ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

พระอาทิพุทธะ และ พระธยานิพุทธ คือพุทธเจ้าพระองค์ไหนครับ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=27652
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  perish [ 12 ธ.ค. 2009, 08:06 ]
หัวข้อกระทู้:  พระอาทิพุทธะ และ พระธยานิพุทธ คือพุทธเจ้าพระองค์ไหนครับ

พระอาทิพุทธะ และ พระธยานิพุทธ คือพุทธเจ้าพระองค์ไหนครับ รบกวนทุกท่านด้วยครับ

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 12 ธ.ค. 2009, 14:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระอาทิพุทธะ และ พระธยานิพุทธ คือพุทธเจ้าพระองค์ไหนครับ

อาทิพุทธะ
เป็นพระพุทธเจ้าที่พบในคติความเชื่อของพุทธศาสนามหายานเท่านั้น
ไม่พบในฝ่ายเถรวาท โดยเชื่อว่าอาทิพุทธะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก
ที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับโลก อยู่ในโลกชั่วนิรันดร์ เป็นผู้สร้างสรรพสิ่งในโลก
และเป็นแหล่งกำเนิดของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย


พระธยานิพุทธะหรือพระฌานิพุทธะ (บางแห่งเรียกพระชินพุทธะ)
เป็นพระพุทธเจ้าในคติความเชื่อของมหายาน อวตารมาจากอาทิพุทธะ
สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าด้วยอำนาจฌานของอาทิพุทธะ
ไม่ได้ลงมาสร้างบารมีเหมือนพระมานุสสพุทธะ (พระพุทธเจ้าที่เป็นมนุษย์)
ดำรงในสภาวะสัมโภคกาย มีแต่พระโพธิสัตว์ที่เห็นพระองค์ได้


พระธยานิพุทธะโดยทั่วไปมี 5 พระองค์
1. พระไวโรจนะพุทธะ อยู่ทิศศูนย์กลาง
2. พระอักโษภยะพุทธะ อยู่ทิศตะวันออก (อภิรดีพุทธเกษตร)
3. พระอมิตาภะพุทธะ อยู่ทิศตะวันตก (สุขาวดีพุทธเกษตร)
4. พระอโมฆสิทธิพุทธะ อยู่ทางทิศเหนือ
5. พระรัตนสัมภวะพุทธะ อยูทางทิศใต้

เจ้าของ:  ภาวิตา-พหุลีกตา [ 12 ธ.ค. 2009, 15:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระอาทิพุทธะ และ พระธยานิพุทธ คือพุทธเจ้าพระองค์ไหนครับ

พึ่งจะรู้ครับ เคยอ่านเห็นแต่ในหนังสือการ์ตูน ความรู้ทางฝ่ายมหายาน
ขอเก็บเป็นความรู้ครับ :b44: :b44: :b44:

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 12 ธ.ค. 2009, 16:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระอาทิพุทธะ และ พระธยานิพุทธ คือพุทธเจ้าพระองค์ไหนครับ

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ทักทาย [ 14 ธ.ค. 2009, 03:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระอาทิพุทธะ และ พระธยานิพุทธ คือพุทธเจ้าพระองค์ไหนครับ

อนุโมทนาค่ะ
เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เองค่ะ :b8:

เจ้าของ:  kokorado [ 15 ธ.ค. 2009, 20:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระอาทิพุทธะ และ พระธยานิพุทธ คือพุทธเจ้าพระองค์ไหนครับ

พื้นฐานการปฏิบัติธรรม
อาตมาชอบสวดมนต์ตั้งแต่เด็ก สวดไปสวดมาจนทะลุแก่นแท้ของการสวด

จึงทำให้รู้สึกไม่ยากในการปฏิบัติธรรมชั้นสูง เพราะการสวดมนต์ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัฐ

ของการปฏิบัติธรรม (เคยสวดรวดเดียว 4 ชั่วโมง โดยไม่ขยับตัว)แต่พลังที่เกิดจากการ

สวดมนต์นั้นก็สู้พลังทีเกิดจากปัญญาไม่ได้ ปัญญาที่ค้นคว้าสัจจธรรมภายในจิตนี้

มีความยิ่งใหญ่ลึกซึ้งและมีพลังมากที่สุดในจักรวาล จนเดี๋ยวนี้อาตมาไม่ต้องสวดมนต์มากๆ แล้ว

จะสวดเมื่อจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น เพราะจะเน้นที่ปัญญาญาณมากกว่าที่ต้องหมั่นลับให้เฉียบคม

อยู่เสมอ

หากไม่ใช้การสวดมนต์ก็ใช้การอธิษฐานจิตแทน

เพราะภาษาและบทสวดที่ใช้กันอยู่บนสวรรค์นั้น

ส่วนมากจะใช้ภาษาที่เกิดจากกระแสจิตมากกว่า สามารถจะเข้าใจได้โดยทันที

ซึ่งแม้จะเปล่งเป็นเสียงหรือสำเนียงใด ๆ ก็สามารถเข้าใจกันได้ เรียกว่า สื่อกันด้วยจิต

หากจะใช้ภาษาที่สมมติขึ้นใด ๆ ก็จะโต้ตอบกันด้วยภาษานั้น ๆ โดยไม่ยาก

เพราะเทพไม่มีการเรียนภาษา ไม่มีโรงเรียนสอนภาษา มีแต่การสื่อสารกันด้วยจิต

และอยู่ได้ด้วยอำนาจแห่งบุญเท่านั้น ภาษาเทพภาษาพรหม หรือคาถาแต่โบราณกาล

บัญยัติขึ้นโดยมหาฤาษีผู้มีฤทธิ์ ในยุคโบราร ดังนั้น จึงมีอานุภาพมาก

และเป้นที่มาของเวทยืมนต์คาถาทั้งปวง ซึ่งเรียกว่าภาษา กูโบ๊ส

ถ้าเป็นเทพพรหมที่นับถือพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาบาลี

เนื่องจากเป็นภาษาที่พระพุทธองคืทรงใช้ ดังนั้น คาถาที่มีอยู่ในพระพุทธศาสนา

จึงเป็นภาษาบาลี ถ้าเป็นพุทธมหายาน จะใช้ภาษาสันสกฤต มีรากฐานมาจากอักษรเทวนาครี

เป็นภาษาของเทพพรหมโพธิสัตว์ชั้นสูง สำหรับพระโพธิสัตว์กวนอิมและเทพพรหมท่านอื่น ๆ

ก็มีบทสวดมนต์เฉพาะอยู่แล้วหาได้ไม่ยาก ก็แล้วแต่ใครจะนับถือท่านองค์ใด

แต่ขอให้ตั้งใจสวดจริง ๆ
มนต์ที่เป็นหัวใจของพระโพธิสัตว์กวนอิมก็คือ โอม มณี ปัทเม หุม เรียกว่ามหาธารณีทั้งหก

อันหมายถึง มณีแห่งปัญญา คือ ดอกบัวสว่างที่กลางใจ ซึ่งตรงกับปรัชญาปารมตาทั้งหก

หรือ บารมีธรรมแห่งพระโพธิสัตว์ทั้งหกประการของพุทธมหายาน (อันได้แก่ ทาน ศีล วิริยะ ขันติ

ฌาณ และปัญญา ) มนตืบทนี้เกิดจากการตกผลึกแห่งบารมีธรรมของพระโพธิสตว์กวนอิม

นิยมใช้ทั้งในจีนและธิเบตเป็นภาษาสันสกฤต และ มุทรา หรือท่าประจำมหากิริยา

แห่งพระฑธิสัตว์ใช้คู่กันด้วย เพื่อเปิดมิติแห่งแดนสุขาวดีพุทธเกษตร

เป็นการอัญเชิญพลังทิพย์ให้มาสถิตยังตัวเรา เพื่อเพิ่มพลังในการโปรดมวลหมู่เวไนยสัตว์

หรือช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และในจัรกวาลอื่น ๆ ที่ห่างไกล ก็จะมีพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติ

อยู่ด้วยเช่นกัน

พระโพธิสัตว์กวนอิมที่เรารุ้จักกันนั้นก็มาจากจักรวาลอื่น เรียกว่า ไซฮวงเก๊กลักฮุกก๊ก

