วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 11:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 33 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2009, 00:03
โพสต์: 111


 ข้อมูลส่วนตัว


เคยได้ยินได้ฟังมาบ้าง แต่แบบย่อๆ
วันนี้นั่งอ่านเต็มๆเลยค่ะ ยาวมากอ่านจนล๊อคอินหลุดไปเลย :b32:

ยืนยันว่าความรักคือความร้ายจริงๆ
ตอนนี้ก็ยังตัดรักที่ยึดติดไม่ได้
เผลอทีไรก็ยังชอกช้ำอยู่ทุกที

ขอบคุณที่นำมาให้ได้อ่าน ได้พิจารณากันไป
สาธุ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 22:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกข์เพราะยึดมั่นถือมั่น หรือเพราะอุปาทาน แม้แต่ความชังก็เป็นทุกข์ เมื่อจิตยังมีอุปาทานอยู่

สรุปก็คือว่าอิฏฐารมณ์ก็ดี อนิฏฐารมณ์ก็ดี เมื่อยึดมั่นถือมั่นแล้ว เป็นทุกข์ได้พอๆ กัน


ฟังเพลงกันดีกว่า :b16:

"บุพเพสันนิวาส"

http://radio.sanook.com/music/player/song-lyric/2393/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2009, 23:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อาจารย์คะ บุพเพสันนิวาสแปลว่าอะไรหรือคะ
ได้โปรด...แปลด้วยยยย... :b6:
ความหมายกว้างกว่าความรักของหญิงสาวกับชายหนุ่มใช่มั้ยคะ
เช่น เคยเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก กันมาก่อน หรืออะไรทำนองนั้น :b10:
ดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ ชีวิตของเหล่าสัตว์ในสังสารวัฏหาต้นก็ไม่ได้
หาปลายก็ไม่ได้น่ะค่ะ กรรมที่ทำให้ต้องมาเจอกัน สัมพันธ์กัน เรียกบุพเพสันนวาส
ใช่มั้ยคะ :b10: :b10:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 08:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Bwitch เขียน:
:b8: อาจารย์คะ บุพเพสันนิวาสแปลว่าอะไรหรือคะ
ได้โปรด...แปลด้วยยยย... :b6:
ความหมายกว้างกว่าความรักของหญิงสาวกับชายหนุ่มใช่มั้ยคะ
เช่น เคยเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก กันมาก่อน หรืออะไรทำนองนั้น :b10:
ดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ ชีวิตของเหล่าสัตว์ในสังสารวัฏหาต้นก็ไม่ได้
หาปลายก็ไม่ได้น่ะค่ะ กรรมที่ทำให้ต้องมาเจอกัน สัมพันธ์กัน เรียกบุพเพสันนวาส
ใช่มั้ยคะ :b10: :b10:



บุพเพสันนิวาส แปลว่า อะไรหรือคะ

จะหาทางออกง่ายๆก็ได้ว่า ถามคนแต่งเพลงนี้สิว่าแปลว่า อะไร กรัชกายเพียงนำเพลงนี้มา :b16:
แต่เพื่อรักษาน้ำใจ ก็ต้องทำหน้าที่เมื่อถูกถามแล้วก็พอรู้ :b32:

บุพเพสันนิวาส แปลตามศัพท์ว่า การอยู่ร่วมกันในกาลก่อน (บุพเพ+สันนิวาส)
ความหมายกว้างๆ อย่างที่คุณเข้าใจ

มีคาถาธรรมบทอยู่ แต่ตอนขี้เกียจค้น เอาเท่านี้พอแล้วจ้า :b3:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 11:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สาธุค๊า...อาจารย์ :b32:
ไม่ก้าฟังเพลงค่ะ กัวกิเลส :b29:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2009, 15:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
อาจารย์คะ ดิฉันเห็นสัจธรรมแล้วว่า เพราะร้ายจึงไม่ขอรัก..
อธิษฐานจิตแล้วค่ะว่า ทุกชาติต่อจากนี้ไปอย่ามีใครมาให้รักอีก
ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบไหน ชาตินี้ทุกข์ซะเหลือเกินแล้ว



