ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=26407
หน้า 1 จากทั้งหมด 10

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 21 ต.ค. 2009, 10:04 ]
หัวข้อกระทู้:  สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

อ้างคำพูด:
เจ้าผู้ใช้ชื่อว่ากรัชกายเอ๋ย
เจ้าอาจจะมีเจตนาดี แต่เป็นเจตนาของผู้มีอวิชชา เจ้าไม่ได้มีความรู้เลยว่า การตรัสรู้ นั้นคืออะไร รู้แจ้งเห็นจริงในเรื่องใด เจ้าอาจจะอ่านในตำรามา อาจจะรู้ตามตำรา แต่เจ้าไม่ได้คิดตาม ไม่ได้พิจารณาตาม เอามาเป็นดุ้นๆ เจ้าก็ย่อมไม่เกิดความรู้ความเข้าใจอะไรเลย
สิ่งที่เจ้าทำอยู่ เรียกว่า "อวดอุตริมนุษยธรรม" คือสอนธรรมที่ไม่มีในตน เขียนหรือเผยแพร่ธรรมที่ไม่มีในตน
แต่คำว่า สัญญา เจ้าก็ไม่รู้แล้ว
อารมณ์ ไม่ต้องจำ ดอกนะเจ้าผู้ใช้ชื่อว่ากรัชกาย อารมณ์นะเขาต้องรู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ไปจำมันทำไม จำมันก็กลายเป็นความหลงซิ หลงในอารมณ์
เขียนอย่างไรก็เขียนได้ วิชชา ๓ อภิญญา ๖ เขียนได้ แต่ไม่รู้ว่า วิชชา ๓ ฝึกอย่างไร อภิญญาเกิดขึ้นได้อย่างไร มันก็อวดอุตริฯ มีแต่พวกหลงผิด เข้าใจผิด งมงายหลงเชื่อ ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม

อยากจะตรัสรู้เรอะ ไม่ยากดอกนะ แค่มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของ "จิต,เจตสิก,รูป,นิพพาน"
ก็ตรัสรู้ได้แล้ว ฮ่า ฮ่ ฮา



viewtopic.php?f=2&t=26376&p=147513#p147513


ไฟล์แนป:
logo.gif
logo.gif [ 66.75 KiB | เปิดดู 11270 ครั้ง ]

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 21 ต.ค. 2009, 10:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

ข้าพเจ้าผู้สมมุตินามหรือบัญญัติชื่อว่า กรัชกาย สำหรับใช้เรียกขานสื่อสารกันรู้เรื่อง

จะมาขอความรู้เข้าใจเกี่ยวกับ "จิต,เจตสิก,รูป,นิพพาน" จากท่านผู้บัญญัติชื่อเรียกก้อนธรรมชาติ *

ว่า Buddha(คือ * หัว ๑ ขา ๒ มือ ๒ ภาษาอภิธรรมเรียกว่า ปัญจสาขา)

ที่ท่านกล่าวลิงค์ข้างบน ท่อนที่ว่า=> อยากจะตรัสรู้เรอะ ไม่ยากดอกนะ

แค่มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของ "จิต,เจตสิก,รูป,นิพพาน" ก็ตรัสรู้ได้แล้ว ฮ่า ฮ่ ฮา



“อยากจะตรัสรู้เรอะ”

“ขอรับ” อยากตรัสรู้

ท่านว่าไม่ยากหากรู้เรื่อง จิ เจ รุ นิ

ถาม... จิต, เจตสิก, รูป, นิพพาน ตามความเข้าใจของท่านเป็นไงขอรับ

ช่วยอธิบายแจกแจงให้กรัชกายเข้าใจทีเถอะ

ตามหัวข้อนี้เลย

จิต ?

เจตสิก ?

รูป ?

นิพพาน ?

