ถามอายุใครเหรอครับ ถ้าถามผมก็ 35 ครับ(พึ่งรู้ว่าตนเองโง่มากๆๆๆๆๆๆๆ ก็เมื่อ 3 ปีที่แล้วนี่เอง แต่ตอนนี้.......ก็ยังโง่อยู่ครับ...แต่ก็น้อยกว่าเดิมเยอะเลย(ถึงยังไงก็ยังโง่อยู่ดีแหละครับ ก็วานผู้ฉลาดๆๆๆ สอนด้วยละกัน )

พระ คือ ผู้ประเสริฐ
สงฆ์ คือ ผู้รู้ตามพระพุทธองค์อย่างแน่วแน่เที่ยงแท้และแน่นอน(แปลเอาเองครับ ) โสดา,สักกทา,อนาคา,อรหันต์)



Basic เลย พื้นๆๆๆ...ตื้นๆๆๆๆ....คือ ศีล 5 บริบูรณ์ เอาแค่นี้ก่อนนะ
ถ้าแค่นี้ยังไม่ได้ก็ไม่ต้อง บรรยาย 227 ข้อ(ซึ่งมันมากกว่านี้เยอะๆๆๆๆๆ )

เห็นคำพูดเปรียบเทียบตนว่า เป็นกิ้งกือนึกถึงเพลง

“กิ้งกือตกส่าง”

http://www.imeem.com/people/L--DPio/mus ... Ti/01-mp3/

ไม่ได้ถามอายุใคร อ่านใหม่ครับ

เอาชัดๆ ถามว่า ในปัจจุบันเนี้ย พระสงฆ์แท้ๆ ในความเข้าใจของคุณ มีอยู่เท่าไหร่

ไม่มีกำหนดแน่นอนตายตัวหรอกครับ

มีแต่ถ้าใครทำได้ ก็เป็น ใครยังทำไม่ได้ก็ยังไม่เป็นก็เท่านั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุหรอก

ถามทำไมเนี่ย

แต่พระสงฆ์ที่ผมรู้จักตอนนี้ อายุของท่านเหรอครับ ผมไม่เคยถามท่านด้วยสิ พูดไปก็กลัวผิดเปล่าๆ

แต่พอประมาณได้ว่า 50 ต้นๆ ก็มี 60 ต้นๆ ก็มี 80 ต้นๆ ก็มี ครับ ล้วนแล้วแต่ สังขารเยอะๆ ทั้งนั้นครับ

ไม่รู้ว่าท่านจะละสังขารกันเมื่อไหร่ แต่อย่างน้อยก็ได้รู้แนวทางที่ถูกต้องจากท่านเหล่านั้นมาบ้างก็เท่านั้นเอง

กรรมหลงปรเด็นแล้ว คุณว่า ที่ศาสนาดำรงอยู่ได้ เพราะพระสงฆ์แท้ๆ ใช่ไหม
กรัชกายจึงถามว่า พระสงฆ์ในประเทศไทยเวลานี้มีเท่าไหร่ ที่อยู่ๆ ช่วยกันดูแลศาสนา ดูแลวัดอยู่เนี่ย
วัดมีสองหมื่นกว่าวัด

ก็เพราะยังมีท่านเหล่านั้นอยู่ไงครับ ลูกศิษย์ถึงได้แบบอย่างที่ถูกต้องมาบ้าง แต่ที่ถูกต้องที่สุดก็อยู่ในพระไตรปิฎกไง(แต่ไม่เห็นภิกษุวัดไหนๆ จะศึกษาเอาจริงเอาจังกันเลย คิดได้แต่ว่า ทำตามพวกที่บวชมาก่อนก็พอแล้ว แค่สวด แค่ท่อง(ไม่รู้ความหมายเสียด้วยซ้ำ แล้วจะไปสอนอะไรใครได้) ตามที่ต้องใช้ตามงานต่างๆ แค่นี้ก็อยู่รอดแล้ว)) จะให้ไปนับหนะเหรอ ยากครับท่าน มันเป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตนและก็ไม่มีใครประกาศตนหรอกว่า เป็นแล้วหนะ(มันบ้า)หรือจะไปให้คนอื่นพูดยืนยังว่าตนเองเป็นแล้ว(นี่ก็บ้า)

และการยึดถือกับสงฆ์สาวกนี่ก็ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะ สงฆ์สาวกก็รู้ได้เฉพาะตน พอสอนก็จะสอนตามที่ตนรู้ ตามที่ตนเองปฏิบัติ ซึ่งจริตของศิษย์แต่ละคนหรือบารมีของศิษย์แต่ละคนมันไม่เหมือนกับครูอาจารย์ จะให้ไปทำเหมือนอย่างที่ท่านทำมันก็เป็นไปไม่ได้หรอก

เช่น หลวงพ่อจรัญ ท่านบำเพ็ญอย่างหนักหน่วงเอาชีวิตเข้าแลก จนหลุดพ้นไปได้ แล้วถ้าศิษย์คิดเอาเป็นแบบอย่างโดยไม่คำนวณเลยว่า มีบารมีพอสมควรแล้วหรือยัง แต่นี่ไม่มีเลยมีแต่ไปทำตามท่านเลย ก็เห็นหลายคนนะตายเปล่า หลงไปเลยก็มี เป็นบ้าก็มี ยังแก้ไขกันอยู่ก็มี ท่านสอนหนะไม่ผิดนะแต่คนไปทำตามหนะผิด

เคยสงสัยไหมหละว่า เวลาไปปฏิบัติธรรมกรรมฐานตามงานที่เขาจัดหนะ ทำไมต้องมีการสอบอารมณ์ด้วย
เพราะอะไร มันมีเหตุมีผลของมันอยู่ คนส่วนใหญ่เล็งเห็นแต่ผล มุ่งจะเอาแต่ผล โดยไม่สร้างเหตุให้เหมาะสมแล้วผลมันจะเกิดได้ไงหละ

คุณรู้ได้ยังไงว่า ว่าเป็นไปอย่างนั้น
รู้ได้ยังไงว่า หลวงพ่อจริญหลุดพ้นไปได้แล้ว

ศึกษาสิท่าน

เอาตัวท่านเข้าไปศึกษาดูสิ

จะให้ผมยืนยันเหรอ ผมมิบังอาจหรอกครับ

ใส้เดือนกิ้งกือ ไหนเลยจะอาจหาญไปยืนยันได้ถึงเพียงนั้น

บอกแล้วว่ามันรู้ได้เฉพาะตน อยากรู้ก็ตนเองเข้าไปศึกษาซะก็แล้ว

เมื่อท่านพูดเช่นนั้น ขอความรู้แนวทางการปฏิบัติของท่านครับว่า ท่านปฏิบัติอย่างไร ด้วยวิธีใด จึงรู้ได้เฉพาะตน รู้อะไรครับ รู้เฉพาะตน จึงคาดคะเนด้วยสายตาว่า หลวงพ่อจรัญหลุดพ้นไปแล้ว

เวรกรรมแท้

แหม.. ราชสีห์ จะมาขอแนวทางในการทำมาหากินจาก ใส้เดือนกิ้งกือ ดูจะโอเว่อร์ไปหน่อยมั้งท่าน

เอางี้ อย่างย่อนะ ทำรัตนตรัยของท่านให้สมบูรณ์ก่อนนะ เอาแค่นี้ เรื่องศีลอย่าพึ่งไปพูดถึงมันเลยอีกนาน

ส่วนจะสมบูรณ์ยังไงนั้นมันอยู่ที่ท่านเองจะรู้และเข้าใจเอง ไม่มีใครไปยืนยันเป็นคำพูดได้หรอก(แต่ถ้ายืนยันด้วยเท้าหละคงได้ ....ล้อเล่นครับ ล้อเล่นนะ )

ถ้าท่านยังสงสัยในรัตนตรัย นั่นหมายถึงว่า ยังไม่สมบูรณ์ในใจท่าน ผมก็พูดได้แค่นี้นะ

คุณธรรมพื้นฐานของพระโสดาบัน คือ มีพุทธ ธรรม สงฆ์ / มีศีล /และรู้ตามพระพุทธเจ้า(ไตรลักษณ์)

เอาแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวจะมั่วก่อน

ท่านรู้ดีกว่าผมด้วยซ้ำไป แค่จะถามหาข้อบกพร่องของผมก็เท่านั้น ผมก็บอกแล้วว่า ผมมันโง่ ปัญญาน้อย
วอนท่านผู้ฉลาดช่วยชี้แนะด้วยเด้อจ้า

กรัชกาย่ว่าคนขวางโลกรู้อะไรลึกซึ้ง เช่นรู้ว่าผู้นั้นผู้นี้หลุดพ้นแล้ว นั่นแสดงว่า จิตใจของผู้เห็นเช่นนั้น จะต้องอยู่ในระดับเดียวกันหรือสูงกว่า ถูกไหมครับ

ส่วนผู้ที่มีจิตใจต่ำกว่าจะไม่รู้ได้ กรัชกายกระมั่งที่เป็นไส้เดือนกิ้งกือ

ไม่ได้สูงส่งอะไรอย่างที่ท่านคิดหรอก ก็ต่ำเตี้ยเลียดินอยู่นี่แหละคร้าบ

ก็แค่เอาข้อ วัตรปฏิบัติ ไปศึกษาเปรียบเทียบ ตามที่ได้รู้มาก็เท่านั้นแหละคร้าบ

ยังไงนั้นก็ต้องไปสนทนาธรรมกับท่านดูเอาเองแล้วก็จะรู้เองแหละ

เพราะความสงสัยของผม กับความสงสัยของท่าน มันไม่เหมือนกันเพราะมีพื้นฐานต่างกัน

ท่านอาจจะถามได้ดีกว่าผมเป็นแน่แท้ เชิญครับ ไปเลยครับ สาธุด้วยและอนุโมทนาบุญอันเกิดจากการได้สนทนาธรรมกับหลวงพ่อด้วยนะครับท่าน กรัชกาย

อ้อครับ ดูเอาจากการพูดคุยสนทนาแล้วเปรียบเทียบเอาหรอครับ

ได้ข่าวว่า ท่านสุขภาพไม่ค่อยดี และกว่าจะพบได้ก็ต้องผ่านกฏเกณฑ์เลขาฯ หน้าห้องจัดคิวให้
ฟังๆดูๆจากเว็ปไซต์ที่เขาสนทนากันนะครับ จริงเท็จประการใดไม่เคยเห็นกับตาตนเอง

นี่คุณกรัช แกจะกัดให้ตายรึไงเนี่ย

บาปกรรมหนอ บาปกรรมหนอ