ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
การเป็นพลเมือง http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=27678 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 12 ธ.ค. 2009, 21:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | การเป็นพลเมือง |
![]() ![]() ![]() เคยพูดถึงลูกที่ดี และการเป็นเพื่อนที่ดีไว้แล้ว วันนี้มาต่อการเป็นพลเมืองที่ดีครับ การเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ ความหมายของพลเมือง พลเมือง คือประชาชนซึ่งเป็นกำลังอันสำคัญของประเทศชาติ พลเมืองดี คือผู้ที่สามารถดำรงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไว้ได้ ๑. พลเมืองเกิดจากอะไร? เกิดจาก การอยู่ร่วมกันของกลุ่มชนเพื่อความสันติสุข ๒. เป็นพลเมืองเพื่ออะไร? เพื่อ รักษาสามัคคี ดำรงไว้ซึ่งมนุษยชาติ ดำรงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และสามารถดำรงชาติศาสนาไว้ได้และอยู่ร่วมกันในชาติอย่างสันติสุข ๓. เป็นพลเมืองโดยวิธีใด? โดยการทำหน้าที่พลเมืองที่ดีดังนี้ ๑. มีความรักชาติ เคารพศาสนา เทิดทูนพระมหากษัตริย์ ๒. ศรัทธาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ๓. เคารพกฎหมายบ้านเมือง ๔. เสียภาษีบำรุงรัฐ ๕. ช่วยสร้าง ป้องกันรักษาสาธารณะสมบัติของชาติ ๖. พัฒนาตนเองให้สมบูรณ์และก้าวหน้าอยู่เสมอ ๗. มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่การงาน ๘. มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน ๙. ขยันหมั่นเพียรประกอบอาชีพสุจริต ๑๐. ประพฤติดีมีวินัย ๑๑. รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑๒. มีวิจารณญาณ ทำการโดยใช้ปัญญา ใคร่ครวญเสียก่อนจึงทำอะไร ๑๓. เสียสละไม่เห็นแก่ตัว เมื่อชาติมีภัยก็สามารถเสียสละชีวิตเพื่อประเทศชาติได้ ๑๔. ไม่ตกเป็นทาสยาเสพติดและอบายมุขทุกชนิด สรุปหน้าที่พลเมืองดีโดยย่อ ๑. รักชาติ ๒. เคารพศาสนา ๓. เทิดทูนพระมหากษัตริย์ ๔. ขจัดอบายมุขทั้งปวง ผลดี อันเกิดจากการเป็นพลเมืองที่ดี ๑. มีความเป็นอยู่ปลอดภัย ๒. เป็นที่นิยมรักใคร่ของคนทั่วไป ๓. เป็นที่ต้องการของสังคมของชาติ เพาระเป็นคนมีประโยชน์ ๔. ช่วยส่งเสริมการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าไปได้รวดเร็ว ๕. คนในชาติอยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข ๖. สามารถดำรงชาติไว้ได้ ๗. ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า โทษ ของการไม่เป็นพลเมืองที่ดี ๑. ถูกเพ่งโทษ ๒. ถูกประณามว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ทำลายชาติ ๓. เป็นที่เกลียดชังของคนทั่วไป ๔. จะไม่มีแผ่นดินอยู่ ๕. ไม่มีที่พึ่งทางใจ ๖. ไม่เป็นศูนย์รวมใจของชนในชาติ ๗. ถ่วงความเจริญในการพัฒนาประเทศชาติ พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์คืออะไร? พระมหากษัตริย์ คือ สถาบันของผู้มีสติปัญญา ผู้ที่ทำให้ประชาชนพอใจชื่นใจเรียกว่า “ราชา” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงประกาศเมื่อคราวขึ้นครองราชย์ “ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชนชาวสยาม” พระองค์ทรงมีคุณธรรมที่เรียกว่า “ทศพิธราชธรรม” ทำงานเพื่อผู้อื่น เพื่อประชาชน เพราะรักผู้อื่นพระองค์ทรงทำงานสนุกเป็นสุขขณะทำงาน ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์เพื่อ ประชาชนในชาติ ทรงเป็นยอดผู้นำดำรงฐานะหลายอย่าง เช่น ๑. เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ๒. เป็นศูนย์รวมใจของชาวไทย บันดาลให้เกิดความสามัคคี ๓. เป็นนักวิชาการนักศึกษา ๔. เป็นนักวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์ฝนเทียม ๕. เป็นนักวางแผน โครงการพระราชดำริต่าง ๆ ๖. เป็นนักจิตวิทยา ๗. เป็นนักอบรม พระบรมราโชวาททุกครั้งล้วนมีค่า ๘. เป็นนักเกษตร ๙. เป็นนักศาสนา ๑๐. เป็นนักกีฬา ๑๑. เป็นนักอดทน ๑๒. เป็นนักปกครอง ๑๓. เป็นนักดนตรี ๑๔. เป็นจอมทัพ ๑๕. เป็นพ่อแห่งชาติ ๑.พระมหากษัตริย์เกิดจากอะไร? เกิดจาก การที่คนไม่มีศีล ไม่มีใครเคารพ ต่างเบียดเบียนซึ่งกันและกัน จีงเกิดการสรรหาบุคคลผู้ที่จะมาเป็นผู้นำผู้ปกครองกลุ่มชนนั้น ๆ ๒.เป็นพระมหากษัตริย์เพื่ออะไร? เพื่อ ปกครองให้ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุข ๓.เป็นพระมหากษัตริย์โดยวิธีใด? โดย การปฏิบัติตามหลักธรรมดังนี้ ก. ทรงทศพิธราชธรรม คือ มีคุณธรรมของผู้ปกครอง หรือราชธรรม ธรรมของพระราชา ๑๐ ประการ ดังนี้ ๑. ทาน - ให้ปันช่วยประชา (บำเพ็ญตนเป็นผู้ให้) ๒. ศีล - รักษาความสุจริต (สำรวมกายวาจาให้ปกติ) ๓. ปริจาคะ - บำเพ็ญกิจด้วยเสียสละ ๔. อาชชวะ - ปฏิบัติภาระโดยซื่อตรง ๕. มัททะ - ทรงความอ่อนโยนเข้าถึงคน ๖. ตปะ - พ้นมัวเมาด้วยเผากิเลส (มีความเพียร) ๗. อักโกธะ - ถือเหตุผลไม่โกรธา (ความไม่โกรธ) ๘. อวิหิงสา - มีอหิงสานำร่มเย็น (ความไม่เบียดเบียน) ๙. ขันติ - ชำนะเข็ญด้วยขันติ (ความอดทน) ๑๐ .อวิโรธนะ - มิปฏิบัติคลาดจากธรรม (ความไม่มีพิรุธ) ข. บำเพ็ญกรณีย์ของจักรพรรดิ คือ ปฏิบัติหน้าที่ของนักปกครองผู้ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า “จักรวรรดิวัตร” ธรรมเนียมหรือหน้าที่ประจำของจักรพรรดิ ๕ ประการ คือ ๑. ธรรมาธิปไตย ถือธรรมเป็นใหญ่ ตั้งตนอยู่ในธรรม ๒. ธรรมิการักขา ให้ความคุ้มครองโดยธรรม แก่ชนทุกหมู่เหล่าในแผ่นดิน ๓. มาอธรรมการ ห้ามกั้นการอันอาธรรม์ มิให้มีการกระทำที่ไม่เป็นธรรม ๔. ธนานุประทาน ปันทรัพย์เฉลี่ยให้แก่ชนผู้ไร้ทรัพย์ ๕. ปริปุจฉา สอบถามปรึกษากับพระสงฆ์ และนักปราชญ์ ค. ประกอบราชสังคหะ คือ ทำนุบำรุงประชาราษฎร์ ด้วยหลักธรรมที่เรียกว่า “ราชสังคหวัตถุ” หลักการสงเคราะห์ประชาชนของพระราชา 4 ประการคือ ๑. สัสสเมธะ ฉลาดบำรุงธัญญาหาร ส่งเสริมการเกษตรให้อุดมสมบูรณ์ ๒.