สาธุๆแจ่ม

คงไม่เสียใจที่อธิษฐานอย่างนั้น จนถอนคำอธิษฐานนะขอรับ เพราะเห็นตัวอย่าง ผู้ปรารถนาพุทธภูมิแล้วไม่นานก็บอกลาพุทธภูมิ


พูดถึงแรงอธิษฐาน
จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า เคยอ่านนิทานพื้นบ้าน แต่จำเรื่องไม่ได้ แต่พอจำตัวเอกเรื่องได้เลาๆ
จะเล่าให้ฟัง
ฝ่ายหญิง อธิษฐานว่า เกิดชาติหน้าฉันท์ใด ขออย่าให้เราได้รักกันอีกทุกๆ ชาติ
ฝ่ายชายก็อธิษฐานตามว่า เกิดชาติหน้าฉันท์ใด ขอให้ฉันพบเธอและรักเธอทุกๆชาติ

เอาละซี่
ฝ่ายชายอธิษฐานผูกติดฝ่ายหญิงไว้เลย
ด้วยแรงอธิษฐาน ทั้งคู่เกิดชาติใหม่

ฝ่ายหญิงเห็นหน้าฝ่ายชายแล้วนึกเกลียดอย่างไม่มีเหตุผล
ฝ่ายชายเห็นหน้าฝ่ายหญิงแล้วนึกรักอย่างไม่มีคำอธิบาย

หญิงเกลียดๆๆ หน้า
ชายรักและผูกพัน ยอมต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรค์ทุกอย่างหวังที่จะเอาชนะใจฝ่ายหญิง
ผ่านด่านทดสอบที่เสี่ยงอันตรายพลาดถึงเสียชีวิตได้แต่ฝ่ายชายก็ไม่กลัว ยอมตาย

สุดท้าย ก็ชนะใจฝ่ายหญิง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนชาติที่แล้ว

ปัจจุบันๆสำคัญ


อะโห...ใช้คำว่า ผู้ปรารถนา พุทธภูมิ กันเชียวหรือคะอาจารย์ :b22:
ดิฉันไม่ปรารถนาเป็นอะไรขนาดน้านน..หรอกค่ะ เพียงแต่เห็นแล้วว่าการเกิดเป็นทุกข์
ขอใช้คำว่า หลุดพ้น แทนได้ป่าวคะอาจารย์ :b15: :b3:
อาจารย์คะ อาจารย์ว่าดิฉันพอจะมีปัญญากับเขาบ้างหรือยังคะ ปฏิบัติต่อไปจะบังเกิดผลมั้ยคะ
:b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46:
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=8630

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 17:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2009, 00:03
โพสต์: 111


 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านเรื่องนี้ครั้งแรกตัวชา แทงใจดำ
ปริ้นไปนั่งอ่านเงียบๆสงบๆคนเดียว ค่อยๆอ่านทีละประโยค
.
.
.
น้ำตาไหล

ความรู้สึกที่อยากพบ อยากเจออยากติดต่อกับคนที่รัก แต่มันทำไม่ได้
ความรู้สึกที่เพียงแค่อยากเห็นหน้า อยากได้ยินเสียง แต่ได้รับเพียงความเย็นชากลับมา
ความกระวนกระวายคิดถึง แต่ต้องหักห้ามใจ
ความรู้สึกต่างๆมันกระวนกระวาย กลุ้มใจ ทุกข์ใจมากแค่ไหน
อ่านไปแต่ละประโยคมันเหมือนเปลือยหัวใจเราออกมาเช่นกัน

ตอนแรกอ่านไม่จบ นั่งร้องไห้ ร้องๆ เหมือนคนบ้า
สงบจิตใจได้ก็มานั่งอ่านใหม่ ช้าๆ
ตอนนี้อ่านจบไปสองสามรอบแล้ว

ประโยคนี้จำได้แม่นก่อนเลย
เมื่อหัวใจถูกลูบไล้ด้วยความรัก หัวใจนั้นจะสร้างความหวังขึ้นอย่างเจิดจ้า
แต่ทุกครั้งที่เราหวัง ความผิดหวังก็จะรอเราอยู่

น้องหญิง อย่าหวังอะไรให้มากนัก

จงมองดูชีวิตอย่างผู้ช่ำชอง

อย่าวิตกกังวลอะไรล่วงหน้า

ชีวิตนี้เหมือนเกลียวคลื่นซึ่งก่อตัวขึ้นแล้วม้วนเข้าหาฝั่ง

และแตกกระจายเป็นฟองฝอย

จงยืนมองดูชีวิต

เหมือนคนผู้ยื่นอยู่บนฝั่งมองดูเกลียวคลื่นในมหาสมุทรฉะนั้น"


อ่านจนจบ ความรู้สึกต่างๆมันบอกไม่ถูก
นั่งนิ่งๆอยู่อย่างนั้นอยู่นาน ความเศร้า ความวุ่นวายในใจตอนแรกมันก็เริ่มนิ่งๆไป
เหมือนนั่งดูเฉยๆไม่ได้คิดอะไร เศร้า เศร้าได้เศร้าไป
ไม่ได้นั่งสมาธิ ยังลืมตา ยังรู้ตัวตลอดเวลา
พอหายเศร้า
ลองถามตัวเองเหมือนที่พระพุทธเจ้าถามว่า "เธอรักอะไรในตัวเค้าล่ะ"
คิดไปทีละอย่าง มันไม่มีความแน่่นอนเลย ความทุกข์ ความรู้สึก ทั้งหมด
อยู่ที่ตัวเราเองทั้งหมด เราคิด เราบ้าอยู่คนเดียว จิตใจร่ำร้อนวุ่นวายคนเดียว
อยากพบอยากเจอ คิดถึงอยู่คนเดียว ไม่เป็นอันกินอันนอน เราหลงไปตามความวุ่นวายในใจเราเอง
บางครั้งก็พยายามกดบังคับไม่ให้มันแสดงออกมา ยิ่งกดไว้มันก็ยิ่งอัดอั้น
ถูกสะกิดขึ้นมาก็ว้าวุ่นฟูมฟายจะบ้าจะบออยู่คนเดียว

อย่าหวังอะไรให้มากนัก อย่ากังวลอะไรล่วงหน้า บอกตัวเอง


เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างว่าทำไมถึงต้องฝึกสติ ทำไมถึงให้ดูความรู้สึกปัจจุบัน
เพราะใจคนเรามันวุ่นวาย เราคิดนั่นคิดนี่อยู่ตลอดเวลา เราเผลอไปกับอารมณ์ของเรา
ไปกับความอยาก ความคิด ความต้องการ ห้ามไม่ได้ และต้องไม่ไปห้ามมัน แต่ต้องมีสติ ตามอารมณ์ตามจิตใจที่เราคิดให้ทัน ถ้ามีสติได้เท่าทันตลอดก็คงจะสามารถมองดูชีวิตเหมือนผู้ที่ยืนอยู่บนฝั่งมองดูเกลียวคลื่นได้ ความรู้สึกแบบนั้นมันจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่คงสงบราบเรียบ ว่างเปล่าว
แต่มันยากมาก ยากมากๆ จนคิดว่าคนเราจะทำได้หรอ

ไหนจะสิ่งแวดล้อม สิ่งต่างๆ คนอื่นๆ ที่มากระทบใจเราอีกมากมาย ความคิดความรู้สึก
มันเร็วยิ่งกว่าความไวแสงซะอีก แว๊ปโกรธ เกลียด เหงา เศร้า กว่าจะรู้ตัวว่าโกรธ ก็โกรธอยู่แล้ว
ถ้ารู้ตัวตลอดมันก็ไม่โกรธ รู้ตัวตลอดมันก็รู้ตลอด มันก็ไม่อะไรเลย มันก็.... รู้สึกมันยากเกินจะเข้าใจ ตราบที่ยังไม่ถึงสภาวะนั้นก็คงไม่รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร :b23:

อย่างน้อยตอนนี้เราขอขอบคุณมากๆสำหรับผู้ที่นำเรื่องนี้มาให้อ่าน
เราคงยังไม่มีปัญญาปลดเปลื้องกิเลสในใจเราได้เหมือนภิกษุณีโกลิกา
และก็ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ช่วยสะกิดให้เรากลับมาดูใจที่มืดมนได้บ้าง
หากไม่เคยรับรู้ถึงความทุกข์ ก็คงไม่เข้าใจในหลักธรรม
แต่เมื่อยังละจากกิเลสไม่ได้ทั้งหมด ก็ยังต้องเจอความทุกข์อยู่ล่ำไป
ไม่รู้ว่าเมื่อมีเหตุต้องสะกิดใจขึ้นมาอีก หรือมีความทุกข์อะไรขึ้นมาอีก
จะรับมือกับมันได้ขนาดไหน จะมีสติมั้ย คิดแล้วก็หวาดเสียว :b14:


แก้ไขล่าสุดโดย แทนขวัญ เมื่อ 21 ก.ค. 2009, 17:47, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 17:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


แทนขวัญ เขียน:
อ่านเรื่องนี้ครั้งแรกตัวชา แทงใจดำ
ปริ้นไปนั่งอ่านเงียบๆสงบๆคนเดียว ค่อยๆอ่านทีละประโยค
.
.
.
น้ำตาไหล

อ่านไปแต่ละประโยคมันเหมือนเปลือยหัวใจเราออกมาเช่นกัน

ตอนแรกอ่านไม่จบ นั่งร้องไห้ ร้องๆ เหมือนคนบ้า

อ่านจนจบ ความรู้สึกต่างๆมันบอกไม่ถูก
นั่งนิ่งๆอยู่อย่างนั้นอยู่นาน ความเศร้า ความวุ่นวายในใจตอนแรกมันก็เริ่มนิ่งๆไป
เหมือนนั่งดูเฉยๆไม่ได้คิดอะไร เศร้า เศร้าได้เศร้าไป


:b14:



:b2: :b2: .................. :b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 18:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฟังเพลงไรดีขอรับ

งั้นเอาเนื้อเพลงท่อนนี้แล้วกัน


โอ้น้ำตาหรือจะแก้ปัญหาใจ
ร้องไห้ทำไม ร้องทำไมให้เปลืองน้ำตา
จงยิ้มสู้โลก ทิ้งความเศร้าโศกเถิดหนา
อย่าให้เขามาตราหน้า ว่าขาดเขาเราหมดหนทาง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 18:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ดุสิตธานี เขียน:
แทนขวัญ เขียน:
อ่านเรื่องนี้ครั้งแรกตัวชา แทงใจดำ
ปริ้นไปนั่งอ่านเงียบๆสงบๆคนเดียว ค่อยๆอ่านทีละประโยค
.
.
.
น้ำตาไหล

อ่านไปแต่ละประโยคมันเหมือนเปลือยหัวใจเราออกมาเช่นกัน

ตอนแรกอ่านไม่จบ นั่งร้องไห้ ร้องๆ เหมือนคนบ้า

อ่านจนจบ ความรู้สึกต่างๆมันบอกไม่ถูก
นั่งนิ่งๆอยู่อย่างนั้นอยู่นาน ความเศร้า ความวุ่นวายในใจตอนแรกมันก็เริ่มนิ่งๆไป
เหมือนนั่งดูเฉยๆไม่ได้คิดอะไร เศร้า เศร้าได้เศร้าไป


:b14:



:b2: :b2: .................. :b2:




หวายคุณมด ... น้ำไม่เคยเห็นคุณมดเป็นแบบนี้ พอจะช่วยอะไรคุณมดได้บ้างไม๊คะ ?

ลองอ่านกระทู้นี่ดูนะคะ let it be ...


viewtopic.php?f=27&t=23410

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 18:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


แทนขวัญ เขียน:
อ่านเรื่องนี้ครั้งแรกตัวชา แทงใจดำ
ปริ้นไปนั่งอ่านเงียบๆสงบๆคนเดียว ค่อยๆอ่านทีละประโยค
.
.
.
น้ำตาไหล

ความรู้สึกที่อยากพบ อยากเจออยากติดต่อกับคนที่รัก แต่มันทำไม่ได้
ความรู้สึกที่เพียงแค่อยากเห็นหน้า อยากได้ยินเสียง แต่ได้รับเพียงความเย็นชากลับมา
ความกระวนกระวายคิดถึง แต่ต้องหักห้ามใจ
ความรู้สึกต่างๆมันกระวนกระวาย กลุ้มใจ ทุกข์ใจมากแค่ไหน
อ่านไปแต่ละประโยคมันเหมือนเปลือยหัวใจเราออกมาเช่นกัน

ตอนแรกอ่านไม่จบ นั่งร้องไห้ ร้องๆ เหมือนคนบ้า
สงบจิตใจได้ก็มานั่งอ่านใหม่ ช้าๆ
ตอนนี้อ่านจบไปสองสามรอบแล้ว

ประโยคนี้จำได้แม่นก่อนเลย
เมื่อหัวใจถูกลูบไล้ด้วยความรัก หัวใจนั้นจะสร้างความหวังขึ้นอย่างเจิดจ้า
แต่ทุกครั้งที่เราหวัง ความผิดหวังก็จะรอเราอยู่

น้องหญิง อย่าหวังอะไรให้มากนัก

จงมองดูชีวิตอย่างผู้ช่ำชอง

อย่าวิตกกังวลอะไรล่วงหน้า

ชีวิตนี้เหมือนเกลียวคลื่นซึ่งก่อตัวขึ้นแล้วม้วนเข้าหาฝั่ง

และแตกกระจายเป็นฟองฝอย

จงยืนมองดูชีวิต

เหมือนคนผู้ยื่นอยู่บนฝั่งมองดูเกลียวคลื่นในมหาสมุทรฉะนั้น"


อ่านจนจบ ความรู้สึกต่างๆมันบอกไม่ถูก
นั่งนิ่งๆอยู่อย่างนั้นอยู่นาน ความเศร้า ความวุ่นวายในใจตอนแรกมันก็เริ่มนิ่งๆไป
เหมือนนั่งดูเฉยๆไม่ได้คิดอะไร เศร้า เศร้าได้เศร้าไป
ไม่ได้นั่งสมาธิ ยังลืมตา ยังรู้ตัวตลอดเวลา
พอหายเศร้า
ลองถามตัวเองเหมือนที่พระพุทธเจ้าถามว่า "เธอรักอะไรในตัวเค้าล่ะ"
คิดไปทีละอย่าง มันไม่มีความแน่่นอนเลย ความทุกข์ ความรู้สึก ทั้งหมด
อยู่ที่ตัวเราเองทั้งหมด เราคิด เราบ้าอยู่คนเดียว จิตใจร่ำร้อนวุ่นวายคนเดียว
อยากพบอยากเจอ คิดถึงอยู่คนเดียว ไม่เป็นอันกินอันนอน เราหลงไปตามความวุ่นวายในใจเราเอง
บางครั้งก็พยายามกดบังคับไม่ให้มันแสดงออกมา ยิ่งกดไว้มันก็ยิ่งอัดอั้น
ถูกสะกิดขึ้นมาก็ว้าวุ่นฟูมฟายจะบ้าจะบออยู่คนเดียว

อย่าหวังอะไรให้มากนัก อย่ากังวลอะไรล่วงหน้า บอกตัวเอง


เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างว่าทำไมถึงต้องฝึกสติ ทำไมถึงให้ดูความรู้สึกปัจจุบัน
เพราะใจคนเรามันวุ่นวาย เราคิดนั่นคิดนี่อยู่ตลอดเวลา เราเผลอไปกับอารมณ์ของเรา
ไปกับความอยาก ความคิด ความต้องการ ห้ามไม่ได้ และต้องไม่ไปห้ามมัน แต่ต้องมีสติ ตามอารมณ์ตามจิตใจที่เราคิดให้ทัน ถ้ามีสติได้เท่าทันตลอดก็คงจะสามารถมองดูชีวิตเหมือนผู้ที่ยืนอยู่บนฝั่งมองดูเกลียวคลื่นได้ ความรู้สึกแบบนั้นมันจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่คงสงบราบเรียบ ว่างเปล่าว
แต่มันยากมาก ยากมากๆ จนคิดว่าคนเราจะทำได้หรอ

ไหนจะสิ่งแวดล้อม สิ่งต่างๆ คนอื่นๆ ที่มากระทบใจเราอีกมากมาย ความคิดความรู้สึก
มันเร็วยิ่งกว่าความไวแสงซะอีก แว๊ปโกรธ เกลียด เหงา เศร้า กว่าจะรู้ตัวว่าโกรธ ก็โกรธอยู่แล้ว
ถ้ารู้ตัวตลอดมันก็ไม่โกรธ รู้ตัวตลอดมันก็รู้ตลอด มันก็ไม่อะไรเลย มันก็.... รู้สึกมันยากเกินจะเข้าใจ ตราบที่ยังไม่ถึงสภาวะนั้นก็คงไม่รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร :b23:

อย่างน้อยตอนนี้เราขอขอบคุณมากๆสำหรับผู้ที่นำเรื่องนี้มาให้อ่าน
เราคงยังไม่มีปัญญาปลดเปลื้องกิเลสในใจเราได้เหมือนภิกษุณีโกลิกา
และก็ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ช่วยสะกิดให้เรากลับมาดูใจที่มืดมนได้บ้าง
หากไม่เคยรับรู้ถึงความทุกข์ ก็คงไม่เข้าใจในหลักธรรม
แต่เมื่อยังละจากกิเลสไม่ได้ทั้งหมด ก็ยังต้องเจอความทุกข์อยู่ล่ำไป
ไม่รู้ว่าเมื่อมีเหตุต้องสะกิดใจขึ้นมาอีก หรือมีความทุกข์อะไรขึ้นมาอีก
จะรับมือกับมันได้ขนาดไหน จะมีสติมั้ย คิดแล้วก็หวาดเสียว :b14:




ทุกอย่างต้องใช้เวลาค่ะคุณแทนขวัญ แล้วสักวันหนึ่ง เราจะอยู่กับความรู้สึกนี้ได้ด้วยดี

โดยไม่ต้องคิดหนีไปไหนหรอกค่ะ เจริญสติปัฏฐาน 4 นี่แหละค่ะ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2009, 09:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


:b4: ได้รับความห่วงใย จากคุณน้ำ มดเองก็ใจฟูๆ เลยค่ะ (ขอบคุณๆ) ไม่ได้เป็นอะไรหรอกคุณน้ำ แต่กำลังงง งวย ว่า เรายกเรื่องนี้มาให้อ่าน แต่หลายๆคนที่เข้ามาอ่านก็คงจะประสบกับปัญหาความรัก พอมาอ่านก็คงเกิดการสะกิดแผลใจ หรือแผลเก่ากันเป็นแถวๆ

:b9:เอาเป็นว่าสิ่งที่นำโพสคงไม่ได้ทำร้ายความรู้สึกใครๆเน๊อะ....สาธุ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2009, 20:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2009, 00:03
โพสต์: 111


 ข้อมูลส่วนตัว


ดุสิตธานี เขียน:
:b4: ได้รับความห่วงใย จากคุณน้ำ มดเองก็ใจฟูๆ เลยค่ะ (ขอบคุณๆ) ไม่ได้เป็นอะไรหรอกคุณน้ำ แต่กำลังงง งวย ว่า เรายกเรื่องนี้มาให้อ่าน แต่หลายๆคนที่เข้ามาอ่านก็คงจะประสบกับปัญหาความรัก พอมาอ่านก็คงเกิดการสะกิดแผลใจ หรือแผลเก่ากันเป็นแถวๆ

:b9:เอาเป็นว่าสิ่งที่นำโพสคงไม่ได้ทำร้ายความรู้สึกใครๆเน๊อะ....สาธุ :b8:


เป็นเรื่องที่ดี ตรงกับความรู้สึก
ช่วยเตือนสติได้มากกว่าค่ะ

หลักธรรมะไม่ทำร้ายใครหรอกค่ะ
เราก็จะขอยึดธรรมเป็นที่พึ่งเช่นกันค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2011, 00:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 เม.ย. 2011, 01:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ความรักเป็นสิ่งน่ากลัว
เมื่อได้รักแล้วย่อมทุรนทุราย พร่ำเพ้อ รำพึงรำพัน บีบคั้น เผาผลาญบุคคลผู้ตกอยู่ในห้วงแห่งรัก
รักไม่เคยทำให้เป็นสุขอย่างแท้จริง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 33 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 129 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร