ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ผิดศีลข้อปานาฯ ควรแก้อย่างไรดี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=23065
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  O.wan [ 16 มิ.ย. 2009, 17:44 ]
หัวข้อกระทู้:  ผิดศีลข้อปานาฯ ควรแก้อย่างไรดี

:b8:เมื่อหลายปีก่อน สามีเราซื้อปลามังกรเงินมาเลี้ยงน่ะค่ะ อาหารของมันก็คือ ลูกปลานิล
เราก็จะไปซื้อที่ร้านขายปลาตู้มาให้เป็นอาหารน่ะค่ะ
จำได้ว่าลูกสาวเคยขอร้องเพราะสงสารมัน แต่ความที่เรายังไม่สนใจในตอนนั้น
เลยคิดว่ามันเกิดมาเป็นอาหารกันและกัน เลี้ยงมาประมาณ10ปี
จนมันตาย เลยเปลี่ยนมาเลี้ยงปลาตู้สวยงามแทน ใช้อาหารเม็ดค่ะเลยอยากถามว่า
:b48: เราเอาลูกปลามาฆ่าแบบนี้บาปจริงๆ เราอยากหาวิธีทำบุญที่ลดบาป
จะเป็นไปได้ไม๊คะ
:b48: ทุกวันนี้เราซื้อปลาสวยงามมาเลี้ยงในตู้ได้ไม๊คะ เราชอบดูเพราะมันสวยน่ะค่ะ
จะเป็นบาปไม๊คะ เอามันมากักขังหรือเปล่า
:b48: ทุกวันนี้เราจะชอบปล่อยปลาดุก ปลาช่อนตามตลาดน่ะค่ะ เวลาผ่านมักจะเข้าไปซื้อ
แล้วเอาไปปล่อย บางทีก็หอยขม กบด้วยค่ะ
:b48: แต่ลูกปลานิลที่เราเคยซื้อมาในตอนนั้นน่าจะเป็นหลายร้อยตัวเลยค่ะ
เพราะเราเลี้ยงปลามังกรมานาน อายุมันยืนมากค่ะ เลยอยากให้ท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ :b7: :b2:

เจ้าของ:  คนไร้สาระ [ 16 มิ.ย. 2009, 18:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯควรแก้อย่างไรดี

:b8: สวัสดีค่ะ คุณพี่ o.wan วันนี้ได้โอกาสว่างตอนเย็น
ดอกไม้ที่ขอไว้ ได้แล้วน่ะค่ะ ให้ไว้เยอะเลย ที่กระทู้
ดูสบายตา..อ่านแล้วสบายใจไม่เห็นคนขอไปรับค่ะ :b16:

:b8: คนไร้สาระขอเอาคำของพระอาจารย์มาบอกต่อค่ะ
สิ่งที่ผ่านไปแล้วแก้ไขไม่ได้ ท่านบอกว่า เหมือนคนหนึ่ง ฆ่ามด
1 ตัว คิด 100 ครั้งเท่ากับฆ่า 100 ตัว เพราะจิตมารับรู้
อารมณ์เศร้าหมอง ถ้าหากว่าจิตเราคิดบ่อย ๆ เศร้าหมองบ่อย
จิตเคยชินอารมณ์นี้ กลายเป็นอาจิณกรรม มีผลเท่ากับการทำ
กรรมครั้งนั้น

:b47: ถ้าจะทำจิตใจให้สบายก็แผ่เมตตาบ่อย ๆ แบบไม่มี
ประมาณ ทำบุญอุทิศส่วนกุศล สังเกตุอย่างหนึ่งน่ะคะ เวลา
เราทุกข์ใจเรามักจะขาดสติ คนจะผิดศีลได้ก็เพราะขาดสติ
อยากให้คุณพี่ o.wan ปล่อยให้เป็นอดีตไป สร้างกรรม
ใหม่ดี ๆ รักษาใจให้มีความสุขค่ะ

:b47: คนไร้สาระขออนุญาติแนะนำด้วยปัญญาแค่นี้ค่ะ

:b8:

ไฟล์แนป:
dgu.jpg
dgu.jpg [ 38.83 KiB | เปิดดู 5283 ครั้ง ]

เจ้าของ:  O.wan [ 16 มิ.ย. 2009, 19:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯควรแก้อย่างไรดี

:b1: คนไร้สาระขอเอาคำของพระอาจารย์มาบอกต่อค่ะ
สิ่งที่ผ่านไปแล้วแก้ไขไม่ได้ ท่านบอกว่า เหมือนคนหนึ่ง ฆ่ามด
1 ตัว คิด 100 ครั้งเท่ากับฆ่า 100 ตัว เพราะจิตมารับรู้
อารมณ์เศร้าหมอง ถ้าหากว่าจิตเราคิดบ่อย ๆ เศร้าหมองบ่อย
จิตเคยชินอารมณ์นี้ กลายเป็นอาจิณกรรม มีผลเท่ากับการทำ
กรรมครั้งนั้น

:b48: ขอบคุณสำหรับกุหลาบช่อโตนะคะและสำหรับคำแนะนำ
ใช่ค่ะ พอพี่คิดทีไรใจมันก็ :b7: นะ
ว่าเราไม่น่าเลย แอบโทษสามีด้วยนะที่เอามันมาเลี้ยง ให้เราต้องทำบาป :b34:

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 16 มิ.ย. 2009, 19:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯควรแก้อย่างไรดี

คุณ o.wan เห็นไหมล่ะว่า ความไม่สบายใจมันมาจากความคิด
ภาษาพระว่า สังขารปรุงแต่ง นำมาซึ่งทุกข์

นึกทีไร ไม่สบายใจทุกที


แต่คุณ o.wan เหมือนหลายๆคนที่ผมรู้จัก
คือแม้ความผิดบาปเล็กน้อยก็รู้สึกไม่สบายใจ
จัดว่าเป้นคนที่มีหิริโอตัปปะมาก คือละอายต่อบาป กลัวบาป
เหมือนผ้าขาวๆ ถ้ามีอะไรเปิ้อนแม้เล็กน้อยก้จะเห็นชัด รู้สึกชัด
คนไม่ดีพอ ทำไม่ได้นะ

คนที่มีหิริโอตัปปะน้อย
มันจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทำบาปแล้วสนุก เช่นตีไก่ กัดปลา


ความชั่วเหมือนน้ำเสียหยดเล็กๆ ถ้ามันหยดลงไปในใจเราแล้ว มันไม่หาย
ถ้ามันมีน้ำเสียอยู่มาก น้ำมันก็ดำ ใจเรามันก็มีแต่ของเสีย
แต่เราต้องหยดนำสะอาดลงไปเพิ่มให้มากๆ ชดเชย
ความเน่าเสียมันจะจางลง จนใส แต่จะพุดว่าของเสียมันหายไปไม่ได้ มันยังมีอยู่
เพียงแต่แรงมันไม่มากพอจะทำให้เราเดือดร้อน
เรียกว่าผลของกรรมตามกวดไม่ทันเรา

เช่นลองสังเกตุ วันไหนไปทำบุญใหญ่ ทำความดีอันใหญ่ ประทับใจ เราจะดีใจมาก
ดีใจไปทั้งวัน
ไอ้เรื่องพรรค์อย่างนี้ไม่มีแรงพอที่จะสอดแทรกเข้ามาในความคิดของเรา
ไม่เข้ามากวนวันอารมณ์ดีของเราเลย
อันนี้ตัวอย่างอย่างง่ายนะคับ

สู้ต่อไป คนไทยไม่ทิ้งกัน :b4: :b32:

เจ้าของ:  natdanai [ 16 มิ.ย. 2009, 22:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯควรแก้อย่างไรดี

แวะมาดูครับ... :b13: :b13: :b13:

ไม่มีอะไรต้องตอบแล้วครับ :b32: :b32:

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 17 มิ.ย. 2009, 02:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯควรแก้อย่างไรดี

natdanai เขียน:
แวะมาดูครับ... :b13: :b13: :b13:

ไม่มีอะไรต้องตอบแล้วครับ :b32: :b32:

แอบตามท่าน natdanai มาครับ :b9: :b32: :b8:

เจ้าของ:  natdanai [ 17 มิ.ย. 2009, 07:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯควรแก้อย่างไรดี

อมิตาพุทธ เขียน:
แอบตามท่าน natdanai มาครับ :b9: :b32: :b8:

อุ๊ย!... :b5: :b5:
ถูกหลวงจีนใหญ่สะกดรอยตาม...ได้ไงเนี่ยยยยย
กระผมอุตส่าห์คุยว่ามีวิชาตัวเบาดีใช้ได้....แต่กลับถูกสะกดรอยตามแบบไม่รู้ตัว :b2: :b2:
ต้องไปฝึกใหม่ซะแล้วเรา :b13: :b32: :b32:

เจ้าของ:  O.wan [ 17 มิ.ย. 2009, 15:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯ ควรแก้อย่างไรดี

:b8: สำหรับคำอธิบายนะคะ คือมีความรู้สึกว่าสบายใจขึ้นค่ะ
เพราะทุกครั้งที่เห็นลูกปลาพวกนี้ ก็จะคอยนึกว่าเราไม่น่า..... :b7:
และทุกวันนี้ก็จะชอบปล่อยปลาเสมอๆ จะไปซื้อที่ตลาดน่ะค่ะที่พวกแม่ค้าขาย
เอาไปปล่อยแถวหมู่บ้านมีทะเลสาปใหญ่และน้ำก็ไม่เน่าเสียด้วยค่ะ :b18: :b18:

เจ้าของ:  suwichai [ 19 มิ.ย. 2009, 00:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯ ควรแก้อย่างไรดี

O.wan เขียน:
:b8:

1.เมื่อหลายปีก่อน สามีเราซื้อปลามังกรเงินมาเลี้ยงน่ะค่ะ อาหารของมันก็คือ ลูกปลานิล
เราก็จะไปซื้อที่ร้านขายปลาตู้มาให้เป็นอาหารน่ะค่ะ
จำได้ว่าลูกสาวเคยขอร้องเพราะสงสารมัน แต่ความที่เรายังไม่สนใจในตอนนั้น
เลยคิดว่ามันเกิดมาเป็นอาหารกันและกัน เลี้ยงมาประมาณ10ปี


ตอบ...ก็ไม่เห็นคุณทำบาปอะไรนิครับ เพราะจิตคุณไม่ได้คิดว่าเป็นบาป เจตนาของคุณคือช่วยปลาใหญ่ให้มีอาหารกิน แต่ถ้าลูกสาวคุณทำ นั่นแหละเป็นบาป เพราะลูกสาวคุณ มองที่ปลาเล็ก ไม่ได้มองที่ปลาใหญ่

:b48: เราเอาลูกปลามาฆ่าแบบนี้บาปจริงๆ เราอยากหาวิธีทำบุญที่ลดบาป
จะเป็นไปได้ไม๊คะ

ตอบ...ในอดีตคุณไม่ได้ทำบาป แต่ถ้าคุณทำในปัจจุบันเป็นบาปแน่ เพราะคุณไปคิดปรุงแต่งที่ปลาตัวเล็กที่ถูกฆ่าตาย

:b48: ทุกวันนี้เราซื้อปลาสวยงามมาเลี้ยงในตู้ได้ไม๊คะ เราชอบดูเพราะมันสวยน่ะค่ะ
จะเป็นบาปไม๊คะ เอามันมากักขังหรือเปล่า

ตอบ...ถ้าจิตของคุณคิดปรุงแต่งแบบนั้น มันก็บาปแน่ ต้องคิดใหม่ถ้าคุณไม่นำมันมาเลี้ยง ปลาเหล่านี้จะต้องอดตาย

:b48: ทุกวันนี้เราจะชอบปล่อยปลาดุก ปลาช่อนตามตลาดน่ะค่ะ เวลาผ่านมักจะเข้าไปซื้อ
แล้วเอาไปปล่อย บางทีก็หอยขม กบด้วยค่ะ

ตอบ...ดีครับ แต่ถ้าคุณต้องการให้เกิดบาป คุณก็ต้องคิดว่าคุณปล่อยปลาเหล่านั้นไปในแม่น้ำลำคลองที่สกปรก อ๊อกซิเจนน้อย พวกมันตายแน่

บาป-บุญอยู่ที่จิตของคุณ คิดปรุงแต่งเป็นอกุศล หรือกุศลตอนทำกรรมนั้นลงไป มโนธรรมในใจของคุณจะบอกอีกทางหนึ่ง

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 19 มิ.ย. 2009, 21:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯ ควรแก้อย่างไรดี

suwichai เขียน:

ตอบ...ก็ไม่เห็นคุณทำบาปอะไรนิครับ เพราะจิตคุณไม่ได้คิดว่าเป็นบาป เจตนาของคุณคือช่วยปลาใหญ่ให้มีอาหารกิน แต่ถ้าลูกสาวคุณทำ นั่นแหละเป็นบาป เพราะลูกสาวคุณ มองที่ปลาเล็ก ไม่ได้มองที่ปลาใหญ่