ปุริสเมธะ ฉลาดบำรุงข้าราชการ ส่งเสริมคนดีมีความสามารถจัดสวัสดิการให้ดี ๓. สัมมาปาสะ ผูกประสานปวงประชา ด้วยนโยบายส่งเสริมอาชีพ ๔. วาชไปยะ มีวาทะดูดดื่มใจ รู้จักพูด รู้จักชี้แจงแนะนำ รู้จักทักทายถามไถ่ทุกข์สุขราษฎรทุกชั้น แม้ปราศรัยก็ไพเราะน่าฟัง ประกอบด้วยเหตุผล เป็นหลักฐาน มีประโยชน์ เป็นทางแห่งการสร้างสรรค์แก้ไข ปัญหาเสริมความสามัคคี ทำให้เกิดความเข้าใจดี ความเชื่อถือ และความนิยมนับถือ ง. ละเว้นอคติ พระราชาหรือนักปกครอง เมื่อปฏิบัติหน้าที่พึงเว้นความลำเอียง หรือความประพฤติที่คลาดเคลื่อนจากธรรม 4 ประการ ๑. ฉันทาคติ – ลำเอียงเพราะชอบ ๒. โทสาคติ – ลำเอียงเพราะชัง ๓. โมหาคติ – ลำเอียงเพราะหลงหรือเขลา ๔. ภยาคติ - ลำเอียงเพราะขลาดกลัว หมายเหตุ คุณธรรมทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วทุกข้อ เป็นคุณสมบัติของท่านผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ผู้นำ ผู้ปกครองรัฐตั้งแต่พระเจ้าจักรพรรดิ พระมหากษัตริย์ และตลอดจนนักปกครองทั่วไป เราควรเทิดทูนพระมหากษัตริย์โดยวิธีใด โดย การปฏิบัติดังนี้ ๑. แสดงความจงรักภักดี ๒. เคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ถวายบังคมในเวลาเสด็จ ๓. เคารพกฎหมายบ้านเมือง ๔. ประพฤติตนเป็นพลเมืองดี ปฏิบัติตามคุณธรรม “ทศพิธราชธรรม” ภาระแห่งเจ้าตนหลวง 8 เจ้าตนหลวง ห่วงประชา เป็นภาระ ดังจอมพระ ห่วงสัตว์ ในสงสาร เจ้าตนหลวง ห่วงชาติ ราชการ ดั่งสมภาร ห่วงวัด สมบัติกลาง 8 เจ้าตนหลวง ยังห่วง ศาสนา เพื่อไพร่ฟ้า ฟูธรรม พร่ำสะสาง เจ้าตนหลวง ห่วงสืบ พระวงศ์,วาง ทายาทอย่าง ก่อนมา ภาระเอยฯ -พุทธทาสภิกขุ- พลเมืองดี 8 พลเมืองดี มีความขยัน รวมใจสร้างสรรค์ ให้ชาติก้าวหน้า ภาษีอากร คอยป้อนให้รัฐ เพื่อนำไปจัด งานพัฒนา เคารพกฎหมาย ของฝ่ายบ้านเมือง ไม่คิดทำเรื่อง ทั้งแพ่งอาญา มีอาชีพหลัก รู้จักคุณธรรม ชี้แจงแนะนำ บุตรหลานทั่วหน้า สละชีพเพื่อชาติ 8 ความรักประเทศสู้ ยอมสละ ทั้งร่างและชีวะ ปลดเปลื้อง รักษาอิสระ ภาพแห่งไทยแฮ ยงยศยามราชเรื้อง ราชคุ้งอวสาน -ดุสิตสมิต- ไทยแท้ 8คำว่าไท จะต้อง เป็นอิสระ ต้องเลิกละ กิเลสได้ เป็นไทแท้ หากเป็นไทย เพียงบัญชี ยังไม่แน่ ไทที่แท้ เหนือกิเลส เหตุทุกข์เอย. -สมฺปนฺโนภิกขุ- เป็นไทยเพราะมีธรรม 8 ศีลธรรม นำสุข ทุกสมัย เราเป็นไทย เพราะมีธรรม ประจำชาติ หากไร้ศีล สิ้นธรรม ต่ำอำนาจ ประเทศชาติ จะอยู่ได้ อย่างไรกัน จะอยู่สุขอย่างไร 8 อันชาติใด ไร้รัก สมัครสมาน จะทำการ สิ่งใด ย่อมไร้ผล แม้นชาติ ย่อยยับ อับจน บุคคล จะคง อยู่อย่างไร ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 12 ธ.ค. 2009, 22:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นพลเมือง |