:b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42: :b42:

เจ้าของ:  natdanai [ 21 ต.ค. 2009, 10:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

:b12: :b12: :b12:
ในที่สุด...2 สุดยอดจอมยุทธแห่งลานธรรมจักร ก็จะกลับมาประลองธรรมกันอีกครั้ง หลังจากคราวก่อนประลองกันนานหลายวัน ก็ยังหาผู้ที่เพี่ยงพล้ำไม่ได้.....

ฝ่ายน้ำเงินคราวก่อน ท่าน Buddha ผู้ที่มากับเคล็ดวิชาหลักธรรม 4คู่ 8ข้อ เกิดธาตุไฟเข้าแทรก จึงต้องไปรักษาตัวอยู่พักใหญ่ และก็กลับมาพร้อมกับเคล็ดวิชาใหม่ จิต เจตสิก รูป นิพพาน..... :b4: :b4:

ฝ่ายแดง ท่าน กรัชกาย ผู้ที่มีความรอบรู้ในเคล็ดวิชาต่างๆของทุกสำนัก และยังปรับใช้เคล็ดวิชาเหล่านั้นตามสถานการณ์ได้อย่างช่ำชอง.... :b4: :b4:

ส่วนกระผมเองเป็นแฟนคลับครับ :b32: :b32: ติดตามมาดูนัดล้างตา....และรอเก็บเกี่ยวธรรมะที่ท่านทั้ง 2 นำออกมาแสดงให้ได้พิจารณา :b6: :b6:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 21 ต.ค. 2009, 10:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

หาดเชียงราย ตั้งอยู่ที่ ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย ในหน้าแล้งแม่น้ำกกมีระดับน้ำลดลง
ก็จะเห็นทรายอยู่กลางน้ำ จึงเป็นที่มาของหาดเชียงราย
ที่ฝั่งตรงข้ามของแพเป็นวิวภูเขาหินปูนสวยงาม


แม่น้ำกกนั้นเป็นแม่น้ำที่มีต้นกำเนิดมาจากภูเขาตอนเหนือของเมืองกก จังหวัดเชียงตุง
ในรัฐฉานของพม่า ไหลเข้าสู่ประเทศไทยที่ช่องแม่น้ำกก อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
แล้วผ่านเข้ามาที่จังหวัดเชียงราย
จากนั้นก็สิ้นสุดที่แม่น้ำโขง ที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย


“เชียงรายรำลึก”


http://radio.sanook.com/music/player/%E ... 81/106932/


ท่านบุดฯ อยู่ใกล้แม่น้ำสายนี้ไหมขอรับ

ไฟล์แนป:
hat-chiangrai2.jpg
hat-chiangrai2.jpg [ 67.19 KiB | เปิดดู 11226 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 21 ต.ค. 2009, 12:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

งานนี้มีแตก แต่ถ้าแอนตาซิลไม่แจก ก็แตกฟรีนะนี่ :b32:

เจ้าของ:  นนท์ [ 21 ต.ค. 2009, 13:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

ฮ้าวววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

เจ้าของ:  yahoo [ 21 ต.ค. 2009, 16:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

natdanai เขียน:
:b12: :b12: :b12:

ส่วนกระผมเองเป็นแฟนคลับครับ :b32: :b32: ติดตามมาดูนัดล้างตา....และรอเก็บเกี่ยวธรรมะที่ท่านทั้ง 2 นำออกมาแสดงให้ได้พิจารณา :b6: :b6:


คนอะไร
ซาดิสม์...ทางธรรม...