หรือแดนสุขาวดีพุทธเกษตร ซึ่งอยู่ห่างจากจักรวาลของเราไปทางทิศตะวันตก

ประมาณถึงแสนโกฏิโลกธาตุ ซึ่งแต่ละจักรวาลก็จะมีการไปมาหาสุ่กันเสมอ

ระหว่างเหล่าเทพพรหมและพระพุทธเจ้าพระโพธิสัตว์ชั้นสุงทั้งหลาย

ถือเป็นเรื่องปกติและธรรมดามากสำหรับท่านเหล่านั้น ยิ่งในมิติแห่งพระนิพพานนั้น

ก็ยิ่งไม่มีอะไรที่จะขวางกั้นได้ และ พระพุทธเจ้าพระโพธิสัตว์ทุกพระองคืท่าน

ก็สามารถเสด็จไปโปรดยังโลกธาตุใด ๆ ก็ได้ตามแต่จะปรารถนา

และไม่มีปัญหากับราคานัมันด้วย

ในแดนสุขาวดีพุทธเกษตรนั้น จะมี พระอมิตาภพุทธเจ้า เป็นประธาน

เป็นที่สถิตประทับของเทพโพธิสัตว์พรหมโพธิสัตว์มากมายนับจำนวนไม่ถ้วน

เหมือนกับสวรรค์ชั้นดุสิตของจักรวาลเรา พระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญจนสำเร็จ

แต่ไม่ปรารถนาจะเข้าสู่พระนิพพาน ด้วยประสงคืประสงค์จะอยู่คอยช่วยเหลือ

มวลสรรพสัตว์ ก็จะมาประทับอยู่ ณ แดนสุขาวดีพุทธเกษตรนี้

และจะได้รับเกียรติจากเบื้องบนว่าเป็นพระพุทธเจ้าอีประเภทหนึ่ง เรียกว่า พระฌานิพุทธ

แปลว่า พระพุทธเจ้าที่สำเร็จดวยฌาณบารมี อาทิ พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า

(เป็นองค์ต้นกำเนิดของพระกริ่ง) พระไวโรจนพุทธเจ้า พระรัตนสัมภวพุทธเจ้า

พระอักโษภยพุทธเจ้า พระอโมฆสิทธิพุทธเจ้า ฯลฯ ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าที่สำเร็จในโลกมนุษย์

จะเรียกว่า พระมานุษิ ดังพระพุทธเจ้าของเราเป็นต้น

พระมานุษิพุทธนี้ยังแบ่งออกไปอีก 3 ประเภท นั่นคือ พระปัญญาธิกะ พระสัทธาธิกะ

และ พระวิริยาธิกะ ซึ่งต้องบำเพ็ญบารมีอย่างยิ่งยวดและยาวนานจนกว่าจะตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง

(พระพุทธเจ้าของเราองคืปัจจุบันทรงเป็น พระปัญญาธิกพุทธ บำเพ็ญมาอย่างน้อย 4 อสงไขย

กำไรแสนมหากัป ส่วน พระศรีอารย์บรมโพธิสัตว์ หรือ หลวงปู่ทวด - หลวงปู่ดู่ ของเรานั้น

บำเพ็ญมาแล้วอย่างน้อย เ6 อสงไขย กำไรแสนมหากัป ในฝ่ายของ พระวิริยาธิกพุทธ

และเคยเกิดมาแล้วหลายครั้งนับจากครั้งพุทะกาลที่มาเป็น พระอชิตภิกษุ

ได้รับพระพุทธพยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป เกิดในเมืองจีนเป็น พระพุงพลุ้ย

ที่คนมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นท่าน พระมหากัจจายนะ เรียกกันว่า พระสังกระจายจีน

ส่วนพระสัทธาธิกพุทธ ส่วนใหญ่จะอยู่ในสานพุทธมหายาน เพราะเน้นที่ความศรัทธามากที่สุด

และต้องบำเพ็ยอย่างน้อย 8 อสงไขย กำไรแสนมหากัป )

นอกจากนี้ในคติพุทธศาสนามหายานยังมีพระพุทธเจ้าพระองค์แรกเป็นต้นกำเนิด

ของพระพุทธศาสนา เรียกว่า พระอาทิพุทธ ด้วย ซึ่งตรงกับสมเด็จองค์ปฐม ฯ ของไทย นั่นเอง

พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีสูง นอกจากพระโพธิสัตว์กวนอิมซึ่งชาวจีนเชื่อว่า

ท่านสำเร็จเป้นพระพุทธเจ้านามว่า พระสัมมาธรรมวิทยาประภาตถาคต

(เจียหวบเม้งยูไล) แล้ว ยังมีพระโพธิสัตว์อีกมากมายหลายพระองค์ อาทิ

พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ และ


พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ เป็นต้น โดยเฉพาะ พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ในโลกวิญญาณ

ถือว่าเป็นศาสดาของเหล่าภูตผีปีศาจและสัตว์นรกเลยทีเดียว

พระองค์ทรงมีปณิธาน ในการช่วยเหลือเหล่าสรรพวิญ

ญาณทั้งหลาย ในแดนห่างไกล ในจักรวาลอื่น ๆ และแดนแห่งโลกวิญาณที่เรียกว่าแดน อันตรภพ

ซึ่งเป็นภพที่อยู่ระหว่างนรกและสวรรค์ และมีดวงวิญญาณหลงทางอยู่มากมาย เหมือน

พระมาลัยโปรดสัตว์นรก นั่นเอง

แต่พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ นั้นทรงอธิษฐานไว้ว่า "ช่วยสรรพสัตว์หมดเมื่อใด

จึงขอบรรลุสัมมาสัมโพธิ หากนรกยังไม่ว่างจากสัตว์นรก ปฏิญาณไม่ขอสำเร็จเป้นพระพุทธะ"

นับว่าทรงมัปณิธานสูงส่ง น่าอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง

พระองค์เป็นหนึ่งใน จตุรมหาโพธิสัตว์ แห่งพุทธมหายาน โดยสรรเสริญ

"มหาปัญญา ของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ "มหาจรรยา" ของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ "มหากรุณา"

ของพระกวนอิมโพธิสัตว์ และ "มหาปณิธาน" ของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์

พระสูตรของมหายานกล่าวว่า พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ได้จุติมากเกิดเป็นราชโอรส

ของอาณาจักรซินหลอ(คาบสมุทรเกาหลีในปัจจุบัน)

ซึ่งตรงกับสมัยพระนางบูเช้กเทียนแห่งราชวงศ์ถังของจีน เดิมแซ่ "กิม" ชื่อ

"เกียวกั๊ก" ออกบวชแต่อายุเยาว์ เดินทางมาเผยแผ่พระธรรมที่เมืองจีน

รัชสมัยถังเสียนจงฮ่องเต้

บำเพ็ญเพียรบนเขาจิ่วหัวซัน มณฑลอานฮุย ครั้นอายุ 99 พรรษา

ก็นั่งสมาธิดับขันธ์ด้วยอาการสงบหลังจากเก็บศพไว้ 3 ปี ปรากฏว่าวากศพไม่เน่า

หน้ายังคงสีเลือดเหมือนคนมีชีวิต เวลาหามโครงกระดูกเคลื่อนไหว

และเกิดเสียงดังเหมืองเสียงโซ่ทองกระทบกัน ทุก ๆ วันขึ้น 15 ค่ำ

และแรม 15 ค่ำ เดือน 7 เป็นวันคล้ายวันสมภพและวันบรรลุธรรมของพระองคืท่าน

สาธุชนจากทั่วสรทิศจะหลั่งไหลมายังภูเขาจิ่วหัวซัน เพื่อนมัสการกราบไหว้

พระสถูปเจดีย์มังสะกานแห่งพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ และประกอบพิธีเฝ้าพระปรางคื

พร้อมด้วยการสวดมนต์เวียนเทียนรอบพระปรางค์จนถึงรุ่งสว่าง

(กษิติ แปลว่า ดิน, ครรภ์ แปลว่า ใต้ เพราะท่านโปรดสัตว์นรกซึ่งอยู่ใต้ดิน

จึงเรียกพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ตรงกับภาษาจีนว่า ตี้จัง ซึ่งแปลว่า ใต้ดิน )

เจ้าของ:  perish [ 18 ธ.ค. 2009, 12:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระอาทิพุทธะ และ พระธยานิพุทธ คือพุทธเจ้าพระองค์ไหนครับ

อนุโมทนา สาธุการ เป็นความรู้ประดับปัญญา ลึกซึ้งจริงๆ ขอบพระคุณมากครับ

เจ้าของ:  perish [ 18 ธ.ค. 2009, 13:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระอาทิพุทธะ และ พระธยานิพุทธ คือพุทธเจ้าพระองค์ไหนครับ

อมิตาพุทธ เขียน:
อาทิพุทธะ
เป็นพระพุทธเจ้าที่พบในคติความเชื่อของพุทธศาสนามหายานเท่านั้น
ไม่พบในฝ่ายเถรวาท โดยเชื่อว่าอาทิพุทธะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก
ที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับโลก อยู่ในโลกชั่วนิรันดร์ เป็นผู้สร้างสรรพสิ่งในโลก
และเป็นแหล่งกำเนิดของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย


พระธยานิพุทธะหรือพระฌานิพุทธะ (บางแห่งเรียกพระชินพุทธะ)
เป็นพระพุทธเจ้าในคติความเชื่อของมหายาน อวตารมาจากอาทิพุทธะ
สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าด้วยอำนาจฌานของอาทิพุทธะ
ไม่ได้ลงมาสร้างบารมีเหมือนพระมานุสสพุทธะ (พระพุทธเจ้าที่เป็นมนุษย์)
ดำรงในสภาวะสัมโภคกาย มีแต่พระโพธิสัตว์ที่เห็นพระองค์ได้