![]() ![]() ![]() คุณธรรมของการเป็นพลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตยระดับประเทศชาติ คนดี หมายถึง การเป็นคนที่มีคุณธรรม จริยธรรม ตามหลักศีลธรรมและค่านิยมที่ดีงามในสังคม การเป็นพลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตยมีความหมายและขอบเขตข้อจำกัดมากกว่าการเป็นคนดีโดยทั่วไป พลเมืองดี นอกจากจะเป็นคนที่มีคุณธรรม จริยธรรมแล้ว ยังต้องประกอบด้วยคุณลักษณะของระบบการปกครองตามอุดมการณ์ทางการเมืองของรัฐนั้นๆ การเป็นพลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตย หมายถึง การที่พลเมืองมีหลักการดำเนินชีวิตที่มีคุณธรรม จริยธรรม และมีบทบาทในการกระทำที่มีคุณลักษณะทางประชาธิปไตยเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการดำเนินชีวิต คุณธรรมของการเป็นพลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตยมีดังนี้ • ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หมายถึง การที่บุคคลมีความสำนึกถึงความสำคัญของความเป็นคนไทย มีจิตใจฝักใฝ่ศาสนา และตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนในการผดุงรักษาสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ให้คงอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป • การยึดมั่นในหลักธรรมของศาสนาที่ตนเองนับถือ ทุกศาสนามีหลักศีลธรรมที่ช่วยสร้างจิตใจของคนให้กระทำดี ไม่เบียดเบียนกัน มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่กัน สมาชิกในสังคมสมควรศรัทธาในศาสนาที่ตนนับถือ แล้วปฏิบัติตามหลักศีลธรรมของศาสนาที่ตนนับถืออย่างสม่ำเสมอ • ความซื่อสัตย์ หมายถึง การกระทำที่ถูกต้อง ตรงไปตรงมา ไม่ยึดเอาสิ่งของผู้อื่นมาเป็นของตน บุคคลควรซื่อสัตย์ต่อตนเอง คือ กระทำตนให้เป็นคนดี และบุคคลควรซื่อสัตย์ต่อบุคคลอื่นๆ หมายถึงกระทำดีและถูกต้องตามหน้าที่ต่อผู้อื่น • ความเสียสละ หมายถึง การคำนึงถึงประโยชน์ของสังคมส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน และยอมเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นและส่วนรวม • ความรับผิดชอบ หมายถึง การยอมรับการกระทำของตนเองหรือการทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง • การมีระเบียบวินัย หมายถึง การกระทำที่ถูกต้องตามกฏเกณฑ์ที่สังคมกำหนดไว้ • การตรงต่อเวลา หมายถึง การทำงานหรือทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงทันตรงตามเวลาที่กำหนดโดยใช้เวลาอย่างคุ้มค่า • ความกล้าหาญทางจริยธรรม หมายถึง