ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ท่านใดเคยเรียนตีลัญจกร และมนตราบำบัด กับ อ.ศุภชัย บ้าง
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=23310
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  Very happy [ 26 มิ.ย. 2009, 13:06 ]
หัวข้อกระทู้:  ท่านใดเคยเรียนตีลัญจกร และมนตราบำบัด กับ อ.ศุภชัย บ้าง

กำลังสนใจอยากจะศึกษา กับอาจารย์ท่านนี้ค่ะ
รบกวนคุณ ๆ ที่พอมีความรู้ หรือประสบการณ์
แนะนำทีนะค่ะ

ขอบคุณอย่างยิ่ง

เจ้าของ:  kokorado [ 26 มิ.ย. 2009, 21:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านใดเคยเรียนตีลัญจกร และมนตราบำบัด กับ อ.ศุภชัย บ้าง

เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกที่นี่เลย มันเป็นยังไงเหรอ ทำไมถึงอยากเรียน เรียนแล้วได้อะไร

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 27 มิ.ย. 2009, 07:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านใดเคยเรียนตีลัญจกร และมนตราบำบัด กับ อ.ศุภชัย บ้าง

เห็นเขาพูดถึงที่นี่

http://board.palungjit.com/f2/สมาธิหมุน-อธิบายสำหรับคนที่นั่งสมาธิเเล้วเกิดอาการต่างๆ-192509.html


ตี แปลว่า กด ทำให้เข้ากัน

ลัญจกร แปลว่า รูปแบบ หรือตราที่ประทับ

ตีลัญจกร จึงเป็นศัพท์บัญญัติที่หมายถึง การทำมือเป็นตรา เป็นรูปแบบ

ลัญจกร ที่นำมา ตี นั้นมาจากหัตถ์พระพุทธองค์ หรือ ปางมือ ของพระอรหันต์ 500 องค์ ในพุทธศาสนานิกายมหายานและวัชรยานในทิเบต ซึ่งแตกต่างจากปางมือในพุทธศาสนานิกายหินยาน

ปางมือ ในพุทธศาสนาหินยานเป็นปางมืออย่างหนึ่ง ในสายวัชรยานก็อีกอย่างหนึ่ง ทั้งหมดมี 590 กว่าท่า
แบ่งออกเป็น 3 ภาค คือ รักษาโรค, แผ่เมตตา และเจริญปัญญา ซึ่งก็คือเคลื่อนลมปราณนั่นเอง
ส่วนปางมือเก้าคำศักดิ์สิทธิ์นั้นมาจากตำราลัทธิเต๋าผอพ่อจื่อ แต่งโดยเก๋อหงสมัยราชวงศ์ตังจิ้น มีเนื้อความว่า
"ผู้เผชิญกองทัพส่วนเรียงรายอยู่เบื้องหน้า มองอย่างพินิจโดยไม่หลีกลี้" โดยเก้าคำศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาเป็นปางมือนั้นคือ

"ผู้เผชิญทัพล้วนเรียงรายเบื้องหน้า"

ริน - เบียว - โต - ฉะ - ไค - จิน - เร็ทสุ - ไซ - เซ็น

เจ้าของ:  ชิชะ [ 27 มิ.ย. 2009, 08:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านใดเคยเรียนตีลัญจกร และมนตราบำบัด กับ อ.ศุภชัย บ้าง

กรัชกาย เขียน:
เห็นเขาพูดถึงที่นี่



จากที่คุณกรัชกายว่า คุณ Very happy ลองไปดูนะครับ
และถ้าไปฝึกมาแล้ว เป็นยังไงก็อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังนะครับ เพราะผมเองก็สงสัย
:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 27 มิ.ย. 2009, 08:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ท่านใดเคยเรียนตีลัญจกร และมนตราบำบัด กับ อ.ศุภชัย บ้าง

พิธีกรรมลัทธิศาสนาในโลก มีมากมายตามทิฏฐิ (ความเชื่อ) ของคน
ตัวอย่าง เช่น คัวเองมีความคิด มีความเห็นอย่างนี้อย่างนั้น ก็ไปฝึกไปทำตามแบบตามทิฏฐิของตน
ก็จึงเป็นจึงมีอาการ...ตามความคิดนั้นๆ

ทั้งหลายทั้งปวงนั้น เมื่อพูดถึงที่มา หรือ จุดเกิดแล้วมาจากจิตหรือความคิดทั้งสิ้น จุดเริ่มต้นอยู่ตรงนั้น
การจะฝึกอะไรทำอะไรที่สอนกันแปลกๆ แล้วเกิดอาการแปลกๆ พึงระวังไว้อย่างหนึ่งว่า มันจะเป็นอย่างนั้นๆไปจนตาย เพราะจิตมันเสพมันยึดไว้ เพียงนึกถึงก็เป็น แล้วแสดงออกผ่านทางกายในรูปต่างๆ
นี่เองมิจฉาสมาธิ
ต่อให้เจ้าลัทธิ ตั้งชื่อให้มันว่า สมาธิอะไรก็ตาม
บางลัทธิเอาชื่อวิปัสสนาไปตัดต่อคำ เป็นอายตนะวิปัสสนากรรมฐาน เป็นต้นบ้าง
บางแห่งพระภิกษุเรานี่แหละไปสอนให้เขาเป็นอย่างนั้น

ผู้ต้องฝึกอย่างนั้นก็ที่นี่

http://www.baghdadfilmfestival.org/viewLA6dvXMsu4k.html



ส่วน ศีล สมาธิ ปัญญา แบบพุทธะแท้ๆ ปฏิบัติแล้วชีวิตทั้งร่างกายและจิตใจจะเป็นปกติสุข
เปลื้องทุกข์โศกโรคภัยได้ ควบคุมตนเองได้ กิเลสตัณหาอุปาทานจะค่อยๆ ถูกกำจัดสิ้นด้วย
ศีล สมาธิ ปัญญานั้น แล้วทำกิจด้วยสติปัญญาที่เป็นสัมมา


ผู้ใหม่ต่อศาสนาต้องการศึกษาพุทธธรรมเข้าใจพุทธธรรมคำสอนแท้ๆ น่าจะอ่านทำความรู้จักพุทธธรรมกว้างๆ
จากลิงค์นี้ดูก่อน :b39:

viewtopic.php?f=2&t=19015

ไฟล์แนป:
yenta4-emoticon-0021.gif
yenta4-emoticon-0021.gif [ 25.93 KiB | เปิดดู 4859 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/