษฐานดีๆ มีสมาธจิต นึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ คุณจะรู้เองค่ะว่าท่านคือพระพุทธรูปพระองค์ใดที่คุณเห็นตามเน็ต จุฬาภินันท์ก็ทำแบบนั้นค่ะ



เกินกำลังปัญญาของจุฬาภินันท์ค่ะสำหรับข้อสาม เอาเป็นว่า ทำสมาธิสบายๆดีกว่านะึคะ ที่คุณว่ามาศัพท์ยากๆน่ะ ก็เป็นการทำสมาธิแบบ สติปัฏฐานสี่ นั่นแหละค่ะ คือ มีสมาธิเสมอในทุกๆขณะจิต รู้ว่าทำอะไรอยู่ รู้กายตัวเองก่อน แล้วตามด้วยความรู้สึก แล้วตามด้วยอารมณ์ แล้วตามด้วยรู้ทุกอย่าง ต้องเป็นขั้นๆตามนี้นะคะ อย่ารู้กายแล้วกระโดดไปรู้อะไรอย่างอื่น คนที่จะรู้อามณ์และทุกอย่างได้ ต้องเป็นโสดาบันให้ได้ก่อนค่ะ



ใช่ค่ะ สมควรแสดงธรรม ก็ต้องรู้จริง เมื่อรู้จริงก็ไม่ต้องปาราชิกค่ะ

ข้อนี้ไม่ถูกต้องครับ

ขออ้างอิงจากกระทุ้นี้ครับ viewtopic.php?f=1&t=27652



จะเห็นว่าแตกต่างกันครับ



บำเพ็ญบารมีสมบูรณ์แล้ว เพียงแต่รอเวลาลงมาจุติ และตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถัดจากยุค ๕,๐๐๐ ปี นี้ครับ ทรงพำนักอยู่บนสวรรค์ ชั้นดุสิต ซึ่งชั้นนี้จะเป็นที่อยุ่ของบรรดา พระโพธิสัตว์และพระอัครสาวก ทั้งหลาย ...ผมเคยอ่านจาก ประวัติของหลวงปู่ฤาษีลิงดำ(พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง) ท่านเคยไปยังสววรค์ชั้นนี้ และได้สนทนา กับพระศรีอาริยเมตไตรย์
...เลยทำให้ทราบว่าพระองค์รอเพียงเวลาเท่านั้น

ถ้าจะปฎิบัติธรรม ก็ อย่าไปคาดหวังว่าต้องเป็น พระอริยบุคคล หรือ ต้องปฎิบัติแบบนี้ อย่างนี้ แนวทางนี้ เพื่อที่จะให้ได้เป็น พระอริยบุคคล ขั้นนั้นๆ เลยครับ
ขอแต่เพียง ปฎิบัติตามหลัก ของ ศีล สมาธิ ปัญญา ให้บริสุทธิบริบูรณ์ เมื่อปฎิบัติดีแล้ว
ศีล สมาธิ ปัญญา จะรวมลงเป็น องค์อริยมรรค แล้วภูมิจิต ภูมิใจ ของเราจะปฎิวัติตัวไปสู่ ภูมิจิตภูมิธรรมได้เอง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็น พระอริยบุคคลก็ตาม แต่ก็เป็นผู้ไม่อยุ่ในความประมาท
...ถ้าเป็นชาวพุทธ และปฎิบัติธรรมเพื่อวามหลุดพ้นกันจริงๆ ก็ขอให้ยึด พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ ยึดถือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นศาสดา เป็นครูอาจารย์ใหญ่ของเรา

ที่คุณจับคู่มาคือ นิรมาณกาย ของพระธยานิพุทธะ ทั้ง 5 พระองค์ครับ

พระไวโรจนพุทธะ นิรมาณกายของพระองค์คือ พระกกุสันธพุทธเจ้า
พระอักโษภยพุทธะ นิรมาณกายของพระองค์คือ พระโกนาคมนพุทธเจ้า
พระอโมฆสิทธิพุทธะ นิรมาณกายของพระองค์คือ พระกัสสปพุทธเจ้า
พระอมิตาภพุทธะ นิรมาณกายของพระองค์คือ พระสมณโคดมพุทธเจ้า
พระรัตนสัมภวพุทธะ นิรมาณกายของพระองค์คือ พระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้า

แนวคิดเรื่องตรีกาย
หลักการสำคัญประการหนึ่งของมหายานอยู่ที่หลักเรื่อง ตรีกาย
อันหมายถึงพระกายทั้ง 3 ของพระพุทธเจ้า ในกายตรัยสูตรของมหายาน
พระอานนท์ทูลถามถึงเรื่องพระกายของพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าจึงตรัสแก่พระอานนท์ว่า ตถาคตมีกายเป็น 3 สภาวะคือตรีกาย อันได้แก่

1.นิรมาณกาย หมายถึง กายที่เปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพของสังขารในฐานะที่เป็นมนุษย์
พระศากยมุนีผู้ท่องเที่ยวอยู่บนโลก สั่งสอนธรรมแก่สาวกของพระองค์
และดับขันธปรินิพพานเมื่อพระชนมายุได้ 80 พรรษา
2.สัมโภคกาย หมายถึง กายแห่งความบันเทิง
มีลักษณะเป็นทิพยภาวะรุ่งเรืองแผ่ซ่านปรากฏแก่พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย
3.ธรรมกาย หมายถึง กายแท้จริงอันเป็นสภาวธรรม
ในฐานะเป็นสภาพสูงสุด หลักแห่งความรู้ ความกรุณา และความสมบูรณ์


ตามคัมภีร์ต่างๆ บอกไว้อย่างนั้นครับ แต่ว่า ผู้น้อยไม่มีภาพน่ะครับ
ต้องขออภัยด้วย


เป็นรูปที่คนกำลังทำสมาธิ หรือครับ
หรือว่าเป็นลักษณะของ มุทระ ในแบบต่างๆ ที่เรามักเห็นในรูปปั้น พระพุทธเจ้า
พระโพธิสัตว์ ว่ามีความหมายอย่างไร

ถ้าเป็นอย่างแรกไม่มีครับ
อย่างหลังพอมีข้อมูลอยู่บ้างครับ

ขออภัยครับที่ถามไม่ค่อยเคลียร์ หมายถึงการทำมุทระ ในแบบต่างๆ ที่เรามักเห็นในรูปปั้น พระพุทธเจ้า
พระโพธิสัตว์ครับ รบกวนถ้ามีรูปและรายละเอียด ช่วยแสดงให้ชมด้วยครับ ขออนุโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ

รบกวนถามเพิ่มอีกนิดนะครับ ทำอย่างไรจิตจึงจะมีปณิธานมุ่งต่อพระอนุตตรสัมาสัมโพธิญาณ
๑ ทำอย่างไรจิตจึงจะมีปณิธานมุ่งต่อพระอนุตตรสัมาสัมโพธิญาณ
๒ พระอนุตตรสัมาสัมโพธิญาณ คืออะไร
๓ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิธรรม คือ ธรรมแบบไหน

มุทระ ในแบบต่างๆ
ท่าน perish สามารถติดตามได้ที่กระทู้ด้านล่างครับ (ตาม Link)

viewtopic.php?f=19&t=27888

ผู้น้อยแยกออกไปตอบไว้อีกกระทู้หนึ่ง ที่ห้อง นานาสาระ ครับ

ขอบพระคุณมากๆๆเลยครับ ไม่ได้คุณอมิตาพุทธ ผมคงแย่
ผมถามคำถามอื่นๆๆที่สงสัยมากมาย หากคุณอมิตาพุทธ
พอจะสละเวลาอันมีค่ารบกวนช่วยตอบด้วยนะครับ