การกระทำที่แสดงออกในทางที่ถูกที่ควรโดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ความกล้านี้ไม่ใช่การอวดดี แต่เป็นการแสดงออกอย่างมีเหตุผล เพื่อความถูกต้อง การเป็นพลเมืองที่ดีต้องมีจิตอาสา จิตสาธารณะ ความหมายของจิตสาธารณะ มีความหมายที่ใกล้เคียงและมีความสอดคล้องกัน และเพื่อจุดประสงค์อย่างเดียวกันเช่น เหวง โตจิราการ. (2550) ให้ความหมายของ 'จิตสาธารณะ' อย่างกว้างน่าจะหมายถึงจุดประกายเพื่อจิตสาธารณะดังนี้คือ ๑. อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด จิตสำนึกที่เป็นไปเพื่อเป็นประโยชน์เกื้อกูล ส่งเสริมสนับสนุนสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนคนหมู่มาก ๒. ให้กำลังใจ ให้ความอบอุ่น ให้แรงบันดาลใจ แก่ผู้คนในการต่อสู้เพื่อเอาชนะอุปสรรคในชีวิตของตน เพื่อจะได้ดำรงตนอย่างปกติสุขในสังคมชุมชน และเข้าร่วมในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นแก่ชนในวงกว้าง ๓. ในขณะเดียวกันอาจจะหมายรวมถึง บทบาทในการลดทอนอำนาจของกิเลสตัณหาต่างๆ ที่เพิ่มความยึดมั่นถือมั่น ในเรื่อง ตัวกูของกู โลภะโทสะโมหะ ของปัจเจกชนให้มากมายยิ่งขึ้นไปด้วยก็ได้ เพราะหากเพลงหรือคีตศิลป์เป็นไปในทำนองเชิดชู ส่งเสริม เรื่องกิเลสตัณหาต่างๆ มนุษย์ก็จะถูกมอมเมาให้หลงหัวปักหัวปำในกองกิเลสต่างๆ แล้วก่อให้เกิดการเบียดเบียนตัวเองและผู้อื่น ซึ่งก็คือสังคม หรือสาธารณชนให้เกิดความเดือดร้อนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ๔. ในขณะเดียวกันก็อาจจะกล่าวขวัญถึงสังคมอุดมการณ์ หรือสภาพอันเป็นที่พึงปรารถนาร่วมกันของมนุษยชาติโดยรวม ซึ่งสำหรับชาวพุทธเราอาจจะเรียกว่า 'สังคมพระศรีอาริย์หรือศาสนิกอื่นก็อาจจะเรียกกันในชื่ออื่น แต่โดยเนื้อแท้แล้วก็มีความหมายตรงกันคือ มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างอยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีการเบียดเบียนกัน มีความอุดมสมบูรณ์ในโภคทรัพย์ ทุกคนต่างมีจิตสำนึกที่สูงส่ง ไม่มีความเห็นแก่ตัวเหลืออยู่แม้แต่น้อยนิด ไม่ว่าในระดับปัจเจกชนหรือสังคมก็ตาม สรุปตามความหมายข้างต้นว่าจิตสาธารณะหมายถึงการจุดประกายเพื่อให้คนทำประโยชน์เพื่อสังคมตลอดจนการให้ความเอื้ออาทร ลดความขัดแย้งและการให้ขวัญและกำลังใจต่อกันเพื่อให้สังคมเป็นสุขและการกระทำด้วยจิตวิญญาณ มีความรัก ความเอื้ออาทรต่อคนอื่นและสังคมรอบ ๆ ตัวรวมไปถึงประเทศชาติบ้านเมือง รวมความแล้วเป็นการรวมความหมายของคุณธรรมจริยธรรม และการไม่กระทำที่เสื่อมเสียหรือเป็นปัญหาต่อสังคม ประเทศชาติทำเมื่ออยู่โรงเรียน จะต้องมีระเบียบเรื่องความสะอาด เด็กนักเรียนมีเวรทำความสะอาดห้องเรียนและบริเวณโรงเรียน นั้น ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |