ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
อ่านพระไตรปิฎก http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=24020 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | Supareak Mulpong [ 18 ก.ค. 2009, 12:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | อ่านพระไตรปิฎก |
มีไครอ่านพระไตรปิฎกจบครบ 45 เล่มบ้างครับ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ก.ค. 2009, 17:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
ไม่เคยอ่านเลย |
เจ้าของ: | Supareak Mulpong [ 18 ก.ค. 2009, 17:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
โห... แล้วที่เอามาบอกเล่ากันตั้งมากมายนี่เอามาจากใหนกันครับ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ก.ค. 2009, 17:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
ก็หาๆเอาตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ก.ค. 2009, 17:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
แล้วคุณอ่านได้กี่เล่มแล้วครับ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ก.ค. 2009, 17:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
เล่มแรกว่าไงบ้างครับ |
เจ้าของ: | Supareak Mulpong [ 18 ก.ค. 2009, 17:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
อ้างคำพูด: ก็หาๆเอาตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง กรรม.. ก็เริ่มอ่านพระสูตรก่อน ถ้าเป็นเล่มแปลไทยไม่รวมอัถกถา ก็ถือเป็นเล่ม 9 ตอนนี้อ่านถึงพวกสูตรสั้นๆ รวมๆ ก็ 6-7 เล่มแล้ว อ่านมาตั้งแต่ต้นปี ตอนนี้ก็มาดูพระอภิธรรมบ้างแล้ว พระสูตรช่วงแรกๆ อธิบายที่มาที่ไปของพระธรรมมีประวัติศาสตร์ด้วย มีเหตุการณ์สำคัญๆ ที่ข้ามไปไม่ได้เลย โดยเฉพาะเรื่องมหาปรินิพานสูตร ตอนนี้ข้ามไม่ได้เด็ดขาด (อยู่ในเล่มสองของพระสูตร) พินัยกรรมของพระพุทธองค์เขียนไว้ชัดเจนในสูตรนี้ (เล่มแรกจริงๆ บอกเรื่องเกี่ยวกับการสอนธรรมที่เริ่มจากศีล) เล่มต่อๆ ไปก็เป็นเรื่องที่สั้นลง แต่พออ่านไปแล้วถึงจะเริ่มรู้เนื้อแท้ของพุทธศาสนาได้ชัดเจนขึ้น (รวมไปถึงลัทธิอื่นๆด้วย โดยเฉพาะพรามหณ์) อ้างคำพูด:
|
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ก.ค. 2009, 17:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
อ้างคำพูด: เรื่องมหาปรินิพานสูตร ยังไงมหาปรินิพพานา มันแปลว่าอะไร ไม่เข้าใจ บอกรายละเอียดหน่อยสิครับ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ก.ค. 2009, 17:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
อ้างคำพูด: พออ่านไปแล้วถึงจะเริ่มรู้เนื้อแท้ของพุทธศาสนาได้ชัดเจนขึ้น อะไรคือเนื้อแท้ของพระพุทธศาสนาครับ แล้วชัดเจนยังไง |
เจ้าของ: | Supareak Mulpong [ 18 ก.ค. 2009, 17:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
เออ... ตอบงัยดี ถ้าจะเอาแบบฟันธงสั้นๆ ก็ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกุตระ ส่วนถ้าอยากได้รายละเอียด ก็ต้องไปลองอ่านเอาเอง |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ก.ค. 2009, 17:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
Supareak Mulpong เขียน: เออ... ตอบงัยดี ถ้าจะเอาแบบฟันธงสั้นๆ ก็ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกุตระ ส่วนถ้าอยากได้รายละเอียด ก็ต้องไปลองอ่านเอาเอง คุณอ่านแล้ว คงรู้สิครับว่า โลกุตระ เป็นยังไง บอกคนไม่เคยอ่านตระกร้าสามใบบ้างสิครับ |
เจ้าของ: | Supareak Mulpong [ 18 ก.ค. 2009, 17:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