พระธยานิพุทธะโดยทั่วไปมี 5 พระองค์
1. พระไวโรจนะพุทธะ อยู่ทิศศูนย์กลาง
2. พระอักโษภยะพุทธะ อยู่ทิศตะวันออก (อภิรดีพุทธเกษตร)
3. พระอมิตาภะพุทธะ อยู่ทิศตะวันตก (สุขาวดีพุทธเกษตร)
4. พระอโมฆสิทธิพุทธะ อยู่ทางทิศเหนือ
5. พระรัตนสัมภวะพุทธะ อยูทางทิศใต้


เผอิญผมถามคำถามไว้เยอะมาก แต่ไม่ค่อยมีใครตอบมาเลย อยากจะเชิญคุณ อมิตาพุทธ
ให้ช่วยเข้ามาตอบคำถามที่เว็บนี้หน่อยนะครับ หรือว่าจะให้ผมมาโพสถามใหม่ที่เว็บธรรมจักรก็ยินดีครับ


http://www.mahasukhavati.com/forum/view ... forum_id=2

เจ้าของ:  หลับอยุ่ [ 18 ธ.ค. 2009, 14:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระอาทิพุทธะ และ พระธยานิพุทธ คือพุทธเจ้าพระองค์ไหนครับ

<object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/hq4iFwskChU&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/hq4iFwskChU&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="425" height="344"></embed></object>

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 19 ธ.ค. 2009, 04:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระอาทิพุทธะ และ พระธยานิพุทธ คือพุทธเจ้าพระองค์ไหนครับ

perish เขียน:
อมิตาพุทธ เขียน:
อาทิพุทธะ
เป็นพระพุทธเจ้าที่พบในคติความเชื่อของพุทธศาสนามหายานเท่านั้น
ไม่พบในฝ่ายเถรวาท โดยเชื่อว่าอาทิพุทธะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก
ที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับโลก อยู่ในโลกชั่วนิรันดร์ เป็นผู้สร้างสรรพสิ่งในโลก
และเป็นแหล่งกำเนิดของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย


พระธยานิพุทธะหรือพระฌานิพุทธะ (บางแห่งเรียกพระชินพุทธะ)
เป็นพระพุทธเจ้าในคติความเชื่อของมหายาน อวตารมาจากอาทิพุทธะ
สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าด้วยอำนาจฌานของอาทิพุทธะ
ไม่ได้ลงมาสร้างบารมีเหมือนพระมานุสสพุทธะ (พระพุทธเจ้าที่เป็นมนุษย์)
ดำรงในสภาวะสัมโภคกาย มีแต่พระโพธิสัตว์ที่เห็นพระองค์ได้


พระธยานิพุทธะโดยทั่วไปมี 5 พระองค์
1. พระไวโรจนะพุทธะ อยู่ทิศศูนย์กลาง
2. พระอักโษภยะพุทธะ อยู่ทิศตะวันออก (อภิรดีพุทธเกษตร)
3. พระอมิตาภะพุทธะ อยู่ทิศตะวันตก (สุขาวดีพุทธเกษตร)
4. พระอโมฆสิทธิพุทธะ อยู่ทางทิศเหนือ
5. พระรัตนสัมภวะพุทธะ อยูทางทิศใต้


เผอิญผมถามคำถามไว้เยอะมาก แต่ไม่ค่อยมีใครตอบมาเลย อยากจะเชิญคุณ อมิตาพุทธ
ให้ช่วยเข้ามาตอบคำถามที่เว็บนี้หน่อยนะครับ หรือว่าจะให้ผมมาโพสถามใหม่ที่เว็บธรรมจักรก็ยินดีครับ


http://www.mahasukhavati.com/forum/view ... forum_id=2


ผู้น้อยเองก็ไม่ได้มีความรู้ หรือเชี่ยวชาญ เรื่องพระพุทธศาสนามหายานมากนัก :b1:
คงตอบคำถามได้เพียงบางส่วน ตามแต่ข้อมูลที่หามาได้หรือข้อมูลที่มีอยู่
มีอะไรโพสต์ถามที่เว็บธรรมจักรก็ได้ครับ เผื่อท่านผู้รู้ท่านอื่น จะได้ช่วยกันตอบคำถามด้วย :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/