ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

นิพพาน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=23856
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ศิริพงศ์ [ 14 ก.ค. 2009, 08:08 ]
หัวข้อกระทู้:  นิพพาน

นิพพานเจิดจรัสเหนือคำบรรยาย

เจ้าของ:  koi [ 16 ก.ค. 2009, 15:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิพพาน

ใช่คะนิพพาน คือหนทางที่ดับทุกอย่าง แต่กว่าจะไปนิพพานได้ ต้องบำเพ็ญเพียรหลายชาติมากๆ

เจ้าของ:  Bwitch [ 17 ก.ค. 2009, 10:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิพพาน

:b44: คำว่า "นิพพาน" คือการดับไปซึ่งกิเลสที่เป็นเครื่องผูกมัดใจสัตว์ไว้ในสังสารวัฏ ทางพระพุทธศาสนาสมมุติเรียกกิเลสเหล่านี้ว่า "สังโยชน์" ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 10 ประการ ได้แก่

:b46: สักกายทิฏฐิ
ความเห็นว่าเป็นตัวของตน
:b46: วิจิกิจฉา
ความลังเลสงสัย
:b46: สีลัพพตปรามาส
ความยึดมั่นถือมั่นในศีลและวัตรปฏิบัติที่ผิด
:b46: กามราคะ
ความติดใจในกามคุณ
:b46: ปฏิฆะ
ความโกรธเคืองขัดใจ
:b46: รูปราคะ
ความติดใจในรูปธรรมอันประณีต เช่น ติดใจในความสุขความสงบของสมาธิขั้นรูปฌาณและอยากไปเกิดเป็นรูปพรหม
:b46: อรูปราคะ
ความติดใจในอรูปะธรรมอันประณีต เช่น ติดใจในความสงบของสมาธิขั้นอรูปฌาณและอยากไปเกิดเป็นอรูปพรหม
:b46: มานะ
ความถือตัวถือตน
:b46: อุทธัจจะ
ความฟุ้งซ่าน
:b46: อวิชชา
ความไม่รู้จริง

กิเลส 10 ประการนี้คือบ่อเกิดของการเวียนว่ายตายเกิด ถ้าดับได้หมดเมื่อไร นั่นคือนิพพาน :b44:

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  นัน555 [ 20 ก.ค. 2009, 07:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิพพาน

5. สัมมาทิฏฐิในนิพพาน

บางท่านคิดว่า พระนิพพานคงจะเที่ยง คงจะไม่ตาย เรานี้จะเข้าไปเสวยสุขในพระนิพพาน อันเป็นเมืองแก้วที่มีความสุขสบาย ถ้าเราไปอยู่ในนิพพาน คงจะเป็นสุขไม่มีความทุกข์เลย
ถ้าเป็นอย่างนี้ก็จัดเป็น “มิจฉาทิฏฐิในนิพพาน“
เพราะนิพพานนั้นไม่มีสุขเวทนาให้ปรากฏเลย พระนิพพานนั้นดับเสียซึ่งขันธ์ 5

ที่ว่าเมื่อถึงพระนิพพานแล้วดับทุกข์นั้นหมายถึงว่า ดับขันธ์ 5
ฉะนั้นความสุขความสบายที่เกิดจากเวทนาจะมีขึ้นได้อย่างไร

พระนิพพานเป็นความสุขที่ดับทุกข์เท่านั้น ไม่ใช่เป็นความสุขที่อาศัย “ สุขเวทนา “ เข้าไปดับทุกข์ที่เกิดจากกิเลสเป็นเหตุ หรือเกิดจากชาติเป็นเหตุ หรือเกิดจากวิบากเป็นเหตุ ถ้าดับทุกข์เสร็จก็ถึงพระนิพพาน

เพราะท่านบอกว่า “ ชาติเป็นทุกข์ “ ทุกข์ทั้งหลายย่อมไหลมาจาก ชาติ คือ ความเกิด ถ้าดับชาติคือความเกิด เสียแล้ว เรียกว่าดับทุกข์ทั้งปวง ถ้าเห็นอย่างนี้เป็นการเห็นถูก

viewtopic.php?f=7&t=23148

เจ้าของ:  ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ [ 21 ก.ค. 2009, 00:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิพพาน

พระนิพพานเมื่อปฎิบัติไปแล้วจะทราบได้ว่า

มีความเป็นสูญโดยตัวมันเองจะให้อธิบายทั้งปรมัตถหรือบัญญัติก็ไม่อาจกล่าวพระนิพพานได้เลย

นิพพานนัง ปรมัง สูญญัง

ไม่ใช่ตายแล้วสูญ


แต่ว่าเป็นสูญโดยตัวมันเอง

เจ้าของ:  ผู้ไม่รู้ [ 21 ก.ค. 2009, 00:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิพพาน

Bwitch เขียน:
:b44: คำว่า "นิพพาน" คือการดับไปซึ่งกิเลสที่เป็นเครื่องผูกมัดใจสัตว์ไว้ในสังสารวัฏ ทางพระพุทธศาสนาสมมุติเรียกกิเลสเหล่านี้ว่า "สังโยชน์" ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 10 ประการ ได้แก่

:b46: สักกายทิฏฐิ
ความเห็นว่าเป็นตัวของตน
:b46: วิจิกิจฉา
ความลังเลสงสัย
:b46: สีลัพพตปรามาส
ความยึดมั่นถือมั่นในศีลและวัตรปฏิบัติที่ผิด
:b46: กามราคะ
ความติดใจในกามคุณ
:b46: ปฏิฆะ
ความโกรธเคืองขัดใจ
:b46: รูปราคะ
ความติดใจในรูปธรรมอันประณีต เช่น ติดใจในความสุขความสงบของสมาธิขั้นรูปฌาณและอยากไปเกิดเป็นรูปพรหม
:b46: อรูปราคะ
ความติดใจในอรูปะธรรมอันประณีต เช่น ติดใจในความสงบของสมาธิขั้นอรูปฌาณและอยากไปเกิดเป็นอรูปพรหม
:b46: มานะ
ความถือตัวถือตน
:b46: อุทธัจจะ
ความฟุ้งซ่าน
:b46: อวิชชา
ความไม่รู้จริง

กิเลส 10 ประการนี้คือบ่อเกิดของการเวียนว่ายตายเกิด ถ้าดับได้หมดเมื่อไร นั่นคือนิพพาน :b44:

:b8: :b8: :b8:



:b8: คาราวะท่านผู้เจริญในธรรมครับ :b8:

...ท่าน Bwithc สรุปได้ดีที่สุด สั้น กระชับ ได้ใจความ...แต่เรื่องของ "วิบากกรรม" ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรจะมองข้าม เพราะวิบากกรรมตัวนี้นี่แหละ ที่ทำให้ผู้ปฏิบัติธรรมต้องปวดเศียรเวียนเกล้ามากันนักต่อนักแล้ว..." ศีล-สมาธิ-ปัญญา " จะช่วยเราได้มากครับ...

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/