มั่วจริงๆ

เขาบอกอยู่ทนโท่ว่าไม่สบายใจ

จิตที่ไม่สบายใจอยู่นี้ เป็นผลลัพธ์ของจิตตอนนั้นที่ทำกับปลาไม่ดี
ถ้าวันนั้นไม่ได้ทำ จะเอาอะไรมาเสียใจในวันนี้?
จิตตอนนั้นเป็นจิตเหตุ จิตที่ไม่สบายใจตอนนี้เป็นจิตผล
จิตตอนนั้นเป็นกรรม จิตไม่สบายใจตอนนี้เป็นผลของกรรม (วิบากกรรม วิบากจิต)
ไม่มีเหตุ จะมีผลได้ยังไง

อริยสัจไม่มีจริงหรืออย่างไร

เจ้าของ:  นัน555 [ 19 มิ.ย. 2009, 23:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯ ควรแก้อย่างไรดี

โทษมาก หรือ น้อย
ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 อย่าง
1.
วัตถุ
บุคคล หรือสัตว์ สัตว์ใหญ่ สัตว์เล็ก มีโทษหรือมีประโยชน์

2.
ประโยค
ความพยายามในการฆ่า
พยายามมาก โทษมาก
หรือ คิดถึงอยู่บ่อยๆก็โทษมาก

3.
เจตนา
ฆ่าไก่ด้วยเจตนา ว่าเป็น อาหาร กับฆ่าแมว (โดยฉีกเป็น ชิ้นๆ เพราะโกรธมัน ข่าวเร็วนี้ที่ต่างประเทศ) ผลก็ต่างกัน
..........

เจ้าของ:  นัน555 [ 20 มิ.ย. 2009, 00:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯ ควรแก้อย่างไรดี

วิธีแก้ ก็คือทำ กฎแห่งการแทนที่ และกฎตรงกันข้าม

1. แทนที่ กรรมไม่ดี ด้วยกรรมดี
2. ตรงกันข้าม ใน องค์ ประกอบ - ข้อ ข้างต้น

อธิบาย.... :b26:
1. ฆ่า สัตว์ เล็ก ตรงกันข้าม ก็คือ ช่วยชีวิต สัตว์ ใหญ่ หรือ มนุษย์ ที่มีคุณ มี พ่อ แม่เป็นต้น
2. ไม่ได้ พยายาม ฆ่า ตรงกันข้ามก็ คือ พยายามอย่างยิ่ง ในการขวยขวาย ทำบุญ เพื่อ ช่วย ชีวิต สัตว์ ที่มีคุณ
และ ระลึก อยู่เสมอๆ ในกรรมดี อันนั้น และ ทำบ่อยๆ
3. เจตนา พลั้งพลาด ไป ไม่ได้ พิจารณา ให้ดี ก่อน จึงทำ จึง ศีลขาด ตรงกันข้าม คือ เจตนา ถือ ศีลข้อ1 อย่าง เคร่งครัด ทุกๆวัน ....

อาจารย์ที่ผมนับถือ ท่าน บอกว่า เธอเป็นหนี้ เขา แต่ เจ้าหนี้ เขาไปต่างประเทศ แล้ว
หนี้ ยังมีอยู่ใช่ไหม แต่ ทำไมเธอใช้ หนี้ ไม่ได้ ละ.
.
(ตรงกันข้าม ทำกรรมครั้งเดียวแต่ได้รับ ผลหลาย ครั้งก็มี เช่นเด็กทำผิด ถูกครูตีแล้ว กลับบ้านก็ถูกพ่อแม่ตีอีก)

ก็ คือเหตุที่ทำให้ บาปกรรมนั้น (ให้ผลหรือ)ไม่ให้ผลมีอยู่...
คือ
คติสมบัติ
อุปธิสมบัติ
กาลสมบัติ
ปโยคสมบัติ
ขอท่านจงรีบแก้ไขเถิด...

คนเราที่เวียนว่ายตายเกิดนี้ ทำกรรมมาแล้วนับไม่ถ้วนทุกผู้ทุกคน เพียงแต่ส่วนไหน มากกว่า ก็ให้ผลก่อน ..
ผู้โพสน์ เคยสังเกตุว่า เรา ล้างพื้นระเบียง ถ้า ใส่น้ำมากๆ เวลาเทน้ำยา กัดพื้นที่เป็นกรด มันก็เจือจางจนแทบ ไม่มีผล แต่ ถ้าน้ำน้อยๆ มันก็จะมีผลมาก ดังนี้แล... :b27:

เวลาทำกุศลต่างก็อย่างลืมแผ่ส่วบุญส่วนกุศล ให้ กับ เจ้าปลาน้อยๆด้วย และ ถ้ายังเลี้ยงอยู่ หรือคิดจะเลี้ยง ก็ เลิกได้แล้ว

เจ้าของ:  suwichai [ 22 มิ.ย. 2009, 11:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯ ควรแก้อย่างไรดี

คุณ นัน555 ครับ


อาจารย์ที่ผมนับถือ ท่าน บอกว่า เธอเป็นหนี้ เขา แต่ เจ้าหนี้ เขาไปต่างประเทศ แล้ว
หนี้ ยังมีอยู่ใช่ไหม แต่ ทำไมเธอใช้ หนี้ ไม่ได้ ละ.


บอกอาจารย์ที่คุณนับถือด้วยว่า ไม่ว่าเราทำสิ่งใดในโลกย่อมกระทบสิ่งอื่นเสมอ บาปกรรมจึงอยู่ที่จิตคิดปรุงแต่งเป็นอกุศลหรือเปล่า ถ้าเรามองที่ปลาเล็ก แล้วยังเสือกไปฆ่ามันอีก จะหนีบาปไม่ได้ แต่ถ้าเรามองที่ปลาใหญ่ จิตเราก็คิดปรุงแต่งเป็นกุศล คือ ให้อาหารปลา บุญมันจึงเกิด

สุดท้าย กรรมในการฆ่าปลาเล็ก แต่เราไม่มองเป็นอกุศล ก็จะกลายเป็น กตัตตากรรม หรือกรรมที่สักแต่ว่าทำหรือกรรมไม่เจตนาเอง

เจ้าของ:  suwichai [ 22 มิ.ย. 2009, 11:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯ ควรแก้อย่างไรดี

ชาติสยาม เขียน:
suwichai เขียน:

ตอบ...ก็ไม่เห็นคุณทำบาปอะไรนิครับ เพราะจิตคุณไม่ได้คิดว่าเป็นบาป เจตนาของคุณคือช่วยปลาใหญ่ให้มีอาหารกิน แต่ถ้าลูกสาวคุณทำ นั่นแหละเป็นบาป เพราะลูกสาวคุณ มองที่ปลาเล็ก ไม่ได้มองที่ปลาใหญ่



มั่วจริงๆ

เขาบอกอยู่ทนโท่ว่าไม่สบายใจ

จิตที่ไม่สบายใจอยู่นี้ เป้นผลลัพธ์ของจิตตอนนั้นที่ทำกับปลาไม่ดี
ถ้าวันนั้นไม่ได้ทำ จะเอาอะไรมาเสียใจในวันนี้?
จิตตอนนั้นเป็นจิตเหตุ จิตที่ไม่สบายใจตอนนี้เป็นจิตผล
จิตตอนนั้นเป็นกรรม จิตไม่สบายใจตอนนี้เป็นผลของกรรม (วิบากกรรม วิบากจิต)
ไม่มีเหตุ จะมีผลได้ยังไง

อริยสัจไม่มีจริงหรืออย่างไร


ไปอ่านใหม่ไอ้หนู เขาสบายใจมา 10 ปี จิตไม่สบายใจ เพราะเขาดันไปคิดปรุงแต่งในถ้อยคำของลูกว่าฆ่าปลาเล็ก เป็นบาป ทันทีที่เขาสงสัยว่ามันเป็นปานาติบาต เขาเลยไม่สบายใจ พูดง่ายๆ สิ่งที่ไม่เป็นบาป คุณO.wanไปทำให้มันเป็นบาป เพราะความคิดนั่นเอง

เจ้าของ:  suwichai [ 22 มิ.ย. 2009, 11:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผิดศีลข้อปานาฯ ควรแก้อย่างไรดี

คุณO.wanคับ


พระพุทธเจ้าของเราเคยเกิดเป็นชาวประมง ชาวประมงต้องจับปลาและฆ่าปลาทุกวันตลอดชีวิต พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่า นั่นบาป แต่ตอนที่เด็กชาวประมงคนนั้นไปเห็นชาวประมงคนอื่นฆ่าปลา แล้วท่านเกิด สะใจ ดีใจ ที่เห็นปลาตัวนั้นตาย พระพุทธเจ้าบอกว่า นั่นบาป และเป็นผลทำให้ชาติสุดท้ายที่ท่านเกิดมาเป็นพระพุทธเจ้า ต้องรับกรรมด้วยการปวดหัวในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/