:b14: :b14:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 21 ต.ค. 2009, 19:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

ประวัติพ่อขุนเม็งรายมหาราช กษัตริย์ผู้สร้างเมืองเชียงราย

พ่อขุนเม็งราย เป็นราชโอรสของพระเจ้าลาวเมงแห่งราชวงศ์ ลั๊วจังกราชผู้ครองหิรัญนครเงินยาง
กับพระนางอั้วมิ่งจอมเมืองหรือพระนางเทพคำขยาย ราชธิดาของท้าวรุ่งแก่นชายเจ้าเมืองเชียงรุ้ง
พระองค์ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ แรม 9 ค่ำ เดือนอ้าย ปีกุนเอกศกจุลศักราช 601 ตรงกับพุทธศักราช 1781




เชียงรายเป็นชื่อจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือที่สุดของประเทศไทย

ตั้งศาลากลางที่ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย
อาณาเขตทิศเหนือจรดแคว้นเชียงตุง ประเทศพม่า โดยมีทางหลวงแผ่นดินทะลุผ่านถึงกัน
ส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดต่อกับแม่น้ำโขง
ทิศตะวันออกจดทิวเขาหลวงพระบาง ซึ่งปันเขตแดนไทยกับลาว และติดต่อกับจังหวัดพะเยา
ทิศใต้กับจังหวัดพะเยา จังหวัดลำปาง และเชียงใหม่
ส่วนทิศตะวันตกกับจังหวัดเชียงใหม่
จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญเมืองหนึ่งของประเทศไทย และเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญ
ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนจีนตอนใต้-อินโดจีน




“สาวเจียงฮาย”

http://www.imeem.com/people/sLDZl_Q/music/85Z_RJzO//

ไฟล์แนป:
06.jpg
06.jpg [ 36.02 KiB | เปิดดู 11085 ครั้ง ]

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 21 ต.ค. 2009, 20:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

พล่ามเพ้อเจ้อเลยนะเจ้าผู้ใช้ชื่อว่า กรัชกาย

เอาเป็นว่า ข้าพเจ้าจะอธิบายให้ฟังสั้นๆ ถ้าอยากอ่านละเอียด ก็ไปหาอ่านในหมวดสนทนาธรรมทั่วไปนี้แหละนะ "จิต,เจตสิก,รูป,นิพพาน ตามหลักพระอภิธรรมปิฎก"

จิต ตามหลักพุทธศาสนา หมายถึง ธรรมชาติที่รับรู้อารมณ์ แต่ในทางที่เป็นจริง จิต คือส่วนประกอบส่วนหนึ่งของอวัยวะต่างๆ เพราะถ้าไม่มีอวัยวะต่างๆของร่างกาย ก็ย่อมไม่เกิดธรรมชาติรับรู้อารมณ์ ฯลฯ

เจตสิก ตามหลักพระพุทธศาสนา หมายถึง ธรรมที่ประกอบอยู่ในจิต แต่ในทางที่เป็นจริง เจตสิก หมายถึง ความรู้ ความเข้าใจ ประสบการ ในพฤติกรรม หรือในการกระทำ หรือ หลักวิชาการใดใด ที่จดจำไว้ หรือ ที่ได้รับการขัดเกลาทางสังคม นับตั้งแต่ กรรมพันธุ์ เป็นต้นมา ฯลฯ

รูป ตามหลักพุทธศาสนา แบ่งเป็น มหาภูตรูป คือ ไฟ,ลม,ดิน,น้ำ และ รูปที่ต้องอาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย รวมถึง ขันธ์ ๕ แห่งสิ่งมีชีวิตบางชนิด ถ้าจะกล่าวให้เกิดความเข้าใจอีกนัดหนึ่ง ก็คือ ไฟ,ลม,ดิน,น้ำ เป็น รูปชนิดหนึ่ง และรูปที่ได้เห็นกันอยู่ตามธรรมชาติไม่ว่าจะอยู่ในทรวดทรง ใดใด และยังรวมไปถึงรูปต่างๆที่เกิดจากอายตนะภายใน ภายนอก ของขันธ์ ๕

นิพพาน คือ ชื่อชั้นสูงสุด แห่งการฝึกตน อันนับตั้งแต่ โสดาบัน ฯ สกทาคามีฯ อนาคามีฯ อรหันต์ฯ นิพพาน

เจ้าของ:  mes [ 21 ต.ค. 2009, 21:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

สวัสดีเจ้า

จากเหนือบน

สู่คนเหนือล่างเจ้า

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 21 ต.ค. 2009, 21:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

พิจารณา คห.ที่ท่าน Buddha พรรณามานั่น นึกถึงไม้ดอกหรือไม้ผลพันธ์ผสม

ไฟล์แนป:
norththailand.jpg
norththailand.jpg [ 86.26 KiB | เปิดดู 11015 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ทักทาย [ 21 ต.ค. 2009, 23:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

ชอบเสียงเพลง
เลยหลงเข้ามา :b9:

บ้านน้องหลินปิงเจ้า :b4: :b4:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ต.ค. 2009, 07:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

อ้างคำพูด:
พล่ามเพ้อเจ้อเลยนะเจ้าผู้ใช้ชื่อว่า กรัชกาย



ขอรับ

"เพ้อเจ้อ" :b12:

http://www.imeem.com/people/M2ikvTd/mus ... he-monkey/

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ต.ค. 2009, 07:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

Buddha เขียน:

เอาเป็นว่า ข้าพเจ้าจะอธิบายให้ฟังสั้นๆ ถ้าอยากอ่านละเอียด ก็ไปหาอ่านในหมวดสนทนาธรรมทั่วไปนี้แหละนะ "จิต,เจตสิก,รูป,นิพพาน ตามหลักพระอภิธรรมปิฎก"

จิต ตามหลักพุทธศาสนา หมายถึง ธรรมชาติที่รับรู้อารมณ์ แต่ในทางที่เป็นจริง จิต คือส่วนประกอบส่วนหนึ่งของอวัยวะต่างๆ เพราะถ้าไม่มีอวัยวะต่างๆของร่างกาย ก็ย่อมไม่เกิดธรรมชาติรับรู้อารมณ์ ฯลฯ

เจตสิก ตามหลักพระพุทธศาสนา หมายถึง ธรรมที่ประกอบอยู่ในจิต แต่ในทางที่เป็นจริง เจตสิก หมายถึง ความรู้ ความเข้าใจ ประสบการ ในพฤติกรรม หรือในการกระทำ หรือ หลักวิชาการใดใด ที่จดจำไว้ หรือ ที่ได้รับการขัดเกลาทางสังคม นับตั้งแต่ กรรมพันธุ์ เป็นต้นมา ฯลฯ

รูป ตามหลักพุทธศาสนา แบ่งเป็น มหาภูตรูป คือ ไฟ,ลม,ดิน,น้ำ และ รูปที่ต้องอาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย รวมถึง ขันธ์ ๕ แห่งสิ่งมีชีวิตบางชนิด ถ้าจะกล่าวให้เกิดความเข้าใจอีกนัดหนึ่ง ก็คือ ไฟ,ลม,ดิน,น้ำ เป็น รูปชนิดหนึ่ง และรูปที่ได้เห็นกันอยู่ตามธรรมชาติไม่ว่าจะอยู่ในทรวดทรง ใดใด และยังรวมไปถึงรูปต่างๆที่เกิดจากอายตนะภายใน ภายนอก ของขันธ์ ๕

นิพพาน คือ ชื่อชั้นสูงสุด แห่งการฝึกตน อันนับตั้งแต่ โสดาบัน ฯ สกทาคามีฯ อนาคามีฯ อรหันต์ฯ นิพพาน



ขอถามอีกหน่อย :b8: :b16:

คำอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับ จิต เจตสิก รูป นิพพาน ดังกล่าว

ตรัสรู้แล้วใช่ไหมขอรับ

ตรัสรู้แบบที่ท่านว่า =>

(อยากจะตรัสรู้เรอะ) ไม่ยากดอกนะ แค่มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของ "จิต,เจตสิก,รูป,นิพพาน"

ก็ตรัสรู้ได้แล้ว ฮ่า ฮ่ ฮา

เจ้าของ:  จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 22 ต.ค. 2009, 09:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สนทนาเรื่อง จิ เจ รุ นิ กับท่าน Buddha

