วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 07:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 70 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 16:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 01:54
โพสต์: 30

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


TAKSA เขียน:
อ้างคำพูด:
"ผู้ไม่รู้"
...แต่วิธีคิดตามหลักเมตตาธรรมในศาสนาพุทธเถรวาท "ไม่ใช่แบบนี้" ครับ...เพราะมีการคำถึงเหตุปัจจัยขณะนั้นเป็นหลักสำคัญประกอบด้วย อย่างที่ท่านยกมาเรื่องนกกินหนอน หรือ แมวกินหนู(เฉพาะกรณีธรรมชาติไม่ใช่สัตว์เลี้ยง)...คงต้องขออนุญาตถามว่า ท่านสามารถระงับเหตุที่รวดเร็วนั้นทันหรือ? (หากไม่ทันก็ต้องว่าเป็นเหตุสุดวิสัย...เมื่อเป็นเหตุสุดวิสัย ก็ต้องยึดหลักอุเบกขา)...และถ้าสมมุติว่าท่านสามารถระงับเหตุได้ทัน เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ตามที่ข้าพเจ้ายกมา..ก็ต้องถามต่อว่า ท่านจะยอมสละอวัยวะของท่าน เพื่อช่วยเหลือให้ฝ่ายหนึ่งได้อิ่มในมื้อนั้น และช่วยเหลือให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รอดชีวิตหรือไม่?...หรือถ้าเป็นกรณีที่สัตว์นั้นไม่สามารถพูดได้ ซึ่งเราก็ไม่รู้ถึงวาระจิตของพวกเขาว่าคิดประการใด...หากฝ่ายหนึ่งต้องการอาฆาตจองเวรต่อท่าน..แล้วท่านพร้อมที่จะรับบาปกรรมนั้น(ทั้งๆที่บาปกรรมนั้นไม่ใช่เรื่องของท่านเลย..เป็นเรื่องระหว่างพวกเขาทั้งสองฝ่าย) :



. ที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมาเพื่อที่จะเปรียบเทียบให้เห็น ถึงจุดประสงค์ในใจของคน ไปตามความเป็นจริง ถ้าท่านจะอ่านเหตุผลของผม ท่านควรจะปล่อยวางข้อมูลที่ท่านศึกษามาเสียก่อน แล้วค่อยลงความเชื่อถือในสิ่งที่เป็นไปได้ ในเหตุผลและที่ผมนำมาหักล้าง
. พอเวลาผมยกตัวอย่างและเหตุผลมาอ้าง ท่านว่าสภาวะขณะนั้นทำไม่ได้ ห้ามไม่ทันหรือไม่ก็เป็นสัตว์เลี้ยง ท่านไม่รู้บางเลยหรือมามันมีสภาวะเดียวกับของท่าน ในความเป็นจริงถ้าเราเดินมาเจอนกกำลังกินหนอนหรือแมลงสาป แทนที่จะไล่นกเปล่าเลยครับกลับทำตรงกันข้าม คือหยุดยืนดูเฉยๆเพราะกลัวนกจะบินหนีไป เพราะในใจมีความรังเกียจหนอนหรือแมลงสาป ซึ่งก็เป็นสัตว์เช่นกัน แล้วการที่ท่านบอกว่าเป็นเหตุเฉพาะหน้า นี่ก็เป็นเหตุผลให้รู้แล้วว่าทำไปโดยสัญชาตญาณ
แล้วท่านคิดว่าผู้ที่จะช่วยลูกนก จะคิดถึงเหตุที่ต้องรับกรรมแทนนี้ทันมั้ย ซึ่งมันสวนทางกับคำที่ท่านบอกว่า ยอมรับกรรมในส่วนนั้น
. การตอบปริศนาของผม ยึดหลักความเป็นจริงและตัวอย่างจากประสบการณ์ แต่คำตอบในใจ
ท่านยึดหลักตามคัมภีร์หรือตำรา ซึ่งผลการตอบจะต้องให้ตรงกับตำรา ผิดจากนี้ถือว่าใม่ใช่
. ท่านบอกว่าท่านคิดตามหลักเถรวาท ผมมีความข้องใจเป็นอย่างมาก เพราะตามหลักคำสอน
แล้ว เรื่องเมตตาธรรมก็มีสอนและเป็นหัวใจหลัก มีเป็นข้อๆไล่เรียงกันไว้แก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้น
หลักคำสอนที่ว่านี้ก็คือพรหมวิหารสี่ ผมจึงอยากให้ท่านบอก ที่มาที่ไปถึงหลักเมตตาธรรมของท่าน
เพื่อความเข้าใจ เพราะรู้สึกว่าเรื่องหลักเมตตาธรรมของเราจะไปกันคนละทาง รบกวนนะครับ :b8:



...ขอคาราวะท่านTaksaครับ...

...ท่านสังเกตุหรือเปล่าครับ ว่าข้าพเจ้าจะเลือกสถานที่สำหรับตั้งคำถามนี้..ไม่ไปตั้งคำถามนี้สะเปะสะปะตามเว๊ปทั่วๆไป...เป็นเพราะอะไรจึงเจาะจงมาที่เว๊ปธรรมมะ?...(ท่านคิดว่าข้าพเจ้าคาดหวังคำตอบแบบไหนกันแน่?)...

...ท่านทราบเหตุผลหรือไม่ว่า ทำไมพระภิกษุซึ่งแตกฉานในพระธรรมทั้งหลาย เช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ชา หลวงปู่เกษม(สุสานไตรลักษณ์) ฯลฯ...จึงต้องออกธุดงค์ และใช้ระยะเวลานานมากๆในการออกธุดงค์แต่ละครั้ง...(เหตุผลคงไม่ใช่การโปรดสัตว์อย่างเดียวหรอกครับ...แต่เกี่ยวพันธ์กับการทดสอบอะไรบางอย่าง ซึ่งเกี่ยวข้องกับความแตกฉานในธรรมซึ่งเรียนรู้มาจากตำรานั่นเอง)...

...โดยส่วนตัว ข้าพเจ้าเชื่อว่า หลักธรรมในศาสนาพุทธนั้น "ลึกซึ้ง-ยิ่งใหญ่-กว้างไกล กว่าศาสนาอื่นๆ"...มีอะไรๆแฝงลึกมากกว่าการท่องจำ ก.เอ๋ย ก.ไก่ ข ไข่อยู่ในเล้า (แต่ถ้าต้องการสอบเลื่อนสมศักดิ์ ก็คงจะจำเป็นที่จะต้องท่องจำ หากเป็นกรณีวัตถุประสงค์อื่น คงต้องถามในตัวเองแล้วว่า ก.เอ๋ย ก.ไก่ ข.ไข่อยู่ในเล้าที่ได้มาจากตำรานั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแบบทดสอบ "ของจริง" (ไม่ใช่ข้อสอบในห้องสอบ) ตัวเราจะสามารถหยิบเอาความรู้นั้น มาประยุกต์ใช้ได้จริงหรือไม่?...และมากน้อยเพียงใด?)...

...ขออนุญาตบังอาจแนะนำท่าน ลองกลับไปศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของพระโพธิ์สัตว์ พระอรหันต์ ตลอดจนพระอัครสาวกทั้งหลายแต่ละองค์..พินิจพิเคราะห์เกี่ยวกับรายละเอียด-หาเหตุผล ในพฤติกรรมต่างๆในเวลาที่ท่านเผชิญปัญหา แล้วท่านได้แก้ไขปัญหานั้นๆอย่างไรบ้าง?...จากนั้นลองกลับมาพิจารณาโจทย์ ที่ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้นเรื่องงูจะกินลูกนก แล้วลองตั้งคำถามในใจว่า หากพระโพธิสัตว์ พระอรหันต์ และพระอัครสาวกทั้งหลาย เมื่อต้องมาเจอกับโจทย์แบบนี้ ท่านจะแก้โจทย์นี้อย่างไร?...เพื่อจะได้เข้าถึงความลึกซึ้งในศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนาครับ...(โดยส่วนตัว ข้าพเจ้าเชื่อว่า ท่านคงจะแก้ไขโจทย์ของจริงนี้ ไม่แตกต่างจากที่ท่านอมิตพุทธได้เคยแก้ไว้ครับ...และต้องขอขอบพระคุณท่านอมิตพุทธ ที่ได้ช่วยชี้ทางสว่างให้ข้าพเจ้า...หากเมื่อข้าพเจ้าต้องเผชิญหน้ากับโจทย์ในลักษณะนี้จริงๆเมื่อใด ข้าพเจ้ายินดีที่จะปฎิบัติตามทางสว่างตามที่ท่านได้ชี้ไว้ครับ)...

:b8: ...ขอความเจริญในธรรมจงดีแด่ท่านผู้ประพฤติธรรมทั้งหลายครับ... :b8:

.....................................................
..." นิพพาน " ไม่ใช่สิ่งที่ถูกค้นพบบนฟูก หากแต่เป็นป่าเขาที่เต็มไปด้วยอันตรายและอสรพิษ...

..." หลักธรรม " ไม่ใช่สิ่งที่ถูกค้นพบในผับหรือสถานเริงรมย์ หากแต่เป็นสองข้างถนนที่เต็มไปด้วยซากศพ และผู้คนที่เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 16:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 01:54
โพสต์: 30

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศิรัสพล เขียน:
ขอตอบเจ้าของกระทู้คุณ "ผู้ไม่รู้" ดังนี้

จากคำถาม ตอบตามจริงที่ควรจะทำ คือ

๑) นกนั้นตายแล้ว

หากนกนั้นตายแล้ว เราควรปล่อยวางเสีย พิจารณาให้เห็นว่านี้หนอ เป็นไปตามกฏแห่งกรรม ความเกิดเป็นทุกข์ ความเจ็บไข้เป็นทุกข์ ความตายเป็นทุกข์ ฯลฯ

๒) นกนั้นยังไม่ตาย

ดูว่าเราสามารถช่วยได้หรือไม่ หากเราเข้าไปช่วยได้ ควรเข้าไปช่วย เพราะเป็นการเอื้อเฟื้อต่อนกเอง ไม่ให้ถูกฆ่า และเป็นการยับยั้งไม่ให้งูก่อบาปกรรมในเหตุการณ์นี้ต่อไป ซึ่งเป็นเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย

แต่หากเราไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ เช่น เราอยู่ไกลมาก, เราเป็นคนอัมพาต เป็นต้น ควรปล่อยวางเสีย พิจารณาอย่างที่กล่าวแล้วในกรณีนกนั้นได้ตายไปแล้วนั่นเอง

"เราหยุดแล้ว ท่านละหยุดหรือยัง"

ขอให้เจริญในธรรม



:b8: ...สาธุ สาธุ สาธุ ท่านกล่าวไว้ดีแล้ว ข้าพเจ้าขออนุโมทนา... :b8:

.....................................................
..." นิพพาน " ไม่ใช่สิ่งที่ถูกค้นพบบนฟูก หากแต่เป็นป่าเขาที่เต็มไปด้วยอันตรายและอสรพิษ...

..." หลักธรรม " ไม่ใช่สิ่งที่ถูกค้นพบในผับหรือสถานเริงรมย์ หากแต่เป็นสองข้างถนนที่เต็มไปด้วยซากศพ และผู้คนที่เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 19:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องพระโพธิสัตว์ที่ยกมา มันมีเงื่อนไขสำคัญอันหนึ่งคือ นกนั้นบินเข้ามาหา เสมือนขอความช่วยเหลือ
แต่เหตุการณ์ที่ตั้งเป็นกระทู้นั้น เราเป็นเพียงผู้พบเห็น โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ การจะเข้าแทรกแซงนั้นจึงไม่สมควร ยกเว้นว่า มีเหตุที่เกี่ยวเนื่องกันมาก่อน เช่น เป็นนกในอุปการะ หรือเราเป็นเจ้าของงู และงูของเรากำลังกินนกของ ผบ.ทบ.

และหากจะมองกันจริงๆ หากเลือกเข้าไปช่วยนก ก็ไม่ใช่เป็นความเมตตาแต่อย่างใด แต่เป็นการเลือกที่รักมักที่ชัง ที่มากับวัฒนธรรมที่ว่า งูคือผู้ร้าย นกคือผู้ดี ถ้าลองสมมุติเหตุการณ์ว่า นกเหยี่ยวกำลังจับงูล่ะ...
ความเมตตาแบบพระโพธิสัตว์นั้น ไม่เลือกชนิดของสัตว์ ไม่เลือกบุคคล
เสือกำลังล่ากวาง เราอาจจะสงสารกวางมาก แต่หากเราคิดให้มากขึ้น เสือก็มีครอบครัวของเสือ (ถ้ามันพูดได้ มันคงพูดว่า ฉันเลือกเกิดไม่ได้) และในโลกความจริง (นอกทีวี) ความสำเร็จในการล่าของสัตว์ชนิดต่างๆ นั้น ไม่ได้มากมายนัก กวางที่เสือล่าได้ อาจเป็นตัวแรกในรอบอาทิตย์ก็ได้

การวางเฉยต่อการล่ากันของสัตว์ต่างๆ นั้น (ในกรณีที่เราเป็นเพียงผู้พบเห็น) ไม่ใช่ อุเบกขา และไม่ใช่การเห็นเป็นเรื่องของ กฎแห่งกรรม แต่เป็นการคิดแล้วว่า การเข้าไปแทรกแซงนั้น จะส่งผลกระทบในอีกทางหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...

เพิ่มเติม: สัตว์จะล่าเมื่อหิวเท่านั้น มีแต่คนเท่านั้นที่ล่าแบบเล่นๆ


แก้ไขล่าสุดโดย murano เมื่อ 20 ก.ค. 2009, 19:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 19:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วถ้างูตัวนี้หากไม่ได้กินลูกนกตัวนี้ มันจะตายละ คือหิวมาหลายวันแล้ว ไม่มีไรตกถึงท้องเลย หากไปช่วยลูกนก งูก็ทนหิวแย่เลยนสิ
คิดว่า หากเราเป็นงู มีคนมาแบบนี้กับเรา เราจะรู้สึกยังไง หรือว่ามีผู้หวังดี กะช่วยนก แล้วช่วยงูด้วย แบกงูไปสัตวแพทย์ ฉีดสารอาหารเข้าร่างกายมัน แล้วค่อยปล่อยมันไป ยังงั้นหรอป่าว :b16: :b16: :b16: :b16: :b16: :b16: เหตุผลนึงที่เลือกช่วยลูกนก ก้เพราะลูกนกอ่อนแอ ส่วนงูเป็นสัตว์ดุร้าย น่าเกลียดน่ากลัว มีกำลังมากกว่า และคิดว่าการที่ช่วยสัตว์อ่อนแอ ย่อมได้บุญมากกว่า ดูเฉยๆ หรือปล่อยให้งูกินอย่างอร่อยเอร็ด ซึ่งผมเองก็ไม่ร้เหมือนกันจะได้บุญมาก หรือน้อย หรือไม่ได้ หรือเป็นเพราะพรหมวิหารธรรม.....ใครอยากช่วยก็ช่วย... ใครไม่อยากช่วยก็ไม่ช่วย :b40: :b40:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 19:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
การวางเฉยต่อการล่ากันของสัตว์ต่างๆ นั้น (ในกรณีที่เราเป็นเพียงผู้พบเห็น) ไม่ใช่ อุเบกขา และไม่ใช่การเห็นเป็นเรื่องของ กฎแห่งกรรม แต่เป็นการคิดแล้วว่า การเข้าไปแทรกแซงนั้น จะส่งผลกระทบในอีกทางหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...


ชอบการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการไม่แทรกแซงของคุณค่ะ
มันคือมุมมองที่ว่า เราจะแบ่งพื้นที่บนโลกนี้ ให้ทั้งผู้ล่า และผู้ถูกล่า ได้มีโอกาสแสวงหาทางรอด...
ในขอบเขตอันเหมาะสมของตนค่ะ
ขอบเขตอันเป็นไปเพื่อยังชีพตามปกติสุขของพวกเขา...
นกเอง ก็กินแมลง กินไส้เดือน ...
ถ้าเราเห็นนกจะกินไส้เดือน เราจะช่วยไส้เดือนหรือไม่ค่ะ

:b16: :b16: :b16:

สำหรับเราแล้ว ถ้านั่นคือการล่าเพื่อยังชีพตามปกติสุขของสรรพสัตว์
เราเห็นว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรแทรกแซงค่ะ
แต่ถ้าการล่านั้น เป็นไม่เป็นไปเพื่อการยังชีพตามปกติ แต่เป็นไปเพื่อสนองตัณหา
กระทำไปตามครรลองที่อวิชาครอบงำอยู่
เราเห็นว่า สิ่งนี้ซะอีก...ที่ผู้มีปัญญาพึงพิจารณาที่จะใช้ปัญญาที่มี เข้ามาแทรกแซง
ตามกำลังของตน
การแสดงความเมตตา ต้องถูกเรื่อง ถูกที่ ถูกทาง และถูกเวลา...ค่ะ

:b14: :b14: :b14:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 20:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2009, 11:50
โพสต์: 147

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ไม่รู้ เขียน:
[
...โดยส่วนตัว ข้าพเจ้าเชื่อว่า หลักธรรมในศาสนาพุทธนั้น "ลึกซึ้ง-ยิ่งใหญ่-กว้างไกล กว่าศาสนาอื่นๆ"...มีอะไรๆแฝงลึกมากกว่าการท่องจำ ก.เอ๋ย ก.ไก่ ข ไข่อยู่ในเล้า (แต่ถ้าต้องการสอบเลื่อนสมศักดิ์ ก็คงจะจำเป็นที่จะต้องท่องจำ หากเป็นกรณีวัตถุประสงค์อื่น คงต้องถามในตัวเองแล้วว่า ก.เอ๋ย ก.ไก่ ข.ไข่อยู่ในเล้าที่ได้มาจากตำรานั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแบบทดสอบ "ของจริง" (ไม่ใช่ข้อสอบในห้องสอบ) ตัวเราจะสามารถหยิบเอาความรู้นั้น มาประยุกต์ใช้ได้จริงหรือไม่?...และมากน้อยเพียงใด?)...

...ขออนุญาตบังอาจแนะนำท่าน ลองกลับไปศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของพระโพธิ์สัตว์ พระอรหันต์ ตลอดจนพระอัครสาวกทั้งหลายแต่ละองค์..พินิจพิเคราะห์เกี่ยวกับรายละเอียด-หาเหตุผล ในพฤติกรรมต่างๆในเวลาที่ท่านเผชิญปัญหา แล้วท่านได้แก้ไขปัญหานั้นๆอย่างไรบ้าง?...จากนั้นลองกลับมาพิจารณาโจทย์ ที่ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้นเรื่องงูจะกินลูกนก แล้วลองตั้งคำถามในใจว่า หากพระโพธิสัตว์ พระอรหันต์ และพระอัครสาวกทั้งหลาย เมื่อต้องมาเจอกับโจทย์แบบนี้ ท่านจะแก้โจทย์นี้อย่างไร?...เพื่อจะได้เข้าถึงความลึกซึ้งในศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนาครับ...(โดยส่วนตัว ข้าพเจ้าเชื่อว่า ท่านคงจะแก้ไขโจทย์ของจริงนี้ ไม่แตกต่างจากที่ท่านอมิตพุทธได้เคยแก้ไว้ครับ...และต้องขอขอบพระคุณท่านอมิตพุทธ ที่ได้ช่วยชี้ทางสว่างให้ข้าพเจ้า...หากเมื่อข้าพเจ้าต้องเผชิญหน้ากับโจทย์ในลักษณะนี้จริงๆเมื่อใด ข้าพเจ้ายินดีที่จะปฎิบัติตามทางสว่างตามที่ท่านได้ชี้ไว้ครับ)...

ท่านผู้ไม่รู้ครับ วันนี้ผมนั่งครุ่นคิดอยู่เกือบทั้งวัน ว่าทำไมหนอใจเราถึงไม่ยอมรับ กับความเห็นของ
ท่านเรื่องการรับกรรมแทนคนอื่น ดูแล้วมันเป็นคุณธรรม ความดีที่ควรชื่นชมหรือว่าเราเป็นคนไม่ดีพอ
จึงไม่เข้าใจกับธรรมข้อนี้ ลองสมมุติเอาตัวเราลงไปในเหตุการณ์ ทำใจให้คล้อยตามไป ทำอย่าง
ไรก็ไม่ได้ มันรู้สึกติดๆขัดๆฝืนๆอย่างไรไม่รู้ จึงเลิกทำตั้งสติซักพักก็คิดได้ว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับเมตตาธรรมเพียงอย่างเดียว และเรามุ่งตรงให้เกิดเมตตาธรรมเท่าเทียมกันไม่ว่าจะงูหรือลูกนก มันจึงทำให้เราหยุดอยู่แค่เรื่องเมตตา ไม่ได้เลยไปถึงเรื่องยอมรับกรรมแทน
แล้วก็มาแปลกใจนะครับว่า ที่ว่ายอมรับกรรมแทน ไปรับกรรมแทนใครครับ ถ้าจะให้ถูกต้องเรียกว่ากำลังทำกรรม ทำกับใครหรือครับก็งูไงละครับ การที่ท่านยกเอาเรื่องกฏแห่งกรรมมาผสมปนเป
กับเรื่องเมตตา จึงทำให้เราต้องถกกันยาว
. แล้วเรื่องที่ท่านนำมาเป็นคำถามแท้ที่จริงแล้วมันเป็นเพียง กุศโลบายเพื่อที่จะสอนคนให้มี
เมตตาธรรม โดยยกเรื่องพระโพธิสัตว์กับพญานกขึ้นมา เน้นการเสียสละเพื่อส่งเสริมเมตตาธรรม
ในเรื่องนี้ผู้ได้ผลกระทบมีเพียงผู้เดียว คือพระโพธิสัตว์แต่ท่านยอมจึงได้เป็นผู้เสียสละ
. ถ้าเราดูตามเรื่องพระโพธิสัตว์มันก็ไม่ยุ่งอยู่แล้ว เพราะธรรมแต่ละตัวมันส่งเสริมกันไปในทางเดียวกัน แต่ที่มันยุ่งเกิดจากการที่ ท่านดัดแปลงเรื่องราวเรานี้แล้วมาตั้งคำถาม ทำให้คำตอบที่ท่านต้องการมันขัดๆฝืนๆยังไงไม่รู้
. ที่ท่านคล้ายจะบอกว่าผมปฎิบัติธรรมตามตำรา อันนี้ผมขอปฏิเสธครับ ผมศึกษาพระธรรมแก่หลักธรรมแล้วนำไปปฏิบัติให้เห็นจริงครับ ท่านไม่สังเกตุเลยหรือครับ ในความเห็นผมจะยกเรื่องจิตมาให้ความเห็นจนท่านกลัวว่าเป็นประเด็นใหม่ และขอโทษนะครับที่จะต้องบอกว่า ผมไม่ค่อยสนใจเลยกับการอ้างคัมภีร์หรือนิทานชาดกเรื่องโพธิสัตว์ต่างๆ เพราะมันดูเหมือนปฏิบัติธรรมตามตำราอย่างที่ท่านบอก
. ท่านทราบไหมครับสมัยโบราณ เขาจะสอนธรรมมะกันแต่ละที่ จะต้องยกอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
มาอ้างอิงด้วยเพื่อให้ผู้ศึกษาเกิดความกลัว จะได้เชื่อและปฏิบัติตามหลักธรรมนั้น และยังมีอีกวิธีคือ นำบุคคลมาสมมุติให้เป็นผู้วิเศษดีเลิศเกินมนุษย์ มีคุณธรรมเกินคน สามารถทำทุกอย่างได้แม้
มันจะดูขัดกับความเป็นจริง มองดูคล้ายๆกับอุปนิสัยของคนในคำตอบของท่าน คนอาไรชั่งอยู่เหนือความคาดหมาย จินตนาการณ์นี้มหัศจรรย์พรรณลึกเสียจริงๆ
ถามจริงๆครับท่านเอา เนื้อหาคำสอนของทางมหายานมาปนหรือเปล่าครับ?
. ต้องกราบขอโทษนะครับถ้ามีบางคำไม่พอใจถือเป็นการหยอกล้อกันนะครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 20:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ไม่รู้ เขียน:
คำถาม : เมื่อท่านเห็นงูกำลังจะกินลูกนก ท่านจะทำอย่างไร?...

ก.) ปล่อยให้งูกินลูกนก เพราะยึดถือคำสอนที่ว่า "...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม..."

ข.) ช่วยไล่งูให้ไปไกลๆจากลูกนก เพราะยึดถือคำสอนที่ว่า "...เมตตาธรรมค้ำจุนโลก..."

ค.) เลือกข้อใดข้อหนึ่ง ระหว่างข้อ ก. หรือ ข้อ ข. แต่มีเหตุผลเป็นอย่างอื่น! (...โปรดแสดงเหตุผลที่เป็นธรรมะของท่าน...)

ง.)ไม่เลือกทั้งข้อ ก. หรือ ข้อ ข. (...แล้วท่านจะทำอย่างไรกับกรณีนี้...โปรดแสดงเหตุผลที่เป็นหลักธรรมของท่าน...)


...ขอท่านผู้เจริญ ได้โปรดชี้ทางสว่างให้ข้าพเจ้า " ผู้ไม่รู้ " ด้วยครับ...



คำถาม : เมื่อท่านเห็นงูกำลังจะกินลูกนก ท่านจะทำอย่างไร?...

คำตอบ ไม่เลือกเลยสักข้อเดียวค่ะ เหตุผลคือ

1. ก.) ปล่อยให้งูกินลูกนก เพราะยึดถือคำสอนที่ว่า "...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

ข้อนี้ สำหรับตัวเองนะคะ ไม่ได้ยึดคำสอนในเรื่องสัตว์โลกเป็นไปตามกรรม แต่ถ้าเห็นจริงๆ

เห็นต่อหน้าต่อตาว่างูกำลังจะกินลูกนก หากมีอะไรพอเป็นอาวุธได้ ก็จะช่วยลูกนกทันที ..

ก็เลยไม่เลือกตอบข้อก.ไก่ค่ะ

2.ข.) ช่วยไล่งูให้ไปไกลๆจากลูกนก เพราะยึดถือคำสอนที่ว่า "...เมตตาธรรมค้ำจุนโลก

ข้อนี้ไม่เลือกค่ะ เพราะไม่ได้คิดถึงเรื่องเมตตาธรรมค้ำจุนโลก ถ้าจะช่วยก็เพราะเห็นว่าช่วยได้ค่ะ

3.ค.) เลือกข้อใดข้อหนึ่ง ระหว่างข้อ ก. หรือ ข้อ ข. แต่มีเหตุผลเป็นอย่างอื่น!

(...โปรดแสดงเหตุผลที่เป็นธรรมะของท่าน...) คำตอบที่ตอบไปคือเหตุที่ไม่เลือกทั้งสองข้อ

4.ง.)ไม่เลือกทั้งข้อ ก. หรือ ข้อ ข. (...แล้วท่านจะทำอย่างไรกับกรณีนี้...

โปรดแสดงเหตุผลที่เป็นหลักธรรมของท่าน...)

เหตุที่ไม่เลือกทั้งสองข้อ เพราะเหตุผลที่คุณตั้งเอาไว้ ว่าช่วยเพราะอะไร ไม่ช่วยเพราะอะไรน่ะค่ะ

เพราะมันไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ในการที่เราต้องการจะช่วยลูกนก ..

หลักธรรมไม่มีอะไรมากค่ะ ถ้าเกิดเหตุการณ์ตรงหน้าจริงๆ ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่แรกคือ

ต้องมีอาวุธที่จะไล่งูให้ไปพ้นจากลูกนกได้ แต่ไม่คิดจะทำร้ายงู คือ ปล่อยให้เป็นอิสระทั้งคู่

แล้วถ้าไม่มีอาวุธที่จะช่วยได้เลยจริงๆ ... ยืนแผ่เมตตาให้ค่ะ ให้ทั้งลูกนก และให้ทั้งงู

เพราะเชื่อในเหตุที่เกิดขึ้นและผลที่ได้รับของงูกับลูกนก หากเขาทั้งสองไม่มีวิบากร่วมกันคง

ไม่มาฆ่ากันหรอกค่ะ งูคงต้องไปฆ่าลูกนกตัวอื่น แทนที่จะมาฆ่าลูกนกตัวนี้

ทุกอย่างมันมีเหตุปัจจัยให้เกิดค่ะ ..

ขนาดแย่งลูกนกจากปากแมว ยังแย่งมาแล้วเลยค่ะ แย่งมาได้ก็นำลูกนกไปห่อผ้าเอาไว้

พอเช้าขึ้นมา เขาก็บินไปเอง ...

จิ้งจกยังแย่งมาจากแมวเลย จิ้งจกฉลาดมากๆนะคะ เวลาแมวเอาเท้าเขี่ยเขาไปมา

เขาจะแกล้งทำเป็นตาย เรานั่งมองอยู่ เสร็จแล้วเราก็จับเจ้าเหมียวไว้ สักพัก จิ้งจกเขาก็วิ่งหนีไปได้

การช่วยเหลือไม่ว่าคนหรือสัตว์ที่กำลังลำบาก บางครั้งมันไม่ต้องมีเหตุผลในการช่วยหรอกค่ะ

ช่วยเพราะเห็นว่าช่วยได้เท่านั้นเอง ทำไมคนอื่นเห็นแล้วไม่ช่วย ทำไมเราเห็นเราถึงต้องช่วย

ทุกอย่างมีเหตุปัจจัยค่ะ ถ้ากล่าวในแง่ของเหตุและผลนะคะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 20:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อิ อิ อิ

งู นก คน ... กำลังพยายามเจรจากันอยู่
ปรากฎว่าเจ้ายักษ์ย่องมาข้างหลัง...
จับกินเรียบทั้งสามตัวเลยครับ...

:b16: :b16: :b16:

คราวนี้จะช่วยใครดีล่ะครับ

ช่วยผมด้วย ผมเผลอกินโพธิสัตว์ไปแล้วววววว

:b2: :b2: :b2:

:b9: :b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 21:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็นก+งู+คน จับมือกันไง จะได้กินยักษ์แทน
ยักษ์ตัวใหญ่ก้จริง แต่ความคิดคงไม่ทันสัตว์เล็กๆหรอก
ว่าแต่ใช้ยักษ์ในตะเกียงรึป่าว ที่ถูกมนุษย์สั่งให้ปีนต้นเสาสูง
ปีนขึ้น ปีนลง ไม่ร้จักหยุดอะ :b39: :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อินทรีย์5 เขียน:
ก็นก+งู+คน จับมือกันไง จะได้กินยักษ์แทน
ยักษ์ตัวใหญ่ก้จริง แต่ความคิดคงไม่ทันสัตว์เล็กๆหรอก
ว่าแต่ใช้ยักษ์ในตะเกียงรึป่าว ที่ถูกมนุษย์สั่งให้ปีนต้นเสาสูง
ปีนขึ้น ปีนลง ไม่ร้จักหยุดอะ :b39: :b32: :b32: :b32:


หึ หึ หึ โธ่ ก็ยักษ์..หยอกเล่นน่ะ
แค่เอาเข้าปาก ยังไม่ทันได้เคี้ยวสักหน่อย
คายก็ได้... :b9: :b9: :b9:

นึกไม่ถึงว่าจะมีคนลงมาบ้าจี้เล่นกับมุขไร้สาระของผม

:b4: :b4: :b4:

จริง ๆ ตอนที่ผมมาลงมาดู ผมดันนึกแทน
นก งู คน ที่ชีวิตจิตใจของเขาคือพระธรรม
และ ยักษ์คือผู้ที่จะมาทำลายชีวิตของพวกเขา...ทั้งสาม
ผมก็อยากรู้ว่าเมื่อถึงตอนนั้น ใครจะมีความคิดยังไง

ผมก็ลุ้นดูว่าจะมีผู้มีปัญญาผู้ใด จับไต๋ผมได้...

ก็นก+งู+คน จับมือกันไง จะได้กินยักษ์แทน
ยักษ์ตัวใหญ่ก้จริง แต่ความคิดคงไม่ทันสัตว์เล็กๆหรอก


อิ อิ :b4: :b4:

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 22:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 01:54
โพสต์: 30

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แล้วก็มาแปลกใจนะครับว่า ที่ว่ายอมรับกรรมแทน ไปรับกรรมแทนใครครับ ถ้าจะให้ถูกต้องเรียกว่ากำลังทำกรรม ทำกับใครหรือครับก็งูไงละครับ การที่ท่านยกเอาเรื่องกฏแห่งกรรมมาผสมปนเป
กับเรื่องเมตตา จึงทำให้เราต้องถกกันยาว
. แล้วเรื่องที่ท่านนำมาเป็นคำถามแท้ที่จริงแล้วมันเป็นเพียง กุศโลบายเพื่อที่จะสอนคนให้มี
เมตตาธรรม โดยยกเรื่องพระโพธิสัตว์กับพญานกขึ้นมา เน้นการเสียสละเพื่อส่งเสริมเมตตาธรรม
ในเรื่องนี้ผู้ได้ผลกระทบมีเพียงผู้เดียว คือพระโพธิสัตว์แต่ท่านยอมจึงได้เป็นผู้เสียสละ
. ถ้าเราดูตามเรื่องพระโพธิสัตว์มันก็ไม่ยุ่งอยู่แล้ว เพราะธรรมแต่ละตัวมันส่งเสริมกันไปในทางเดียวกัน แต่ที่มันยุ่งเกิดจากการที่ ท่านดัดแปลงเรื่องราวเรานี้แล้วมาตั้งคำถาม ทำให้คำตอบที่ท่านต้องการมันขัดๆฝืนๆยังไงไม่รู้
. ที่ท่านคล้ายจะบอกว่าผมปฎิบัติธรรมตามตำรา อันนี้ผมขอปฏิเสธครับ ผมศึกษาพระธรรมแก่หลักธรรมแล้วนำไปปฏิบัติให้เห็นจริงครับ ท่านไม่สังเกตุเลยหรือครับ ในความเห็นผมจะยกเรื่องจิตมาให้ความเห็นจนท่านกลัวว่าเป็นประเด็นใหม่ และขอโทษนะครับที่จะต้องบอกว่า ผมไม่ค่อยสนใจเลยกับการอ้างคัมภีร์หรือนิทานชาดกเรื่องโพธิสัตว์ต่างๆ เพราะมันดูเหมือนปฏิบัติธรรมตามตำราอย่างที่ท่านบอก
. ท่านทราบไหมครับสมัยโบราณ เขาจะสอนธรรมมะกันแต่ละที่ จะต้องยกอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
มาอ้างอิงด้วยเพื่อให้ผู้ศึกษาเกิดความกลัว จะได้เชื่อและปฏิบัติตามหลักธรรมนั้น และยังมีอีกวิธีคือ นำบุคคลมาสมมุติให้เป็นผู้วิเศษดีเลิศเกินมนุษย์ มีคุณธรรมเกินคน สามารถทำทุกอย่างได้แม้
มันจะดูขัดกับความเป็นจริง มองดูคล้ายๆกับอุปนิสัยของคนในคำตอบของท่าน คนอาไรชั่งอยู่เหนือความคาดหมาย จินตนาการณ์นี้มหัศจรรย์พรรณลึกเสียจริงๆ
ถามจริงๆครับท่านเอา เนื้อหาคำสอนของทางมหายานมาปนหรือเปล่าครับ?
. ต้องกราบขอโทษนะครับถ้ามีบางคำไม่พอใจถือเป็นการหยอกล้อกันนะครับ
:b8:


...คาราวะท่าน Taksa อีกครั้งครับ...

1.) ...การนำเรื่องกฏแห่งกรรมมาผสมปนเปกับเรื่องเมตตา...

ขอตอบว่าถูกต้องแล้วครับ..ข้าพเจ้านำมาผสมกัน เพราะทุกๆอย่างในโลกนั้น "มีความสลับซับซ้อนเช่นนี้จริงๆ" ครับ...แตกต่างจากโลกในจินตนาการหรือมโนภาพที่ปัจเจกชนได้วาดเอาไว้

2.) ...แล้วเรื่องที่ท่านนำมาเป็นคำถามแท้ที่จริงแล้วมันเป็นเพียง กุศโลบายเพื่อที่จะสอนคนให้มี
เมตตาธรรม โดยยกเรื่องพระโพธิสัตว์กับพญานกขึ้นมา เน้นการเสียสละเพื่อส่งเสริมเมตตาธรรม...

ขอตอบว่า ท่านแน่ใจแล้วหรือว่าโจทย์ข้อนี้เป็นเพียงแค่กุศโลบาย...ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้จริงในโลกแห่งความเป็นจริง?...ข้าพเจ้าได้เคยเขียนบอกไว้แต่แรกแล้ว ว่ากรณีดังกล่าว เมื่อเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาผู้ใด จะได้ตัดสินใจกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้ถูกต้องทันท่วงที (เป็นไปตามหลักคำสอน ซึ่งพระองค์เคยสอนว่า "อย่าตั้งอยู่ในความประมาท" ครับ)

3.) ...ถ้าเราดูตามเรื่องพระโพธิสัตว์มันก็ไม่ยุ่งอยู่แล้ว เพราะธรรมแต่ละตัวมันส่งเสริมกันไปในทางเดียวกัน แต่ที่มันยุ่งเกิดจากการที่ ท่านดัดแปลงเรื่องราวเรานี้แล้วมาตั้งคำถาม ทำให้คำตอบที่ท่านต้องการมันขัดๆฝืนๆยังไงไม่รู้...

ขอตอบว่า "ด้วยความสัตย์จริง..ข้าพเจ้าตั้งโจทย์ข้อนี้ขึ้นมาด้วยตัวเองจริงๆ ไม่ได้ไปดัดแปลงมาจากที่ใด" ตั้งใจจะถามใจตัวเอง แต่ไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้ จึงได้นำโจทย์ข้อนี้มาสอบถามท่านผู้เจริญในนี้...เพียงแต่ตัวท่าน Taksa ตกอยู่ในภาวะเดียวกันกับข้าพเจ้าในตอนแรก...คือ " ภาวะเป็นผู้ไม่รู้ " สับสนแบบเดียวกันกับข้าพเจ้า คือไม่รู้ว่าควรจะเลือกข้อ ก หรือ ข หรือ ค หรือ ง นั่นเอง...ต่อเมื่อท่านอมิตพุทธได้กรุณาชี้ทางสว่างให้กับข้าพเจ้า (ซึ่งตามความเป็นจริงข้าพเจ้าต้องรู้คำตอบนี้ เพราะเป็นสิ่งที่เคยรู้มาก่อน เพียงแต่หลงลืมไป...แล้วท่านอมิตพุทธก็ได้มาสะกิดต่อมความจำให้ทำหน้าที่อีกครั้งนั่นเองครับ)

ส่วนเรื่องที่ท่านกล่าวว่า.."ธรรมแต่ละตัวมันส่งเสริมกันไปในทางเดียวกัน"...คำกล่าวนี้เป็นความจริงหรือท่าน?...ท่านแน่ใจแล้วหรือจึงกล่าวเช่นนี้?...แค่ตรงจุดนี้ก็ขัดกับความรู้ที่ข้าพเจ้าได้รู้มาไปไกลแล้วนะท่าน!!!...(ตามที่ข้าพเจ้าทราบมา มันมีเรื่องของกรณีเข้ามาเกี่ยวพันธ์ด้วยนะท่าน...คำกล่าวของท่านคงจะไม่เสมอไปทุกกรณีหรอกครับ ตัวอย่างเห็นๆก็กรณีตามโจทย์ที่ข้าพเจ้ายกมาแสดงไว้นี้งัยครับ)


4.) ...ท่านไม่สังเกตุเลยหรือครับ ในความเห็นผมจะยกเรื่องจิตมาให้ความเห็นจนท่านกลัวว่าเป็นประเด็นใหม่ และขอโทษนะครับที่จะต้องบอกว่า ผมไม่ค่อยสนใจเลยกับการอ้างคัมภีร์หรือนิทานชาดกเรื่องโพธิสัตว์ต่างๆ เพราะมันดูเหมือนปฏิบัติธรรมตามตำราอย่างที่ท่านบอก...

ขอถามว่า...ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอถามท่านว่า ในกรณีของโจทย์ที่ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้นมานี้..ระหว่าง " อุเบกขาปล่อยวางให้งูได้กินลูกนก " กับ " เมตตาธรรมค้ำจุนโลก (ซึ่งแม้แต่พระพุทธศาสนาเอง ก็ยังถือกำเนิดขึ้นมาจากเมตตาธรรม) "...สิ่งไหนจะสูงส่ง และ สูงที่สุดกว่ากัน??? (เฉพาะในกรณีที่เป็นโจทย์ของข้าพเจ้า)...

5.) ...ผมไม่ค่อยสนใจเลยกับการอ้างคัมภีร์หรือนิทานชาดกเรื่องโพธิสัตว์ต่างๆ เพราะมันดูเหมือนปฏิบัติธรรมตามตำราอย่างที่ท่านบอก...

ขอถามว่า...หากท่านไม่ปฏิบัติธรรมตามตำรา..แล้วท่านปฏิบัติธรรมตามอะไร???...หมายถึง ท่านใช้อะไรเป็นหลักยึดเกาะ? ...ความเชื่อ+การตีความ+ความเข้าใจส่วนตัว หรือ ว่าท่านยึดตัวบุคคลที่ท่านเคารพเป็นแบบอย่าง...หากท่านยึดถือที่ตัวบุคคล ก็ขอถามท่านต่อว่า บุคคลซึ่งเป็นแบบอย่างของท่าน ท่านนั้นเป็นผู้ใด? ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?...หากว่าสิ้นอายุขัยหรือมรณะภาพไปแล้ว ท่านนั้นกระดูกเป็นอย่างไร? (กระดูกกลายสภาพเป็นพระธาตุ หรือ เหมือนกระดูกเหมือนของคนธรรมดา?)

6.) ...ท่านทราบไหมครับสมัยโบราณ เขาจะสอนธรรมมะกันแต่ละที่ จะต้องยกอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
มาอ้างอิงด้วยเพื่อให้ผู้ศึกษาเกิดความกลัว จะได้เชื่อและปฏิบัติตามหลักธรรมนั้น และยังมีอีกวิธีคือ นำบุคคลมาสมมุติให้เป็นผู้วิเศษดีเลิศเกินมนุษย์ มีคุณธรรมเกินคน สามารถทำทุกอย่างได้แม้
มันจะดูขัดกับความเป็นจริง มองดูคล้ายๆกับอุปนิสัยของคนในคำตอบของท่าน คนอาไรชั่งอยู่เหนือความคาดหมาย จินตนาการณ์นี้มหัศจรรย์พรรณลึกเสียจริงๆ
ถามจริงๆครับท่านเอา เนื้อหาคำสอนของทางมหายานมาปนหรือเปล่าครับ?...

ขอถามท่านว่า เรื่องโจทย์คำถามที่ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้นมานั้น..." มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ อยู่ตรงไหน??? " ...เมื่อท่านตอบโจทย์ที่ข้าพเจ้าตั้งขึ้นมาไม่ได้เหมือนกับท่านอมิตพุทธ ท่านก็คือ " ผู้ไม่รู้ " เหมือนกันกับข้าพเจ้า ก็ไม่ควรจะพาลผู้อื่นนะท่าน...เราคือผู้ปฏิบัติธรรม อะไรที่เรารู้จริงรู้แจ้ง..ก็บอกว่าเรารู้..อะไรที่เราไม่รู้ ก็บอกออกไปตามความจริงว่าเราไม่รู้..ก็เท่านั้น..ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายหรอกท่าน..กลับได้ความรู้จากผู้อื่นที่เขารู้มากกว่าเรา หรือมาสะกิดต่อมความรู้ที่หลงลืมไปของเรา แบบเดียวกับที่ท่านอมิตพุทธได้ชี้ทางให้ข้าพเจ้านั่นงัย...กลับจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเราซะอีก...จริงมั๊ยท่านผู้เจริญ...

:b8: ขอคาราวะต่อท่านผู้เจริญในธรรมทุกท่านครับ :b8:

.....................................................
..." นิพพาน " ไม่ใช่สิ่งที่ถูกค้นพบบนฟูก หากแต่เป็นป่าเขาที่เต็มไปด้วยอันตรายและอสรพิษ...

..." หลักธรรม " ไม่ใช่สิ่งที่ถูกค้นพบในผับหรือสถานเริงรมย์ หากแต่เป็นสองข้างถนนที่เต็มไปด้วยซากศพ และผู้คนที่เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 22:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 01:54
โพสต์: 30

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


yahoo เขียน:
อินทรีย์5 เขียน:
ก็นก+งู+คน จับมือกันไง จะได้กินยักษ์แทน
ยักษ์ตัวใหญ่ก้จริง แต่ความคิดคงไม่ทันสัตว์เล็กๆหรอก
ว่าแต่ใช้ยักษ์ในตะเกียงรึป่าว ที่ถูกมนุษย์สั่งให้ปีนต้นเสาสูง
ปีนขึ้น ปีนลง ไม่ร้จักหยุดอะ :b39: :b32: :b32: :b32:


หึ หึ หึ โธ่ ก็ยักษ์..หยอกเล่นน่ะ
แค่เอาเข้าปาก ยังไม่ทันได้เคี้ยวสักหน่อย
คายก็ได้... :b9: :b9: :b9:

นึกไม่ถึงว่าจะมีคนลงมาบ้าจี้เล่นกับมุขไร้สาระของผม

:b4: :b4: :b4:

จริง ๆ ตอนที่ผมมาลงมาดู ผมดันนึกแทน
นก งู คน ที่ชีวิตจิตใจของเขาคือพระธรรม
และ ยักษ์คือผู้ที่จะมาทำลายชีวิตของพวกเขา...ทั้งสาม
ผมก็อยากรู้ว่าเมื่อถึงตอนนั้น ใครจะมีความคิดยังไง

ผมก็ลุ้นดูว่าจะมีผู้มีปัญญาผู้ใด จับไต๋ผมได้...

ก็นก+งู+คน จับมือกันไง จะได้กินยักษ์แทน
ยักษ์ตัวใหญ่ก้จริง แต่ความคิดคงไม่ทันสัตว์เล็กๆหรอก


อิ อิ :b4: :b4:

:b8: :b8: :b8:



:b8: ...คาราวะท่านผู้เจริญครับ... :b8:

...ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุผล และความเข้าใจ...ปัญหาอยู่ตรงความเข้าใจนี่แหละครับ...คนล่ะทาง สองทาง ก็ว่ากันไปนะท่านนะ...

.....................................................
..." นิพพาน " ไม่ใช่สิ่งที่ถูกค้นพบบนฟูก หากแต่เป็นป่าเขาที่เต็มไปด้วยอันตรายและอสรพิษ...

..." หลักธรรม " ไม่ใช่สิ่งที่ถูกค้นพบในผับหรือสถานเริงรมย์ หากแต่เป็นสองข้างถนนที่เต็มไปด้วยซากศพ และผู้คนที่เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 22:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



ก็ว่ากันไปตามความคิดของแต่ละคนอ่ะนะ ...

ไม่มีใครถูกหรือผิดหรอกค่ะ :b16:

มีแต่ถูกใจกับไม่ถูกใจเท่านั้นเอง ... :b13:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 23:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 01:54
โพสต์: 30

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
murano เขียน:
การวางเฉยต่อการล่ากันของสัตว์ต่างๆ นั้น (ในกรณีที่เราเป็นเพียงผู้พบเห็น) ไม่ใช่ อุเบกขา และไม่ใช่การเห็นเป็นเรื่องของ กฎแห่งกรรม แต่เป็นการคิดแล้วว่า การเข้าไปแทรกแซงนั้น จะส่งผลกระทบในอีกทางหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...


ชอบการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการไม่แทรกแซงของคุณค่ะ
มันคือมุมมองที่ว่า เราจะแบ่งพื้นที่บนโลกนี้ ให้ทั้งผู้ล่า และผู้ถูกล่า ได้มีโอกาสแสวงหาทางรอด...
ในขอบเขตอันเหมาะสมของตนค่ะ
ขอบเขตอันเป็นไปเพื่อยังชีพตามปกติสุขของพวกเขา...
นกเอง ก็กินแมลง กินไส้เดือน ...
ถ้าเราเห็นนกจะกินไส้เดือน เราจะช่วยไส้เดือนหรือไม่ค่ะ

:b16: :b16: :b16:

สำหรับเราแล้ว ถ้านั่นคือการล่าเพื่อยังชีพตามปกติสุขของสรรพสัตว์
เราเห็นว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรแทรกแซงค่ะ
แต่ถ้าการล่านั้น เป็นไม่เป็นไปเพื่อการยังชีพตามปกติ แต่เป็นไปเพื่อสนองตัณหา
กระทำไปตามครรลองที่อวิชาครอบงำอยู่
เราเห็นว่า สิ่งนี้ซะอีก...ที่ผู้มีปัญญาพึงพิจารณาที่จะใช้ปัญญาที่มี เข้ามาแทรกแซง
ตามกำลังของตน
การแสดงความเมตตา ต้องถูกเรื่อง ถูกที่ ถูกทาง และถูกเวลา...ค่ะ

:b14: :b14: :b14:


:b8: คาราวะท่านผู้เจริญครับ :b8:

...หากจะมองโจทย์นี้แบบวิทยาศาสตร์ หรือ สังคมศาสตร์...คำตอบของท่านย่อมถูกต้องทุกประการครับ...แต่บังเอิญที่โจทย์ข้อนี้เป็นปริศนาธรรม คงต้องตอบตามหลักศาสนา..มิเช่นนั้นจะกลายเป็น : ถามไปไหนมา? ตอบ : สามวา สองศอกไปนะท่าน...

.....................................................
..." นิพพาน " ไม่ใช่สิ่งที่ถูกค้นพบบนฟูก หากแต่เป็นป่าเขาที่เต็มไปด้วยอันตรายและอสรพิษ...

..." หลักธรรม " ไม่ใช่สิ่งที่ถูกค้นพบในผับหรือสถานเริงรมย์ หากแต่เป็นสองข้างถนนที่เต็มไปด้วยซากศพ และผู้คนที่เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 23:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 01:54
โพสต์: 30

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:

ก็ว่ากันไปตามความคิดของแต่ละคนอ่ะนะ ...

ไม่มีใครถูกหรือผิดหรอกค่ะ :b16:

มีแต่ถูกใจกับไม่ถูกใจเท่านั้นเอง ... :b13:



:b8: คาราวะท่านผู้เจริญครับ :b8:

...สิ่งที่ท่านกล่าวยังไม่ถูกต้องซะทีเดียว...พิจารณาดีๆ จะพบว่าโจทย์ที่ข้าพเจ้าตั้งขึ้นมานี้ หากมองผ่านๆจะเห็นว่าเป็นคำถามปลายปิดธรรมดาๆ ( ก , ข , ค , ง )...แต่ถ้าคิดให้ถี่ถ้วน จะพบว่าเป็นคำถามแบบปลายเปิดให้แสดงองค์ความรู้หรือเหตุผลครับ...และคำถามแบบนี้ ไม่ได้ทดสอบแค่องค์ความรู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถบ่งบอกถึงความเป็น"ตัวตน" ของบุคคลแต่ละคนได้อย่างยอดเยี่ยมเลยนะครับ...

.....................................................
..." นิพพาน " ไม่ใช่สิ่งที่ถูกค้นพบบนฟูก หากแต่เป็นป่าเขาที่เต็มไปด้วยอันตรายและอสรพิษ...

..." หลักธรรม " ไม่ใช่สิ่งที่ถูกค้นพบในผับหรือสถานเริงรมย์ หากแต่เป็นสองข้างถนนที่เต็มไปด้วยซากศพ และผู้คนที่เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 70 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 98 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร