ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

วิบากกรรมครับ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=24985
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  tammylala [ 17 ส.ค. 2009, 18:54 ]
หัวข้อกระทู้:  วิบากกรรมครับ

จะเกิดวิบากกรรมจะเกิดต่อเมื่อทั้งกาย วาจา ใจเกิดพร้อมกันใช่ไหมใช่ไหมครับ
ถ้าไม่ได้ตั้งใจปรามาสพระรัตนตรัยจะบาปมากไหมครับถ้าหมั่นขอขมาจะลดวิบากกรรมไหมครับ

เจ้าของ:  tammylala [ 17 ส.ค. 2009, 19:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิบากกรรมครับ

เหมือนย้ำคิดไย้คิดมาไม่สามารถหยุดไหมว่าเผลอหลุดออกมา

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 17 ส.ค. 2009, 19:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิบากกรรมครับ

คนเขาอุตส่าห์ตอบตั้งมากตั้งมาย
ไม่ว่าเขาจะตอบอย่างไร คุณก็ไม่มีปัญญาจะเข้าใจ
แล้วจะมาตั้งกระทู้ใหม่ ถามซ้ำซ้ำมาเอาคำตอบเดิมอยู่ทำไม
ถ้าความคิดไม่แก้ปัญญา ก็ลองเปลี่ยนดูนะครับ

ต่อไปนี้ไม่ให้ทำอะไรนอกจากคอยสังเกตุความรู้สึกนะครับ
เบื้อต้นดูแค่ความรู้สึกสองอย่าง
1. ตอนสบายใจ
2. ตอนไม่สบายใจ

หรือถ้ายากไป ให้สังเกตุสองอย่างนี้
1.ความรู้สึกตอนที่คิด (คิดอะไรก็ตาม)
2.ความรู้สึกตอนที่ไม่คิด

เพียรสังเกตุไปเรื่อยๆ ไม่ต้องอยากรู้ว่าทำอะไรไปเพื่ออะไร
ให้เพียรสังเกตุอย่างเดียว
ให้ลองทำดูสัก 1 อาทิตย์
ลองดูกันว่าวิธีนี้จะช่วยแก้ไขอะไรได้ไหม

เจ้าของ:  kokorado [ 17 ส.ค. 2009, 21:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิบากกรรมครับ

ลองศึกษา เรื่อง จิตเภท ดูก้ดีนะครับ เพราะว่าน่าจะใช่อาการของจิตเภท ลองหาความรู้จากกูเกิ้ล ดูนะ เพราะว่า ประเทศไทย เป็นประมาณ ล้านคน เราอาจจะเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้ ลองเช็คอาการจากในเน็ตดู บุคคลผู้ปรามาสพระรัตนตรัย ย่อมได้รับโทษ คือ จิตแตก (จิตเภท)

เจ้าของ:  chulapinan [ 19 ส.ค. 2009, 11:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิบากกรรมครับ

การปรามาสพระรัตนตรัยไม่ผิดค่ะ แต่...ต้องเป็นลักษณะของการที่เจตนาบริสุทธิ์จริงๆ ซึ่งก็ยากถ้าพูดถึงพระรัตนตรัย ในเมื่ององค์สามนั่น ประเสริฐที่สุด มีคุณต่อมนุษย์ที่สุด แล้วเราจะหาความคิดหรือความรู้สึกไหรไปปรามาส

คุณถามตัวเองคนเดียว ถามอย่างไม่มีอคติว่า ตัวคุณ ความคิดของคุณ ลบหลู่หรือไม่ ได้คำตอบแล้วมีสองประเด็น

หนึ่ง มีความคิดลบหลู่นิดๆ ไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา นั่นบาปค่ะ บาปมาก เหมือนอกตัญญูสิ่งที่มีแต่ให้และให้กับคุณ (สงฆ์ หมายถึง อะไรๆก็ตามที่มีหน้าที่เผยแพร่ธรรมของพระพุทธองค์ค่ะ พระ ไม่ได้เรียกว่าสงฆ์เสมอไป)