กรัชกาย เขียน:
Buddha เขียน:

เอาเป็นว่า ข้าพเจ้าจะอธิบายให้ฟังสั้นๆ ถ้าอยากอ่านละเอียด ก็ไปหาอ่านในหมวดสนทนาธรรมทั่วไปนี้แหละนะ "จิต,เจตสิก,รูป,นิพพาน ตามหลักพระอภิธรรมปิฎก"

จิต ตามหลักพุทธศาสนา หมายถึง ธรรมชาติที่รับรู้อารมณ์ แต่ในทางที่เป็นจริง จิต คือส่วนประกอบส่วนหนึ่งของอวัยวะต่างๆ เพราะถ้าไม่มีอวัยวะต่างๆของร่างกาย ก็ย่อมไม่เกิดธรรมชาติรับรู้อารมณ์ ฯลฯ

เจตสิก ตามหลักพระพุทธศาสนา หมายถึง ธรรมที่ประกอบอยู่ในจิต แต่ในทางที่เป็นจริง เจตสิก หมายถึง ความรู้ ความเข้าใจ ประสบการ ในพฤติกรรม หรือในการกระทำ หรือ หลักวิชาการใดใด ที่จดจำไว้ หรือ ที่ได้รับการขัดเกลาทางสังคม นับตั้งแต่ กรรมพันธุ์ เป็นต้นมา ฯลฯ

รูป ตามหลักพุทธศาสนา แบ่งเป็น มหาภูตรูป คือ ไฟ,ลม,ดิน,น้ำ และ รูปที่ต้องอาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย รวมถึง ขันธ์ ๕ แห่งสิ่งมีชีวิตบางชนิด ถ้าจะกล่าวให้เกิดความเข้าใจอีกนัดหนึ่ง ก็คือ ไฟ,ลม,ดิน,น้ำ เป็น รูปชนิดหนึ่ง และรูปที่ได้เห็นกันอยู่ตามธรรมชาติไม่ว่าจะอยู่ในทรวดทรง ใดใด และยังรวมไปถึงรูปต่างๆที่เกิดจากอายตนะภายใน ภายนอก ของขันธ์ ๕

นิพพาน คือ ชื่อชั้นสูงสุด แห่งการฝึกตน อันนับตั้งแต่ โสดาบัน ฯ สกทาคามีฯ อนาคามีฯ อรหันต์ฯ นิพพาน



ขอถามอีกหน่อย :b8: :b16:

คำอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับ จิต เจตสิก รูป นิพพาน ดังกล่าว

ตรัสรู้แล้วใช่ไหมขอรับ

ตรัสรู้แบบที่ท่านว่า =>

(อยากจะตรัสรู้เรอะ) ไม่ยากดอกนะ แค่มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของ "จิต,เจตสิก,รูป,นิพพาน"

ก็ตรัสรู้ได้แล้ว ฮ่า ฮ่ ฮา


เจ้าผู้ใช้ชขื่อว่า กรัชกาย เอ๋ย ถ้าข้าพเจ้าไม่ตรัสรู้แล้ว ข้าพเจ้าจะกล้าประกาศตัวว่าคือ ศรีอริยเมตไตรย หรือ แต่การตรัสรู้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย มันมีรายละเอียดมากมาย อาจรู้ไม่ทั่วถึง เฉพาะในรายละเอียดนะ

ที่สำคัญ ผู้ตรัสรู้แล้ว ย่อมสามารถ "รู้จักขจ้ดอาสวะให้สิ้น" ขณะขจัดอาสวะนั้น ก็จะปรากฎฉัพพรรณรังสี เป็นแสงสีแตกต่างกัน สามารถมองเห็นได้ด้วยตา สามารถพิสูจน์ได้
อ่านภาษาไทย แล้วจงทำความเข้าใจในความหมายของภาษาไทย

หน้า 1 จากทั้งหมด 10 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/