ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
อยากรู้เรื่องการทำสมาธิ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=26228 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | m4p4n1 [ 12 ต.ค. 2009, 12:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | อยากรู้เรื่องการทำสมาธิ |
อยากรู้วิธีนั่งสมาธิที่ถูกต้องครับ เคยได้ยืนมาว่าผู้ที่จะฝึกสมาธินั้นควรจะมีอาจารย์หรือผู้รู้คอยแนะนำวิธีใช่มั้ยครับ...ไม่ควรฝึกเอง เพราะเราอาจจะหลงทาง ทำผิด และไม่รู้ผลลัพธ์ของการปฏิบัติ...รบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบข้อข้องใจด้วยนะครับ...และถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะถามปัญหาเกี่ยวกับธรรมะอีกมายมายเลยครับ...ผมสนใจศึกษาธรรมะมานานแล้ว แต่ยอมรับว่าเป็นแบบลุ่มๆดอนๆอาจจะเป็นเพราะว่าสภาพสังคมโดยรวมทั้งวัย เพื่อน และขาดกัลยานมิตรคอยกระตุ้น มั้งครับ5555 หลายครั้งที่อยากจะศึกษาจริงๆจังๆ ก้เลยหวังว่าจะได้เจอกัลยานมิตรในบอร์ดนี้นะครับ...ขอบพระคุณล่วงหน้าทุกคำตอบนะครับ |
เจ้าของ: | จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ [ 12 ต.ค. 2009, 13:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้เรื่องการทำสมาธิ |
m4p4n1 เขียน: อยากรู้วิธีนั่งสมาธิที่ถูกต้องครับ เคยได้ยืนมาว่าผู้ที่จะฝึกสมาธินั้นควรจะมีอาจารย์หรือผู้รู้คอยแนะนำวิธีใช่มั้ยครับ...ไม่ควรฝึกเอง เพราะเราอาจจะหลงทาง ทำผิด และไม่รู้ผลลัพธ์ของการปฏิบัติ...รบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบข้อข้องใจด้วยนะครับ...และถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะถามปัญหาเกี่ยวกับธรรมะอีกมายมายเลยครับ...ผมสนใจศึกษาธรรมะมานานแล้ว แต่ยอมรับว่าเป็นแบบลุ่มๆดอนๆอาจจะเป็นเพราะว่าสภาพสังคมโดยรวมทั้งวัย เพื่อน และขาดกัลยานมิตรคอยกระตุ้น มั้งครับ5555 หลายครั้งที่อยากจะศึกษาจริงๆจังๆ ก้เลยหวังว่าจะได้เจอกัลยานมิตรในบอร์ดนี้นะครับ...ขอบพระคุณล่วงหน้าทุกคำตอบนะครับ คุณขอรับ ค้นหาอ่านได้ในเวบนี้แหละขอรับ มีสอนไว้เยอะแยะขอรับ |
เจ้าของ: | พระอาจารย์แสนปราชญ์ [ 12 ต.ค. 2009, 20:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้เรื่องการทำสมาธิ |
สมาธิ เป็นเรื่องที่กว้างมาก แต่ตามความมุ่งหมายของพุทธธรรมแล้วคือ สัมมาสมาธิ คือ สมาธิชอบ หรือสมาธิที่ถูกต้องนั่นเอง สมาธิที่ถูกต้องจะต้องประกอบด้วยปัญญา ที่เป็นตัว สติสัมปชัญญะ ทำงานร่วมกับสมาธิ ตัวปัญญาเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ "วิปัสสนา" “วิปัสสนา” เป็นคำที่ได้ยินได้ฟังกันมาก และใช้กันมากจนเกิดปัญหาสำหรับผู้ปฏิบัติหรือผู้ศึกษาที่มาใหม่ สำนักแต่ละสำนักต่างยืนยันหลักการและวิธีการของตนเองว่าถูกต้องตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่ผู้ที่สามารถแสดงหลักการวิปัสสนาที่เป็นเนื้อแท้ตรงแท้ตามหลักการและวิธีการของ พระพุทธเจ้าได้ดีที่สุดคือ “พระสารีบุตร” และพระสารีบุตรท่านแสดงได้อย่างจะแจ้งชัดเจนว่า หลักการปฏิบัติวิปัสสนาของพระพุทธเจ้ามีเพียง ๔ อย่าง คือ (๑) วิปัสสนามีสมถะนำหน้า (๒) สมถะมีวิปัสสนานำหน้า (๓) สมถะและวิปัสสนาเข้าคู่กันหรือพร้อมกัน (๔) เมื่อจิตเขวด้วยธรรมุธัจจ์ หรือ จิตฟุ้งด้วยวิปัสสนูปกิเลส ๑๐ อย่าง มีแสงสว่าง เป็นต้น ท่านชี้ชัดว่าวิปัสสนาคือ การยกจิตเข้าสู่ไตรลักษณ์ให้เห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา โดยหลักการและวิธีการที่พระพุทธองค์ทรงแสดงวิปัสสนาไว้สมบูรณ์ที่สุดอยู่ใน “มหาสติปัฏฐานสูตร” เป็นหลักการวิธีการปฏิบัติวิปัสสนามีสมถะนำหน้า ยกตัวอย่าง การตามดูลมหายใจเข้า-ออก ในตอนแรก เป็นสมถะ และเมื่อมีสติพิจารณาเห็นธรรม(ลมหายใจ)ที่เกิดในกาย เห็นธรรม(ลมหายใจ)ที่ดับในกาย โดยไม่อาศัยตัณหาและทิฏฐิ ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรในโลก สภาวะอย่างนี้จึงเป็นวิปัสสนา ผู้ฝึกปฏิบัติวิปัสสนา อุปมาเหมือนนักมวยสากลสมัครเล่น ที่มีกฎกติกาการให้คะแนน ถ้าชกโดยส่งกำลังออกจากหัวใหล่ แล้วใช้ส่วนหน้าของหมัด(ที่เป็นสีขาวที่อยู่บริเวณหน้านวม) ชกโดนคู่ต่อสู้จะเป็นหน้า ลำตัว หรือส่วนไหน ๆ ก็จะได้คะแนน ถ้าเป็นสันมือ หรือการชกในลักษณะเหวี่ยงหมัดจะไม่ได้คะแนน วิปัสสนาในพระพุทธศาสนามีคะแนนการปฏิบัติเช่นเดียวกัน ผู้ปฏิบัติที่ฉลาดต้องรู้ด้วยตนเองว่าได้คะแนนหรือไม่ ซึ่งการได้คะแนนก็คือการกำหนดยกจิตเข้าสู่ไตรลักษณ์ได้อาจจะเห็นอนิจจัง หรือทุกขัง หรืออนัตตา แล้วเกิดความเบื่อหน่ายในสังขาร เกิดลักษณะอาการคลายกำหนัด อาการราคะดับ สุดท้ายมีสภาวะไม่ยึดมั่นถือมั่น อย่างนี้ เรียกว่าได้คะแนน แต่ถ้าเพียงบริกรรมเฉย ๆ แล้วใจสงบ สบาย ไม่เห็นไตรลักษณ์อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ได้คะแนน เหมือนนักมวยสากลที่ชกไม่โดน หรือชกไม่ถูกตามกฎการให้คะแนน เหวี่ยงหมัดบ้าง ขว้างหมัดบ้าง ซึ่งมีประโยชน์เพียงการป้องกันคู่ต่อสู่ไว้ไม่ให้บุกเข้ามา คะแนนจากการกำหนดอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จะกัดกร่อนกิเลสทีละเล็กทีละน้อยจนในที่สุดทำไปด้วยวิระยะ(ความเพียร) ก็สามารถน็อคกิเลสได้ ดับทุกข์ พ้นทุกข์ ได้จริง สติปัฏฐานมีลักษณะการทำงาน หรือหน้าที่ตามสภาพกำลังของสติได้ ๔ อย่าง คือ ๑. สติที่มีกำลังหน้าที่ “กั้น” ความชั่ว กั้นอกุศล (สมถะ) ๒. สติที่มีกำลังหน้าที่ “เจริญ” ความดี พัฒนากุศล ๓. สติที่มีกำลังหน้าที่ “ฆ่า” ความชั่ว ปหานอกุศล (วิปัสสนา) ๔. สติที่มีกำลังหน้าที่ “รักษา” ความดี รักษากุศล เมื่อความมุ่งหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา คือ การดับทุกข์ หรือการพ้นจากทุกข์ จึงมีพระพุทธพจน์ที่ระบุชี้ชัดว่าหลักการปฏิบัติเพื่อการดับทุกข์ หรือพ้นจากทุกข์ คือ “สติปัฏฐาน” ซึ่งเป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้น เป็นการยืนยันถึงหลักการและวิธีการปฏิบัติที่ชัดเจนของพุทธธรรม “สติปัฏฐาน” จึงเป็นมรดกอันล้ำค่าของชาวพุทธที่ถูกรักษาถ่ายทอดสืบต่อ ๆ กันมา แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง “สติปัฏฐาน” ก็เป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกนำมาอธิบายขยายความวิพากษ์วิจารณ์ตีความไปในลักษณะต่าง ๆ ทำให้เกิดข้อถกเถียงกันมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้แสดงสติปัฏฐานด้วยพระองค์เองซึ่งปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฎกพบว่า พระองค์ทรงได้อธิบายขยายความของสติปัฏฐานในหลากหลายรูปแบบหลายลักษณะ ครอบคลุมหลักพุทธธรรมและหลักการปฏิบัติในพระพุทธศาสนาทั้งหมด ทรงแสดงตั้งแต่หลักพื้นฐาน ทั่ว ๆ ไปจนไปถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือ “ความดับทุกข์” ทรงตรัสแสดงในฐานะเป็นพุทธบัญญัติบ้าง ในฐานะหลักธรรมคำสอนบ้าง ทรงแสดงเต็มรูปแบบบ้าง ทรงแสดงเพียงบางส่วนบ้าง ทรงแสดงไว้เป็นการเฉพาะและทรงแสดงไว้ในชื่อกัมมัฏฐานอื่นบ้าง และทรงตรัสแสดงเพื่อเชื่อมโยงหรือขยายไปสู่หลักธรรมอื่น ๆ ซึ่งมีคำอธิบายทั้งในด้านหลักการและวิธีปฏิบัติอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนโดยเฉพาะใน “มหาสติปัฏฐานสูตร” มีรายละเอียดสมบูรณ์เต็มรูปแบบเพียงพอต่อการนำไปปฏิบัติกัมมัฏฐานได้ด้วยตนเอง ในสมัยเดียวกันนั้น “พระสารีบุตร” อัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ว่า เป็นผู้มีปัญญามากสามารถอธิบายธรรมะได้อย่างแตกฉานพิสดาร ซึ่งท่านได้อธิบายสติปัฏฐานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้หลากหลายนั้นด้วยการสรุปลงที่หลักการของ “ปัญญา” หรือ “วิปัสสนา” เป็น “วิปัสสนาล้วน” ว่าด้วยการกำหนดพิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม ให้เห็นเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แล้วจะเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ราคะดับ ไม่ยึดมั่นถือมั่น สติปัฏฐานที่ท่านอธิบายมีชื่อว่า “สติปัฏฐานกถา” [๑] อยู่ในคัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรค พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๑ ถือกันว่าเป็นปกรณ์ทางกัมมัฏฐานเล่มแรกของพระพุทธศาสนา[๒] เป็นคัมภีร์แนวอภิธรรมชั้นต้น ๆ[๓] ที่สำคัญคือเป็นผลงานของพระสารีบุตรผู้เป็นพระธรรมเสนาบดีที่มีปัญญาล้ำเลิศ ด้วยเหตุนี้สติปัฏฐานกถาจึงเปรียบดั่งเพชรเม็ดงามที่ถูกเจียรนัยแล้วเพื่อประกาศสัทธรรมจักร ดังคำกล่าวยกย่องท่านไว้ว่า[๔] ท่านเป็นสัทธรรมเสนาบดี คือผู้ประกาศพระสัทธรรมจักร ผู้เข้าใจความแจ่มแจ้งในอรรถตามความเป็นจริงของพระสูตรทั้งหลายที่พระตถาคตเจ้าได้ตรัสไว้แล้ว ผู้นำในการยังธรรมประทีปให้โชติช่วง อธิบายความได้อย่างลึกซึ้ง มีความลุ่มลึกดุจสาคร กว้างขวางดุจท้องฟ้านภากาศที่ดารดาษด้วยหมู่ดาว เนื้อหาที่กล่าวมาเป็นเพียงการสรุปจาก “วิทยานิพนธ์การศึกษาเชิงวิเคราะห์สติปัฏฐานกถาในคัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรค” ซึ่งถูกคัดเลือกตัดสินให้เป็นวิทยานิพนธ์ดีเด่น ๒๕๕๑ ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผู้วิจัยมีซีดีในรูปแบบ word และ pdf พร้อมหนังสือเก็บเพชรจากวิทยานิพนธ์ดีเด่น จำนวนจำกัดเพื่อแจกฟรี หรือผู้ใดสงสัยการปฏิบัติ หรือครูบาอาจารย์ท่านใดที่ต้องการจะแนะนำเสริมเติมแต่งให้สมบูรณ์สามารถติดต่อผู้วิจัยได้ที่ ๐๘๓๑๒๕๖๓๗๕ |
เจ้าของ: | ตรงประเด็น [ 12 ต.ค. 2009, 21:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้เรื่องการทำสมาธิ |
ลองไปที่ วัดนาป่าพง http://www.watnapahpong.org/index.aspx วัดฟ้าคราม http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=121 วัดป่าเชิงเลน http://www.watpa.com/article_dharma_detail.asp?cid=4 วัดอโศการาม http://www.geocities.com/asokaram00/thai.html |
เจ้าของ: | moddam [ 13 ต.ค. 2009, 06:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้เรื่องการทำสมาธิ |
อยากรู้วิธีนั่งสมาธิที่ถูกต้องครับ เคยได้ยืนมาว่าผู้ที่จะฝึกสมาธินั้นควรจะมีอาจารย์หรือผู้รู้คอยแนะนำวิธีใช่มั้ยครับ...ไม่ควรฝึกเอง เพราะเราอาจจะหลงทาง ทำผิด และไม่รู้ผลลัพธ์ของการปฏิบัติ... ใช่ครับ ควรมี อาจารย์ หรือผู้ที่มีภูมิ ความรู้ทางด้านปฏิบัติ เพราะท่านเหล่านั้น ถ้ามีภูิมิจิตภูมิธรรมสูง ท่านก็สามารถ รู้จริตนิสัย ในการปฏิบัติของเราได้และท่านจะชี้แนะให้ถูกต้องตามลักษณะนิสัยที่เราชอบฝึก หรือถึงขนาดว่า ถ้าท่านสามารถระลึกชาติได้ ท่านก็จะสอนต่อจากที่เราทำในชาติที่แล้วเลย แต่อันหลังนี้หากครูบาอาจารย์ในลักษณะนี้ได้ยากแล้วต้องมีวาสนากับท่านจริง ๆ จึงจะพบและได้ปฏิบัติ ฝึกเอง ก็ดี แต่ จะเผือ เวลาเราเกิดความสงสัย อาจใช้เวลานาน ในการแก้อารมณ์หรือสมาธิที่เราติดครับ ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 04 พ.ย. 2009, 16:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้เรื่องการทำสมาธิ |
![]() ...ข้าพเจ้าเรียนรู้การฝึกทำสมาธิด้วยตนเอง...ส่วนใหญ่ทำที่บ้าน... ...ไปเรียนรู้การปฏิบัติที่วัดบ้าง...ส่วนใหญ่ฟังพระธรรมเทศนา... ...ในวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนของหลวงตามหาบัว... ...เพราะท่านนำเทปครูบาอาจารย์สอนพระมาเปิดให้ฟัง... ...ของพระวัดป่าปฏิบัติสายกรรมฐาน... ...ประสบการณ์ที่เคยนั่งสมาธิที่ตัวเองใช้...ท่าแรกก็นั่งสมาธิแบบพระประทาน... ...ขาขวาท่อนล่างวางบนขาซ้าย...หงายมือบนตักวางมือซ้ายแล้วเอามือขวาวางทับบนมือซ้าย... ...หรือวางมือแบบหงายฝ่ามือซ้ายบนเข่าซ้าย...และหงายฝ่ามือซ้ายบนเข่าซ้าย... ...ท่าที่2ก็ท่านั่งขัดสมาธิเพ็ชร...ขาซ้ายท่อนล่างวางบนต้นขาขวา...จากนั้นยกขาขวาท่อนล่าง... ...มาซ้อนวางทับบนต้นขาซ้าย...(วางมือแบบเดียวกันกับท่าแรก)... ...ท่าที่3ก็ท่านั่งพับเพียบ......หงายมือบนตักวางมือซ้ายแล้วเอามือขวาวางทับบนมือซ้าย... ...อื่นๆที่ใช้อยู่ในการฝึกทำสมาธิ-วิปัสสนาให้มีสติทั้งยืน-เดิน-นั่ง-นอน... ...วิธีฝึกสมาธิตอบอยู่ในกระทู้ 26543 ถามเรื่องสมาธิครับ...ลองเข้าไปดูนะเจ้าค่ะ... ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |