คำสอนของหลวงพ่อปรีชา วัดเขาอิติสุคโต

ชะตา คุณเชื่อเรื่องชะตาหรือเปล่า? ดั่งคำโบราณบอกว่า ชะตาชีวิตถูกลิขิตใน
การเกิดของมนุษย์ แล้วคุณเชื่อหรือเปล่า มนุษย์เกิดมาล้วนแต่ชะลิขิต ชะตากรรม
เกิดจากการกระทำกรรม(กรรมดี กรรมชั่ว) กรรมดีก็ต้องเกิด กรรมชั่วก็ต้องเกิด สุด
แต่ชะตาชีวิตที่กลับมาเกิด ด้วยชะตากรรมดี คนมีชะตาชีวิตที่เรียกว่า กรรมดี เกิดมา
ในตระกูลที่ดี มีสุขภาพที่ดี มีกำลังกาย มีกำลังใจ และมีกำลังวาจา ตั้งแต่ปู่ย่าตายาย
พ่อแม่และตระกูลพ่อและตระกูลแม่ ที่สะสมกรรมดีมาตั้งแต่ต้นแล้วหลายภพหลาย
ชาติแล้ว จนมาถึงเราผู้อ่านหนังสือนี้ จะได้พบกับความรู้แจ้งเห็นจริงในชะตากรรมแห่ง
การเกิดของตัวเอง ถ้าตัวเองเกิดมาแล้วมีบุพกรรม วิบากกรรม เคราะห์กรรมดี ก็จะเกิด
ในตระกูลที่ดี เช่น มีวรรณะผ่องใส สวยงามตั้งแต่หัวจรดเท้า มีความงดงามทางกาย
และมีความงดงามทางสติปัญญา มีสติตลอดเวลาในการพูดจาดี ทำดี เห็นความดีทั้ง
ทางตรง คือ ต่อหน้า ทางอ้อมคือ ลับหลัง นับว่าเป็นคนมีปัญญาดี ประเสริฐดีแล้ว จึง
เปล่งวาจาที่ดีต่อพ่อ แม่ ปู่ย่า ตายาย จะทำอะไรล้วนแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายายมีความชื่นใจ
สบายใจ มีคนชื่นชมอยู่เสมอ มีปิยวาจาส่อสกุล มีใจกราบไหว้ผู้อื่น มีใจแบ่งปันทรัพย์
ให้แก่ผู้อื่น ตกอยู่ในตระกูลที่ดี เรียกว่า ตระกูลรักษาศีล เช่น ทรัพย์ภายใน เรียกว่า
จิตอันงดงาม มีทรัพย์มหาศาล ไม่ต้องทำก็เหลือกินเหลือใช้ เพราะผู้ประกอบกรรมดี
มาตั้งแต่ต้นตระกูล จึงมีต้นดี ใบสวยงาม และส่งดอกออกผล เรียกว่าชะตากรรมดี

ชะตากรรมชั่ว เปรียบเสมือน ผีเน่าในโรงผุ นับว่าเป็นของคู่กัน ตั้งแต่ปู่ย่าตาทวด
ประกอบกรรมชั่วมากกว่ากรรมดี จึงมีชะตากรรมชั่ว มักเป็นคนโกหกจากคำพูด ยึดถือ
คำหยาบ เช่นด่าหรือเปรียบเทียบคำหยาบๆ หยอกล้อ หรือสั่งสอนอบรมด้วยปิยวาจา
อันหยาบ ยากที่จะขัดเกลา ชอบส่อเสียด ด่าทอต่อว่าถึงวงศ์ตระกูล ชอบเอาโคตรเหง้า
มาเหยียบย่ำอยู่เสมอ ทำดีไม่ได้ดี พูดดีหาว่าโกหก มักจะเจอคนชั่ว คบคนพาลโดย
ไม่ตั้งใจ ชะตากรรมชั่วทั้งทางกาย กายไม่สมบูรณ์ แม้นร่างกายเป็นมนุษย์ครบอาการ
32 ดูเหมือนสมบูรณ์ ถึงจะมีใบหน้างามแต่มีตำหนิ สิวมาก ฝ้ามาก อาจหูตึง จมูกโหว่
เสียงผิดเพี้ยน จะมีตำหนิในตัวตน ตัวเองย่อมรู้ คนอื่นดูไม่รู้ เพราะว่าตัวเองรู้ว่าไม่
สมบูรณ์เรียกว่า ชะตากรรมชั่วทางกาย ชะตากรรมชั่วทางใจ มักหมกมุ่นต่อกรรมชั่ว
คำพูดหยาบ กายหยาบ ใจตกต่ำ มีร่างกายเป็นมนุษย์ จิตใจเป็นเปรต อสุรกาย
สัตว์เดรัจฉาน วนเวียนต่อความคิดและอารมณ์ที่เป็นอบายภูมิ จะรวยก็ไม่รวย จะจนก็
พอกินพออยู่ หาเก็บไม่ได้ เผื่อแผ่คนอื่นก็ไม่ได้ จะให้พ่อแม่ก็ไม่มี มักได้สามี ภรรยา
ติดการพนัน เจ้าชู้ ติดของมึนเมา ทำให้ขาดสติ ทำให้ครอบครัวอลเวง ไม่มีความสุข
ตั้งแต่เล็กจนโต จนแก่ชรา ตายแล้วไม่มีโลงศพใส่ ทนต่อเวลาอยู่ได้ยากลำบาก ยาก
เข็ญไม่มีใครเห็นใจเรียกว่า ตกนรกทั้งเป็นจนกระทั่งตาย เรียกว่าชะตากรรมดีและชั่ว
ตั้งแต่เกิดเพราะบุญนำกรรมแต่ง

“บุญ” เปรียบเสมือนทรัพย์ภายใน เรียกว่าชะตากรรมดี มีทรัพย์ภายนอกอย่าง
สมบูรณ์ ไม่ขาดแคลน “บาป” เปรียบเสมือน ชะตากรรมชั่ว ทำดีไม่ได้ดี เกิดในวงศ์
ตระกูลยากจน ทรัพย์ภายในจิตใจต่ำ ได้แต่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต มักมีโรคภัยไข้เจ็บ
ครอบครัวขัดแย้ง พ่อแม่ลูกหลานพี่น้องมักทะเลาะขัดแย้งไม่รู้พ่อแม่พี่น้อง เรียกว่า
ทรัพย์ภายใน คือต้องชอกช้ำจิตใจจนชีวิตหาไม่ เรียกว่าชะตากรรมชั่ว

ท้ายสุดจงพิจารณาจะทำบุญหรือทำบาปสุดแต่จะปรารถนา ทำกรรมดี ชะตากรรมดี
เกิดขึ้น ทำกรรมชั่วชะตากรรมชั่วเกิดขึ้น

จริงครับ

กรรมดี กรรมชั่ว มันขึ้นอยู่ที่ที่จิตไปยึดเหนี่ยวในสิ่งนั้นๆครับ
กรรมชั่ว เกิดจากจิตที่ไปยึดเหนี่ยวสิ่งต่างๆด้วยอารมณ์ที่มี โทสะ โมหะและโลภะ
ส่วนกรรมดี เกิดจากจิตที่มีสติรู้ตัวทั่วพร้อมครับ
......คนมีบุญหรือมีบาป ไม่ได้ดูกันที่รูปลักษณ์ภายนอกครับ
คนจน,พิการ,อัปลักษณ์ ก็มีความสุขได้ถ้ามีสติ รู้ตัวว่าสิ่งต่างๆมันเป็นไตรลักษณ์ นี้แหละ
ครับที่เรียกว่าคนมีบุญ
ส่วนคนรวย,คนงาม,ร่างกายสมประกอบ ถ้าจิตยังถูกครอบงำด้วย โทสะ,โมหะและโลภะก็หา
ความสุขไม่ได้ เพราะมัวแต่เหยียดหยามผู้อื่นที่ด้อยกว่า มีแล้วไม่รู้จักพอ หลงระเริงไปกับ
สิ่งที่ไร้แก่นสาร ฉะนั้นกล่าวง่ายๆว่าคนที่มีบาป ก็เป็นดังนี้ครับ
.....ดังนั้นเราจึงหมั่นปฏิบัติภาวนาให้จิตของเรามีคุณภาพ ไม่หลงไปในสิ่งอกุศลต่างๆ
ทำจิตให้เป็นกุศล โดยทำแบบมีขั้นมีตอนคือ ศีล,สมาธิและปัญญาเท่านี้แหละครับ

กราบหลวงพ่อปรีชาด้วยความเคารพครับสาธุ

อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณนํ้าใสในบึง
ธรรมะสวัสดีค่ะ

บทความเรื่อง :หลักการถือศีล ๕ ให้ครบ
--------------------------------------------------------------------------------

เนื้อหาบทความ :
หลักการถือศีล ๕ ให้ครบ
ใครรักษาศีล ศีลก็จะรักษาคนผู้นั้นให้ปลอดภัยมีความเจริญ กั้นอำนาจกรรมเก่า
ที่จะมาบั่นทอนชีวิต ขั้นตอนในการรักษาศีลให้มีความบริสุทธิ์ก็เปรียบเสมือนกับ
เสื้อผ้าที่สะอาดไม่มีรอยด่างพร้อยของสีอื่นๆ

แม่ชีทศพรบอกว่าคนเรามักจะชอบคุยเรื่องของคนอื่น มนุษย์ชอบพูดถึงบุคคล
ที่ 3 ถ้าลูกน้อง 2 คนคุยกัน ก็จะคุยถึงเจ้านาย การคุยเรื่องคนอื่นก็หนีไม่พ้นเรื่อง
ของศีลข้อที่ 2 บางคนจะมีรหัสกรรมเด่นคือนิสัยชอบพูดคุยนินทาคนอื่นไม่หยุดปาก
ทำอย่างไรก็แก้ยาก แม้จะเข้าวัดมาปฏิบัติธรรมพยายามรักษาศีลข้อที่ 2 โดยไม่
ไปโกหกใคร แต่ทว่าเราก็ยังอดนินทาให้ร้ายบุคลที่ 3 ไม่ได้ ก็ถือว่าทำให้ศีลข้อ
ที่ 2 มีมลทิน ด่างพร้อย แทนที่เราจะได้อานิสงส์ของการรักษาศีลข้อที่ 2 การว่า
ร้ายผู้อื่นทำให้จิตใจเราขาดเมตตา เพราะขณะที่นินทาผู้อื่นอยู่นั้นจิตใจของเรามี
ความสนุกสะใจสนุกสนาน ในการนินทาทุกครั้งมักจะมีความขยายความเพิ่มเติม
จากข้อมูลข่าวสารที่เราได้ยินมาจากที่อื่นการเพิ่มเติมข่าวสารเข้าไปโดยที่เราไม่ได้
รู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นการเพิ่มเติมข้อมูลข่าวสารการให้ร้ายคนอื่นโดยตัวเรา
เองเข้าข่ายการมุสาหรือปั้นน้ำเป็นตัวโดยที่เราเองไม่ทันรู้ตัว

ในขณะที่”จิตใจ” ของเราที่เมามันกับการว่าร้ายนินทาผู้อื่นนั้น มันยึดเอา”ตัวเรา
และคำพูดของเรา” ที่ประกอบไปด้วยรูปร่างหน้าตาของเราที่แสดงออก บุคลิกของ
เราในขณะนินทา อารมณ์ที่คลุกเคล้าเข้าประทับในจิตนี้กลายเป็นตอกย้ำรหัสกรรม
เดิมของตนเองมากขึ้นจนยากที่จะถอนรากถอนโคนให้หมดสิ้นได้ แถมตนเองยัง
สร้าง “เจ้ากรรมคนใหม่” เกิดขึ้นรายวันอีกด้วย
--------------------------------------------------------------------------------
คัดลอกจาก : http://www.thossaporn.com/article_detail.php?id_edit=34

.....ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษแม่ชีครับ ที่นำบทความของท่าน
มาโพสท์ มิได้มีเจตนาที่จะล่วงเกินอันใดเลยครับ
...........คุณน้ำใสในบึงครับ สืบเนืองจากกระทู้ที่แล้ว คุณได้แนะนำให้ไปอ่านเรื่องศีล
เรื่องกรรมของแม่ชี ผมจึงเข้าไปศึกษาในเวบของแม่ชี ได้พบข้อความที่กล่าวถึงเรื่องศีล
ตามบทความที่ผมยกมาด้านบน มันทำให้ผมเกิดความสับสนเป็นอย่างมาก สิ่งที่ผมรู้มา
ตั้งแต่เล็กจนโต ในอันดับของศีลห้า ศีลข้อ2 จะต้องเป็น ห้ามลักทรัพย์ ส่วนข้อ4
ต่างหากละครับถึงจะเป็น ห้ามพูดปดหรือนินทาผู้อื่น
........ด้วยเหตุที่คุณน้ำใสในบึงเป็นผู้แนะนำ เลยอยากได้ความกระจ่างในเรื่องนี้จากคุณ
ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง หวังว่าคงไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปนะครับ