http://www.pantip.com/cafe/isolate/topi ... 30169.html

ตามกระทู้ที่ผมแนบมานี้ ผมรู้สึกไม่สบายใจกับการกระทำของสมาชิกเว็บพันทิพในความเห็นที่1ที่มากล่าวหาว่าสวนโมกข์เกลือกกลั้วผู้หญิง รับแต่ผู้หญิงมาปฏิบัติธรรม ผมเคยบวชที่วัดชลประทานฯและได้ลงไปอยู่ที่สวนโมกข์ ผมรับไม่ได้กับการกระทำของสมาชิกเว็บพันทิพความเห็นที่1ท่านนี้ ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ท่านอาจารย์พุทธทาสเป็นบุคคลที่ยูเนสโก้ยกย่อง หลวงพ่อปัญญาก็เป็นสหายธรรมกับท่านอาจารย์พุทธทาส ทั้งสองอาจารย์เป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวพุทธทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นแล้วผมยอมให้ใครมาย่ำยีสวนโมกข์ไม่ได้ครับ

หลวงพ่อพุทธทาส และหลวงพ่อปัญญา ทั้ง 2 ท่านสอนเรื่องของตัวตนไว้กระจ่าง ชัดเจนมากครับ ท่านเองบอกว่าท่านศรัทธาในหลวงพ่อทั้ง 2 แล้วทำไมจึงเดือดร้อนกับสวนโมกข์ล่ะครับท่าน

สวนโมกข์ที่ จ.สุราษฏร์ ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยแม้แต่น้อย....แต่ที่เดือดร้อนกลับเป็นสวนโมกข์ของท่าน

ผมเห็นว่า กระทู้นี้ ผู้โพสต์ไม่รู้กาละเทศะ
เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการกล่าวโจมตีสำนักปฏิบัติ ครูบาอาจารย์
อาจจะพาให้คนสร้างวิบากใหญ่หลวง

จึงขอโยนลงห้องถังขยะ

เรียน คุณ LOCOMOTIVE

ขอต้อนรับ คุณ LOCOMOTIVE ในฐานะสมาชิกใหม่
สู่ลานธรรมจักร ณ แห่งนี้มีธรรมะ และกัลยาณมิตร ด้วยค่ะ

เว็บธรรมจักร ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นสมบัติกลางในพระศาสนาที่ทุกท่านสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ร่วมกัน
หาได้เป็นสมบัติส่วนตัวของท่านใดท่านหนึ่งเป็นการเฉพาะไม่ค่ะ

จากเนื้อหาที่คุณนำมาโพสต์ตั้งเป็นกระทู้ หากถามว่าผิดไหม ?
โดยส่วนตัวของดิฉันคนเดียวแล้วมองว่า ไม่น่าจะผิดมากนัก
แต่ท่านอื่นๆ อาจจะมีความเห็นแตกต่างไปได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
[ดิฉันแบ่งความเห็นของบุคคลเป็น ๓ ประเภทค่ะ
เห็นด้วย ๑ ไม่เห็นด้วย ๑ เฉยๆ (ไม่เอาเลยทั้งเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย) ๑]

แต่อย่างไรก็ตาม หากเราพิจาณาเรื่อง “กรรม” ไม่ว่ากายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
บุคคลทำกรรมไว้เช่นใด ก็ย่อมได้รับผลกรรมเช่นนั้น กรรมย่อมไม่หนีไปไหนเลย

ภาวนาให้มากๆ เข้าไว้ เพื่อให้จิตดีขึ้น เจริญขึ้น
แล้วเราก็จะรู้ชัดประจักษ์แจ้งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยใจของเราเองค่ะ

ดังนั้น การตั้งกระทู้ลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอความเห็นของตนเองหรือของผู้อื่น
โอกาสที่จะเข้าข่ายเป็นการกล่าวโจมตีสำนักปฏิบัติ ครูบาอาจารย์ วิธีปฏิบัติ จึงเป็นไปได้
ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้รักษาลานแสดงความเห็น..ไม่เห็นด้วย และนำกระทู้ของคุณลงถังขยะ

เรื่องแบบนี้มีความละเอียดอ่อนมาก ต้องใช้ความแยบคายในการนำเสนอ
อีกทั้ง ในขณะที่ “จิต” ของเรายังซัดส่ายไปมาตามกระแสโลก กระแสกิเลส
หากเราหลีกเลี่ยงการตั้งกระทู้ลักษณะนี้ได้
ก็จะเป็นผลดีต่อตัวเราเอง-จิตของเราเอง แน่นอนเลยค่ะ

แต่อย่างไรก็ตาม ที่ดิฉันกล่าวมาทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่า...
เวลาเกิดเรื่องไม่ดีไม่งามในพระศาสนา ต้องวางเฉย เฉยๆ เข้าไว้ เฉยลูกเดียว
หรือประมาณที่คนส่วนหนึ่งชอบใช้คำว่า อุเบกขา นะค่ะ
เพราะพระพุทธเจ้าฝากพระศาสนาไว้กับพุทธบริษัททั้ง ๔ ให้ช่วยกันรักษา
พวกเราชาวพุทธทุกท่านจึงควรเป็นหูเป็นตาช่วยกันดูแลรักษาพระศาสนาค่ะ

ท่านอื่นๆ มีความเห็นแตกต่างอย่างไร ก็เชิญแสดงความเห็นได้ค่ะ

เรื่องแบบนี้ระวังไว้ก็ดีครับ เพราะยังมีชาวพุทธที่ยังไม่เข้าใจใน พระธรรมคำสอนของ
พระพุทธเจ้าอีกมาก พวกนี้ต้องระวังครับมีระไรนิดหน่อยก็ทนไม่ได้ ไม่หนักแน่น
ในพระรัตนไตร ส่วนพวกที่พอเข้าใจและเริ่มปฏืบัติบ้างแล้ว ผมว่าพวกนี้ไม่น่าเป็นห่วง
เพราะพอได้ยินได้ฟังมาก็ต้องลงความเห็นว่า ไร้สาระครับ
.......มีข้อสงสัยอยู่นิดครับว่า ทำไมชอบเอาธรรมของพระพุทธเจ้า มาใช้แบบผิด
วัตถุประสงค์ ผิดกาลเทศะครับ เรื่อง"อุเบกขา"นี่ก็เหมือนกัน ผมว่ามันไม่เห็นจะ
เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เรื่องกำลังกล่าวถึงเป็นหน้าที่ต่อส่วนรวม ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับ
พรหมวิหารตรงไหน

ผมก็ไปอ่านในพันทิพเป็นบางครั้ง
ไม่ผ่านตากระทู้ที่ว่าถึงนี้


แต่ ไปเจอคำคมของท่านพุทธทาสเข้าแห่งหนึ่ง

ที่มีคนไปถามท่านในลักษณะที่ว่า ตัวเขาเองต้องการเผยแผ่ธรรมแก่คนใกล้ชิดแต่ไม่คิดว่าตัวเขาเองจะมีความสามารถเพียงพอ

ท่านตอบสั้นๆในลักษณะที่ว่า ให้ใช้ชีวิตที่ไม่เป็นทุกข์ให้เขาดู (จากความจำ อาจคลาดเคลื่อนได้)


ผมจึงระลึกถึง ครูบาอาจารย์ของผมองค์หนึ่ง ท่านเทศน์ไม่เก่ง
แต่ ผมไม่เคยเห็นท่านทุกข์ให้ผมเห็นเลย จะได้อะไรมา เสียอะไรไป ใครจะชม ใครจะด่า ท่านก็ยิ้มเฉยๆของท่านอยู่อย่างนั้น... แม้นแต่ตอนที่ท่านจะใกล้มรณภาพ ท่านก็ยังคงเป็นแบบนั้น

คล้ายๆ คติที่ว่า

พูดให้จำ ทำให้ดู อยู่ให้เห็น

คือ ท่านอยู่แบบไม่เป็นทุกข์ให้เราเห็น...บางครั้ง เวลาผมเป็นทุกข์ ผมจะนึกถึงใบหน้า และ แววตา ของท่าน. จิตจะสงบ มีสติ ได้อย่างน่าประหลาด นี่คงเป็น สังฆานุสติ

อย่าโพสต์ต่อเลยครับ

จะเข้าทางคนโพสต์นะครับ