สอง กรณีที่คุณถามตัวเองแล้วบอกได้อย่างเดียวว่า ไม่ได้คิดอะไร ไม่คิดดูหมิ่นทั้งสิ้น แต่คุณเผลอพูดเพราะจิตคุณสั่ง แบบนี้ตัวคุณไม่ผิดเพราะไม่มีเจตนา แต่จิตคุณผิดเพราะจิตจะสั่งอะไรนั้นมาจากเจตนาทั้งสิ้น แต่ก็แน่นอน จิตในตัวคุณก็ต้องสงผลถึงคุณ

สิ่งที่ควรทำคือ ขอขมาค่ะ ขอขมาด้วยความจริงใจ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านรู้ได้แน่ๆ รู้ได้ถึงความในใจ รู้ทุกอย่างของคุณ

ตอนจุฬาภินันท์ทำผิดแบบไม่ตั้งใจ จุฬาภินันท์ใช้บทสวดนี้ค่ะ

วันทามิ พุทธัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเมภันเต
วันทามิ ธัมมัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเมภันเต
วันทามิ สังฆัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเมภันเต

เป็นการขอขมาในสิ่งที่ทำไม่ว่าจะเจตนา ไม่เจตนา รู้หรือไม่รู้ ก็ตามค่ะ ท่านเข้าใจทุกอย่างในตัวคุณค่ะ

เจ้าของ:  tammylala [ 19 ส.ค. 2009, 15:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิบากกรรมครับ

ตอนนั้นเหมือนจะพูดผิดต้องการพูดชื่อควรอีกคนหนึ่งว่าเป็นทุกข์แต่เกือบอาการสับสนว่าจึงผู้มีบารมีมากเป็นทุกข์ส่วนตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยหรือไม่คิดว่าจะลบหลู่อะไรและไม่อารมณ์ยินดีหรือยินร้ายกับคำพูด แต่โดยปกติผมนับถือพระพุทธองค์แต่บางครั้งเหมือนมีจิตหนึ่งมาขัดขวางผมจึงไม่แน่ใจว่าแบบนี้บาปไหมครับแต่ผมพยายามสู้กันระหว่างจิตดีกับจิตไม่ดี

เจ้าของ:  moddam [ 19 ส.ค. 2009, 15:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิบากกรรมครับ

tammylala เขียน:
ตอนนั้นเหมือนจะพูดผิดต้องการพูดชื่อควรอีกคนหนึ่งว่าเป็นทุกข์แต่เกือบอาการสับสนว่าจึงผู้มีบารมีมากเป็นทุกข์ส่วนตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยหรือไม่คิดว่าจะลบหลู่อะไรและไม่อารมณ์ยินดีหรือยินร้ายกับคำพูด แต่โดยปกติผมนับถือพระพุทธองค์แต่บางครั้งเหมือนมีจิตหนึ่งมาขัดขวางผมจึงไม่แน่ใจว่าแบบนี้บาปไหมครับแต่ผมพยายามสู้กันระหว่างจิตดีกับจิตไม่ดี


----

ไม๊บาป คร๊าบ

เป็นจิตมารหรือ อกุสลจิต เท่านั้นคร๊าบ

เพราะการรบหลู่ ต้องประกอบด้วยเจตนาครับ

และกรรมจะสมบูรณ์ต้องประกอบด้วยองค์ 3 คือ มโนกรรมเกิดก่อน ... ต่อด้วย วจีกับกาย

หรือกายกับวจี ก็ได้ ถ้าครบเมื่อไหร่ก็ เรียบร้อยครับ สมบูรณ์ กรรมย่อมให้ผลแน่นอนครับ

แต่ถ้ายังอยู่ในใจก็ยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็แหละครับทำให้ ฟุ้งซ่าน ลำคาญใจ เกิดความไม่สบายใจได้ครับ

ที่ว่า ขอขมาบ่อยดีไหมน๊ะ ดีครับ อนุโมทนาด้วยครับ เพราะสามารถลดกรรมได้ในวันหนึ่งทำกรรมไว้ตั้งมากมาย เจตนาบ้างไม่เจตนาบ้าง ก็เป็นกรรม ถ้าไม่เจตนา ก็เป็น กรรมซักว่าทำ เบาสุดแล้วครับตัวนี้

ยาวไปหน่อย สวัดสดีครับ

cool

เจ้าของ:  Bwitch [ 16 ธ.ค. 2009, 15:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิบากกรรมครับ

moddam เขียน:
tammylala เขียน:
ตอนนั้นเหมือนจะพูดผิดต้องการพูดชื่อควรอีกคนหนึ่งว่าเป็นทุกข์แต่เกือบอาการสับสนว่าจึงผู้มีบารมีมากเป็นทุกข์ส่วนตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยหรือไม่คิดว่าจะลบหลู่อะไรและไม่อารมณ์ยินดีหรือยินร้ายกับคำพูด แต่โดยปกติผมนับถือพระพุทธองค์แต่บางครั้งเหมือนมีจิตหนึ่งมาขัดขวางผมจึงไม่แน่ใจว่าแบบนี้บาปไหมครับแต่ผมพยายามสู้กันระหว่างจิตดีกับจิตไม่ดี


----

ไม๊บาป คร๊าบ

เป็นจิตมารหรือ อกุสลจิต เท่านั้นคร๊าบ

เพราะการรบหลู่ ต้องประกอบด้วยเจตนาครับ

และกรรมจะสมบูรณ์ต้องประกอบด้วยองค์ 3 คือ มโนกรรมเกิดก่อน ... ต่อด้วย วจีกับกาย

หรือกายกับวจี ก็ได้ ถ้าครบเมื่อไหร่ก็ เรียบร้อยครับ สมบูรณ์ กรรมย่อมให้ผลแน่นอนครับ

แต่ถ้ายังอยู่ในใจก็ยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็แหละครับทำให้ ฟุ้งซ่าน ลำคาญใจ เกิดความไม่สบายใจได้ครับ

ที่ว่า ขอขมาบ่อยดีไหมน๊ะ ดีครับ อนุโมทนาด้วยครับ เพราะสามารถลดกรรมได้ในวันหนึ่งทำกรรมไว้ตั้งมากมาย เจตนาบ้างไม่เจตนาบ้าง ก็เป็นกรรม ถ้าไม่เจตนา ก็เป็น กรรมซักว่าทำ เบาสุดแล้วครับตัวนี้

ยาวไปหน่อย สวัดสดีครับ

cool


tongue ขออนุโมทนานะคร้าาาา คุณมดดำ คุณทำให้ จขกท. มีความสุขนะคะ
ดิฉันเห็นเขายิ้มเมื่ออ่านคำตอบคุณจบค่ะ



ปล. อาหยามของนู๋ใจร้อนเสมอ เปรี้ยวนะ เดี๊ยะ!
แห่ะๆ ล้อเล่นค่ะ :b16: :b8:

เจ้าของ:  chulapinan [ 17 ธ.ค. 2009, 18:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วิบากกรรมครับ

อ้างคำพูด:
ตอนนั้นเหมือนจะพูดผิดต้องการพูดชื่อควรอีกคนหนึ่งว่าเป็นทุกข์แต่เกือบ อาการสับสนว่าจึงผู้มีบารมีมากเป็นทุกข์ส่วนตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยหรือไม่คิดว่าจะลบหลู่อะไรและไม่อารมณ์ยินดีหรือยินร้ายกับคำพูด แต่โดยปกติผมนับถือพระพุทธองค์แต่บางครั้งเหมือนมีจิตหนึ่งมาขัดขวางผมจึง ไม่แน่ใจว่าแบบนี้บาปไหมครับแต่ผมพยายามสู้กันระหว่างจิตดีกับจิตไม่ดี


คุณถามตัวเองนะคะว่านับถือพระพุทธองค์น่ะจริงหรือจริง ไม่ใช่นับถือพระคริสต์แล้วไม่เชื่อพระพุทธองค์ ถ้าแบบนั้นก็บาปค่ะ

การที่คุณศรัทธาในสิ่งใด คุณก็ศรัทธาสิ่งนั้นไป แต่อย่าลบหลู่สิ่งอื่น ไม่ว่าศาสนาใดก็เหมือนกันค่ะ เป็นที่เคารพและศรัทธาของคนที่นับถือศาสนานั้นๆค่ะ

ขอขมานะคะ ตามแบบความเชื่อของคุณก็ได้

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/