โลกุตร มาจากคำว่า โลก + อุตริ แปลว่า เกินโลก แปลง่ายๆ ว่า ไม่ใช่เรื่องของโลก เป็นเรื่องของความพยายามที่จะออกไปจากโลก พ้นไปจากโลก ส่วนรายละเอียดมันมาก อย่าให้เขียนเลย (ที่จริงยังเขียนไม่ได้ ยังไม่รู้เรื่องแทงตลอด) วิธีการนั้นก็ไม่น่าจะยาก ตอนนี้กำลังหาคนเคยอ่านพระไตรปิฎกจริงๆ ไม่ได้เอาคำสอนจากครูบาอาจารย์ที่บอกต่อๆ กันมา เพราะเห็นพระสัมมามัมพุทธเจ้าทรงทิ้งไว้เป็นพินัยกรรม อ่านไปก็รู้สึกว่าเจออะไรแปลกๆ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ก.ค. 2009, 17:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
Supareak Mulpong เขียน: โลกุตร มาจากคำว่า โลก + อุตริ แปลว่า เกินโลก แปลง่ายๆ ว่า ไม่ใช่เรื่องของโลก เป็นเรื่องของความพยายามที่จะออกไปจากโลก พ้นไปจากโลก ส่วนรายละเอียดมันมาก อย่าให้เขียนเลย (ที่จริงยังเขียนไม่ได้ ยังไม่รู้เรื่องแทงตลอด) วิธีการนั้นก็ไม่น่าจะยาก ตอนนี้กำลังหาคนเคยอ่านพระไตรปิฎกจริงๆ ไม่ได้เอาคำสอนจากครูบาอาจารย์ที่บอกต่อๆ กันมา เพราะเห็นพระสัมมามัมพุทธเจ้าทรงทิ้งไว้เป็นพินัยกรรม อ่านไปก็รู้สึกว่าเจออะไรแปลกๆ โลกุตร มาจากคำว่า โลก + อุตริ แปลว่า เกินโลก แปลง่ายๆ ว่า ไม่ใช่เรื่องของโลก เป็นเรื่องของความพยายามที่จะออกไปจากโลก พ้นไปจากโลก อุตริ อ้อ โลก+อุตริ แปลว่า เกินโลก เพิ่งเคยได้ยิน แล้วสระอิ มาจากไหน คำแปลอุตริ ฟังดูชอบกลนะคร้าบ ไม่ใช่ โลก+อุตร หรือครับ อุตร แปลว่า เหนือ แล้วโลกในที่นี้ได้แก่อะไรครับ |
เจ้าของ: | Supareak Mulpong [ 18 ก.ค. 2009, 18:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
อุตริมนุษย์ก็พวกทำเกินคนนั่นแหละครับ อุตระ หรือ อุตริ อันที่จริงมันก็มาจากรากศัพท์เดียวกันนั้นแหละ เอาเป็นว่า เรื่องอะไรที่ทำแล้วไม่ได้กลับมาเกิดในโลกอีก (ทั้งสามโลก) ก็คือว่าเป็นพุทธแท้ละครับ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ก.ค. 2009, 19:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อ่านพระไตรปิฎก |
อ้างคำพูด: อุตริมนุษย์ก็พวกทำเกินคนนั่นแหละครับ อุตระ หรือ อุตริ อันที่จริงมันก็มาจากรากศัพท์เดียวกันนั้นแหละ เอาเป็นว่า เรื่องอะไร ที่ทำแล้วไม่ได้กลับมาเกิดในโลกอีก (ทั้งสามโลก) ก็คือว่าเป็นพุทธแท้ละครับ คุณ Supareak Mulpong เป็นสมาชิกใหม่เพิ่งเข้าร่วมวันนี้เอง แต่คุณได้ทำให้กรัชกายตลึง ถึงกับต้องเปิดพจนานุกรม อืมม ความรู้ความเข้าใจการตีความข้อธรรมแต่ละท่านๆ ช่างหลากหลายดีจริงๆ เปิดแล้วพบว่างี้ -อุดร ทิศเหนือ เช่น ทิศอุดร = ทิศเหนือ (ปาลี สันสกฤต อุตฺตร) -อุตริ (อุตตะหริ) ว. นอกคอก, นอกทาง, นอกรีต (ปาลี สันสกฤต ว่า ยิ่ง) สังเกตคำแปลที่เป็นปาลี สันสกฤต ในวงเล็บไว้ เค้าว่า (อุตริมนุษย์ ก็พวกทำเกินคน) คงจับแพะกับแกะชนกัน มาจากสิกขาบท ข้อหนึ่งในจำนวน ๔ ข้อ หรือเปล่า ดูสิกขาบทข้อ ๔ ในปาราชิก ๔.ภิกษุอวดอุตริมนุสสธรรม (คือ ธรรมอันยิ่งของมนุษย์) ที่ไม่มีในตน ต้องปาราชิก อุตริมนุสธรรม คุณอย่างยวดยิ่งของมนุษย์ ได้แก่ ธรรมวิเศษ มีการสำเร็จฌาน สำเร็จมรรคผล เป็นต้น (ปาลี อุตฺตริมนุสฺสธมฺม) เมื่อฟังไม่สับจับไปกะเดียดก็สับสน จึงได้เข้าใจผิดว่า (โลกุตร มาจากคำว่า โลก + อุตริ แปลว่า เกินโลก แปลง่ายๆ ว่า ไม่ใช่เรื่องของโลก เป็นเรื่องของความพยายามที่จะออกไปจากโลก พ้นไปจากโลก) เค้าขยายคำว่า โลก คือโลกสาม ยังไม่ชัดว่าโลกสามอะไรบ้าง เคยเห็นแต่โลกุตตรธรรม โลกุตตริธรรม เพิงเคยได้ยินครั้งนี้เป็นครั้งในชีวิต เป็นเรื่องส่วนตัวของSupareak Mulpong แต่เป็นความเห็นหนึ่งที่พึงระมัดระวัง |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |