ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

เมื่อต้องทำในสิ่งที่ขัดต่อความรู้สึกในจิตใจ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=25947
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  korkai81 [ 01 ต.ค. 2009, 13:13 ]
หัวข้อกระทู้:  เมื่อต้องทำในสิ่งที่ขัดต่อความรู้สึกในจิตใจ

สวัสดีค่ะ กัลยาณมิตรทุกท่าน :b8:
ดิฉันขอคำชี้แนะ ดิฉันมีความจำเป็นที่จะต้องกระทำบางสิ่งที่บางอย่าง (ไม่ขอเอ่ยว่าคืออะไรนะคะ) ที่ดิฉันรู้สึกว่าไม่สบายใจทุกครั้งที่ทำ เป็นสิ่งที่ดิฉันไม่ชอบใจที่จะทำเลย ทุกครั้งที่จะต้องทำ เต็มไปด้วยความหงุดหงิด ไม่เต็มใจ รู้สึกว่าร้อนอยู่ภายในจิตใจ มันคัดค้านกับความรู้สึกที่ว่าไม่อยากจะทำเลย เมื่อมีความรู้สึกไม่ดีเช่นนี้แล้ว มันจะพาลทำให้เรื่องอื่นๆ ทำไม่ดีตามมาด้วย และนำมาซึ่งความเครียด ซึ่งดิฉันก็รู้ตัว ถามว่าสิ่งที่จำเป็นต้องกระทำนี้ถูกต้องหรือไม่ เป็นสิ่งที่ไม่ดีและไม่ถูกต้องเลยค่ะ ขัดต่อการปฏิบัติธรรมทางพระพุทธศาสนามาก แต่สิ่งที่ว่าไม่ดีนี้ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญไปแล้วในปัจจุบัน ยิ่งทำให้ดิฉันรู้สึกสังเวชใจ ดิฉันคิดว่าสิ่งที่ต้องทำนี้ นอกจากจะทำให้ตัวเองเป็นทุกข์แล้ว ดิฉันยังมองเห็นบุคคลที่เป็นผู้เริ่มกระทำและผู้ช่วยทุกคนก็เป็นทุกข์ด้วย ทุกข์กายอาจจะไม่ทุกข์มากเท่าไร แต่ดิฉันเห็นความทุกข์ใจในคนเหล่านั้น เห็นความร้อนรุ่มอยู่ในคนเหล่านั้น จึงกลับมาคิดว่า แล้วจะทำ ทำไม ทำไปเพื่ออะไร ซึ่งดิฉันก็ได้แต่คิด แต่ไม่มีอำนาจหรืออิทธิพลมากพอ ที่จะทำให้คนเหล่านั้นหยุดการกระทำนั้นได้ จึงนึกถึงข้อความที่ว่า -สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม-
ดิฉันไม่สามารถหลุดพ้นจากความทุกข์นี้ได้ ในเวลานี้ ดิฉันต้องรอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง การที่ดิฉันจะสามารถหลีกหนีจากสิ่งนี้ได้ คือต้องเดินจากไปจากที่ดิฉันอยู่ นั่นคือทางออกเดียวที่จะทำให้ดิฉันตัดขาดจากสิ่งนี้ได้อย่างสิ้นเชิง แต่นั่นต้องใช้เวลา ในระหว่างที่ดิฉันต้องรอเวลาอยู่นี้ ดิฉันทุกข์ใจมาก ดิฉันพยายามนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามีคิด มาเตือนตัวเอง บอกตัวเองว่า ขันติ และ อุเบกขา แต่ก็ยังรู้สึกหงุดหงิด ร้อนรุ่มจิตใจอยู่ดี ดิฉันสวดมนต์ไหว้พระ เช้า และ เย็น นั่งสมาธิหลังจากสวดมนต์ แต่ดิฉันจะนั่งไม่ได้นาน เนื่องจากจิตมันฟุ้งซ่าน แต่ดิฉันก็ยังพยายามนั่งสมาธิ แบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากเวลาน้อยๆ ถึงจะยังทำได้ไม่ดี แต่คิดว่าให้จิตไม่สงบอย่างไร ต้องพยายามทำต่อไป เพราะมีความเชื่อมั่นว่าผลสำเร็จจากการปฏิบัตินั้น จะทำให้ดิฉันพ้นจากความทุกข์ใจต่างๆ ได้ :b2:
ดิฉันมีความศรัทธาและเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา จึงเพียรพยายามที่จะปฏิบัติธรรม ดำรงชีวิตอยู่ในหลักธรรมคำสั่งสอน ถึงแม้ว่ากว่าจะรู้สึกตัวก็ล่วงเลยเวลามานานมากแล้ว แต่ดิฉันคิดว่าไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับผู้ที่คิดจะปฏิบัติธรรม เพื่อเป็นอานิสงฆ์ให้กับตัวเองและครอบครัวทั้งภพนี้และภพหน้า
ดิฉันขอขอบพระคุณและอนุโมทนากัลยาณมิตรทุกท่านล่วงหน้าค่ะ :b20:

เจ้าของ:  ดอกพุทธ [ 01 ต.ค. 2009, 13:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องทำในสิ่งที่ขัดต่อความรู้สึกในจิตใจ

ใช้ขันติ กับอุเบกขา ก็ดีแล้วค่ะ แต่ต้องเริ่มที่จะวางให้ลง ปลงให้เป็น ด้วย
เราจะได้เกิดการวางแบบสบายใจ เบื้องหลังของการกระทำถือว่าผ่านไปแล้ว
ให้กำหนดจิตเป็นปัจจุบันต่อค่ะ การเข้าหาธรรมมะจะช่วยให้ชีวิตและจิตใจ
ดีขึ้นต่อไป :b1:

เจ้าของ:  -dd- [ 01 ต.ค. 2009, 13:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องทำในสิ่งที่ขัดต่อความรู้สึกในจิตใจ

อ้างคำพูด:
ดิฉันมีความศรัทธาและเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา จึงเพียรพยายามที่จะปฏิบัติธรรม ดำรงชีวิตอยู่ในหลักธรรมคำสั่งสอน ถึงแม้ว่ากว่าจะรู้สึกตัวก็ล่วงเลยเวลามานานมากแล้ว แต่ดิฉันคิดว่าไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับผู้ที่คิดจะปฏิบัติธรรม เพื่อเป็นอานิสงฆ์ให้กับตัวเองและครอบครัวทั้งภพนี้และภพหน้า
ดิฉันขอขอบพระคุณและอนุโมทนากัลยาณมิตรทุกท่านล่วงหน้าค่


ก่อนอื่นขออนุโมทนากับข้อความข้างบนนะครับ

เข้าใจว่าเจ้าของกระทู้ทราบเองแล้วว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ถูกศีลหรือ/และธรรม เพราะเดือดร้อนใจจากสิ่งนั้นเมื่อยังไม่อาจหลบหลีกได้ก็พึงตั้งเจตนาว่าเราไม่ยินดีกับการทำบาปกรรมใดๆ แต่ด้วยเหตุจำเป็นเช่นการรักษาชีวิตเป็นต้นจึงต้องทำไป อย่างไรก็ดี ให้หมั่นเจริญกุศลทั้งทานศีลภาวนาอย่างต่อเนื่องเมื่อมีโอกาส อย่านำสิ่งที่ผิดนั้นมาคิดย้ำบ่อยๆ ไม่ตำหนิตัวเองต่อเนื่องยาวนานอันเป็นการสร้างความเศร้าหมองแก่ใจตน คนเราทุกคนทำทั้งบุญบาปเสมอ แต่คนที่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรผิดถูกชั่วดี แล้วคิดแก้ไขเลือกที่จะทำสิ่งที่ดีและถูก คือผู้ที่มีปัญญา พระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ดีแล้วนั้น ย่อมสามารถนำมาปฏิบัติได้และจะนำพาผู้ประพฤติให้ปลอดภัยพ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริง ไม่มีคำสอนในศาสนาใดนอกจากพุทธศาสนาที่นำปัญญามาสู่เราได้ เราจะพ้นทุกข์ได้ด้วยการมีปัญญาที่ได้มาจากการศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น..เราไม่สามารถพ้นทุกข์ได้ด้วยอำนาจเสกเป่าดลบันดาลของใครๆจากการอ้อนวอนร้องขอครับ..

คุณมีบุญที่สะสมมาไว้ดีแล้วจึงสามารถพบพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า คนที่ไม่มีเคยมีบุญเก่านั้น ย่อมไม่ใช่ฐานะที่จะเกิดศรัทธาเลื่อมใสได้เลย น่ายินดีครับ :b48: :b47: :b46: :b51: :b53:

เจ้าของ:  คุณเพชร [ 01 ต.ค. 2009, 14:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องทำในสิ่งที่ขัดต่อความรู้สึกในจิตใจ

ขออนุโมทนากับคุณในอันดับแรกก่อนนะค่ะ ที่คุณรู้เท่าทันสติว่าอะไรคือถูก อะไรคือผิด แต่ปัญหาของคุณคงจะยากในการหลีกเลี่ยง (ตามที่ได้อ่านจากข้อความข้างต้น) แต่อย่างน้อยๆ คุณก็มีสติ เกิดปัญญาเห็นแจ้ง คือ เห็นโลกตามความเป็นจริง และมีสติ คือการระลึกได้ สัมปชัญญะ คือทราบดีว่ากิจนั้นเราทำนั้นมันควรหรือไม่ควร เป็นกุศลหรืออกุศล เรารู้ด้วยสัมปชัญญะ

ซึ่งดิฉันก็ไม่ทราบถึงเรื่องในสิ่งที่คุณกำลังทุกข์ใจ แต่ก็ขอให้คุณมีสติ และปัญญา เพื่อฝ่าฟันกับสิ่งที่คุณไม่ต้องการที่จะกระทำไปให้ได้ เอาใจช่วยนะค่ะ

เจริญในธรรมนะค่ะ

เจ้าของ:  มหาราชันย์ [ 01 ต.ค. 2009, 20:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องทำในสิ่งที่ขัดต่อความรู้สึกในจิตใจ

สาธุครับ

สวัสดีครับ

ทำความดีต่อไปเพิ่มความดีให้มากยิ่งขึ้นครับ แล้วลดการกระทำที่ไม่ดีให้น้อยลง และถ้าหยุดทำสิ่งไม่ดีได้ ความสุขความเจริญก็จะมาสู่ตัวคุณได้ทันทีครับ



"บุคคลฟังพระธรรมเทศนาของพระอรหันต์แล้ว
เห็นคนผู้ล่วงลับ ทำกาละแล้ว
กำหนดรู้อยู่ว่า บุคคลผู้ล่วงลับทำกาละแล้วนั้น
เราไม่พึงได้ว่า จงเป็นอยู่อีกเถิด ดังนี้
พึงกำจัดความรำพันเสีย
บุคคลพึงดับไฟที่ไหม้ลุกลามไปด้วยน้ำ ฉันใด
นรชนผู้เป็นนักปราชญ์ มีปัญญา เฉลียวฉลาด
พึงกำจัดความเศร้าโศกที่เกิดขึ้นเสีย
โดยฉับพลันเหมือนลมพัดนุ่น ฉะนั้น



เจริญในธรรมครับ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/